ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 18 - แผนการ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 20 - สไปรเยอร์

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 19 - ทักษะการต่อสู้


ตาของฟิลลิดากระตุกขึ้นมาทันที เธอเป็นคนที่ฉลาดเฉลียว มีความภาคภูมิใจในตัวเอง จนเกือบจะเรียกว่าหยิ่งทะนงได้เลย และคนอย่างเธอนี่แหละ ที่มีลิมิตของความอดทนไม่สูงมากนัก ถ้ามีคนเผลอเข้ามายั่วยุ คนอย่างเธอนี้จะคลั่งเอาได้ไม่ยากนัก

‘ตอนแรก ก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจฉัน แล้วตอนนี้ พอไม่มีทางเลือกก็กลับมาให้ฉันเป็นคนตอบคำถาม แล้วยังมาเรียกฉันว่ายัยหนูน้อยอีกด้วย’ ฟิลลิดาคิดอยู่ในใจอย่างหงุดหงิด เพราะเธอเริ่มรำคาญครูฝึกคนนี้ขึ้นมาแล้ว

ในตระกูลของเธอ ถึงแม้ว่าฟิลลิดาจะไม่ได้มีชื่อเสียงมากนักในหมู่คนรุ่นเดียวกัน แต่นั่นก็เป็นเพราะพวกรุ่นเยาว์เหล่านั้นไม่ได้มีหน้าที่ หรือได้รับสิทธิพิเศษอะไรในการติดต่อกับเธอ พูดคุย หรือแม้แต่รู้ถึงตัวตนของเธอเลย ภายใต้ความดูแลและสั่งสอนอย่างไม่ได้เก็บงำความรู้ และไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของหัวหน้าตระกูล รวมถึงเหล่าผู้อาวุโสคนอื่น ๆ มีเพียงแค่บุคคลระดับสูงในตระกูลเท่านั้น ที่จะรู้จักตัวตนจริง ๆ ของเธอ

ฟิลลิดาได้รับความชื่นชมจากหัวหน้าตระกูลอย่างสูงสุด เขาถึงกับกล่าวว่า เธอเป็นคนที่มีพรสวรรค์สูงสุดในตระกูลตลอด 200 ปีหลังที่ผ่านมานี้

และถึงแม้ในตอนที่เธอยังไม่ได้รับการปลูกถ่าย พรสวรรค์ในด้านทักษะการต่อสู้ของเธอก็น่ากลัวอย่างยิ่งแล้ว สามารถทำความเข้าใจในเทคนิคของทักษะใด ๆ ที่ได้รับการถ่ายทอด และฝึกฝนได้อย่างเชี่ยวชาญภายในระยะเวลาเพียง 2-3 ปีเท่านั้น

คนธรรมดาโดยทั่วไป จะไม่สามารถที่จะฝึกฝนทักษะการต่อสู้ได้เลย ถ้าไม่ได้แช่อยู่ในน้ำที่ผสมด้วยเซรั่มจำนวน 10 หยด ในขณะที่กำลังฝึกฝนทักษะพวกนั้น และมันเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ที่จะต้องจำกัดปริมาณเซรั่มนั้นให้อยู่เพียงแค่ 10 หยดเท่านั้น การใช้ในปริมาณที่มากเกินไป จะก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาวขึ้นมาแทนที่จะเป็นประโยชน์ อย่างเช่นการกลายพันธุ์ที่ผิดปกติต่าง ๆ ของร่างกาย ก่อให้เกิดลักษณะที่ไม่รู้ และไม่ต้องการออกมา

และการใช้เซรั่มโดยไม่มีทักษะการต่อสู้ที่เหมาะสมให้ฝึก ก็เหมือนกับการส่งตัวเองให้ไปตายดี ๆ นี่เอง เพราะเซรั่มที่ใช้นั้น มีทั้งรังสีและสารที่ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ผสมอยู่ด้วย การฝึกทักษะการต่อสู้จะช่วยกระจายผลของเซรั่มไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ให้สะสมในส่วนใดส่วนหนึ่งมากเกินไป ป้องกันไม่ให้เกิดการกลายพันธุ์ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้น

และแน่นอน การใช้เซรั่มนั้นมีผลข้างเคียงอย่างอื่นอยู่อีก และทักษะการต่อสู้ไม่ได้กำจัดผลข้างเคียงเหล่านั้นออกไป แต่มันจะชักนำให้ผลข้างเคียงเหล่านั้น กลายเป็นผลข้างเคียงที่มีประโยชน์ขึ้นมาแทน

ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีการกลายพันธุ์ที่ทำให้ศีรษะของใครคนหนึ่งขยายใหญ่ออกเหมือนลูกโป่ง ทักษะการต่อสู้ที่เหมาะสม จะช่วยเปลี่ยนจุดของการกลายพันธุ์นั้นจากศีรษะ ไปขยายบริเวณหน้าอก หรือบริเวณสะโพกแทนได้ ซึ่งมันจะช่วยให้รูปร่างของผู้หญิงน่ามองขึ้นมาอีกไม่น้อยเลยทีเดียว

รังสีที่ถูกปล่อยออกมาจากเพียงหยดเดียวของเซรั่ม สามารถทำให้ช้างที่โตเต็มวัยแล้ว เสียชีวิตได้ภายในชั่ววินาทีเดียว โดยจะไม่มีโอกาสได้ดิ้นรนเสียด้วยซ้ำ

แม้จะเรียกสิ่งที่ฝึกฝนเหล่านี้ว่าทักษะการต่อสู้ แต่พวกมันไม่ใช่เป็นแค่ทักษะธรรมดา พวกมันมีความลับที่ลึกซึ้งของการควบคุมพลังบางอย่างซ่อนอยู่

และคนธรรมดาโดยทั่วไป จะต้องใช้เวลาตลอดทั้งวัยเด็กของเขาหรือเธอ เพื่อที่จะฝึกฝนทักษะเหล่านั้นจนสมบูรณ์แบบได้ แต่ฟิลลิดาใช้เวลาอย่างมากเพียง 2-3 ปีในการฝึกให้เชี่ยวชาญอย่างสมบูรณ์ นั่นคือหลักฐานว่าเธอมีพรสวรรค์ในการฝึกสูงอย่างน่ากลัวแค่ไหน

ตอนนี้เธอสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ ตัดสินใจที่จะไม่เอาเรื่องครูฝึกสาวคนนี้ ตามคำแนะนำที่ได้รับมา ก่อนที่จะเข้ามาเรียนที่สถาบันแห่งนี้ ได้บอกเอาไว้ว่า นักเรียนทุกคนควรจะต้องทำตัวให้ดี ให้ความเคารพกับเจ้าหน้าที่และครูฝึกทุกคนของสถาบันเอาไว้ ถ้าไม่อยากจะก่อปัญหาใหญ่ ทำให้ฟิลลิดาเลือกที่จะตอบคำถามออกมาอย่างเชื่อฟัง

“เหตุผลที่ทำให้สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์แข็งแกร่งกว่าพวกเราในอดีตที่ผ่านมา เป็นเพราะความแตกต่างในการควบคุมพลัง หรือทักษะการต่อสู้นั่นเอง รวมถึงความแตกต่างของอาวุธที่ใช้ในการต่อสู้และสังหารด้วย”

และเธอก็เลือกที่จะจบคำตอบของตัวเองด้วยรอยยิ้มที่คิดว่าหวานที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว

ครูฝึกเอลล่าขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบนี้ของฟิลลิดา “ถึงแม้ว่าคำตอบนี้จะไม่ถูกต้องไปเสียทั้งหมด แต่! นี่ก็ถือว่าเธอเข้าใจในพื้นฐานของของสิ่งที่ฉันต้องการจะสอนแล้ว” ขณะที่กล่าวอยู่นั้น สายตาของเธอจ้องอยู่ที่ฟิลลิดา และพยักหน้าให้เธอเล็กน้อย ก่อนที่จะกวาดสายตากลับมามองที่นักเรียนทุกคนอีกครั้ง

“ถ้าพวกเธอได้อ่านคู่มือนักเรียนมาแล้ว จะพบว่าในภาคการศึกษานี้จะมีคะแนนให้เก็บอยู่ทั้งหมด 100 คะแนน 20 คะแนนแรกสำหรับการมีส่วนร่วม 20 คะแนนส่วนที่ 2 จะได้จากการประเมินประจำเดือน ในขณะที่คะแนนก้อนใหญ่ที่สุด 50 คะแนน จะได้มาจากการสอบใหญ่ประจำภาคการศึกษา”

มีนักเรียนบางคนที่รู้ถึงวิธีการคิดคะแนนนี้อยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ สีหน้าของพวกเขาต่างก็เปลี่ยนไปอย่างประหลาด บางคนตกใจ บางคนถึงกับตัวสั่น และมีอีกหลายคนที่ทำหน้าตาน่าเกลียดออกมา แน่นอน ยังมีอีกหลายคนที่ยังทำหน้าปกติ ทำทีเป็นตั้งใจฟังที่ครูฝึกพูดต่อไป เพราะพวกเขายังไม่ได้อ่านคู่มือมาก่อนเลย ไม่รู้ว่ามันมีอะไรผิดปกติแม้แต่น้อย

เดวิดก็เป็นคนหนึ่งในหมู่นักเรียนเหล่านั้น สีหน้าของเขาเรียบเฉย และแกล้งทำเป็นไม่เห็นอะไร ตอนที่ไนฮุนหันมามองหน้าเขาเพื่อที่จะสื่อความหมายว่า ‘นายไม่เคยอ่านคู่มือเลยแม้แต่นิดดเดียว’

“โดยปรกติแล้ว ฉันจะรอให้พ้นอาทิตย์แรกนี้ไปก่อน ถึงจะเริ่มต้นสอนบทเรียนจริง ๆ ของวิชาเรียนนี้ ตามกฎที่เคยเป็นมาของทางสถาบัน ว่าพวกเราจะต้องรอให้นักเรียนฟื้นตัวจากอาการปวดกล้ามเนื้อ และการขยายตัวของประสาทสัมผัสให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ซึ่งมันจะใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ แต่ตามคำสั่งที่ออกมาใหม่นั้น มันมีการเปลี่ยนแปลงกฎข้อในปีนี้ น่าจะเนื่องมาจากการขาดแคลนเจ้าหน้าที่สำหรับทำงานจิปาถะทั่วไป” ครูฝึกเอลล่ากล่าวออกมาอีก

ผลของการรายงานว่าสถาบันขาดแรงงานไปยังผู้รับผิดชอบในสถาบันหลัก คือการตัดสินใจลดจำนวนของนักเรียนที่สามารถผ่านการทดสอบให้น้อยลง จากหลักเกณฑ์ตามปกติโดยทั่วไป นักเรียนแต่ละคนจะต้องเก็บคะแนนให้ได้อย่างน้อย 40 คะแนน จากคะแนนรวมทั้งหมด 100 คะแนน แต่สำหรับภาคการศึกษานี้ คะแนนต่ำสุดที่นักเรียนแต่ละคนต้องการก็คือ 60 คะแนน ไม่อย่างนั้น จะไม่มีทางผ่านการประเมินปลายปีอย่างแน่นอน และจะต้องถูกส่งไปทำงานจิปาถะ คอยช่วยเหลือรับใช้เจ้าหน้าที่ หรือนักเรียนที่ผ่านการประเมินแทน

ในสถานการณ์ที่มีการแข่งขันกันอย่างสูง มันมีโอกาสที่จะมีสายลับแฝงตัวเข้ามาจากสถาบัน หรือโรงเรียนแห่งอื่นได้ นั่นคือเหตุผลที่ทางสถาบันแห่งนี้ ไม่เปิดรับคนงานจากด้านนอกเข้ามาทำงานโดยตรง เพราะต้องการป้องกันสายลับไม่ให้แทรกซึมเข้ามาได้ ด้วยการฝึกฝนขององค์กร สถาบัน หรือโรงเรียนอื่น ๆ  การปิดบังตัวเองของสายลับในปัจจุบันนั้นยอดเยี่ยมจนยากที่จะเปิดโปง เพราะจะได้รับการฝึกอบรมกันมาเป็นอย่างดี ถ้ามีการแทรกซึมเข้ามาสู่ภายในสถาบันได้แล้ว มันจะเป็นเรื่องยากที่จะกำจัดออกไป วิธีป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ หลีกเลี่ยงทุกอย่างที่จะทำให้สายลับปะปนเข้ามาอย่างเข้มงวด

“เอาล่ะ! ต่อไปเป็นเรื่องหลัก” เมื่อพูดมาถึงตอนนี้ ใบหน้าของครูฝึกเอลล่าก็เปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์แล้ว ริมฝีปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อย เผยเป็นรอยยิ้มอันแปลกประหลาดออกมา สายตาเต็มไปด้วยความน่ากลัว

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด