ตอนที่แล้วตอนที่ 353 ผลึกพลังงาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 355 ทำลายหลักฐาน

ตอนที่ 354 รวบรวมได้อีกชิ้น


ตอนที่ 354 รวบรวมได้อีกชิ้น

“มันคงจะดีกว่านี้ถ้าฉันมีแหวนมิติที่สามารถเก็บพวกมันเข้าไปไว้ได้ทั้งหมด” เซี่ยเฟยอุทานออกมาด้วยความเสียดาย และในปัจจุบันแหวนมิติของเขาก็เต็มไปด้วยวัตถุโบราณจนไม่มีที่ว่างหลงเหลืออยู่แม้แต่นิดเดียว

“อย่างน้อยมันต้องใช้แหวนมิติขนาดหลายหมื่นลูกบาศก์เมตรในการเก็บหัวใจจักรวาลพวกนี้เข้าไปทั้งหมด แต่ฉันก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามันมีแหวนมิติขนาดใหญ่ขนาดนั้นอยู่ในพันธมิตรด้วย” อันธกล่าว

“ถึงยังไงพวกเราก็คงจะไม่สามารถออกไปข้างนอกได้สักพัก ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ลองตรวจสอบที่นี่ก่อนก็แล้วกัน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้

กระป๋องทำหน้าที่เป็นเหมือนไกด์นำทางที่คอยอธิบายรายละเอียดของศูนย์ขุดแร่ใต้ทะเลลึกให้เซี่ยเฟยฟังไปตลอดทาง

จากคำอธิบายของกระป๋องมันก็ทำให้เขาได้รู้ว่าหัวใจจักรวาลสีม่วงเป็นผลึกพลังงานที่มีค่ามากตั้งแต่สมัยโบราณ พวกเขาจึงตั้งศูนย์ขุดแร่เอาไว้อย่างลับ ๆ และยังติดตั้งระบบป้องกันการค้นหาจากภายนอก มันจึงทำให้สถานที่แห่งนี้คงอยู่มาได้จนถึงปัจจุบันโดยที่ยังไม่มีใครได้เข้ามาค้นพบมันเสียก่อน

ขณะเดียวกันถึงแม้ว่ามู่เสียวเต๋าจะหนีไป แต่ร่างมนุษย์ทั้งสามยังคงนอนนิ่งอยู่ที่เดิม เซี่ยเฟยจึงทำการรูดทรัพย์บุคคลทั้งสามนี้ก่อนที่จะได้พบอาวุธและแหวนมิติอีกสามวง

น่าเสียดายที่แหวนมิติทั้งสามวงมีขนาดเล็กมาก และด้านในก็บรรจุเอาไว้เพียงแค่เสบียงและอุปกรณ์คุณภาพต่ำ ซึ่งในปัจจุบันเซี่ยเฟยไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้วเขาจึงไม่ให้ความสนใจสิ่งของไร้ค่าพวกนี้เลย

“มู่เสียวเต๋ากำลังซ่อนตัวอยู่ในความมืดและเตรียมตัวจะจู่โจมนายหรือเปล่า? ถึงยังไงสถานที่แห่งนี้ก็ถูกปิดตายอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเขาจึงไม่น่าจะหลบหนีออกไปด้านนอกได้” อันธกล่าวขึ้นมาอย่างกังวล

“ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและถึงแม้ว่าเขาจะใจกล้ามากกว่านี้อีกพันเท่า แต่เขาก็ไม่กล้ามายุ่งกับฉันตอนนี้หรอก น่าเสียดายจริง ๆ ที่ฉันจับเขาไม่ได้ การพยายามจับคนที่ใช้มิติจินตภาพให้ได้มันช่างเป็นเรื่องที่ยากลำบากจริง ๆ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็สังเกตเห็นว่านิ้วก้อยบนศพของผู้หญิงได้หายไป

“นี่จะต้องเป็นฝีมือของมนุษย์แน่ ๆ อาวุธของพวกหุ่นยนต์มีขนาดใหญ่เกินไป มันไม่สามารถสร้างรอยแผลแบบนี้ได้” อันธกล่าวหลังจากที่เขาตรวจสอบรอยบาดแผลบริเวณนิ้วก้อยของซากศพ

“มันเป็นฝีมือของมู่เสียวเต๋า นายอาจจะไม่ทันได้สังเกตแต่ฉันจำได้ว่าก่อนที่เราจะออกไปจากที่นี่นิ้วก้อยของผู้หญิงคนนี้ยังคงอยู่ที่เดิม มู่เสียวเต๋าน่าจะอาศัยช่วงเวลาที่พวกเราไปโกดังในการตัดนิ้วของผู้หญิงคนนี้ออกไป” เซี่ยเฟยกล่าว

“นายจำได้ขนาดนั้นเลยเหรอ?” อันธถามอย่างสงสัย เพราะความทรงจำของคนคนหนึ่งมีอยู่อย่างจำกัดเสมอ เขาจึงไม่เข้าใจว่าทำไมเซี่ยเฟยถึงสามารถจดจำแม้กระทั่งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ได้

“ฉันจำได้ เพราะผู้หญิงคนนั้นสวมแหวนที่ดูพิเศษบนนิ้วก้อย”

“มันเป็นแหวนมิติหรือเปล่า?”

“น่าจะเป็นไปได้ มู่เสียวเต๋าต้องไม่อยากให้เราได้แหวนวงนั้นไปแน่ ๆ เขาถึงกล้าเสี่ยงปรากฏตัวเพื่อเอาแหวนวงนั้นไป”

“แหวนวงนั้นเก็บอะไรเอาไว้กันแน่นะ?” อันธอุทานด้วยท่าทางที่ครุ่นคิด

ต่อมาเซี่ยเฟยก็ได้รวบรวมสิ่งของมีค่าทั้งหมดเอาไปไว้ในโกดัง ทำให้ในเวลาเพียงแค่ไม่นานทั่วทั้งโกดังขนาดใหญ่ก็เต็มไปด้วยวัตถุโบราณทุกชนิดที่เขาสามารถหาได้ โดยวัตถุโบราณบางส่วนคืออุปกรณ์เอาไว้ใช้ในสำนักงาน และอุปกรณ์บางส่วนคืออุปกรณ์สำหรับการขุดแร่ แต่สิ่งหนึ่งที่พวกมันมีเหมือนกันคือพวกมันสามารถนำไปแลกเปลี่ยนกับสิ่งของที่ล้ำค่าภายในพันธมิตรได้

“เครื่องทำไอติมอัตโนมัตินี่สามารถสร้างไอติมได้มากกว่า 1,300 รสชาติ ฉันว่าเครื่องสร้างไอติมเครื่องนี้น่าจะเหมาะกับแอวริล เพราะว่าเธอน่าจะทำอาหารไม่เป็น…” อันธมองดูวัตถุโบราณในโกดังด้วยความพึงพอใจ

ถึงแม้ว่าจะสามารถรวบรวมวัตถุโบราณมาไว้ในโกดังได้เยอะมากแล้ว แต่เซี่ยเฟยก็กำลังรู้สึกว่ามันน่าจะมีอะไรบางอย่างที่ขาดหายไป

“กระป๋องที่นี่คือศูนย์ขุดแร่กึ่งฐานทัพใช่ไหม? แล้วมันมีอาวุธอุปกรณ์อะไรอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”

“มีสิ หุ่นยนต์ที่นายท่านเพิ่งจัดการพวกมันไปคือหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยของที่นี่”

“แล้วอย่างอื่นล่ะ?”

“กระป๋องรู้แค่นี้ แต่มันยังมีห้อง ๆ หนึ่งที่กระป๋องไม่เคยเข้าไป กระป๋องเลยไม่รู้ว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้น”

“ห้องนั้นอยู่ที่ไหน? ช่วยพาฉันไปที่นั่นที” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างสนใจ

หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เดินตามกระป๋องไปตามทางเดิน ซึ่งสถานที่ปลายทางก็ดูเหมือนจะเป็นเหมืองร้างตั้งแต่สมัยโบราณ

“ที่นี่เคยเป็นเหมืองร้างมาก่อน แต่จู่ ๆ ในปี 529364 คนจากหน่วยสืบทอดก็เข้ามาสร้างสำนักงานในเหมืองร้างแห่งนี้ หลังจากนั้นพวกเขาก็ย้ายเจ้าหน้าที่เข้าไปทำงานด้านในเป็นจำนวนมาก แต่หุ่นยนต์เหมืองไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านในเลยแม้แต่ตัวเดียว”

ในอารยธรรมโบราณหน่วยสืบทอดมีหน้าที่รับผิดชอบสืบทอดเทคโนโลยีของมนุษย์เพื่อให้เทคโนโลยีไม่สาบสูญไปตามกาลเวลา แต่สิ่งที่ทำให้เซี่ยเฟยสงสัยคือทำไมคนจากหน่วยสืบทอดถึงได้มาตั้งสำนักงานในเหมืองร้างแบบนี้ด้วย

สำหรับหน่วยงานลับมันก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะใช้สถานที่ลับก่อตั้งเป็นสำนักงานชั่วคราว แต่สำหรับหน่วยสืบทอดเทคโนโลยีมันก็ไม่ควรจะต้องมาตั้งสำนักงานอยู่ในเหมืองร้างแบบนี้เลย ดังนั้นมันจะต้องมีความลับอะไรซ่อนอยู่ด้านในสำนักงานนี้แน่ ๆ เพราะมันไม่มีทางที่หน่วยสืบทอดจะมาตั้งสำนักงานอยู่ที่นี่โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

“คนจากหน่วยสืบทอดมาทำงานที่นี่ได้ประมาณครึ่งปี ก่อนที่วันจุติจะได้มาถึง” กระป๋องอธิบาย ด้วยเสียงเบา ๆ ราวกับกระซิบ

“หลังจากนั้นหุ่นยนต์ก็เริ่มก่อกบฏและฆ่ามนุษย์ทุกคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ใช่ไหม?” เซี่ยเฟยถาม

“พวกมันเป็นหุ่นยนต์เลว! หุ่นยนต์กับมนุษย์เป็นเพื่อนกัน หุ่นยนต์ต้องรับใช้มนุษย์และไม่ทำร้ายมนุษย์ แต่พวกมันทำลายโปรแกรมที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เกิด!!” กระป๋องกล่าวขึ้นมาด้วยความโกรธ

“แล้วทำไมนายถึงไม่ทรยศมนุษย์ด้วยล่ะ?” เซี่ยเฟยถาม

“ในวันจุติกระป๋องได้รับคำสั่งให้กำจัดมนุษย์ แต่ระบบวิเคราะห์ของกระป๋องประมวลผลออกมาว่าคำสั่งนี้ไม่ถูกต้องกระป๋องจึงบล็อกคำสั่งนั้นทันที อันที่จริงไม่ใช่หุ่นยนต์ทุกตัวที่ยอมรับคำสั่งนี้ เพราะมันมีสหายอีกหลายตัวที่ปิดกั้นคำสั่งเหมือนกระป๋องด้วยเหมือนกัน ซึ่งสหายบางส่วนก็ถึงกับพังทลายเนื่องมาจากการปฏิเสธคำสั่งจำเป็นจะต้องใช้การคำนวณที่ซับซ้อน”

“น่าเสียดายที่หุ่นยนต์ที่รับคำสั่งมีมากกว่าหุ่นยนต์ที่ไม่ยอมรับคำสั่ง ดังนั้นพวกหุ่นยนต์เลวจึงมีความได้เปรียบมากกว่าพวกกระป๋อง” กระป๋องกล่าว

“ใครเป็นคนออกคำสั่งให้พวกนายกำจัดมนุษย์?” เซี่ยเฟยถาม

“เทพธิดาผู้พิทักษ์” กระป๋องตอบ

“เทพธิดาผู้พิทักษ์?”

“เธอเป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่คอยควบคุมหุ่นยนต์ทั้งหมด และเธอยังมีความสามารถในการคำนวณที่ซับซ้อนเหนือกว่าทุกสิ่ง ดังนั้นเธอจึงมีหน้าที่คอยตรวจสอบสถานะการทำงานของหุ่นยนต์ทุกตัว และคอยป้อนคำสั่งที่เหมาะสมให้หุ่นยนต์ได้คอยปฎิบัติงานตามหน้าที่”

คำอธิบายในครั้งนี้ทำให้เซี่ยเฟยได้ตระหนักว่า ท้ายที่สุดสุดยอดคอมพิวเตอร์อัจฉริยะที่มนุษย์ได้ผลิตขึ้นก็เป็นคนออกคำสั่งให้ทำลายอารยธรรมของมนุษย์โบราณเสียเอง ซึ่งอันที่จริงมันก็สามารถสรุปอีกนัยหนึ่งได้ว่ามันมีเพียงเทพธิดาผู้พิทักษ์เท่านั้นที่ทรยศต่อมนุษย์ ขณะที่หุ่นยนต์ตัวอื่น ๆ เป็นเพียงแค่เครื่องจักรที่ซื่อสัตย์ที่เริ่มสังหารมนุษย์ตามคำสั่งของเธอ

การเคลื่อนไหวนี้คล้ายกับราชินีที่คอยออกคำสั่งบัญชาการกองทหารของตัวเอง ซึ่งความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์โบราณก็คือการปล่อยให้หุ่นยนต์คอยควบคุมหุ่นยนต์

“ทำไมพวกหุ่นยนต์ทำความสะอาดกับพวกหุ่นยนต์แร่ถึงไม่ทรยศมนุษย์ล่ะ?” เซี่ยเฟยถาม

“พวกเขาเป็นเพียงหุ่นยนต์อัจฉริยะที่ไม่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกับเทพธิดาผู้พิทักษ์ได้ คำสั่งของเทพธิดาจึงส่งไปไม่ถึงพวกเขา”

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็เริ่มไขปริศนาเรื่องการล่มสลายของอารยธรรมโบราณได้บางส่วนแล้ว สิ่งที่เขาจำเป็นจะต้องค้นหาต่อจากนี้คือสาเหตุที่ว่าทำไมเทพธิดาผู้พิทักษ์ถึงทรยศต่อมนุษย์

หลังจากเดินเข้ามาภายในเหมืองได้ประมาณ 10 นาที เซี่ยเฟยก็ได้พบกับประตูโลหะที่ถูกเข้ารหัสเอาไว้อย่างแน่นหนา

“นี่คือสำนักงานของหน่วยสืบทอด มันจำเป็นจะต้องใช้รหัสผ่านเพื่อเปิดประตูบานนี้เข้าไป” กระป๋องกล่าว

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะหยิบกล่องเครื่องมือออกมาเพื่อเริ่มปลดระบบรักษาความปลอดภัยของประตู และเนื่องมาจากว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เซี่ยเฟยได้ทำแบบนี้ มันจึงทำให้เขาสามารถลงมือปลดระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างรวดเร็ว

ครืดดด!

ประตูโลหะค่อย ๆ เปิดออกช้า ๆ พร้อมกับหลอดไฟภายในห้องที่เริ่มส่องแสงสว่างขึ้นมาทีละดวง

หลังจากเซี่ยเฟยเดินเข้าไปภายในห้องเขาก็ได้พบกับพิมพ์เขียวทั้งขนาดใหญ่ขนาดเล็กอยู่เต็มไปหมด ซึ่งมันก็ดูเหมือนกับว่าคนด้านในกำลังทำการวิจัยพิมพ์เขียวพวกนี้อยู่

“ระบบเร่งพลังงาน... นี่พวกเขากำลังวิเคราะห์การเร่งพลังงานอยู่งั้นเหรอ?”

‘พิมพ์เขียวพวกนี้มันดูเหมือนชิ้นส่วนอุปกรณ์อะไรบางอย่าง ถ้านำพวกมันมาประกอบเข้าด้วยกันมันจะกลายเป็นอุปกรณ์อะไรกันแน่?’ เซี่ยเฟยคิดกับตัวเองภายในใจ

เมื่อเดินลึกเข้าไปด้านในเซี่ยเฟยก็ได้พบกับสำนักงานที่ดูล้ำหน้ามากกว่าด้านนอก ซึ่งมันก็ดูเหมือนกับว่าห้องทำงานนี้จะเป็นห้องทำงานของฝ่ายบริหาร

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็ได้พบกับภาพวาดพิมพ์เขียวบนผนัง ซึ่งช่วยคลายความสงสัยของเขาได้สำเร็จ แต่หลังจากที่เขาได้ทำการตรวจสอบพิมพ์เขียวนั้นดี ๆ ประกอบกับอ่านคำอธิบายที่อยู่ด้านล่าง มันก็ทำให้ชายหนุ่มอ้าปากค้างขึ้นมาด้วยความตกใจ

“มันเป็นพิมพ์เขียวของอะไร?” อันธถามด้วยความสงสัย

“นายจำยานไททันได้ไหม?”

“จำได้สิ ฉันไม่มีทางลืมยานลำนั้นได้หรอก”

“นี่คือพิมพ์เขียวของปืนใหญ่ซุปเปอร์เลเซอร์ ซึ่งมันเป็นระบบต่อสู้หลักของยานไททัน” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความจริงจัง

“ห๊ะ! นายแน่ใจนะว่ามันเป็นพิมพ์เขียวของปืนใหญ่บนไททันจริง ๆ”

“ฉันแน่ใจ!”

“ตอนที่นายเดินทางเข้าไปในเขตแรงโน้มถ่วงสูงนายก็ได้รับพิมพ์เขียวระบบซุปเปอร์เรดาร์ของยานไททัน หลังจากนั้นนายก็ได้พิมพ์เขียวโครงสร้างยานไททันมาจากฉินหมาง แล้ววันนี้นายก็ได้พิมพ์เขียวของปืนใหญ่ซุปเปอร์เลเซอร์ของไททันมาอีก ดูเหมือนว่านายใกล้จะรวบรวมพิมพ์เขียวของไททันได้ครบแล้วสินะ”

***************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด