ตอนที่แล้วบทที่ 207: รุมชายามว่างชิงหลิน! ใครกันแน่ที่ประเมินต่ำไป?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 209: หยุดแผนในเงามืด! เจ๊งตั้งแต่ยังไม่เริ่ม!

บทที่ 208: เครื่องดื่มที่ทีมชาติเลือกแล้ว: ชายามว่างชิงหลิน!


หลังจากได้ยินข่าวตัวแทนของทั้งสามแบรนด์คือฉือเหล่ย  อู๋เฟย  และเผิงซานก็ไม่เหลืออารมณ์กินข้าวอีกต่อไป

ปรากฏการณ์ที่ไม่สมเหตุสมผลนี้ทำให้พวกมันหดหู่ใจสุด ๆ

เผิงซานรีบถามอย่างกระวนกระวาย “ตกลงมันเรื่องอะไรกัน?  พวกลูกค้ามันสติแตกกันหมดแล้วรึไงวะ!  เสียเงินเพิ่มขวดละตั้งสามหยวนแต่ยังจะไปเหมาอีกเนี่ยนะ!”

ผู้ช่วยจึงยื่นมือถือให้ดูด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน “เพราะคลิปนี่ครับ  มีคนพบว่าชายามว่างชิงหลินมีผลพิเศษ”

ทั้งสามก็ดูคลิปด้วยกันทันที

คลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่เล่าถึงความพิเศษของชายามว่างชิงหลิน

หลังจากที่คลิปวิดีโอของหวางหยางได้รับความนิยมสื่อหลายสำนักได้รีโพสต์กันยกใหญ่

เมื่อทั้งสามคนเห็นคำค้นหายอดนิยมต่างก็มีสีหน้าเหมือนถูกบังคับให้เอาอุจจาระยัดปาก

เห็นบอกว่าเครื่องดื่มนี่มีผลในการฟื้นฟูพละกำลัง  พวกมันทั้งสามก็คิดว่าแค่เหมือนกับแบรนด์ที่พวกตัวเองเป็นตัวแทนจำหน่ายซึ่งแค่โฆษณาโอ้อวดส่วนผสมเท่านั้น

อย่างคนที่กำลังจะตายแล้วได้ดื่มเครื่องดื่มไปขวดหนึ่งกลับสามารถลุกขึ้นมาเดินได้โดยตัวเบาไม่ต่างจากบินอยู่  แถมยังวิ่งต่ออีกร้อยเมตรได้สบายบรื๋อ  ใครดูก็รู้ว่าปัญญาอ่อน

แต่เกิดอะไรขึ้นกับชายามว่างชิงหลิน?  ทำไมเหมือนผลลัพธ์มันเป็นของจริงเลยล่ะ!

อู๋เฟยรีบสั่งผู้ช่วย “ไปซื้อชายามว่างชิงหลินมาซักแพคนึงซิ!”

แล้วผู้ช่วยก็จากไปทันที  ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะกลับมาด้วยอาการเหนื่อยหอบพร้อมชายามว่างชิงหลินสามขวด “ผมหาซื้อในตลาดไม่ได้เลยครับเพราะว่าของหมดแล้ว  สามขวดนี่ผมต้องไปขอซื้อต่อจากลูกค้าคนอื่นขวดละหลายเท่าเลย”

ชายามว่างชิงหลินขายได้ถึงระดับที่โคตรบ้าคลั่งในช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งเป็นข่าวร้ายสำหรับผลิตภัณฑ์ที่คนเหล่านี้เป็นตัวแทนอยู่

จากนั้นคนทั้งสามก็แยกย้ายกันไปคนละทิศละทางพร้อมกับชายามว่างชิงหลินคนละขวด  คนหนึ่งไปโรงแรม  คนหนึ่งไปคลับ  อีกคนกลับบ้าน

แน่นอนว่าเพราะต้องการทดสอบผลของชายามว่างชิงหลินด้วยตัวเอง

โลกออนไลน์

เมื่อคลิปวิดีโอของหวางหยางกลายเป็นไวรัลและนำไปสู่การซื้อชายามว่างชิงหลินอย่างบ้าคลั่ง  ผู้คนจำนวนมากได้ออกมายืนยันผลที่หวางหยางเคยว่าไว้  มีไม่น้อยที่ถึงกับโพสต์คลิปวิดีโอเปิดหน้ายืนยันกันเลยทีเดียว

คนที่ออกมาโพสต์คลิปบางคนให้แฟนหรือไม่ก็เมียตัวเองเข้ากล้องมาด้วยโดยให้เธอถือชายามว่างชิงหลินจนดูไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วพวกมันต้องการออกมาช่วยโฆษณาให้ชายามว่างชิงหลินหรือว่าต้องการอวดผู้หญิงของตนกันแน่ว่าตัวเองมีแฟนมีเมียสวย

จากนั้นอีกไม่กี่วันชายามว่างชิงหลินแทบจะเดือดสุด ๆ ไปแล้ว  แต่ก็ยังน่าเสียดายที่นอกจากแพลตฟอร์มการสั่งของออนไลน์ที่มีการจำกัดจำนวนต่อวันของบ้านไร่ออฟฟิเชียลแล้วก็ไม่มีช่องทางออนไลน์อื่น ๆ ให้สั่งซื้ออีก

ทำให้มีผู้คนนับไม่ถ้วนอยากซื้อมาก ๆ แต่ก็หาซื้อไม่ได้

ยกเว้นก็แต่เมืองหลวงของมณฑลฝูเจี้ยน

เมื่อฉินหลินกับเติ้งกวงตกลงให้หวางหยางเป็นตัวแทนจำหน่ายในตอนแรกก็วางแผนไว้ว่าจะตีตลาดเมืองหลวงที่มีประชากร 8 ล้านคนก่อน

ในตลาดทุนของมณฑลฝูเจี้ยน  ส่วนแบ่งการตลาดของชายามว่างชิงหลินได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วราวกับม้าป่าที่กำลังห้อตะบึง

เจียงหลิงหลิงกับเหล่าสาว ๆ ไนต์คลับต่างมีแรงจูงใจกันมาก  พวกเธอใช้เวลาทั่งวันไปกับการนับจำนวนออเดอร์และได้เห็นว่ากำไรของตนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พวกเธอแต่ละคนรู้สึกว่านี่มันช่างสนุกเหลือเกิน  สนุกกว่าไปเที่ยวไนต์คลับอีก

แต่ก็มีคนที่ไม่สนุกนั่นคือตัวแทนจำหน่ายของแบรนด์ทั้งสามเนื่องจากต้องมานั่งทนมองยอดออเดอร์ของตนที่ลดลงแล้วลดลงอีก

โดยเฉพาะย่านซานฟางชีเซี่ยงที่ส่วนแบ่งทางการตลาดสามารถรักษาไว้ได้แค่ 50% ของยอดเดิมเท่านั้น

นี่เท่ากับเป็นการบอกว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสามของพวกตนถูกชายามว่างชิงหลินแย่งส่วนแบ่งตลาดไปมากกว่าครึ่งในพื้นที่นี้

และหากยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปล่ะก็ส่วนแบ่งจะยังคงลดลงเรื่อย ๆ แน่นอน

มันคือหายนะที่แท้ทรู  และเมื่อลองเช็กตลาดของทั้งเมืองหลวงแล้วบอกได้เลยว่าส่วนแบ่งในเขตอื่น ๆ ได้เริ่มถูกโจมตีแล้วเหมือนกัน

อีกทั้งทั้งสามได้ทดสอบผลของชายามว่างชิงหลินด้วยตัวเองแล้วด้วย  สรุปคือไม่มีใครคิดว่าแบรนด์ที่ตัวเองเป็นตัวแทนอยู่จะสามารถเป็นคู่แข่งกับชายามว่างชิงหลินได้เลย  แต่ที่ทำได้ก็แค่จัดประชุมแล้วจัดประชุมอีกเพื่อพูดกระตุ้นให้พนักงานสู้กลับอย่างสุดกำลังเพื่อชิงเอาตลาดกลับคืนมา

กระนั้นไม่ว่าจะอยากได้ตลาดกลับมาซักแค่ไหนก็ตามกลับหามาตรการใด ๆ ที่มีประสิทธิภาพไม่ได้  ทำได้แค่โทรหาผู้ค้าปลีกเท่านั้น

ซานฟางชีเซี่ยง

หลังจากเห็นลูกค้าออกจากร้านไปแล้วเฉินฉวนเจิ้งก็รีบไปเอาชายามบ่ายชิงหลินอีกแพคมาแกวางบนชั้นอีกครั้ง

ชายามว่างชิงหลินนี้ขายดีอย่างบ้าคลั่ง

หลังจากเติมของแล้วเขาก็หยิบมือถือออกมาโทรหาแม่หนูเจียงเพื่อจะสั่งเพิ่มอีก

หากยังไม่รีบสั่งก็กลัวว่าเดี๋ยวของจะหมดอีกรอบ

แต่ก่อนที่จะทันได้กดโทรก็มีสายโทรเข้ามาซะก่อน  เป็นเบอร์ ‘Red Bull Delivery’ อีกแล้ว

“อย่าบอกนะว่าจะโทรมาสั่งไม่ให้ขายชายามว่างชิงหลินอีก?  เห็นกูโง่เหรอวะ?” เฉินฉวนเจิ้งไม่คิดจะรับสายและกดตัดสายทิ้งทันที  จากนั้นก็โทรสั่งของกับเจียงหลิงหลิงต่อ

พนักงานขายของกระทิงแดงที่โทรไปหาครั้งนี้แน่นอนว่าไม่ได้จะข่มขู่ให้เลือกเหมือนครั้งก่อน  แต่จะขอให้ผู้ค้าปลีกสั่งของเพิ่มเท่านั้นเอง  แต่ก็น่าเสียดายที่เมื่อพลาดไปแล้วทำให้เถ้าแก่ทั้งหลายทำเหมือนเฉินฉวนเจิ้งคือกดตัดสายทิ้งกันเกือบหมด  บางคนรับสายก็บอกว่าตอนนี้กระทิงแดงมีเยอะพอแล้ว  ถ้าจะแปลก็คือมันขายออกยากหรือขายไม่ออกเลยนั่นเอง

อู๋เฟยจึงไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากต้องรายงานข่าวนี้กับตัวแทนระดับบนของตนซึ่งเป็นตัวแทนทั่วไปของภาคใต้

ตัวแทนทั่วไปของกระทิงแดงภาคใต้ชื่ออู๋เฉิง  แซ่เดียวกับอู๋เฟย  มีความสัมพันธ์คือเป็นลูกพี่ลูกน้องรุ่นที่สามของตระกูลเหมือนกัน

หลังจากที่อู๋เฉิงได้รับรายงานจากอู๋เฟยแล้ว  ในฐานะตัวแทนทั่วไปของภาคใต้มีหรือจะมองไม่เห็นถึงภัยคุกคามของชายามว่างชิงหลิน

ถ้ายังไม่แก้ไขล่ะก็พออีกฝ่ายสามารถครองตลาดเมืองหลวงได้แล้วยังไงต่อ  ก็ต้องขยายเป็นทั้งมฑล  ต่อไปก็ทั้งภาคใต้ใช่มั้ยล่ะ  แล้วตอนนั้นตัวเองจะยังเหลืออะไรอีก?

อู๋เฉิงได้เรียกให้ตัวแทนทั่วไปของภาคใต้อีกสองแบรนด์มาคุย  เพราะอีกสองแบรนด์เองก็โดนคุกคามผลประโยชน์เหมือนกันดังนั้นสามารถร่วมมือกันกำจัดภัยคุกคามนี้ได้

ไม่นาน

อู๋เฉิงได้เรียกลูกน้องมารวมกันแล้วสั่งการว่า “รีบวางแผนเร็ว ๆ เลย  เอาเป็นการวิจารณ์ว่าชายามว่างชิงหลินอาจมีการใส่สารกระตุ้น  หากดื่มมากเกินไปจะส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย  ส่วนรายละเอียดก็ไปหาเอาสิ่งที่พอจะเกี่ยวข้องยัดลงไปให้หมดเลย”

“วางแผนเสร็จแล้วก็เอาเงินไปจ้างบล็อกเกอร์ทั้งรายเล็กรายใหญ่ให้ทำคลิปโพสต์เผยแพร่เรื่องนี้พร้อม ๆ กันไปเลย  แล้วอย่าลืมเก็บเป็นความลับด้วยอย่าปล่อยให้พวกแม่งลากเราเข้าไปเกี่ยวได้”

นี่คือวิธีการตอบโต้ของอู๋เฉิงกับตัวแทนทั่วไปภาคใต้อีกสองแบรนด์ที่ได้ข้อสรุปร่วมกัน

โดยอีกสองแบรนด์เองก็จะหาคนมาโพสต์เนื้อหาดังกล่าวในเวลาเดียวกันด้วย  โกหกซ้ำ ๆ จนเรื่องโกหกเป็นเรื่องจริงพร้อมกระตุ้นความคิดเห็นจากสาธารณะชน

อีกฝ่ายโปรโมตเรื่องอย่างว่าไม่ใช่เหรอ?

งั้นถ้าชี้นำว่าดื่มมากไปแล้วจะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ  ดูซิว่าใครจะกล้าซื้อดื่มอีก?

อันนี้คือหนักจริง  เพราะอู๋เฟยกับตัวแทนเมืองหลวงอีกสองแบรด์แค่รวมหัวกันคว่ำบาตรชายามว่างชิงหลินเพื่อกดหัวไว้เท่านั้น  แต่พวกตัวแทนทั่วไปภาคใต้คือต้องการทำลายผลิตภัณฑ์นี้ทิ้งโดยสมบูรณ์ไปเลย

กระบวนท่านี่ทั้งคงและเหี้ยมโหดกว่าเยอะ

และอู๋เฉิงมันยังเชื่อด้วยว่าหากพวกมันทั้งสามสร้างแรงผลักดันให้ล่ะก็บริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอื่น ๆ จะต้องเอาด้วยแน่นอน  เพราะไม่มีใครหรอกที่อยากเห็นเครื่องดื่มที่เหนือกว่าของตัวเองขายดีขึ้น

พวกลูกน้องที่ได้รับคำสั่งก็ตอบรับและออกไปทำงาน

.....................................................................................................

บ้านไร่ชิงหลิน

เติ้งกวงมาที่ห้องทำงานของฉินหลินพร้อมกับข่าวดี

ไลน์ผลิต 15 ไลน์แรกของสาขาหนิงเฉิงได้เริ่มงานสองกะแล้วเรียบร้อย  ด้วยความสามารถในการทำงานของคนงานที่เพิ่มขึ้นทำให้สามารถผลิตได้สูงถึงวันละ 500,000 ขวดแล้ว

นอกจากนี้ไลน์ผลิตใหม่ 1 ไลน์จาก 40 ได้ประกอบและจูนเครื่องใหม่แล้วและสามารถเริ่มการผลิตในวันนี้

“ทุกวันนี้จะในหนิงเฉิงยังอยู่ยาก” ฉินหลินยิ้มและรินชาให้เติ้งกวง

ในฐานะผู้จัดการทั่วไปของบริษัทชิงหลินฟู้ดถือว่าเป็นงานหนักมากเลยที่จะต้องไปตรวจโรงงานสาขาด้วยตัวเองไม่พอยังต้องไปฝึกอบรมคนงานด้วยตัวเองอีก

หรือก็คือเพราะการพัฒนาที่เร็วเกินไปจึงไม่มีคนที่มีความสามารถในการจัดการระดับไฮเอนด์สำรองไว้

“ชานี่ยังอร่อยเหมือนเดิมเลยครับ” เติ้งกวงดื่มชาด้วยอารมณ์เคลิบเคลิ้ม

ฉินหลินยิ้ม “เอากลับไปชงเองซักสองชุดละกัน  ให้ได้แค่นี้แหละเพราะของมีน้อย”

“ขอบคุณครับ” เติ้งกวงตาลุกวาว

เขารู้เกรดชาของเถ้าแก่จากคุณหม่ามาแล้ว

มันคือชาทิกวนอิมจากอานซีราคาจินละ 670,000 หยวน  และเป็นของที่ต่อให้มีเงินก็ซื้อไม่ได้

“เฒ่าเติ้ง  พอการผลิตของสาขาหนิงเฉิงเสถียรแล้ว  คงให้นายเป็นผู้จัดการทั่วไปของที่นั่นไม่ได้ด้วยสิ  มีคนไหนเหมาะสมบ้างมั้ย  ขงหลินล่ะเป็นยังไง?” ฉินหลินถาม

ครั้งก่อนที่เจอกับขงหลินเขารู้ว่าอีกฝ่ายมาจากมหาลัย 211 เขาเลยเอาประวัติของอีกฝ่ายมาอ่านดู  พบว่ามีประสบการณ์จัดการธุรกิจอย่างมืออาชีพในระดับท้องถิ่นโดยผลงานระหว่างนั้นก็ออกมาดีมากด้วย

เขาไม่รังเกียจที่จะให้โอกาสชายหนุ่มประเภทนี้  แต่เขาที่ถึงแม้ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการกลับไม่ได้รู้รายละเอียดเชิงลึกของขงหลิน  ดังนั้นจึงต้องขอความเห็นจากเติ้งกวงก่อน

เติ้งกวงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วบอกว่า “เสี่ยวขงเก่งกว่าวัยรุ่นคนอื่นจริง ๆ ครับ  ผมตั้งใจฝึกเขาที่นี่ด้วย  แต่เขาพึ่งเรียนจบออกมาทำงานได้ไม่นานและยังขาดประสบการณ์  ขนาดของโรงงานสาขานี้ก็ไม่เหมือนเดิม  ลองให้ไปทดสอบฝีมือที่หนิงเฉิงก่อนก็ได้ครับ  แล้วที่นี่ก็หา ผอ.โรงงานที่เก่ง ๆ คนใหม่”

“อืม!” ฉินหลินก็เห็นด้วยกับประเด็นนี้เช่นกัน

ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่นั้นเองได้มีความโกลาหลเกิดขึ้นในบ้านไร่ชิงหลิน  เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวหลายคนที่เป็นที่รู้จักเข้ามา  โดยพวกเขาล้วนเป็นแชมป์โอลิมปิกฤดูหนาวที่พึ่งจะจบไปเมื่อไม่นานนี้

ด้วยพัฒนาการของยุคแห่งข้อมูลข่าวสารทำให้เหล่าดาราโอลิมปิกไม่ทุกข์ยากเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปที่หลังเกษียณแล้วต้องไปทำตัวเป็นโจรไม่ก็พ่อค้าแม่ค้าข้างถนน

ในยุคข้อมูลข่าวสารสมัยใหม่ทำให้ผู้คนให้ความสนใจกับดารานักกีฬามากขึ้นเรื่อย ๆ แชมป์โลกที่คว้าชัยชนะให้กับประเทศล้วนเป็นวีรบุรุษในใจของทุกคน  คนเหล่านี้มีค่าควรแก่การเคารพบูชามากกว่าดาราขาจรส่วนใหญ่อีกใช่มั้ยล่ะ?

ดังนั้นจึงมีผู้คนตามท้องถนนจดจำพวกเขาได้ทันที  ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะโอลิมปิกฤดูหนาวพึ่งจบไปได้ไม่นานด้วย

เฉินหลี่มองสภาพแวดล้อมที่มีผู้คนคับคั่งแล้วก็ต้องถอนหายใจก่อนจะพูดกับชายวัยกลางคนข้าง ๆ ว่า “ทำไมเราไม่เมินคนพวกนี้แล้วไปหาเถ้าแก่ฉินก่อนล่ะครับ ผอ.ฉู”

เอาตรง ๆ ในเมื่อคุณมาคุยธุระกับเถ้าแก่ฉินก็ไปคุยเลยซิ  จะไปยุ่งกับคนพวกนี้ทำไม

ผอ.ฉูตอบด้วยน้ำเสียงลำบากใจ “ขอโทษด้วยจริง ๆ ครับท่านรองเฉิน  เอเชียนเกมส์ปีนี้ต้องให้พวกแชมป์เปี้ยนเขาช่วยทำคลิปโปรโมตด้วยน่ะครับ”

“ก่อนหน้านี้พวกเขาพยายามอย่างหนักเพื่อเตรียมพร้อมต่อสู้จนไม่มีเวลาพักผ่อน  แล้วครั้งนี้พอได้ยินว่าผมจะมาบ้านไร่ชิงหลินก็เลยขอตามมาด้วย  เห็นบอกว่าได้ดูคลิปบ้านไร่ชิงหลินมาตั้งนานแล้ว  อยากมาเที่ยวโดยตลอดแต่ไม่มีโอกาสซักที”

เฉินหลี่ถอนหายใจและพา ผอ.ฉูไปที่ห้องทำงานของฉินหลิน

นอกจากโอลิมปิกฤดูหนาวแล้วประเทศนี้ยังยังได้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ในปีนี้ด้วย  ผอ.ฉูผู้นี้เป็นผู้รับผิดชอบคณะกรรมการเอเชียนเกมส์หางโจวในฐานะผู้จัดงาน

ฉินหลินกำลังคุยกับเติ้งกวงและรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นเฉินหลี่พาใครบางคนมาถึงหน้าประตูอย่างกระทันหัน

“เถ้าแก่ฉิน  คนนี้คือ ผอ.ฉูเป็นผู้รับผิดชอบการวางแผนการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์  ที่มาเพราะมีเรื่องอยากคุยด้วยเรื่องชายามว่างชิงหลินเลยมาขอให้ทางอำเภอเราช่วยประสานให้น่ะครับ” เฉินหลี่พา ผอ.ฉูเข้าห้องมาแนะนำให้แล้วก็แอบถอนหายใจอีกรอบ

ชายามว่างชิงหลินอีกแล้ว

เมื่อรู้จุดประสงค์ของ ผอ.ฉูและคิดถึงชายามว่างชิงหลินที่ถูกทางหนิงเฉิงฉกไปท่านรองนายอำเภอก็ยิ่งเศร้าใจ

ฉินหลินกับเติ้งกวงต้องประหลาดใจเมื่อได้รู้จักฐานะของ ผอ.ฉู

ที่สำคัญคือเมื่อได้ยินคำว่าเอเชี่ยนเกมส์ทั้งคู่ก็มองหน้ากันโดยไม่รู้ตัว

“เชิญนั่งก่อนครับ” ฉินหลินรีบเชิญ

ผอ.ฉูนั่งลงก่อนจะพูดว่า “เถ้าแก่ฉินนี่อายุน้อยร้อยล้านจริง ๆ ครั้งนี้ที่ผมมาเพราะมีเรื่องอยากขอน่ะครับ  ไม่ทราบว่าชายามว่าชิงหลินของเถ้าแก่ฉินจะช่วยสนับสนุนเราในเอเชียนเกมส์ได้มั้ยครับ?”

คำพูดเหล่านี้ทำให้ฉินหลินกับเติ้งกวงมองหน้ากันอีกครั้งและต้องเห็นว่าอีกฝ่ายประหลาดใจ

ฉินหลินถึงกับถามด้วยความสงสัย “โดยปกติแล้วจะมีผู้คนแย่งชิงการให้การสนับสนุนการแข่งขันระดับโลกแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ?  แต่บ้านไร่ชิงหลินเราคงไม่ไหว  ไม่สามารถจ่ายค่าสปอนเซอร์ที่สูงขนาดนั้นได้หรอกครับ”

แม้ว่าเอเชี่ยนเกมส์ปีนี้จะจัดขึ้นที่หางโจว  แต่ประเทศเราก็ยังเป็นเพียงหนึ่งในผู้จัดร่วมเท่านั้น  เจ้าภาพที่แท้จริงคือคณะกรรมการโอลิมปิกสากลและคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งเอเชียต่างหาก

นอกจากนี้โครงการสนับสนุนยังดำเนินการในพันธมิตรไตรภาคี  หรือก็คือประเทศไม่ได้มีสิทธิ์พูดอะไรมากในเรื่องนี้  และสิทธิ์การเป็นผู้สนับสนุนก็แล้วแต่องค์กรในการจัดงานเหล่านั้นจะมอบให้

สุดท้ายแล้วองค์กรเหล่านี้คือผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากสปอนเซอร์  ไม่ใช่ใครก็ตามที่ต้องการเป็นสปอนเซอร์จะสามารถเป็นได้เลย  ใครก็ตามที่เสนอราคาสูงสุดจึงจะสามารถเป็นสปอนเซอร์ได้

ยิ่งกว่านั้นค่าธรรมเนียมสปอนเซอร์สำหรับงานระดับนานาชาตินั้นน่ากลัวมาก  ลองนึกถึง Coca-Cola ที่สปอนเซอร์งานเหล่านี้สิ  ครั้งหนึ่งเป็นร้อยล้านหน่วยเป็นดอลลาร์สหรัฐ

ซึ่งแน่นอนว่าพวกฉินหลินไม่สามารถจ่ายไหว  มันไม่ใช่ตาของพวกเขาเลย

ผอ.ฉูได้ยินก็ยิ้ม ๆ “คือ...  จริง ๆ แล้วเราไม่ได้พูดถึงการสนับสนุนแบบนั้นครับ  ที่อยากหารือกับเถ้าแก่ฉินคือการสนับสนุนเครื่องดื่มสำหรับทีมชาติในช่วงการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ต่างหาก  คือเราต้องการแค่ให้เถ้าแก่ฉินเป็นสปอนเซอร์ในด้านเครื่องดื่มก็พอ  ไม่มีการจ่ายค่าสปอนเซอร์ครับ”

ที่มาก็เพื่อการนี้เลย

คณะกรรมการจัดงานของพวกเขาได้เจอกับชายามว่างชิงหลินโดยอุบัติเหตุ  เนื่องจากวิดีโอโปรโมตเอเชียนเกมส์ปีนี้มีการส่งเสริมวัฒนธรรมของจีนด้วย  ดังนั้นจึงจำเป็นต้องไปยังเมืองต่าง ๆ เพื่อขุดเอาภาพลักษณ์คลาสสิกของจีนมาใช้  และเมืองหลวงของมณฑลฝูเจี้ยนเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

เมื่อถ่ายทำฉากนี้ชายามว่างชิงหลินก็ได้รับความนิยมขึ้นมา  และพวกเขายังเห็นหญิงสาวแสยสวยกำลังโปรโมตชายามว่างชิงหลินในโรงยิมพอดี  ซึ่งพนักงานของพวกเขาบังเอิญอยู่ที่นั่นและได้รู้ถึงผลกระทบของเครื่องดื่ม

เมื่อพวกเขาได้ข่าวก็รู้สึกเหลือเชื่อมาก ๆ

ยังไงเครื่องดื่มชูกำลังก็ยังได้รับความนิยมอย่างมากในท้องตลาด  แต่ว่าพวกที่มีผลใช้ได้จริงมันมีมั้ย?  จากนั้นก็ลองโดยการเล่นบาสเก็ตบอลจนเหนื่อยแล้วดื่มดู  ผลคือต้องตกใจสุดขีด

เครื่องดื่มชูกำลังที่ชื่อชายามว่างชิงหลินนี่มันส่งผลในการฟื้นฟูพละกำลังร่างกายแบบทันตาเห็น!

สิ่งแรกที่เขานึกถึงคือในการแข่งขันกีฬาทุกประเภท  หากนักกีฬาได้ดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้เพื่อเติมกำลังกายจะมีประโยชน์มากขนาดไหน!  ถ้าช่วงครึ่งหลังของเกมมีชานี่ให้ดื่มล่ะก็...  จะได้เปรียบสุด ๆ เลยไม่ใช่เหรอ?

ดังนั้นเขาจึงรีบส่งเครื่องดื่มไปยังแผนกที่คณะกรรมการป้องกันและตรวจสอบโอลิมปิกเอเชียให้ทำการตรวจสอบ

เพื่อความปลอดภัยแล้วมันต้องถูกส่งไปให้ผู้จัดการแข่งขันตรวจสอบก่อน

และผลการตรวจสอบพบว่าไม่มีส่วนผสมของยาสลบหรือส่วนผสมที่ผิดกฎการแข่งขันเลย

อย่างน้อยปีนี้สิ่งนี้ก็สามารถเอาเข้าสนามแข่งเอเชียนเกมส์ได้  หากทีมชาติเตรียมเครื่องดื่มนี้ไว้ตลอดทั้งเกมล่ะจะเป็นยังไง?

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบในการสนับสนุนการแข่งขันอย่างเป็นทางการก็ตาม  แต่การสนับสนุนทีมชาติของตนในการแข่งขันนั้นคือแล้วแต่แต่ละประเทศเลย

ซึ่งสิทธิ์ในการสนับสนุนเครื่องดื่มของทีมชาติอยู่ในมือของพวกเขาเอง

เนื่องจากตรวจสอบแล้วไม่มีปัญหา  สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือทำให้ชายามว่างชิงหลินเป็นเครื่องดื่มสนับสนุนให้แก่ทีมชาติให้ได้

ปล. เรื่องเหล้านี่ว่าโคตรงงแล้ว  เจอเรื่องโอลิมปิกเอเชียนเกมส์อะไรนี่อีก...  เฮ่อ~

5 1 โหวต
Article Rating
3 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด