ตอนที่แล้วตอนที่ 5 เหนือมนุษย์(อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7 ย้ายออกจากบ้าน(อ่านฟรี)

ตอนที่ 6 ไอเทม มอนสเตอร์(อ่านฟรี)


ตอนที่ 6 ไอเทม มอนสเตอร์

“จบลงแล้ว…”

ลุคสูดลมหายใจเข้าพลางเงยหน้ามองท้องฟ้าไป

อัก!

ตอนนั้นก็มีเสียงอึกอักดังมาจากด้านหนึ่ง แม้จะเบาบางมาก แต่ก็ไม่รอดพ้นประสาทสัมผัสของลุค เขาหันกลับไปมองภายในลานกว้างที่เต็มไปด้วยเลือด ร่างของคนผู้หนึ่งนอนอยู่ในสภาพศพก็ไม่ผิด

ลุคถือดาบในมือเดินไปหาร่างนั้น ก่อนจะหยุดมองดูห่างไม่ถึงครึ่งก้าว

เป็นซาดที่สภาพสาหัสปางตาย แขนขาขาดผิดรูปและหายไปบางส่วน หน้าอกมีรอบฉีกจากกรงเล็บใหญ่ไม่น้อยกว่า 3 ลอย ที่ท้องมีลำไส้ทะลักออกมากองอยู่ด้านนอกผสมกับเลือดรอบตัว

แม้จะใกล้ตายแต่แววตากลับมองลุคด้วยความอิจฉา เพราะยังคงมีสติเห็นเหตุการณ์ฆ่าหมาป่าที่พึ่งเกิดขึ้นด้วยฝีมือของลุคไม่มากก็น้อย

ในใจแต่คิดว่าทำไมเหนือมนุษย์ที่ตนเฝ้าฝันถึงกลับไม่ใช่ตน

“ช่วย...อัก!” ซาดขยับปากส่งเสียงที่ไม่มีเสียงออกมา แต่ลุคพอจะอ่านปากออก

เขามองดูซาดด้วยแววตาเย็นชา ก่อนจะยกดาบในมือแทงในหน้าอกของซาดด้วยความไร้ปรานี สายตามองดูแววตาที่แข็งค้างของซาดที่มืดมัวไร้ชีวิต

ที่จริงไม่จำเป็นต้องลงมือ ซาดยังไงก็ตายเองอยู่แล้ว แต่แบบนั้นมันจะมีความหมายอะไร

ทุกคนในที่นี้ยกเว้นเขาตายหมดแล้ว แต่ว่าดาบสุดท้ายที่แทงซาด ถ้าทิ้งศพไว้ยังไงก็เผยร่องรอยอยู่ดี ในเมื่อลงมือแล้วก็ต้องทำให้ดี ยังไงซาดก็ยังมีพรรคพวกมาเฟียอื่นอีก เขาไม่ต้องการให้เรื่องเหล่านี้เป็นปัญหาย้อนกลับมาหาตัวเองในภายหลัง

โดยเฉพาะเหล่ามาเฟียใต้ดินที่ไม่สนใจกฎอะไร ถ้าเล่นงานคนต้นเรื่องไม่ได้ ก็เล่นงานครอบครัวแทน

ร่างของซาดถูกจับลากผ่านแอ่งเลือด ก่อนจะเหวี่ยงเข้าไปในชิ้นส่วนโลกต่างมิติ ผ่านประตูที่เปิดคาทิ้งไว้ เขายังเอาหลอดยา กระเป๋าและเข็มฉีดยากระตุ้นทั้งหมดโยนตามไปด้วย

เมื่อหมดปัญหาที่เป็นเบาะแสชี้มาหาเขาแล้ว ลุคไม่ได้แตะต้องร่างของคนอื่น หมาป่าทำไว้แบบไหนก็ทิ้งไว้แบบนั้น ยังไงทุกคนก็มีร่องรอยการตายจากหมาป่าขนเหล็ก อีกทั้งที่นี่มีร่องรอยอื่นมากเกินไป ยังไงเขาก็ปกปิดไม่หมด

สู้ปล่อยไว้ให้คนมาตรวจสอบได้เข้าใจว่าทุกคนที่นี่โดนหมาป่าขนเหล็กฆ่าตายไปก็ได้ ยิ่งทำให้พวกเขาหลงประเด็นจนอาจจะสาวมาไม่ถึงเรื่องการรอดของเขา หรือต่อให้ภายหลังจะมีคนรู้ว่าอาจจะมีคนรอด ก็ยังต้องหาอีกว่าเป็นใคร

