ตอนที่ 234 ผสานเจตจำนง
"สำนักจันทราโลหิตกับสำนักหยุนจินงั้นรึ?"
หลังจากได้ยินคําพูดของผู้อาวุโสเฉินดวงตาของชูทู่หยวนก็แคบลง
ผู้ชายคนนี้ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เขาไม่เพียงแค่เป็นศัตรูกับนิกายมารพระเจ้าเท่านั้น แต่เขายังเป็นศัตรูกับสำนักจันทราโลหิตและสำนักหยุนจินซึ่งทั้งสองสำนักนี้ไม่ได้มีพลังน้อยไปกว่านิกายมารพระเจ้ามากเลยด้วยซ้ำ
จากสถานการณ์ในตอนนี้กองกําลังทั้งสองจะต้องส่งผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งที่สุดไปเพื่อจัดการกับยื่อซวน ถ้าหากพวกเขาไม่ทําแบบนั้น ยื่อซวนน่าจะไปถึงรูปแบบการควบแน่นได้ภายในหนึ่งปีหรือสองปี
นิกายมารพระเจ้านั้นล้มเหลวในการทําแบบนั้น ซึ่งส่งผลให้เกิดความสูญเสียมหาศาลต่อนิกายทำให้เขาจําเป็นต้องลงมือด้วยตัวเอง นอกจากนี้เขายังต้องร่วมมือกับผู้ฝึกตนที่ถูกส่งมาโดยสำนักอีกสองแห่งด้วย
"ได้เวลายุติเรื่องนี้แล้ว!"
จิตสังหารไหลวูบวาบไปทั่วดวงตาของเขา
เขาไม่รู้ตําแหน่งที่แน่นอนของนิกายชิงหยุน แต่เขารู้ว่าจักรวรรดิเฉียนนั้นอยู่ที่ไหน
ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาสามารถแยกมิติออกจากกันและไปถึงจักรวรรดิเฉียนได้ภายในระยะเวลาอันสั้น
"ข้าจะมุ่งหน้าไปที่จักรวรรดิเฉียนเพื่อฆ่ายื่อซวนตอนนี้ พวกเจ้าจงปกป้องนิกายไว้ให้ดี!
ชูทู่หยวนผายมือของเขาและรอยแยกของมิติขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น จากนั้นเขาก็กลายเป็นลำแสงและหายไป
ผู้ฝึกตนรูปแบบการควบแน่นนั้นสามารถสร้างทางเดินเชิงมิติได้เพื่อเดินทางอย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถวาร์ปได้
"ยอดเลย! ตอนนี้ท่านผู้นำนิกายกําลังลงมือด้วยตัวเอง ถ้าเป็นแบบนี้ยื่อซวนจะต้องตายอย่างแน่นอน!"
"แต่ข้าต้องยอมรับว่าพรสวรรค์ของยื่อซวนนั้นสูงมากจริงๆ หากเขามีเวลามากกว่านี้เขาจะสามารถแซงหน้าผู้นำคนปัจจุบันของนิกายเฉินเหมินและกลายเป็นบุคคลที่มีอํานาจมากที่สุดในภูมิภาคหนานโจวอย่างแน่นอน!"
"ถ้าเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น นิกายของพวกเราจะต้องถูกทําลายแน่นอน"
"โชคดีที่สำนักจันทราโลหิตและสำนักหยุนจินกําลังดําเนินการเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นยื่อซวนจะต้องตายอย่างแน่นอน!"
หลังจากชูทู่หยวนได้จากไปนั้น ผู้อาวุโสในนิกายมารพระเจ้าก็เริ่มพูดคุยกัน
"พวกเราแค่ต้องรออย่างอดทนเท่านั้น!"
"ท่านผู้นำนิกายจะต้องกลับมาพร้อมกับหัวของยื่อซวนอย่างแน่นอน!"
ในพื้นที่อื่นของภูมิภาคหนานโจวนั้น ชายเสื้อแดงและพระสงฆ์ที่ดูมีเมตตาพร้อมผู้ติดตามก็หายตัวไปเข้าในรอยแยกของมิติเช่นกัน
...
ณ ยอดเขาหลิงจิ่ว นิกายชิงหยุน
ยื่อซวนยังอยู่ในการฝึกตนอย่างสันโดษในห้องฝึกตน
ด้วยความช่วยเหลือของใบโพธิจันทรานั้น เขาได้มาถึงขั้นที่สองของวิธีพัฒนาจิตวิญญาณระดับสวรรค์เก้าขั้นแล้ว ถึงอย่างนั้นพลังของใบโพธิจันทราก็ยังไม่หมดลง
พลังของใบโพธิจันทรานั้นจะคงเหลืออยู่อีกสามวัน
ยื่อซวนหยุดฝึกตนวิธีพัฒนาจิตวิญญาณระดับสวรรค์เก้าขั้นและเริ่มทำความเข้าใจเจตจำนงด้านการต่อสู้ของเขา
หลังจากผ่านไปครึ่งวัน ยื่อซวนได้ทำความเข้าใจเจตนาไม้ขั้นแรกได้
ดังนั้นยื่อซวนจึงเปลี่ยนเป้าหมายของเขา
แทนที่จะพยายามเข้าใจเจตจำนงระดับสูงเขาวางแผนที่จะลองดูว่าเขาสามารถผสานพลังของเจตจำนงด้านการต่อสู้เข้าด้วยกันได้หรือไม่
เพราะมันมีองค์ประกอบที่คล้ายกันระหว่างเจตจำนงบางอย่าง แน่นอนว่ายังมีเจตจำนงการต่อสู้มากมายที่ส่งผลลบต่อกันด้วย
ตัวอย่างเช่นองค์ประกอบหลักห้าธาตุนั้นจะเสริมหรือยับยั้งซึ่งกันและกันได้ ถ้าหากพลังขององค์ประกอบหลักห้าธาตุนั้นสามารถผสานเข้าด้วยกันได้มันจะสามารถกำเนิดพลังใหม่ที่น่าเหลือเชื่อได้อย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้เมื่อยื่อซวนยังอยู่ในหอคอยแห่งสวรรค์เขาได้รวมเจตจำนงอัสนีนภาเข้ากับเจตจำนงดาบซึ่งทําให้เขาในฐานะผู้ฝึกตนรูปแบบเอกภาพขั้นที่สองในตอนนั้นปลดปล่อยพลังเทียบเท่ากับผู้ฝึกตนรูปแบบเอกภาพขั้นที่สี่ได้
แต่ว่าเขาสามารถผสานเจตจำนงทั้งสองนี้เข้าด้วยกันได้เพราะพวกมันนั้นเพิ่มพลังประสานกันได้
แต่ตอนนี้มันต่างออกไป ถ้าเป็นเพียงสองเจตจำนงนั้นมันจะค่อนข้างจะง่าย แต่ถ้าเขาต้องการหลอมรวมเจตจำนงสามอย่างขึ้นไปนั้น ความยากของมันจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก