ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 9 - หลักการ ROTFELD
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 11 - แผนการของสถาบัน

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 10 - นักเรียนพรสวรรค์ระดับ 3 ดาว


สายตาของเดวิดเต็มไปด้วยความว่างเปล่าจริง ๆ ของเหลวข้น ๆ ที่อยู่ข้างหน้าของเขาในตอนนี้ เขาคิดไม่ออกเลยว่ามันเรียกว่าเป็นอาหารได้อย่างไร?

“อืมม์ ผมต้องการอาหาร แต่...ไม่ใช่แบบนี้ ได้มั้ย?” เดวิดกล่าวออกมาอย่างงง ๆ ให้เครื่องจ่ายอาหารนั้นฟัง

“เนื่องจากคุณยังไม่ได้วัดระดับพรสวรรค์ของตัวเองให้เสร็จสิ้น นี่คืออาหารที่มอบให้กับนักเรียนทุกระดับพรสวรรค์ของสถาบันแห่งนี้เป็นพื้นฐาน” เครื่องจ่ายอาหารนั้นสามารถส่งเสียงตอบกลับมาได้อย่างที่เดวิดไม่คาดคิด แต่เขาจำได้ว่ามันเป็นเสียงของ AI ที่ควบคุมระบบของชั้นนี้อยู่ เขาเคยได้ยินเสียงมันมาก่อนเมื่อ 2 วันที่แล้ว ตอนที่มันพยายามจะแสดงอำนาจของตัวเองออกมา

“แล้วผมจะวัดระดับของตัวเองได้ยังไง?” เขาเอ่ยถามออกมา ตอนนี้เขาเริ่มเหนื่อยหน่ายกับความซับซ้อนของการใช้ชีวิตในสถาบันแห่งนี้มากเหลือเกินแล้ว

“ถ้าคุณยังยืนกรานที่จะไม่อ่านคู่มือนักเรียนที่ทางสถาบันส่งให้ คุณสามารถจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเพื่อถามปัญหาบางอย่างกับพวกเราได้ โดยการถามคำถามแต่ละครั้ง คุณจะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวน 3 คะแนนจีโน มันไม่แพงเลยใช่มั้ย?” เสียงของ AI นั้นแถลงออกมา

เดวิดไม่ได้ให้ความสนใจที่จะสนทนากับ AI จอมดูดเงินอีก มันจะเป็นไปได้อย่างไร ที่จะเก็บค่าตอบคำถามพื้นฐานง่าย ๆ เป็นคะแนนจีโน

เขาเลือกที่จะวางนิ้วลงบนป้ายประจำตัวเป็นเวลา 3 วินาทีแทน

“นำทางผมไปยังสถานที่ทำการทดสอบพรสวรรค์” แล้วเดวิดก็เดินออกจากโรงอาหารไปไม่หันกลับมามองอีก แต่ไม่ก่อนที่จะหยิบกล่องใส่ของเหลวข้นนั้นติดมือมาด้วย เพราะตอนนี้เขารู้สึกหิวมากจริง ๆ

เดวิดเดินเข้าไปในลิฟต์ตัวหนึ่ง แล้วไม่ลืมที่จะสบถคำหยาบออกมาเล็กน้อยด้วย เขายังไม่ได้ลืมว่าในครั้งที่แล้ว มันทำให้เขาต้องขายหน้าต่อเพื่อนร่วมสถาบัน

เขาปล่อยให้ลิฟต์เคลื่อนตัวไปเรื่อย ๆ จนมันมาหยุดลงที่ชั้น 2 ซึ่งแรงแม่เหล็กที่ข้อมือของเขาเริ่มดึงให้ออกไปจากตัวลิฟต์ สิ่งนี่น่าประหลาดใจไม่น้อยทีเดียว ดูเหมือนว่าเจ้าลิฟต์ไฮเทคนี้จะสามารถอ่านใจคนขึ้นได้ ว่าต้องการจะไปที่ชั้นไหน?

และถึงแม้ว่าเดวิดจะมีความสงสัยอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่ได้พยายามที่จะคิดหาคำตอบในตอนนี้ เขาต้องรีบไปวัดระดับพรสวรรค์ของตัวเองให้เร็วที่สุด รสชาติของของเหลวข้น ๆ นี่ เมื่อลองชิมดูแล้ว มันไม่ได้เรื่องเลยจริง ๆ ตัวของเดวิดถึงกับสั่นเล็กน้อย เมื่อเขาโยนกล่องที่เคยใส่ของเหลวนั่นลงทั้งขยะหน้าลิฟต์

ถึงแม้ว่ารสชาติของมันจะแย่มาก จนทำให้เขารู้สึกเกลียดมันได้ แต่เนื่องจากความหิว ทำให้เขาจัดการมันจนหมดไปโดยไม่รู้ตัว สิ่งที่เขารู้สึกได้ทั้งหมดก็คือ มันข้น ๆ หยุ่น ๆ อย่างน่าขยะแขยง และมีแต่รสเค็มเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เมื่อออกมาจากลิฟต์ได้แล้ว เดวิดก็รีบเดินตามการนำทางของป้ายประจำตัวไปยังศูนย์ประเมินทันที เขาไม่รีรอที่จะเปิดประตูเข้าไปด้านในศูนย์ แต่ก็ต้องตกตะลึงกับการตกแต่งภายในของที่นี่ทันทีเหมือนกัน

มันเป็นห้องที่มีเพียงแต่สีขาวเท่านั้น เหมือนกับสีพื้นฐานในห้องของเขาไม่มีผิด

เขาเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ ก่อนจะกวาดตามองออกไปทั่วห้อง

“นี่มันไม่เช้าเกินไปที่จะเข้ามาที่นี่หรือยังไง?” เสียงที่ค่อนข้างจะราบเรียบ แต่ฟังดูน่ารำคาญดังขึ้น ดึงความสนใจของเดวิดกลับมาจากการมองสำรวจไปรอบตัว และเปลี่ยนเป็นมองตรงไปที่ต้นเสียงนั้นแทน และสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นหน้าตาแบบที่บอกว่า ‘ฉันนึกเอาไว้แล้วเชียว’ แทนทันที

บุคคลที่อยู่หลังโต๊ะในห้องนี้มีท่าทาง การแสดงออก และแม้แต่สีหน้าของคนที่ทำงานนั่งโต๊ะที่อยู่บนโลกของเขาไม่มีผิด

ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่นพุงกลม ๆ ที่อยู่หลังโต๊ะนั่น รวมถึงสายตาที่บ่งบอกว่า ‘ฉันไม่สนใจอะไรของแกทั้งนั้น’ ที่ชายคนนั้นมีอยู่

“สวัสดีตอนเช้าครับ อืม! จริง ๆ มันก็ไม่ค่อยเช้า..เท่าไร”

เดวิดตอบกลับไป เสียงของเขาฟังดูสับสนเล็กน้อย

“แต่ก็นั่นแหละ ผมมาที่นี่เพื่อวัดระดับตัวเองครับ” เขากล่าววัตถุประสงค์ของตัวเองออกไป

ดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าเดวิดจะไม่ใช้คนแรกที่มาประเมินพรสวรรค์ของตัวเองในนักเรียนชุดเดียวกันกับเขา และอาจจะไม่ใช่คนที่สอง หรือแม้แต่คนที่สาม แต่ก็ยังถือว่าเขามาประเมินพรสวรรค์ของตัวเองเร็วมาก

“โอ้! เธอน่าจะรีบบอกออกมาให้เร็วกว่านี้ คุณ...?”

‘อย่างกับว่าฉันมีโอกาสให้พูดอย่างนั้นแหละ’ เดวิดนึกอยู่ในใจ ก่อนจะกล่าวออกมา

“ผมชื่อเดวิด คุณจะเรียกผมว่าเดฟก็ได้ครับ” แล้วก็ก้าวเท้าเข้ามาในห้องอย่างเต็มตัว

“หืมม์ ถ้าอย่างนั้นฉันจะเรียกเธอว่าเดฟก็แล้วกัน ฮ่าฮ่า! เอาล่ะ นั่งลงตรงนี้” เขาเปลี่ยนท่าทางเป็นการตอบสนองด้วยเสียงหัวเราะแล้ว มันช่างแตกต่างจากตอนแรกมากเหลือเกิน

“เธอจะต้องผ่านการทดสอบเสียก่อน ฉันถึงจะจัดระดับให้เธอได้ อ้อ! ฉันชื่อจอห์นสัน แต่เธอจะเรียกฉันว่าคุณจอห์นก็ได้ถ้าต้องการ” แล้วเขาก็ก้มตัวลงไปหยิบอะไรบางอย่างจากใต้โต๊ะ และเมื่อยืดตัวกลับขึ้นมา ในมือก็ถือกำไลไฮเทคอะไรบางอย่างอยู่

ก่อนที่เขาจะยื่นมันมาให้กับเดวิด

“ใส่ไว้ที่ข้อมือของเธอ ข้างไหนก็ได้”

“นี่มันมีเอาไว้ทำอะไรครับ?” เดวิดนั่งลงที่เก้าอี้ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย

“มันไม่ได้ทำอะไรเลยจริง ๆ เพียงแค่ช่วยให้เรายืนยันได้ว่าเธอหายจากอาการปวดกล้ามเนื้อ และประสาทสัมผัสไม่ได้มีการขยายตัวอีกแล้วเท่านั้น” จอห์นตอบความจริงออกมา

“เธอจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยนะ เตรียมตัวเอาไว้ด้วย” เขากล่าวเตือนเพิ่มออกมา

“ตกลงครับ รีบ ๆ มาทำให้มันเสร็จไปดีกว่า” เดวิดใส่กำไลนั้นเอาไว้ที่ข้อมือซ่ายของตัวเอง

“ต้องทำอะไรต่อครับ?” เขาสงสัยที่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

“ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอก เด..”

จรื๊ด!!

ประกายไฟฟ้าสว่างวาบขึ้น ส่งกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ร่างกายของเดวิดอย่างไม่ทันตั้งตัว

“หืมม์!! นี่มันเจ็บจริง ๆ” เดวิดครางออกมา ก่อนจะกัดฟันของตัวเองแน่น พยายามทนกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น

“มันจำเป็นต้องทดสอบแรงขนาดนี้ด้วยหรือยังไง?” เขาบ่นออกมาทันทีที่ความเจ็บปวดหายไปจากร่างกาย และรีบถอดกำไลนั้นออกจากข้อมือตัวเองทันที

“ต้องทำอย่างนี้เพื่ออะไรกันแน่?” เดวิดถามออกไปตรง ๆ สายตาก็จ้องไปที่ชายพุงกลมที่นั่งอยู่ต่อหน้าเขา

“ฉันต้องขอโทษในเรื่องนี้ด้วยเดฟ แต่มันเป็นขั้นตอนที่กำหนดเอาไว้แล้ว” จอห์นตอบกลับเดวิดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเสียใจเล็กน้อย ก่อนจะรับกำไลข้อมือจากเขาคืนไป แล้วก้มเอามันไปเก็บไว้ที่เดิม

“แล้วผมผ่านการวัดระดับแล้วหรือยังครับ?” เดวิดตั้งคำถามต่อ ระหว่างนั้นก็ใช้มือขวาถูที่ข้อมือซ้ายของตัวเองไปด้วย

“แน่นอน เธอผ่านแล้ว อันที่จริง เธอได้คะแนนดีมากเสียด้วย” จอห์นยิ้มออกมา

“เยี่ยม... แล้วถ้าผมไม่ผ่าน มันจะเป็นอย่างไร?”

“หึหึ! เอาเป็นว่า.. เธอจะไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้..และไม่สามารถถามคำถามออกมาได้เลย เดฟ” รอยยิ้มของเขานั้นดูเจ้าเล่ห์เล็กน้อย ขณะที่พิงตัวอยู่บนเก้าอี้ในท่าทางสบาย ๆ

เดวิดเข้าใจได้ในทันทีว่าเขาหมายความว่าอย่างไร ด้วยประสาทสัมผัสที่ถูกขยายตัวขึ้นไปอย่างมหาศาล ถ้าถูกช๊อตด้วยกระแสไฟฟ้าจากกำไลแบบนั้น น่าจะส่งผลให้ถึงแก่ความตายได้ในทันที ไม่น่าจะมีความหวังที่จะรอดชีวิตไปได้

คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันอีกครั้งในทันที นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว แต่ว่า! มันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรที่เขาจะเข้าไปยุ่งด้วยได้ เขาต้องการรู้ผลการวัดระดับของตัวเองเท่านั้น

“แล้วระดับของผมคืออะไร?” เขาถามอย่างร้อนใจ

“ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอกเดฟ ตอนนี้ระดับของเธอคือนักเรียนพรสวรรค์ระดับ 3 ดาว และด้วยพรสวรรค์ระดับนี้ มันมีสิทธิพิเศษส่วนตัวที่ทางสถาบันได้จัดเตรียมเอาไว้เธออยู่ รายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิพิเศษพวกนั้น เธอสามารถอ่านมันได้ในคู่มือนักเรียนนะ” จอหน์ยิ้มกว้างออกมา และภาพโฮโลแกรมเป็นรูปดาวสามดวงส่องสว่างอยู่ ก็ปรากฏขึ้นมาจากโต๊ะของเขาทันที

จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกมาข้างหน้า คว้าดาวทั้งสามดวงเอาไว้ ก่อนจะโยนมันมาทางเดวิด มันพุ่งตรงไปที่ป้ายประจำตัวบนข้อมือของเขา นั่นทำให้เดวิดตกใจเป็นอย่างมาก แวบแรกเขานึกว่าถูกโจมตีเข้าใส่ แต่ดวงดาวทั้งสามดวงนั่น แค่หายเข้าไปในข้อมือของเขาเท่านั้น

“น่าสนใจมาก แต่ทำไมถึงได้แค่ 3 ดาว ทำไมไม่เป็น 5 ดาว?” เดวิดถามออกไปอย่างอัตโนมัติ และเริ่มถูจุดที่ป้ายประจำตัวถูกฝังอยู่อย่างประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

รอยยิ้มของจอห์นกลายเป็นแข็งค้างไปทันที สายตาของเขาที่จ้องมาที่เดวิดนั้นเต็มไปด้วยความดุร้าย

“ออกไปได้แล้ว เดี๋ยวนี้เลย!” เสียงของจอห์นเข้มต่ำ พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง เจ้าเด็กนี่พูดถึงพรสวรรค์ระดับ 5 ดาวราวกับเป็นของที่หากันได้ง่าย ๆ อย่างนั้นแหละ ถ้าได้ระดับ 5 ดาวกันง่าย  ๆ ทางสถาบันจะให้สิทธิพิเศษกับพวกระดับ 3 ดาวทำไม

“ตกลงครับ ผมก็แค่ถามเพราะสงสัยจริง ๆ เท่านั้น ไม่เห็นจะต้องโกรธเลย” เดวิดพยายามกล่าวออกมาเพื่อแก้ตัว และยกมือสองข้างขึ้น เป็นความหมายว่าเขายอมแล้ว

...............

หลังออกมาจากห้องของจอห์นผู้โกรธเกรี้ยวแล้ว เดวิดก็พุ่งตรงกลับไปที่โรงอาหารอีกครั้งทันที และก็ได้พบว่าเหล่านักเรียนของสถาบันได้ตื่น และออกมาจากห้องเป็นจำนวนมาแล้ว ทำให้เขาต้องเข้าแถวรอที่จะรับอาหารอยู่หลังกลุ่มเด็กวัยรุ่นจำนวนหนึ่ง

แล้วก็ถึงคิวของเขาจนได้ เขารีบยื่นมือที่ป้ายประจำตัวฝังอยู่ออกไปข้างหน้าทันที

“คุณได้เบิกอาหารเช้าของวันนี้ไปรีบร้อยแล้ว ได้โปรดก้าวออกจากแถวในทันที หรือจ่ายเป็นคะแนนจีโนเพื่อซื้ออาหารที่มีไว้สำหรับจำหน่าย” เสียงของ AI ที่คุ้นเคยดังออกมา

‘ให้ตายสิ ไอ้น้ำเหนียว ๆ นั่น เรียกว่าเป็นอาหารได้ด้วยหรือยังไง? มันยังมีอะไรแบบนี้ที่เรียกว่าอาหารอีกมั้ยเนี่ย ช่างเถอะ ตอนนี้ฉันยังไม่ต้องรู้ก็ได้’ เดวิดพึมพำอยู่กับตัวเอง

ก่อนที่จะเดินออกจากโรงอาหารไปด้วยความหงุดหงิด

เมื่อเขาหาจุดที่ไม่ค่อยมีคนได้แล้ว ก็เลือกที่จะนั่งลงบนม้านั่งยาวที่อยู่ในบริเวณนั้น แล้วสูดลมหายใจเพื่อสงบสติอารมณ์

ในระหว่างนั้นเอง เขาก็เห็นว่านักเรียนบางคนที่เดินผ่านไปมา ใช้มือของตัวเองแตะอยู่บนอากาศอย่างต่อเนื่อง บางคนถึงกับแตะลงไปอย่างมีอารมณ์ บนสิ่งที่เหมือนกับแสงอะไรบางอย่าง ที่ลอยอยู่หน้าพวกเขา นั่นทำให้เดวิดต้องกวาดตามองไปอย่างทั่ว ๆ และพบว่านักเรียนจำนวนหนึ่งมีแถบแสงแปลก ๆ นั่นลอยอยู่ข้างหน้า เขาสงสัยขึ้นมาทันทีว่าทำไมคนอื่นสามารถทำอย่างนั้นได้

แล้วเขาก็คิดออกมาได้ในทันที รีบยกมือของตัวเองขึ้น แล้วกดลงไปที่ป้ายประจำตัว 3 วินาที เพื่อเรียก AI ประจำตัวของตัวเองออกมา

“ผมต้องการจะเห็นภาพโฮโลแกรมของตัวเอง” เดวิดกล่าวออกมา เขาต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกนี้ให้ได้อย่างเร็วที่สุด จะได้ไม่มีใครสงสัยอะไรในตัวเขาได้อีก

“กำลังจะเปลี่ยนเป็นโหมดควบคุมด้วยตัวเอง

กรุณารอสักครู่..

กำลังเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง...ใช้เวลา 50 วินาทีเพื่อทำให้การเปลี่ยนโหมดเสร็จสมบูรณ์”

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด