บทที่ 361: โกดัง 5 แห่งที่เต็มไปด้วยเสบียง
“ถ้าเราขอเสบียง เราก็จะได้ตามที่ขอจริงหรือ?” ชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมา
“ใช่ เจ้าขอได้มากเท่าที่เจ้าต้องการเลย...” หูเจียวเจียวตอบ
จากนั้นทุกคนก็พยักหน้าอย่างตื่นเต้น
หากความจริงใจสามารถแลกกับเสบียงได้ พวกเขาก็ยินดีที่จะมาคุกเข่าที่นี่ทุกวันเพื่อขอพรจากเทพอสูร
ต่อมา ชาวบ้านทุกคนยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นมากุมไว้ตรงหน้าอย่างกระวนกระวายพลางมองไปที่จิ้งจอกสาวด้วยความคาดหวัง พวกเขาอยากเห็นกับตาตัวเองว่านางจะอัญเชิญเทพอสูรมาประทานพรให้แก่ทุกคนได้อย่างไร
หลังจากหูเจียวเจียวพูดจบ เธอก็หันกลับมาและทำพิธีกรรมบูชาเทพเจ้า
แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดนี้เธอโกหก
พอหญิงสาวแกล้งทำพิธีด้วยท่าทางแปลก ๆ ไม่กี่ท่า เธอก็เดินไปที่ประตูโกดังด้านหน้า ก่อนจะปิดประตูโกดัง กดมือเบา ๆ ที่ประตู แล้วทำปากขมุบขมิบเพื่อร่ายคาถาบางอย่างที่ใครได้ฟังก็ไม่เข้าใจ
ในความเป็นจริงเธอแค่สวดคาถามั่ว ๆ บทหนึ่งเท่านั้น
เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่เธอพูดอยู่ดี
ยามนี้ดวงตาของชาวเผ่าทุกคนลุกโชนประหนึ่งมีไฟอยู่ข้างใน
“นางดูทรงพลังมาก! ข้าไม่เข้าใจคำที่นางพูดเลย”
“นั่นเป็นการสนทนาระหว่างนางกับเทพอสูร แล้วภูตโง่ ๆ อย่างเจ้าและข้าจะเข้าใจมันได้ยังไงกันล่ะ!”
“นั่นสินะ เข้าใจแล้ว ถ้าพวกเราเข้าใจ เราก็คงคุยกับเทพอสูรได้...”
บัดนี้แววตาของภูตทั้งหมดเต็มไปด้วยความชื่นชม รวมถึงความเคารพที่พวกเขามีต่อหูเจียวเจียวและเผ่าก็เพิ่มขึ้น
เวลาถัดมา จิ้งจอกสาวสอดมือผ่านประตูโกดังทั้ง 5 แล้วใช้โอกาสนี้นำเสบียงในมิติใส่เข้าไปในโกดัง
เสร็จแล้วก็เธอพนมมือกราบฟ้าอีก 3 ครั้ง
เอาล่ะ ฉันเล่นใหญ่มามากพอแล้ว
จากนั้นจิ้งจอกสาวก็แอบขอร้องในใจว่า
ท่านเทพอสูร ข้าจะขอยืมชื่อท่านอีกครั้ง ในอนาคตข้าจะเผาเครื่องบูชาให้ท่านมากขึ้น ตอนนี้ข้าขอวิงวอนท่านอย่าให้ข้าโป๊ะแตกเลยเถิ้ดดด!
เมื่อหูเจียวเจียวลุกขึ้น ชาวเผ่าก็อดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจ พลางจับจ้องไปยังโกดังที่ตั้งอยู่ด้านหลังเธอตาไม่กะพริบ
พวกเขาเพิ่งเคยเห็นพิธีกรรมแบบนี้ด้วยตาของตัวเอง
ก่อนหน้านี้ทุกคนเห็นโกดังว่างเปล่าไม่มีอะไรอยู่ในนั้น
นี่เป็นการพยายามเสกเสบียงออกมาจากอากาศหรือไม่?
ถ้าไม่ใช่เพราะอิทธิฤทธิ์ของเทพอสูร ใครจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้อีก!
“ท่านเทพอสูรโปรดประทานพร!” หูเจียวเจียวหันหน้าไปทางโกดัง แล้วตะโกนก้องด้วยเสียงที่คมชัด
ในช่วงเวลานี้ หัวใจของเหล่าภูตทั้งหลายเกิดการปั่นป่วน
หลังจากที่จิ้งจอกสาวพูดจบ
ทันใดนั้นแสงสีขาวก็ส่องลงมาที่โกดังทั้ง 5 มันตกกระทบลงบนโกดังราวกับว่าพวกมันได้รับพรจากสวรรค์
ปัจจุบันท้องฟ้ามืดลงแล้ว อีกทั้งบริเวณโดยรอบโกดังก็ถูกปกคลุมไปด้วยความมืด และแสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์สีขาวที่จู่ ๆ ก็เจิดจ้าได้กลายเป็นดั่งแสงจากดวงดาวบนท้องฟ้า ทำให้โกดังทั้ง 5 สว่างขึ้นชั่วขณะหนึ่ง
แสงพร่างพรายเพียงหนึ่งเดียว ณ ตอนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังอยู่ในโลกแห่งความฝัน
ภาพที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าสะกดให้ภูตทุกคนนิ่งอึ้ง ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างพร้อมกับที่ปากอ้าค้าง
“นี่-นี่คือการปรากฏตัวของเทพอสูร!”
“เทพอสูรตอบรับคำขอของเรา เทพอสูรประทานพรให้แก่เราแล้ว!”
เวลาผ่านไปไม่นาน จู่ ๆ แสงในโกดังก็ดับวูบ
นอกเหนือจากการมาเยือนของเทพอสูรแล้ว พวกเขาไม่สามารถคิดถึงความเป็นไปได้อื่นอีก
ส่วนจิ้งจอกสาวไม่รู้ว่าภูตคนไหนเริ่มคุกเข่าลงก่อน แต่ทุกคนก็ค่อย ๆ คุกเข่าลงตาม ๆ กัน แล้วยกมือขึ้นเหนือศีรษะก่อนจะหมอบลงกับพื้นพร้อมตะโกนว่า
“ขอบคุณท่านเทพอสูร!!”
บัดนี้ภูตที่มารวมตัวกันทั้งหมดเหมือนโดมิโนที่ถูกผลักล้มลงกระจัดกระจายไปทุกทิศทุกทาง พวกเขาต่างก็คุกเข่าคำนับไปทางโกดัง
“ขอบคุณท่านเทพอสูร!”
ชาวเผ่าพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย อีกทั้งน้ำเสียงของทุกคนก็เต็มไปด้วยความสุขและซาบซึ้ง
ในขณะนั้นเอง พวกเขาตัดสินใจแล้วว่าเผ่านี้คือจุดหมายปลายทางที่จะฝากชีวิตของตนเอาไว้
นี่คือเผ่าของพวกเรา!
ต่อไปนี้พวกเขาจะต้องทำงานหนักเพื่อทำให้เผ่าเจริญยิ่งขึ้น!
ในบรรดาฝูงชน มีเพียงเด็กเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาพบว่าเหตุการณ์นี้มันแปลกใหม่และมีชีวิตชีวา เด็กหลายคนจึงมองดูโกดังด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ส่วนภูตหญิงที่อยู่ถัดจากลูกของตนก็รีบดึงอีกฝ่ายให้คุกเข่าลง
“ก้มหัวทำความเคารพท่านเทพอสูรเร็วเข้า!”
ซึ่ง 1 ในนั้นมีลูก ๆ ของหูเจียวเจียวรวมอยู่ด้วย
ส่วนหลงเหยานั้นตัวเล็กมาก ทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็นเวลาที่เขาเงยหน้าขึ้นมอง
“แปลกมาก...” คนตัวเล็กมองไปรอบ ๆ ด้วยความสงสัย “ทำไมท่านพ่อถึงหายไป?”
“เมื่อกี้ท่านพ่อยังอยู่กับท่านแม่อยู่เลย”
ขณะเดียวกัน หลงเซียวที่อยู่ข้าง ๆ น้องชายตัวน้อยมองลึกเข้าไปในแสงจากหลอดไฟในโกดังอย่างสับสน ดวงตาที่ปกคลุมด้วยหมอกสีขาวทำให้ยากที่จะอ่านความคิดของเจ้าตัวได้
เด็กชายไม่เชื่อเรื่องเทพอสูรใด ๆ
เขาเชื่อในตัวท่านแม่ที่มีอำนาจบันดาลทุกอย่างของเขาเท่านั้น
ต่อมา หลงเซียวกดศีรษะของหลงเหยาเพื่อให้เขาก้มศีรษะลง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่หางมังกรดำขนาดใหญ่พุ่งผ่านเมฆบนท้องฟ้าไปเงียบ ๆ
ทางด้านหูเจียวเจียวกำลังยืนอยู่หน้าโกดังที่ถูกปกคลุมด้วยชั้นแสงสีเงิน ขณะนี้ผมยาวของเธอถูกรวบไว้ลวก ๆ ช่วยขับให้ผิวขาวราวหิมะของเธอโดดเด่นขึ้นท่ามกลางความมืด
เมื่อเซี่ยหมานได้เห็นฉากนี้ เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจของเขาหยุดเต้นไปชั่วขณะ
หญิงสาวตรงหน้าเป็นเหมือนดอกไม้แสนบอบบางที่กำลังบานสะพรั่งท่ามกลางทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ แต่นางโดดเด่นเหนือใคร ในขณะที่นางเหลือบสายตามองมาทางเขาผ่าน ๆ เขาก็อดไม่ได้ที่จะหลบตา แล้วคอยแอบมองนางอยู่บ่อยครั้ง
ช่วงเวลาถัดไป
หูเจียวเจียวผลักประตูโกดังให้เปิดออก
เมื่อกลุ่มภูตได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว พวกเขาก็ผงกหัวขึ้นก่อนจะเปล่งเสียงอุทานออกมา
ซึ่งมันขัดจังหวะเซี่ยจื้อหนุ่มที่กำลังตกอยู่ในภวังค์
“เสบียง! มันคือเสบียง!”
“โกดังทั้ง 5 เต็มไปด้วยเสบียง แม่เจ้า...”
“ข้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม เทพอสูรมอบเสบียงมากมายให้พวกเราจริง ๆ!”
“ยอดไปเลย เราไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีอะไรกินในฤดูหนาวนี้อีกแล้ว!”
เหล่าภูตทั้งหลายตะโกนโห่ร้องด้วยความเปี่ยมสุข เสียงที่ตื่นเต้นของพวกเขาเปรียบเสมือนคลื่นทะเลเช่นเดียวกับอารมณ์ของทุกคนในเวลานี้
ทางด้านหัวหน้าเผ่า ดวงตาของเขามีน้ำตาคลอหน่วย เขาก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยิบผลไม้สีแดงสดจากโกดัง ในขณะที่มือของเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
“มันเป็นพรจากเทพอสูรจริง ๆ...”
ชายสูงวัยพึมพำกับตัวเองพลางเช็ดดวงตาเปียกชื้น แล้วหันไปมองหูเจียวเจียว
“เจียวเจียว ลำบากเจ้าแล้ว เผ่าต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยให้พวกเราผ่านพ้นอุปสรรคไปได้หลายครั้ง นี่เป็นอีกครั้งที่เจ้าพาทุกคนก้าวข้ามความยากลำบากสำเร็จ”
จิ้งจอกสาวส่ายหัวยิ้ม ๆ “ท่านผู้เฒ่า คงต้องรบกวนท่านตรวจนับเสบียงก่อน แล้วค่อยแจกจ่ายให้ทุกคน”
นอกจากอาหารแล้ว เธอยังใส่ของอื่น ๆ เข้าไปด้วย โดยเธอใช้โอกาสนี้เพื่อเอาของในมิติออกมา
มันจะช่วยให้เธอสามารถหยิบใช้มันได้ง่ายขึ้นในอนาคตซึ่งของพวกนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดต่อสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน
“ได้ ๆ” ผู้เป็นหัวหน้าเผ่าพยักหน้าซ้ำ ๆ ก่อนจะเรียกพวกหูชิงซานให้ไปนับเสบียงในโกดัง
ขณะนี้โกดังทั้ง 5 อัดแน่นไปด้วยเสบียง เหล่าภูตก็หยิบเสบียงออกมานับทีละอย่าง หลังจากนั้นไม่นาน พื้นที่ว่างเปล่าก็มีของกองจนเต็ม
“พี่เจียวเจียวสุดยอดมาก นางเสกของกินขึ้นมามากมายหลังจากพูดกับเทพอสูรเพียงไม่กี่คำ!” เสี่ยวสือโถวที่อยู่กับเด็กคนอื่นพูดชื่นชมจิ้งจอกสาวด้วยดวงตาเป็นประกาย
“พี่สาวเทพธิดาแสนสวยทรงพลังที่สุด” ยามนี้หวงเทียนกับเสี่ยวสือโถวยืนเคียงข้างกันและผลัดกันพูดยกยอหญิงสาว
ปัจจุบันขาของเด็กหนุ่มหายดีแล้ว
ในเวลาเดียวกัน พวกเขาทั้งคู่เพิ่งสังเกตเห็นหลงเหยาจึงเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย
จากนั้นเด็กคนอื่น ๆ ก็มารวมตัวพูดคุยกับเจ้าตัวเล็กรวมถึงเด็กตระกูลหลงด้วยความอิจฉา
“หลงเหยา แม่ของเจ้าสุดยอดมาก นางสวยจนน่าตะลึง และนางก็พูดไพเราะมาก”
“ข้าอิจฉาเจ้าจริง ๆ ที่มีแม่ที่ดีแบบนี้!”
“ข้าได้ยินมาว่าแม่ของเจ้าทำอาหารอร่อยมาก คราวหน้าเราขอไปชิมได้ไหม...”
ขณะนี้เด็กทุกคนที่มาจากเผ่าหมาป่ามารวมตัวกันรอบ ๆ เหล่าเด็กตระกูลหลง
พวกหลงเหยาไม่เคยพบเจอประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนในชีวิต
ที่ผ่านมาพวกเขาไม่เคยได้รับการต้อนรับจากเด็กในเผ่าเลย แม้ว่าท่านแม่จะประพฤติตัวดีขึ้นแล้ว แต่เด็กคนอื่นก็ยังหลีกเลี่ยงไม่ยอมมาสุงสิงกับพวกเขา
อาจเป็นเพราะเด็กพวกนั้นเคยรังแกพี่น้องตระกูลหลง
พวกเขาเลยรู้สึกแปลก ๆ ที่จู่ ๆ ก็มีเด็กมากมายมาห้อมล้อมตน