ที่ลุคระวังมากขนาดนี้ เพราะการเป็นฮันเตอร์เถื่อนผิดกฎหมายร้ายแรงยิ่งกว่าการฆาตกรรม แถมไม่ต้องพูดถึงสารกระตุ้นจำนวนมากขนาดนั้น มันมีค่าเป็นอย่างมาก ยังไงรัฐบาลไม่มีทางปล่อยไปง่าย ๆ บางทีอาจจะเป็นสารกระตุ้นผิดกฎหมายด้วย ยิ่งทำให้เรื่องราวซับซ้อนและอันตรายเข้าไปอีก

การที่ซาดได้สารกระตุ้นมาบางทีอาจจะมีเบื้องหลังที่ไม่เรียบง่ายก็ได้

ลุคยังต้องกลับไปหาน้องสาวและวางแผนการหลังจากนี้ให้ดี ส่วนเรื่องที่ตัวเองยังไม่ตายสักวันพวกมาเฟียอาจจะรู้ เพราะอย่างที่ซาดเคยบอก ถ้าเขาตายมาเฟียจะไปหาน้องสาวเขาให้ใช้หนี้แทน เหมือนที่หนี้จากพ่อกับแม่ตกลงที่เขา

มีหลายสิ่งที่ลุคสงสัย โดยเฉพาะเรื่องนี้ก่อนนั้น แต่ยังไงตอนนี้ก็ยังไม่อาจจะค้นหาอะไรได้ เขาหวังว่าก่อนจะถึงวันที่มาเฟียพบความจริง ตนเองจะแข็งแกร่งพอที่จะรับมือมันได้

‘เพื่อสิ่งนั้น ก็จำเป็นต้องใช้พวกมัน’ เขาหันไปมองซากหมาป่าที่ฆ่าไป

'ไอเทมมอนสเตอร์' ลุคเรียกใช้พลังพรสวรรค์ของตัวเอง

ซากหมาป่าทั้ง 12 ตัวถูกลุคใช้พรสวรรค์ไอเทมมอนสเตอร์เปลี่ยนให้กลายเป็นไอเทม ถ้าเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน ไอเทมที่ได้จากการสร้างโดยพรสวรรค์ไอเทมมอนสเตอร์จะออกมาเป็นชนิดเดียวกันทั้งหมด

“คุณได้รับชุดเกราะหมาป่าขนเหล็ก ระดับ F เกรด สีขาว จำนวน 12 ชิ้น”

ครั้งนี้ได้รับชุดเกราะมาเพิ่ม 12 ชุด แต่ว่าชุดเกราะไม่ได้สวมทับเข้าออกมาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ อย่างที่คิด พรสวรรค์ ไอเทมมอนสเตอร์มีความสามารถในการเก็บไอเทมที่สร้างขึ้นมาไว้ภายในตัวของผู้ครอบครองได้

แถมยังสับเปลี่ยนและเรียกใช้ได้ตลอดเวลา ถือว่าสะดวกมาก ถ้าเทียบกับต้องถือชุดเกราะทั้ง 12 ชุดไปด้วยคงเป็นไปได้ยาก

เมื่อได้ของที่ต้องการแล้ว ลุคก็หันไปมองประตูมิติที่ไม่มีม่านกั้นและพาไปยังชิ้นส่วนโลกต่างมิติ ถ้าจากโดยไม่เอาสิ่งมีค่าที่สุดในโลกต่างมิติไปด้วยก็คงเป็นคนโง่มาก

ในตอนนี้มอนสเตอร์หมาป่าขนเหล็กที่เป็นเจ้าของชิ้นส่วนโลกต่างมิตินี้ไม่มีเหลืออยู่ในนั้นแล้ว ทางจึงสะดวก

ลุคในตอนนี้มั่นใจในตัวอย่างมาก วิ่งเข้าไปในชิ้นส่วนโลกต่างมิติอย่างรวดเร็ว พอเจอกับศพของซาดก็ถือโอกาสฉีกเอาเศษผ้าบางส่วนติดมือมาด้วย แถมยังพบกับกระเป๋าเงินที่ด้านในมีเงินอยู่เกือบหมื่นเครดิต

“ทิ้งไว้ก็ไม่ได้ใช้ ขอนะ”

ถือโอกาสเอาเงินพวกนั้นมา ก่อนจะก้าวข้ามศพของซาดไป สภาพของลุคในตอนนี้ไม่จำเป็นต้องอาศัยไฟฉายอีก เพราะว่าเขาได้รับประสาทสัมผัสจากหมาป่าขนเหล็กมา ทำให้มองเห็นในที่มืดได้เป็นอย่างดี

ผ่านโถงแรกไปอย่างง่ายดาย จนถึงโถงที่สอง ลุคก็ต้องหยุดวิ่งเมื่อพบว่ายังมีมอนสเตอร์หนูตาแดงบางตัวที่รอดอยู่นับแล้วได้ราว ๆ 2-3 ตัว พวกมันกำลังกัดกินชิ้นเนื้อจากศพมนุษย์ที่ตาย

ลุคจัดการฆ่าพวกมันทั้งหมด ด้วยการเข้าไปโจมตีตรง ๆ แรงเตะมากพอจะบดขยี้กะโหลกได้ หลังจากฆ่าแล้วเขาก็ลองใช้พลังพรสวรรค์

“คุณได้รับ หินตาแดง จำนวน 3 ชิ้น”

ไม่มีเวลามาทดลองใช้ดู สิ่งสำคัญคือเหมาหลักด้านในสุด

ลุคมุ่งหน้าเข้าไปในพื้นที่ด้านในสุด เป็นโถงถ้ำที่ 3 ข้างในไม่มีมอนสเตอร์ตัวอื่นอีก แต่ที่นี่กลับมีแสงสว่างกว่าจุดอื่นมาก

สิ่งที่ทำให้สถานที่นี่ต่างออกไป คือ หินที่คล้ายกับผลึกควอตซ์และมีขนาดประมาณ 1 นิ้ว มันกำลังเรื่องแสงสว่างรำไรออกมาราวกับแสงของหิ่งห้อยยามค่ำคืน

สิ่งนี้คือของมีค่าที่สุดในชิ้นส่วนโลกต่างมิติ มันถูกเรียกว่า “หินพลังงานต่างมิติ” หรือที่นิยมเรียกกันมากที่สุดว่า “หินพลังงาน”

“หินพลังงาน” เป็นเหมือนกับแหล่งพลังงานของชิ้นส่วนโลกต่างมิติ ทำให้ชิ้นส่วนโลกดำรงอยู่ได้

มนุษย์ไม่ทราบถึงวิธีการก่อตัวขึ้นมาของมัน แต่จากการศึกษาตลอดระยะเวลาที่ยาวนาน ทำให้พอจะรู้ว่าหินพลังงานต่างมิติจะปลดปล่อยพลังงานออกมา เพื่อทำให้ชิ้นส่วนโลกดำรงอยู่ได้ในกาลอวกาศที่ยุ่งเหยิง

ถ้าขุดหินพลังงานต่างมิติออกไป ชิ้นส่วนโลกต่างมิติจะไม่มีแหล่งพลังงานหล่อเลี้ยงอีก ชิ้นส่วนโลกต่างมิติก็จะค่อย ๆ พังทลายลงอย่างรวดเร็ว พลังงานต่างมิติที่หลงเหลืออยู่ด้านในจะถูกขับออกมาทางประตูมิติเข้าสู่โลกมนุษย์ ค่อย ๆ หลอมรวมกับโลกมนุษย์อย่างช้า

มีบางทฤษฎีสันนิษฐานว่า บางทีในสักวันโลกอาจจะเปลี่ยนไปและเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของพลังงานเหล่านี้ แต่ว่านั้นคงเป็นระยะเวลาอีกยาวนาน

พลังงานต่างมิติที่ล่องลอยในอากาศเหล่านั้นถือเป็นส่วนที่เบาบางมากเมื่อเทียบกับพลังงานในหินพลังงานต่างมิติ

มนุษย์ยังไม่มีเทคโนโลยีมากลั่นหรือสกัดพลังงานต่างมิติในอากาศ แต่ก็ยังสามารถใช้งานพลังงานที่มีลักษณะเป็นก้อนหินได้อยู่

ระดับของหินพลังงานก็จะมีราคาต่างกันไปตามพลังงานที่มี หินพลังงานที่พบได้ในชิ้นส่วนนี้เป็นแค่ระดับ F เท่านั้น ราคาจึงนับว่าถูกที่สุด แต่ก็ยังแพงมากสำหรับเขา

ไม่รอช้าลุครีบเข้าไปขุดพวกมันออกมาจากตามผนังและชั้นดินบนพื้น และเป็นเพราะหินพลังงานต่างมิติจะไม่ฝังตัวลึกไปในดินมากนัก ทำให้เขาสามารถเก็บเกี่ยวหินพลังงานต่างมิติทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว

แม้ใบหน้าและมือจะเปื้อนดิน แต่ก็ใบหน้ากลับมีรอยยิ้มด้วยความพึงพอใจ เพราะสามารถขุดออกมาได้มากถึง 10 ก้อน

“ไม่รู้ว่าจะได้เงินเท่าไหร่ แต่น่าจะมากเลยทีเดียว”

ลุคเอาเศษผ้าที่เตรียมไว้ออกมาพวกมันไว้ด้านในอย่างระมัดระวัง เขาไม่รู้ว่าทำแบบนี้เป็นการเก็บพวกมันด้วยวิธีที่ถูกต้องไหม เพราะเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับหินพลังงานต่างมิติ

ตอนนี้ไม่มีตัวเลือกมากนัก ขอแค่เอาออกไปด้วยได้ก็พอแล้ว

เมื่อได้สิ่งที่ต้องการลุคก็ไม่คิดจะอยู่ที่นี่อีก ในตอนที่หมาป่าขนเหล็กออกไป ทั้งฝูงของพวกมันมีกันไม่ต่ำกว่า 20 ตัว แต่ที่ตายไปนั้นมีไม่ถึง 20 พวกที่เหลือน่าจะออกไปจากบริเวณนี้แล้ว

และถ้ามันเข้าไปโจมตีมนุษย์ในเมือง ไม่นานทางการจะต้องส่งเหนือมนุษย์ที่แข็งแกร่งมาจัดการพวกมันแน่นอน และภาครัฐจะจ้องสืบหาต้นตอของหมาป่าขนเหล็กพวกนี้

ถ้าคนพวกนั้นมาเจอเขาที่นี่ลุคคงอธิบายไม่ได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ถือว่าผิดกฎหมายอย่างยิ่ง เขาไม่อาจจะถูกจับได้ หรือให้มาเฟียรู้ว่าเขาไม่ตาย แบบนั้นจะส่งผลไปถึงความปลอดภัยของน้องสาวเขา

ลุครีบออกไปจากชิ้นส่วนโลกต่างมิติ

ทันทีที่ออกมาประตูมิติก็ไม่มั่นคง ชิ้นส่วนโลกต่างมิตินี้ไม่อาจจะรักษาความเสถียรของมิติไว้ได้และจะพังลงหลังจากผ่านไปสักพัก ของทุกสิ่งด้านในจะสลายไปพร้อมกัน ไม่มีทางที่ใครจะหาพบเจอหลักฐานใด ๆ และเชื่อมโยงมาถึงเขา

ยกเว้นว่าพวกมาเฟียจะไปที่บ้านของเขา

หลังจากออกมาลุคในสภาพสวมใส่ชุดเกราะหมาป่าขนเหล็กก็เริ่มออกวิ่งด้วยพลังกายทั้งหมดที่มี เขาพบว่าที่จริงแล้วความเร็วของหมาป่านั้นเหมาะกับการเคลื่อนที่ระยะทางไกลมากกว่า ยิ่งวิ่งไปเรื่อย ๆ ความเร็วของลุคก็ยิ่งมากขึ้น จนทำความเร็วได้มากกว่า 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยที่เขาสามารถวิ่งติดต่อกันได้หลายสิบกิโลเมตร

เมื่อออกมาจากเขตโรงงานร้างลุคก็เลาะไปตามแม่น้ำสายหลักของเมือง ที่นี่เงียบสงบ แต่ก็ยังมีบ้านเรือนและผู้คนอยู่บ้าง

“สภาพนี้คงเข้าไปในเมืองไม่ได้”

ลุคมองหาเสื้อผ้าที่ตากไว้ หยิบเสื้อผ้าพวกนั้นมา โดยทิ้งเงินเล็กน้อยไว้ในจุดเดิมและกลับไปยังแม่น้ำที่ไม่มีคน

เพียงแค่ความคิดเดียวชุดเกราะก็หายไปในตัวของเขา ถูกเก็บไว้เหมือนกับชุดอื่น ๆ เพราะมันสร้างมาจากพลังของเขา

ตอนนี้ลุคกลับมาสวมใส่เสื้อผ้าชุดเดิมที่ฉีกขาดราวผ้าขี้ริ้ว แถมยังเต็มไปด้วยเลือดส่งกลิ่นคาว เขาจัดการถอดและห่อหินโยนลงแม่น้ำหายไปยากที่จะพบได้อีก

จากนั้นจึงอาศัยแม่น้ำล้างสิ่งสกปรกและเลือด ที่มีเลือดของตัวเองและเลือดของหมาป่าขนเหล็ก ใช้เวลาล้างเลือดอยู่นาน แม้ไม่สามารถกำจัดกลิ่นออกจนหมดจด แต่ก็สะอาดจนคนอื่นยากจะได้กลิ่นแล้ว พอเปลี่ยนชุดที่แอบหยิบมาและหยิบเอาสร้อยจี้หอยคอที่เสียหาย หินพลังงานในห่อผ้ากับเงินสดที่ได้มาพกติดตัวไปด้วยก็ถือเป็นอันเสร็จ

ลุคเดินเท้าไปตามถนนมุ่งหน้าไปที่ป้ายรถเพื่อขึ้นรถกลับเข้าไปในเมือง

...

ระหว่างนั่งบนรถโดยสาร ลุคพยายามทำตัวไม่ให้เด่น แค่หลายคนก็อดจะหันมามองดูเขาเป็นครั้งคราวไม่ได้ เพราะการแต่งตัวของลุคดูแปลกประหลาด เนื่องจากใส่เพียงเสื้อและกางเกง กลับไม่มีรองเท้า

มันช่วยไม่ได้เพราะแค่หาเสื้อและกางเกงได้ก็นับว่าดีมากแล้ว

แต่ไม่นานผู้คนก็เลิกสนใจเขา ในโลกนี้มีคนนิสัยแปลกประหลาดจำนวนมาก การแค่ไม่ใส่รองเท้าไม่แปลกอะไรมาก

“นี่ได้ยินข่าวไหม มีมอนสเตอร์หมาป่าขนเหล็กโผล่ออกมาโจมตีแถวชานเมืองด้วย”

“ดูภาพนี่สิ มันฆ่าไปหลายคนเลย”

“โชคดีที่พวกเราอยู่ในเมืองมีเหนือมนุษย์จำนวนมากคอยปกป้องอยู่”

“มีข่าวถ่ายทอดสดด้วย ดูเหมือนจะมีเหนือมนุษย์ไปจัดการพวกมันแล้ว”

“พวกเขาแข็งแกร่งจริง ๆ ฉันน่าจะหาแฟนเป็นเหนือมนุษย์บ้าง พวกเขาจะได้ปกป้องฉันได้”

ลุคแอบฟังวัยรุ่นสาวสองคนที่นั่งอยู่อีกฝั่งของเขา ทั้งสองกำลังดูข่าวในมือถืออยู่ ซึ่งเป็นการโจมตีของมอนสเตอร์หมาป่าขนเหล็กและการต่อสู้ของเหนือมนุษย์กับหมาป่าพวกนั้นด้วยสีหน้าไม่ได้เกรงกลัว

สถานการณ์การโจมตีของมอนสเตอร์ภายในเมืองเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ผู้คนจึงเคยชินแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่กลัว เพราะทุกครั้งที่มีการโจมตี ถ้าเหนือมนุษย์มาหยุดยั้งจัดการมอนสเตอร์ไม่ทัน ก็มักจะมีคนตายเป็นจำนวนมากให้เห็นอยู่เสมอ

เหมือนกับเหตุการณ์ในครั้งนี่ที่มีคนตายไปหลายคนกว่าที่เหนือมนุษย์จะเดินทางไปถึง ปกติเหนือมนุษย์จะอยู่กันภายในเมืองมากกว่าแถบชานเมืองที่ไม่ค่อยเจริญ ทำให้ถ้าเกิดมีมอนสเตอร์บุกก็สามารถจัดการได้อย่างรวดเร็ว แต่สำหรับที่ห่างไกลออกไปก็ต้องลุ้นเอาอีกทีว่ามีเหนือมนุษย์แถวนั้นมากน้อยแค่ไหน

‘เป็นอย่างที่คิด โชคดีที่รีบออกมาก่อน’

ลุครู้สึกโล่งใจอยู่ไม่น้อยที่รีบออกมาก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลาย

หญิงสาวสองคนเห็นลุคแอบมองพวกเธอทั้งสองอยู่ก็พากันกลับมามองด้วยแววตาประหลาดใจ

ลุคจึงรีบละสายตากลับและทำท่าแอบหลับเพราะกลัวว่าจะโดนเข้าใจเป็นโรคจิตเอาได้

สองสาวกำลังกระซิบกันไปมา โดยที่สายตาแอบมองเขาอยู่เป็นระยะ ในที่สุดทั้งสองเหมือนจะตกลงกันได้ก็ให้หญิงสาวอีกคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกำลังจะยื่นไปขอเบอร์ แต่ก็พบว่าไม่มีใครนั่งอยู่ที่เบาะแล้ว

พอเธอมองไปอีกครั้งชายหนุ่มคนนั้นก็ลงจากรถที่ป้ายรถตรงนี้ไปซะแล้ว จึงได้แต่ถอนหายใจอย่างเสียดายและอดจินึกถึงใบหน้าเมื่อสักครู่นี้ไม่ได้

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด