ตอนที่แล้วบทที่ 281 – การประชุมเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 283 – การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ

บทที่ 282 – บุตรสาวของท่านจอมพล


จอมพลฟงห้าวสะกิดถามซีตุนหยูที่กำลังยืนอึ้งอยู่ “พี่ซี ท่านรู้จักเขาอย่างนั้นหรือ?”

นั่นทำให้ซีตุนหยูถอนหายใจออกมา “ไม่เพียงแต่ข้าจะรู้จักเขาเท่านั้น ยังเคยร่วมงานกันมาก่อนอีกด้วย อาจารย์ของเขาคืออาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนมัธยมเวทย์มนต์หลวงในอาณาจักรของข้า ท่านน่าจะเคยได้ยินชื่อเมธีเวทย์อันดับสามของโลก เมธีเวทย์ตี้เหล่าหลุนมาก่อน เขาเคยเป็นความหวังสูงสุดของอาณาจักรอ้ายเซี่ย เป็นคนรุ่นใหม่ที่โดดเด่น สามารถฝึกฝนจนบรรลุถึงระดับเมธีเวทย์ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย พวกเรานั้นตั้งความหวังกับเขาไว้สูงมากจริง ๆ แต่ก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น เขามีเรื่องขัดแย้งกับองค์ราชาเคอจา ทางอาณาจักรต้าลู่ของท่านคงจะได้รับหมายประกาศจับตัวเขาแล้วเช่นกัน”

เสียงของผมนั้นเย็นชา “ถูกต้องแล้ว ข้านั้นเป็นอาชญากรของอาณาจักรอ้ายเซี่ย แต่ในขณะเดียวกัน ข้าก็เป็นทูตของราชาเทพด้วย ท่านอาจารย์ซีตุนหยู ท่านสามารถกล่าวออกมาได้เลย ว่าเพราะเหตุใดข้าถึงได้ถูกประกาศจับ”

แล้วหลังจากนั้น ผมก็เล่าเรื่องเดียวกันกับที่เคยกล่าวกับเจ้าชายให้พวกเขาฟัง บอกเหตุผลว่าผมต้องการรวมกำลังของเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ทั่วโลกให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นสาเหตุให้ผมต้องช่วยมู่จือออกมา พวกเขาต่างพยักหน้ากันเป็นระยะ ๆ ระหว่างที่ฟังอย่างตั้งใจ ผมเพิ่งรู้สึกตัวตอนนี้นี่เอง ผมก็เป็นคนที่มีศักยภาพในการเจรจาความเหมือนกัน!

เมื่อพวกเขาได้ฟังข้อสรุปทั้งหมดของผม ซีตุนหยูก็ถอนหายใจออกมา “ถ้าทั้งหมดเป็นไปอย่างที่เจ้าพูด ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ พวกเราจะเข้าใจในตัวเจ้าผิดไปไม่น้อย”

จอมพลฟงห้าวกล่าวออกมาอย่างยิ้มแย้ม “ท่านทูตแห่งเทพจางกง! ข้านั้นนับถือเป็นอย่างมากต่อสิ่งที่ท่านได้ทำลงไปเพื่อความสงบสุขของโลกใบนี้ แต่ในฐานะขุนนางและทหารของเผ่ามนุษย์ ข้าหวังว่าท่านจะมีข้อพิสูจน์ถึงความจริงใจในการเจรจา ของทั้งเผ่าปีศาจและเผ่าอสูรการอย่างชัดแจ้ง”

ผมรู้ว่าเขาจะต้องกล่าวถึงเรื่องนี้ออกมาในที่สุด “นั่นง่ายมาก ทุกคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าเผ่าอสูรกายนั้นทำตามคำสั่งของเผ่าปีศาจ ผู้สืบทอดตำแหน่งจักรพรรดิปีศาจคนต่อไปของเผ่าปีศาจคือเจ้าหญิงมู่จือ คนที่เดินทางไปยังอาณาจักรอ้ายเซี่ยในฐานะสายลับ องค์จักรพรรดิปีศาจได้ส่งเจ้าหญิงมาที่นี่ด้วยตัวเอง เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้เจรจาในการเจรจาที่จะเกิดขึ้น นี่พอที่จะพิสูจน์ความจริงใจได้หรือไม่? องค์หญิง ได้โปรดแสดงตัวออกมาด้วย”

มู่จือก้าวออกมายืนอยู่เคียงข้างผมในทันที โค้งตัวลงเล็กน้อยเพื่อเป็นการทักทาย “ยินดีที่ได้พบกับท่านทั้งสอง ข้าคือเจ้าหญิงของเผ่าปีศาจ โหมวมู่จือ”

ซีตุนหยูนั้นรู้จักมู่จืออยู่แล้ว “มู่จือ นี่เป็นเจ้าจริง ๆ อย่างนั้นหรือ? กลายเป็นว่าเจ้าคือเจ้าหญิงของเผ่าปีศาจจริง ๆ”.

มู่จือตอบกลับไปอย่างเรียบ ๆ “ถูกต้องแล้ว และข้าเป็นผู้สืบทอดของเผ่าปีศาจด้วย! ในการเดินทางมาที่นี่ในครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะเปิดการเจรจากับเผ่ามนุษย์ของพวกท่าน แม้ว่าเผ่าพันธุ์ของพวกเราจะมีความแตกต่างกัน แต่ก็มีศัตรูคนเดียวกันในตอนนี้ นั่นทำให้พวกเราต้องร่วมมือกันต่อต้านกับพวกมันก่อน ข้าเดินทางมาที่นี่กับท่านทูตจางกงก็ด้วยสาเหตุนี้ และข้าหวังว่าพวกเราสามารถจะสงบศึกกันได้อย่างเรียบร้อย”

ฟงห้าวมองมาที่มู่จืออย่างสังเกต สมแล้วที่เขานั้นเป็นถึงจอมพลของอาณาจักรต้าลู่ แม้จะเห็นรูปร่างหน้าตาที่สวยงามเกินจะมีใครเปรียบได้ของมู่จือแล้ว แต่เขาก็ไม่เสียอาการเลยแม้แต่สักนิดเดียว เพียงแค่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงยินดี “ในเมื่อองค์จักรพรรดิแห่งเผ่าปีศาจได้ส่งท่านมาเป็นผู้เจรจา นี่ก็เป็นการยืนยันถึงความตั้งใจจริงของพระองค์ได้แล้ว ข้าจะรายงานเรื่องนี้กลับไปให้องค์ราชาของอาณาจักรต้าลู่ของเราทรงรับทราบ อันที่จริง อาณาจักรของเราก็ไม่มีความสนใจที่จะทำสงครามอยู่แล้ว และโดยส่วนตัวของข้าเอง ก็สนับสนุนให้มีการเจรจาสงบศึก”

เมื่อเขาแสดงท่าทีร่วมมือด้วยแล้ว นั่นทำให้ซีตุนหยูไม่มีทางเลือกอื่น ต้องแสดงท่าทีสนับสนุนพวกเราออกมาด้วย แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งคู่ยังต้องรอการตัดสินใจจากผู้ที่มีอำนาจสูงกว่าก่อน

แล้วก็มีเสียงที่ผมพอจะคุ้นหูอยู่บ้าง ดังขึ้นมาจากด้านนอกห้องที่เราใช้พูดคุยกันอยู่ในตอนนี้ “ท่านพ่อ! ท่านพ่อ!”

ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างพากันหันไปมองดูคนที่กำลังบุกเข้ามาข้างในห้องทันที ผมนั้นมีอาการตกตะลึงไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นใคร กลายเป็นว่า เธอคือเด็กสาวคนที่ผมช่วยเอาไว้ก่อนที่จะโดนทหารขี่ม้าเข้าชนคนนั้นนั่นเอง แล้วทำไมเธอถึงได้มาตามหาพ่อที่นี่ได้? ใครเป็นท่านพ่อที่เธอเรียกกันนะ? ตอนที่เธอบุกเข้ามาในห้องได้แล้ว และเห็นว่ามีคนกำลังยืนอยู่ข้างในจำนวนไม่น้อย เธอก็หยุดการส่งเสียงออกมาในทันที

เสียงของจอมพลฟงห้าวนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ “ที่นี่เป็นสถานที่สำคัญสำหรับการประชุมทางการทหาร ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามา?”

เด็กสาวคนนั้นก้มหน้าลงต่ำ ก่อนจะกระซิบออกมาเสียงเบา “แต่ข้ามีธุระที่จะต้องคุยกับท่านพ่อนี่นา!”

ฟงห้าวหันมากล่าวกับพวกเราอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าต้องขออภัยทุกท่านในที่นี้ด้วย นี่เป็นบุตรสาวของข้าเอง เหลียนนา! ต้องขออภัยจริง ๆ ที่นางบุกเข้ามาถึงในนี้”

เสียงของเจ้าชายดังมาอย่างโผงผาง “ได้ยินมาว่าท่านจอมพลมีบุตรสาวที่งดงามอยู่คนหนึ่ง ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีโอกาสได้พบในวันนี้ นี่ช่างเป็นการที่ทั้งบิดาและบุตรสาวต่างก็พากันเข้าสู่สนามรบจริง ๆ” คำพูดของเขานั่นแฝงความหมายเสียดสีเอาไว้ไม่น้อย เพราะเหลียนนาไม่ได้มาที่นี่ด้วยหน้าที่อะไรในกองทัพเลย ไม่เหมือนกับลูกชายของเขาทั้งสองคน

จอมพลฟงห้าวต้องกล่าวออกมาอย่างละอายใจ “มันเป็นความผิดของข้าเองที่ตามใจนางจนแทบจะเสียคนไปแล้ว เหลียนนา เจ้านี่ยิ่งมาก็ยิ่งจะทำตัวเกินไปใหญ่แล้วนะ แล้วทำไมยังไม่รีบออกไปอีก?”

แต่เหลียนนาเหมือนจะไม่ได้ยินสิ่งที่เขากล่าวเลย สายตาของเธอนั้นจ้องเขม็งอยู่ที่ผม ก่อนที่จะอุทานออกมา “มันเป็นเจ้าจริง ๆ ท่านพ่อ เขาเป็นคนที่ช่วยข้าเอาไว้เมื่อวันก่อน”

เพราะว่าสายตาของมู่จือจ้องมาที่ผม ทำให้การกล่าวตอบออกไปดูจะอึกอักเล็กน้อย “ยินดีที่ได้พบกับคุณหนูเหลียนนาอีกครั้ง เรื่องเมื่อวันก่อนนั้น เป็นเพียงแค่เหตุบังเอิญ คุณหนูไม่ต้องใส่ใจให้มากก็ได้”

แต่ฟงห้าวประสานมือให้กับผมแล้ว “ดูเหมือนว่าท่านทูตแห่งเทพจะเป็นคนที่ช่วยชีวิตบุตรสาวของเข้าเอาไว้ ข้าต้องขอขอบคุณท่านจริง ๆ” นี่เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา ที่เป็นที่รักดุจดังแก้วตาดวงใจ ไม่อย่างนั้นคงจะไม่ตามใจเธอมากขนาดนี้ เขารู้สึกขอบคุณที่ผมช่วยเหลือเธอด้วยความรู้สึกจากใจจริง ๆ เหมือนกับว่าเป็นการช่วยชีวิตของเขาเอาไว้เลย

“ท่านจอมพล ท่านไม่ต้องมีพิธีมากมายขนาดนี้หรอก มันเป็นเพียงเหตุบังเอิญเท่านั้นจริง ๆ แล้วบุตรสาวของท่านอาจจะมีธุระสำคัญกับท่านจริง ๆ ก็ได้ พวกเราหยุดการหารือเอาไว้เพียงเท่านี้ก่อนดีหรือไม่? รอจนได้คำตอบจากกลับมาจากเมืองหลวงของแต่ละอาณาจักร แล้วพวกเราค่อยมาปรึกษากันใหม่อีกครั้ง ส่วนตอนนี้ พวกเราคงต้องขอตัวกันก่อนแล้ว” สิ่งที่ผมต้องการจากการพูดคุยในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จจนเกือบจะครบถ้วน การอยู่ที่นี่ต่อไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว

เสียงของจอมพลฟงห้าวดังขึ้นมาอย่างเร่งรีบ “ไม่ได้! ท่านทูตจะรีบจากไปได้อย่างไร ท่านเป็นคนช่วยชีวิตของลูกสาวข้าเอาไว้ ให้ข้าได้ตอบแทนอะไรบ้างเถิด อย่างน้อย! วันนี้ก็อยู่ร่วมทานอาหารด้วยกันก่อน”

มู่จือแอบหยิกเข้าที่หลังของผมอย่างแรง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากจะให้ผมอยู่ที่นี่ต่อ แล้วผมจะไม่เชื่อฟังเธอได้อย่างไร? ตอบปฏิเสธคำเชิญของจอมพลฟงห้าวไปอย่างสุภาพ แต่เขายังยืนยันความตั้งใจอย่างหนักแน่น อย่างที่ไม่เคยแสดงออกมาให้เห็นเลยก่อนหน้านั้น ถึงกับเข้ามาดึงตัวผมไปที่โต๊ะอาหารกับเขาด้วยตัวเอง ไม่ว่าผมจะพยายามปฏิเสธอย่างไรก็ไม่เป็นผล เมื่อไม่เหลือทางเลือกแล้ว ผมได้แต่ต้องตอบรับน้ำใจของเขาเอาไว้ ซิวซือและคนอื่น ๆ ที่เหลือพากันขอตัวกลับไปก่อน ช่างเป็นเพื่อนที่ไร้น้ำใจจริง ๆ ส่วนมู่จือ! เธอยังอยู่ที่นี่ คงตั้งใจจะเฝ้าจับตาดูความประพฤติของผมอย่างแน่นอน ในขณะที่เค้อหลุนตัวก็ยังต้องอยู่ปกป้องเธอตามหน้าที่ของเขา ดังนั้น ตอนนี้พวกเราเหลือกันอยู่ที่นี่เพียงสามคน

อาหารที่ถูกนำขึ้นโต๊ะมานั่นดูหรูหราเป็นอย่างมาก คนที่นั่งอยู่ตอนนี้ประกอบด้วยท่านจอมพล ซีตุนหยู เจ้าชาย เด็กสาวตัวแสบเหลียนนา และพวกผมทั้งสามคนเท่านั้น

เหลียนนาดูกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก เธอคอยตักอาหารให้ผมอยู่ตลอด ทำให้มู่จือซึ่งปกติจะเจริญอาหารไม่น้อย ทำตัวเงียบ ๆ และกินไปไม่มากนัก ที่แย่ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่มองหน้าผมเลย นั่นทำให้ผมทำตัวไม่ถูกเลยจริง ๆ มื้ออาหารที่จัดโดยจอมพลฟงห้าวและบุตรสาวของเขาผ่านไปได้อย่างทรมานมาก ท่าทีที่เหลียนนาแสดงออกมานั้นไม่ได้ปกปิดเอาไว้เลย ว่าเธอมีความรู้สึกที่ดีต่อผม ถึงกับไม่สนใจรอยแผลเป็นมากมายที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า เธอยังกล่าวออกมาอีกว่า การที่ผมสามารถรอดชีวิตจากการต่อสู้กับจักรพรรดิปีศาจมาได้ ก็ถือว่าเป็นสุดยอดวีรบุรุษแล้ว ผมรู้ว่าเธอชื่นชมในความแข็งแกร่งมากกว่า มันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดบนโลกใบนี้ ถ้าผมเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยม ไม่มีใครสนใจหรอกว่าผมจะหน้าตาอัปลักษณ์แค่ไหน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด