ตอนที่แล้วตอนที่ 55 ทะลวงระดับหลอมกระดูก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 57 ทรมาณ

ตอนที่ 56 ปิดกิจการ


สีหน้าเฉินเฟยเปลี่ยนไปแต่เขาไม่ได้ตื่นตระหนก เขาปล่อยให้หนุ่มน้อยเข้ามาในบ้านและปิดประตู

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ลุงฉืออยู่ที่ใด?” เฉินเฟยนั่งตรงข้ามหนุ่มน้อยแล้วถาม

“ข้าไม่รู้เหมือนกัน แต่วันนี้ลุงฉือไม่ได้มาหาข้า”

หนุ่มน้อยเลียผลไม้หวานที่อยู่ในมือแล้วพูด “ลุงฉือบอกว่าหากวันหนึ่งเขาไม่มาหาข้า ให้ข้ามาบอกให้ท่านหนี”

“ดีมาก นี่สำหรับเจ้า!”

เฉินเฟยหยิบออกมาหนึ่งตำลึง ดวงตาหนุ่มน้อยเบิกกว้างและรีบซ่อนตำลึงเงินไว้ในอ้อมแขน หลังโค้งคำนับขอบคุณเฉินเฟยก็รีบจากไป

ในลานบ้าน เฉินเฟยขมวดคิ้ว

เด็กเมื่อครู่ควรเป็นสิ่งที่ฉือเต๋อเฟิงทิ้งไว้เตือนเฉินเฟย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกใช้จริง สิ่งสำคัญในตอนนี้คือใครจับฉือเต๋อเฟิง

ในเดือนที่ผ่านมาเฉินเฟยฝึกฝนอยู่เงียบๆในบ้าน นอกจากออกไปเที่ยวเป็นครั้งคราวก็ไม่มีเรื่องขัดแย้งกับใครอื่น ฉือเต๋อเฟิงใช้ชีวิตสันโดษเช่นกัน มากสุดคือออกไปซื้อสมุนไพรให้เขา

“หรือเป็นฝีมือกลุ่มผิวน้ำ?”

เฉินเฟยจำได้ว่าเมื่อเดือนก่อนเขาตกเป็นเป้าหมายเพราะการขายโอสถ ถ้าจะให้สงสัยคงไม่พ้นกลุ่มผิวน้ำ

พวกเขาเริ่มซ่อนตัวแล้ว กลุ่มผิวน้ำยังไล่ตามมาเช่นนี้อีก?

เฉินเฟยกลับไปห้องหลอมโอสถเก็บข้าวของทั้งหมดลงช่องมิติ เพื่อความปลอดภัยต้องไม่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้อีก

ครึ่งชั่วยามต่อมา เฉินเฟยกำจัดร่องรอยในบ้านและออกไปจากที่นี่

“คุณลูกค้าต้องการข้อมูลใด?”

“ข้าต้องการหาใครสักคน”

ภายในบ้านในตรอกแห่งหนึ่ง เฉินเฟยสวมหมวกไผ่ปิดบังใบหน้าเกือบทั้งหมด

ที่นี่คือจุดหาข้อมูลโดยเฉพาะของเมืองซิ่งเฝิน ตราบเท่าที่เงินมากพอ ข้อมูลลับส่วนใหญ่ล้วนหาได้ สถานที่แบบนี้มีมากมายอยู่ในเมืองซิ่งเฝิน

เฉินเฟยไม่แน่ใจว่าที่นี่จะช่วยเขาได้หรือไม่ ดังนั้นเขาจึงได้แต่ลองมาดู

“คุณลูกค้าบอกลักษณะของบุคคลนี้ได้หรือไม่?”

เฉินเฟยบอกรูปร่างหน้าตาของฉือเต่อเฟิงสั้นๆหลังปลอมตัวโดยไม่ให้ภาพเหมือน นี่เป็นเพราะเฉินเฟยไม่วางใจสถานที่แบบนี้

พวกเขาขายข้อมูลให้คุณได้ แน่นอนว่าพวกเขาย่อมขายข้อมูลของคุณให้คนอื่นได้เช่นกัน

“คุณลูกค้าโปรดรอสักครู่ ข้าจะให้คนไปตรวจสอบ”

เจ้าของร้านส่งกระดาษในมือไปด้านหลัง หนึ่งเค่อต่อมา มีกระดาษอีกแผ่นหนึ่งโผล่มาจากด้านหลัง

“ว่าอย่างไร?” เฉินเฟยอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวไปดู

“พบแล้ว”

เจ้าของร้านชำเลืองดูกระดาษและเงยหน้ามองเฉินเฟย “ห้าสิบตำลึง คุณลูกค้าจะรู้ที่อยู่ของบุคคลนี้”

“ได้!”

เฉินเฟยพยักหน้า หยิบเงินห้าสิบตำลึงจากกระเป๋าวางไว้บนเคาน์เตอร์ เจ้าของร้านรับเงินด้วยรอยยิ้มและส่งกระดาษให้เฉินเฟย

เฉินเฟยเปิดดู มีสามคำเขียนอยู่บนนั้น กลุ่มผิวน้ำ!

ดวงตาเฉินเฟยหรี่ลง ไม่คิดเลยว่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มผิวน้ำจริงๆ มันเป็นเพราะเรื่องโอสถ? หรือมีเหตุผลอื่น?

“มีคนเห็นสหายท่านถูกกลุ่มผิวน้ำจับตัวไป เขาน่าจะบาดเจ็บอยู่บ้าง”

เจ้าของร้านหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบ “หากท่านต้องการช่วยชีวิตสหาย เราสามารถสร้างสะพานให้ได้เช่นกัน แต่เราไม่รับประกันว่าจะสำเร็จหรือไม่”

“ขายข้อมูลกลุ่มผิวน้ำหรือไม่?” เฉินเฟยไม่ตอบเจ้าของร้าน

“แน่นอน หากราคาเหมาะสม ข้อมูลใดๆล้วนซื้อขายได้”

“เท่าไหร่?”

“สามร้อยตำลึง เราจะให้ข้อมูลกลุ่มผิวน้ำและให้สถานที่ที่สหายของท่านถูกคุมขังในขณะนี้” เจ้าของร้านพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

“ได้!”

เฉินเฟยหยิบตั๋วเงินวางไว้บนเคาน์เตอร์ เจ้าของร้านรับตั๋วเงินมาตรวจสอบและไม่พบสิ่งผิดปกติ หลังจากเคาะโต๊ะสองสามครั้ง กระดาษแผ่นหนึ่งยื่นมาจากด้านหลัง

เฉินเฟยหยิบกระดาษขึ้นมา อ่านข้อความสิบบรรทัดอย่างรวดเร็วแล้วขมวดคิ้ว

“คุณลูกค้าต้องการอะไรอีกหรือไม่?”

“ไม่มี”

เฉินเฟยส่ายหน้าลุกขึ้นยืน เมื่อกำลังจะออกไปเขาได้หันกลับมาถามเจ้าของร้าน “ข้ามาหาข้อมูลที่นี่ เจ้าของร้านจะขายข้อมูลข้าด้วยหรือไม่?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า คุณลูกค้าล้อเล่นแล้ว ร้านนี้ไม่ทำเช่นนั้น โปรดมั่นใจได้” เจ้าของร้านหัวเราะเสียงดังและพูดอย่างหนักแน่น

“หากเจ้าของร้านพูดเช่นนั้นข้าก็โล่งใจ”

เฉินเฟยพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและหันหลังออกจากร้าน

เจ้าของร้านเห็นเฉินเฟยเดินออกไปแล้วจึงเคาะเคาน์เตอร์สามครั้ง ทันใดนั้นมีคนปรากฏตัวด้านหลังเจ้าของร้าน

“นักหลอมโอสถที่กลุ่มผิวน้ำกำลังมองหาอยู่ที่นี่ เจ้าไปขายข้อมูลนี้ให้กลุ่มผิวน้ำ จำไว้ว่าต้องเรียกราคาสูงๆ”

เจ้าของร้านนึกถึงสิ่งที่เฉินเฟยพูดเมื่อครู่นี้และอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าเย้ยหยัน “คนเมื่อครู่น่าจะเป็นชายหนุ่ม ส่งคนปราดเปรียวไปติดตามมัน ในเวลานั้นจะขายตำแหน่งของมันได้อีกรอบ”

“ข้าน้อยรับคำสั่ง!”

คนก้มหน้าเอ่ยปากรับ ทันใดนั้นมีคนหนึ่งออกมาจากด้านหลัง คนคนนี้ดูธรรมดาถึงขั้นที่ว่าสามารถหายตัวไปได้ทันทีเมื่อเข้าไปในฝูงชน ดังนั้นเขาจึงเหมาะสำหรับการติดตาม

“ไป”

เจ้าของร้านชำเลืองมองคนคนนั้นและพยักหน้าพอใจ

คนคนนั้นแสดงรอยยิ้มประจบประแจง โค้งคำนับเจ้าของร้านแล้วออกจากร้านไป

“ได้เงินมาอีกก้อน”

เจ้าของร้านอดไม่ได้ที่จะยิ้ม เขาเอนตัวลงบนเก้าอี้อย่างผ่อนคลายและหยิบถ้วยชาขึ้นมาดื่ม ความซื่อสัตย์? นั่นมันอะไร มีกลิ่นหอมเหมือนเงินหรือ?

เจ้าของร้านลุกขึ้นฮัมเพลงเล็กน้อย เขาลุกขึ้นเพราะต้องการจะถ่ายปัสสาวะ แต่ทันใดนั้นมีเสียงตะโกนดังจากห้องโถงด้านหลังและไม่นานก็หยุดลง

สีหน้าเจ้าของร้านเปลี่ยนไป จมูกขยับได้กลิ่นคาวเลือด

ในตอนนี้สีหน้าเจ้าของร้านเปลี่ยนไปมาก ห้องโถงด้านหลังมียอดฝีมือระดับหลอมกระดูกหลายคน แต่ในเวลานี้พวกเขากลับเงียบสนิท

เจ้าของร้านอยู่ในระดับขัดเกลากล้ามเนื้อ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าอยู่ที่นี่อีกต่อไป ขณะที่เขากำลังจะหนีก็เห็นคนคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องโถงด้านหลัง

“เป็นเจ้า...”

เจ้าของร้านมองเฉินเฟยเหมือนกับเห็นผี

เฉินเฟยชำเลืองมองเจ้าของร้าน เดินไปปิดประตูร้านด้วยสีหน้าเย็นชา ทั้งร้านจมดิ่งสู่ความมืดมิด เหลือเพียงแสงสลัวจากช่องประตูที่ส่องมาบนใบหน้าของเจ้าของร้าน

ขณะที่เฉินเฟยปิดประตู เจ้าของร้านต้องการจะหนี แต่เหมือนว่าขาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยตะกั่วจึงทำให้หนักเกินกว่าจะขยับได้

“เจ้าจะทำอะไร!”

เจ้าของร้านกลืนน้ำลาย ยืนนิ้วชี้ใส่เฉินเฟยและตะโกนด้วยเสียงดุดัน แต่นิ้วของเขาสั่นเทาจนไม่อาจนิ่งตรงได้

“เมื่อครู่เจ้าบอกจะไม่ขายข้อมูลของข้า เจ้าผิดสัญญา” เฉินเฟยมองเจ้าของร้านแล้วส่ายหน้า

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังร้านนี้ หากมีอะไรค่อยๆคุยกันเถอะ”

เจ้าของร้านเบิกตากว้างด้วยความกลัวเมื่อเห็นสีหน้าเฉินเฟย เขาตั้งใจจะใช้ผู้หนุนหลังมาขู่ให้เฉินเฟยสงบลง

เจ้าของร้านไม่ได้โกหก สถานที่ซื้อขายข้อมูลเช่นนี้ย่อมทำให้ผู้คนมากมายไม่พอใจ หากเบื้องหลังไม่แข็งแกร่งพอ ร้านเช่นนี้จะไม่สามารถตั้งหลักในเมืองซิ่งเฝินได้

เห็นเฉินเฟยพยักหน้าเจ้าของร้านจึงยิ้มออกมา ครู่ต่อมา แสงเย็นสว่างวาบในห้อง

เจ้าของร้านตัวแข็งทื่อ หัวใจเขาถูกแทง สายตาจ้องมองเฉินเฟย เฉินเฟยมองกลับด้วยสีหน้านิ่งเฉย

มือเจ้าของร้านห้อยลงด้านข้างอย่างอ่อนแรง หากเฉินเฟยก้าวมาข้างหน้าอีกเขาจะใช้กลไกใต้เคาน์เตอร์ได้ แต่เฉินเฟยยืนนิ่งอยู่ที่เดิม