ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 366 ราชาผู้ยิ่งใหญ่เย่หลิวซู (อ่านฟรี)
ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 366 ราชาผู้ยิ่งใหญ่เย่หลิวซู (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
อสรพิษหินมองหลี่ฉิงซานด้วยความหวาดกลัว แม้มันจะแข็งแกร่งที่สุดท่ามกลางสัตว์ปีศาจทั้งหมด แต่มันก็ยังไม่ใกล้เคียงขุนพลปีศาจ การเคลื่อนไหวของหลี่ฉิงซานก่อนหน้านี้ปัดเป่าความคิดที่จะต่อต้านของมันไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้มันจึงตอบคำถามของเขาอย่างเชื่อฟัง
“ข้ามีหน้าที่ดูแลที่พักของราชาผู้ยิ่งใหญ่เย่หลิวซู ข้าต้องป้องกันไม่ให้ผู้ใดรบกวนการพักผ่อนของราชา มิฉะนั้นข้าจะถูกลงโทษ” อสรพิษหินขดร่างมหึมาของมันอย่างไร้เรี่ยวแรง
“ราชาผู้ยิ่งใหญ่เย่หลิวซู? ปีศาจตนนี้มีชื่อที่ค่อนข้างดี” หลี่ฉิงซานพึมพำกับตนเอง “เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันเป็นปีศาจชนิดใด? มันมีความสามารถใดบ้าง?”
รู้เขารู้เราจะไม่พ่ายแพ้ หลี่ฉิงซานไม่เคยประเมินคู่ต่อสู้ของเขาต่ำเกินไป
“นี่...ข้าไม่รู้ และราชาผู้ยิ่งใหญ่เย่หลิวซูก็ไม่ใช่ปีศาจ!”
“ไม่ใช่ปีศาจ?” หลี่ฉิงซานอุทาน “มนุษย์ได้รับอนุญาตให้ครอบครองอาณาจักรใต้ดินตั้งแต่เมื่อใด?”
“ไม่ ไม่ ไม่ใช่มนุษย์เช่นกัน”
“ไม่ใช่มนุษย์หรือปีศาจ แล้วเป็นสิ่งใด?”
อสรพิษหินอธิบาย โชคไม่ดีที่สัตว์ปีศาจใต้ดินมีความรู้จำกัดในแง่ของคำศัพท์ ดังนั้นหลี่ฉิงซานจึงยิ่งสับสนมากขึ้น สิ่งที่เขารู้คือราชาเย่หลิวซูผู้นี้ไม่ใช่ขุนพลปีศาจที่อยู่ในบริเวณนี้แต่มาจากใต้ดินลึกลงไป
หากเขาไม่รู้ เขาก็จะไปดูด้วยตาของตัวเอง หลี่ฉิงซานอาจระวังตัวแต่เขาไม่เคยกลัวปัญหา
“ราชาเย่หลิวซูมาและจากไปอย่างไร้ร่องรอยในแบบที่น่าเหลือเชื่อ” อสรพิษหินเตือนมาจากด้านหลัง มันยังไม่สบายใจ หลี่ฉิงซานพึ่งกลายเป็นขุนพลปีศาจเมื่อเร็วๆนี้ เขาอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของราชาเย่หลิวซู
มันรีบด่ำดึงลงสู่พื้น หากราชาเย่หลิวซูพบว่ามันปล่อยให้พวกเขาเข้าไป มันจะมีปัญหา
ทันใดนั้นแสงสีน้ำเงินก็ส่องประกายขึ้น ดอกไม้ผีเสื้อแสงสีน้ำเงินปล่อยแสงสลัวอยู่ในความมืด ปีกผีเสื้อขยับเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าพวกมันยังไม่โตเต็มที่ พวกมันไม่สามารถบินออกมาจากต้น
ปีศาจกิ้งกือรีบวิ่งเข้าไปแต่หลี่ฉิงซานจับขาของมันและซ่อนมันไว้
หลี่ฉิงซานให้เสี่ยวอันรออยู่ที่ทางเข้าขณะที่เขาเข้าไปเพียงลำพัง ในที่สุดเขาก็มาถึงทุ่งดอกไม้ผีเสื้อแสงสีน้ำเงิน แต่มีเพียงหนึ่งหรือสองดอกเท่านั้นที่สามารถกลายร่างเป็นผีเสื้อบินขึ้นสู่อากาศ
นอกเหนือจากทุ่งดอกไม้ หลี่ฉิงซานไม่พบสิ่งใดที่คุ้นเคยอีกเลย
กำแพงหินขรุขระได้รับการแกะสลักอย่างระมัดระวัง มันเต็มไปด้วยลวดลายต่างๆ เพดานสว่างไสวไปด้วยไข่มุกเรืองแสงขนาดต่างๆและทำให้มันดูเหมือนดวงดาวในยามค่ำคืน มันยิ่งใหญ่ราวกับวังสีดำที่เต็มไปด้วยสีสันและมนต์เสน่ห์จากต่างแดน
ที่ใจกลางของพระราชวัง เตียงของปีศาจกิ้งกือถูกแกะสลักด้วยลวดลายที่ละเอียดอ่อนและงดงาม มีผ้าม่านปิดอยู่รอบๆทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน
จากการตกแต่ง หลี่ฉิงซานสามารถยืนยันได้ว่าเย่หลิวซูไม่ใช่ปีศาจ ปีศาจจะไม่เสียเวลากับสิ่งเหล่านี้ ยิ่งไปกว่านั้นกลิ่นอายจากด้านหลังผ้าม่านก็ดูเหมือนจะยืนยันสิ่งนั้น
มันไม่ใช่ปราณปีศาจแต่ก็ไม่เหมือนพลังวิญญาณ มันเป็นบางสิ่งที่อยู่ระหว่างปราณปีศาจกับพลังวิญญาณ มีทั้งความเหมือนและความแตกต่าง ตอนนี้เขาพอจะเดาออกแล้วว่ามันคือสิ่งใด
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเดินไปเปิดผ้าม่าน เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ
หูแหลมคู่นั่นบ่งบอกอย่างชัดเจนว่ามันไม่ใช่มนุษย์ ผิวเรียบเนียนและดูเหมือนถูกย้อมด้วยท้องฟ้ายามค่ำคืนก็พิสูจน์ข้อเท็จจริงนี้อีกครั้ง
มันไม่ใช่ทั้งมนุษย์และปีศาจแต่เป็นสิ่งอื่น
หลี่ฉิงซานนึกถึงบางสิ่งทันที มนุษย์กลายพันธุ์!
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณวันเวลาที่เขาใช้ร่วมกับอันฉงจื่อ นางเคยพูดเรื่องการคงอยู่ของเผ่าพันธุ์เหล่านี้มาก่อน
นี่คือชนเผ่ารัตติกาล
ผิวสีน้ำเงินเข้มเป็นจุดเด่นที่สุดของพวกเขา พวกเขาแตกต่างจากมนุษย์อย่างสิ้นเชิง พวกเขาจะนอนในเวลากลางวันและออกล่าในเวลากลางคืน พวกเขาสมารถมองผ่านความมืดแต่จะตาบอดในเวลากลางวัน
หลังจากการทะยานขึ้นของมนุษย์ชาติ พวกเขาถูกขับไล่ไปอยู่ในถิ่นธุรกันดารเช่นเดียวกับมนุษย์กลายพันธุ์เผ่าอื่นๆและกลายเป็นเพียงตำนาน หลี่ฉิงซานไม่เคยคิดว่าเขาจะพบมันที่ใต้ดิน
หากนี่ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้หลี่ฉิงซานประหลาดใจ ความจริงที่ว่าราชาเย่หลิวซูที่นั่งอยู่หลังผ้าม่านเป็นผู้หญิงก็เพียงพอแล้ว
เส้นผมสีน้ำเงินเข้มพาดลงมาจากใบหน้ารูปไข่ที่ดูบอบบาง ดวงตาของนางปิดสนิทขณะที่ขนตายาวและดั้งจมูกสูง
นางสวมชุดเกราะสีดำเรียบง่ายที่ปกปิดเฉพาะส่วนสำคัญ ลวดลายราวกับกิ่งก้านของดอกไม้แผ่กระจายอยู่บนผิวของนางซึ่งดูเหมือนรอยสัก
หากเขามองข้ามสีผิวของนาง นางจะถือเป็นหญิงงามผู้หนึ่ง หรืออาจเป็นผิวสีน้ำเงินเข้มของนางที่ทำให้นางดูลึกลับและมีเสน่ห์มากขึ้น
หลี่ฉิงซานเห็นคิ้วที่ขมวดแน่นของนาง เห็นได้ชัดว่านางสัมผัสได้ถึงการคงอยู่ของเขา แต่นางยังไม่ขยับ บางทีนางอาจอยู่ในขั้นตอนสำคัญของการบ่มเพาะ
หลี่ฉิงซานค่อนข้างผิดหวัง ดังนั้นเขาจึงปีนขึ้นไปบนเตียงและนั่งลงตรงหน้านาง เขามองสำรวจร่างกายที่เย้ายวนใจของนางและรอให้นางตื่นขึ้น
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการใช้ประโยชน์จากสถานการณ์และไม่ใช่เพราะเขาสูญเสียความตั้งใจที่จะต่อสู้เมื่อเห็นว่านางเป็นผู้หญิง ตรงข้าม อวัยวะส่วนหนึ่งของเขาแข็งทื่ออย่างเงียบๆ เขาเริ่มนึกถึงช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่เขาใช้กับอันฉงจื่อและเขาก็สงสัยว่านางออกจากห้องบ่มเพาะหรือยัง เมื่อเวลานั้นมาถึง เขาจะของานแต่งงาน และเขาจะสามารถ...
จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่การฆ่า ปีศาจจะไม่เข่นฆ่ากันเอง นี่ถือเป็นกฎข้อแรกของโลกปีศาจ เย่หลิวซูอาจเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ แต่เมื่อนางสามารถครอบครองดินแดนแห่งนี้ นั่นหมายความว่าผู้บัญชาการปีศาจยอมรับนาง นางอาจถูกมองว่าเป็นสมาชิกเผ่าปีศาจ
การฆ่านางเป็นเรื่องง่าย แต่เขาต้องการเอาชนะด้วยวิธีของปีศาจอย่างเปิดเผยเพื่อที่เขาจะได้นำดินแดนแห่งนี้กลับมาให้ปีศาจกิ้งกืออย่างถูกต้อง
หยดเหงื่อไหลมารวมกันที่ปลายจมูกของเย่หลิวซู นางเต็มไปด้วยความกังวล นางอยู่ในจุดสำคัญของการบ่มเพาะ นี่เป็นเหตุผลที่นางสั่งให้ปิดเส้นทางทั้งหมดที่นำมาสู่ที่นี่ เนื่องจากเขาสามารถก้าวข้ามสิ่งกีดขวางและมาถึงที่นี่ มันก็พิสูจน์แล้วว่าความแข็งแกร่งของเขาไม่ธรรมดา
แต่ถึงกระนั้นนางก็ไม่สามารถเคลื่อนไหว หากนางทำเช่นนั้น ไม่เพียงความพยายามทั้งหมดของนางจะสูญเปล่าแต่นางยังจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากฟันเฟือง
เป็นเพียงเวลานี้ที่นางรู้สึกว่ามือของเขากำลังยื่นเข้ามาหานาง ร่างกายของนางแข็งทื่อทันที อย่างไรก็ตามมือนั้นกลับโบกไปมาอยู่ตรงหน้านางเท่านั้น
หลี่ฉิงซานรู้สึกเบื่อหน่ายกับการรอคอย เขาหาวและเริ่มนอนลงด้านข้าง ทันใดนั้นเขาก็เห็นกริชเล่มหนึ่งคาดอยู่ที่เอวของนาง มันโค้งเหมือนจันทร์เสี้ยว เขาเอื้อมมือไปคว้ามัน
เป็นเพียงเวลานี้ที่เย่หลิวซูเปิดเปลือกตาขึ้น ดวงตาของนางเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน