ตอนที่แล้วตอนที่ 334 ห้ามต่อรอง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 336 ขนอุยสร้างปัญหา

ตอนที่ 335 ปราบสัตว์อสูร


ตอนที่ 335 ปราบสัตว์อสูร

เซี่ยเฟยเคลื่อนตัวไปตามแผนที่ของวินด์ไชม์ ก่อนที่เขาจะได้พบบ้านของไป๋ห่าวอย่างรวดเร็ว

บ้านของคนมีเงินในเขตทะเลทรายมักที่จะเป็นบ้านที่ถูกปูหลังคาด้วยกระจกใส ซึ่งไม่เพียงแต่มันจะป้องกันลมและทรายได้เท่านั้น แต่มันยังมีแสงแดดลอดผ่านเข้ามาได้อีกด้วย

เซี่ยเฟยปีนข้ามกำแพงขึ้นไปบริเวณดาดฟ้าของคฤหาสน์ ก่อนที่เขาจะได้พบชาย 4 คนที่สวมชุดป้องกันทรายยืนเบียดเสียดกัน โดยคนพวกนี้ต้องคอยใช้ภาษามือในการสื่อสาร เพราะหากพวกเขาเปิดปากพูดออกมามันก็อาจจะมีทรายกระเด็นเข้าไปภายในปากของพวกเขาได้

เซี่ยเฟยใช้วิชาพรางจิตเคลื่อนที่ผ่านชายทั้งสี่ไปอย่างเงียบเชียบ ก่อนที่เขาจะเปิดประตูและแอบลักลอบเข้าไปในตัวคฤหาสน์

ผนังหินด้านในของคฤหาสน์ถูกประดับ A เอาไว้ด้วยภาพวาดแขวนอยู่อย่างมากมาย แม้แต่บนขั้นของบันไดก็ถูกประดับด้วยหินแร่ที่แวววาว

เซี่ยเฟยถอดผ้าพันคอออกเก็บไปไว้ในแหวนมิติพร้อมกับเดินลงบันไดไปจนถึงชั้นที่ 2 ก่อนที่เขาจะได้พบกับยาม 2 คนกำลังยืนเฝ้าประตูอยู่อย่างเฉื่อยชา

ต่อมามันก็ได้มีสาวใช้เดินออกมาจากประตูพร้อมกับถาดอาหารที่เต็มไปด้วยเศษเนื้อติดกระดูก ซึ่งยามที่ได้เห็นสาวใช้ก็รีบเดินไปบีบตูดสาวใช้คนนี้ด้วยแววตาอันหื่นกระหาย

“ไอ้สวะ!” สาวใช้สบถด่าอย่างเอือมระอา

“จะไปไหนจ๊ะคนสวย?”

“นายท่านไป๋ให้ฉันเอาอาหารที่เหลือไปให้เจ้าแมวตัวใหญ่ในคุกชั้นใต้ดิน”

“ฉันจะบอกอะไรให้นะคนสวย เจ้าแมวนั่นไม่ใช่สัตว์ทั่วไปแต่มันเป็นสัตว์อสูรที่ดุร้ายมาก แล้วถ้าเธอไม่ระวังเธอนั่นแหละที่จะกลายเป็นอาหารของมัน” ยามเฝ้าประตูผู้ไว้ผมหางม้ากล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

เมื่อสาวใช้เดินออกไปยามทั้งสองก็เริ่มพูดคุยกันแก้เบื่อ ซึ่งเซี่ยเฟยก็เคลื่อนที่ไปตามจุดบอดของทั้งสองคนเพื่อแอบตามสาวใช้รายนั้นไป

ทางเดินลงชั้นใต้ดินเป็นถนนแคบ ๆ ที่มืดมาก ซึ่งตามถนนมีไฟคอยให้แสงสว่างเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ที่สำคัญคือยิ่งเขาเดินลึกลงไปชั้นใต้ดินมากขึ้นเท่าไหร่ มันยิ่งมีกลิ่นเหม็นอับลอยโชยขึ้นมามากขึ้นเท่านั้น

“เจ้านั่นเก็บโกลด์แพนเธอร์เอาไว้ในที่สกปรกแบบนี้เนี่ยนะ?! มันไม่รู้หรือยังไงว่าโกลด์แพนเธอร์เป็นสัตว์รักสะอาด ฉันเดาได้เลยว่ามันจะบ้าคลั่งมากแค่ไหนถ้าหากว่ามันสามารถหนีออกมาจากกรงได้สำเร็จ” อันธกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ทั่วทั้งพันธมิตรคงจะมีคนที่ศึกษาลักษณะนิสัยของสัตว์อสูรอยู่เพียงแค่ไม่กี่คนหรอก ฉันหวังว่าเจ้าโกลด์แพนเธอร์ตัวนั้นจะไม่โกรธมากจนเกินไป ไม่อย่างนั้นฉันก็คงจะปราบมันได้อย่างยากลำบากด้วยเหมือนกัน” เซี่ยเฟยกล่าว

ก่อนที่ชายหนุ่มจะทันได้พูดจบมันก็มีเสียงร้องคำรามดังขึ้นมาจากด้านล่างอย่างแผ่วเบา ซึ่งสาวใช้ที่กำลังเดินถือถาดอาหารก็รีบยกมือขึ้นมาปิดหูด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด

“พระเจ้าช่วยลูกด้วย!” สาวใช้อุทานขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ วิ่งเหยาะ ๆ เอาถาดอาหารไปวางไว้บนแท่นหิน จากนั้นเธอก็เคาะประตูคุกใต้ดินเบา ๆ และหันหลังวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว

ประมาณ 2 นาทีต่อมาประตูเหล็กชั้นใต้ดินก็ถูกเปิดออก พร้อมกับชายฉกรรจ์หัวโล่นร่างใหญ่ที่เดินออกมาหยิบถาดอาหารออกไปจากแท่นหิน

“ร้องอีกสิ! ถ้าแกร้องขึ้นมาอีกก็อย่าหวังที่จะได้อาหารจากฉัน!!”

กรร!

โกลด์แพนเธอร์เป็นสัตว์อสูรที่มีสติปัญญาสูงมาก และเมื่อมันได้ยินว่าชายหัวโล้นกำลังขู่มันอยู่มันก็เริ่มส่งเสียงร้องคำรามขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้มันก็ดูหงุดหงิดมากกว่าครั้งก่อน

การกระทำของชายหัวโล้นทำให้เซี่ยเฟยส่ายหัวไปมาด้วยความเหนื่อยใจ เพราะท้ายที่สุดสัตว์อสูรต่างดาวก็ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงอย่างหมาแมว โดยเฉพาะโกลด์แพนเธอร์ที่มีสติปัญญาเทียบเท่ากับมนุษย์ และพวกมันก็เป็นสัตว์ที่รักศักดิ์ศรีของตัวเองเป็นอย่างมาก ดังนั้นมันย่อมไม่มีวันกินอาหารจากคนที่พูดจาดูถูกมัน

ยิ่งไปกว่านั้นคำขู่จากชายหัวโล้นยังไม่ต่างไปจากการราดน้ำมันเข้าใส่กองไฟ มันจึงทำให้โกลด์แพนเธอร์ที่ถูกขังอยู่ในกรงเริ่มพยายามดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง

จึก!

ก่อนที่ชายหัวโล้นจะทันได้รู้ตัวเดือยกระดูกในมือของเซี่ยเฟยก็ฝังลงไปที่ลำคอของเขาแล้ว ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่พูดอะไรและปล่อยให้ร่างของชายคนนี้ร่วงหล่นไปบนพื้น

ถาดอาหารในมือของชายหัวโล้นร่วงหล่นลงไปตามแรงโน้มถ่วง ซึ่งชายหนุ่มก็ใช้ความเร็วรับถาดอาหารเอาไว้อย่างแผ่วเบา ก่อนที่เขาจะวางมันเอาไว้บนพื้นอย่างเงียบ ๆ

ถึงแม้ว่าคุกใต้ดินชั้นนี้จะกว้างมากแต่มันกลับมีชายหัวโล้นคอยเฝ้าอยู่คนเดียว ชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปใกล้ ๆ กรงขังเพื่อสังเกตโกลด์แพนเธอร์อย่างใกล้ชิด

สัตว์อสูรชนิดนี้มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับแมวตัวใหญ่ เพียงแต่มันมีขนสีทองและมีใบหน้าเป็นสีน้ำเงิน

“นี่คืออสูร 2 ธาตุโกลด์แพนเธอร์จริง ๆ ดวงตาสีทองของมันสามารถปล่อยการโจมตีด้วยเปลวไฟได้ ในขณะที่ปากของมันก็สามารถพ่นอุณหภูมิที่ต่ำมากจนใกล้กับอุณหภูมิศูนย์สัมบูรณ์ แต่โกลด์แพนเธอร์ตัวนี้ยังอยู่ในวัยเด็ก แล้วมันก็คือเหตุผลว่าทำไมมันถึงถูกจับมาขังอย่างง่ายดายแบบนี้ แต่ถ้าหากว่ามันได้เติบโตอย่างเต็มที่มันก็คงจำเป็นจะต้องใช้นักสู้ระดับอีเทอนิตี้ในการปราบและจับมันเอาไว้” อันธกล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

โกลด์แพนเธอร์สัมผัสถึงอันตรายจากเซี่ยเฟยได้อย่างรวดเร็ว มันจึงค่อย ๆ ก้าวถอยหลังออกไปอย่างช้า ๆ พร้อมกับส่งเสียงครางออกมาด้วยเสียงต่ำ

“มันกำลังกลัว? อสูรตัวนี้มีประสาทสัมผัสที่ดีมากมันรู้ว่านายอันตรายกว่าไอ้โล้นนั่น และถึงแม้ว่ามันจะพยายามส่งเสียงขู่แต่มันก็กำลังส่งเสียงอ้อนวอนออกมาในเวลาเดียวกัน” ยิ่งได้เห็นพฤติกรรมของโกลด์แพนเธอร์ในกรง อันธก็ยิ่งรู้สึกชื่นชอบสัตว์อสูรตัวนี้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

เซี่ยเฟยย่อตัวลงเพื่อให้สายตาของเขาอยู่ในระดับเดียวกันกับมัน ซึ่งนี่ถือว่าเป็นเทคนิคการสื่อสารกับสัตว์อสูรที่มีสติปัญญา เพราะมันคงไม่มีสัตว์อสูรตัวไหนที่ชอบให้มนุษย์มายืนข่มมันจากด้านบน

“ฉันจะลองใช้มนตราอสูรสื่อสารกับมันแล้วนะ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเจ้าลูกแมวตัวนี้จะทนพลังของมนตราอสูรได้หรือเปล่า”

“ถึงแม้ว่ามันจะอายุยังน้อยแต่ขนาดตัวของมันก็ไม่เล็กแล้ว นอกจากนี้กล้ามเนื้อกับกระดูกของมันก็ค่อย ๆ แข็งแรง นายรีบปราบมันลงซะ! พวกเราจะได้ออกไปจากห้องที่น่าขยะแขยงนี่เสียที” อันธกล่าว

เซี่ยเฟยพยักหน้าและทันใดนั้นแววตาของเขาก็เริ่มส่องแสงออกมา

พริบตาต่อมาข้อมูลเป็นจำนวนมากก็ถูกส่งเข้าไปในจิตใจของโกลด์แพนเธอร์ ซึ่งเซี่ยเฟยก็ค่อย ๆ พยายามปราบปรามมันอย่างช้า ๆ

โกลด์แพนเธอร์หยุดการเคลื่อนไหว แต่ทันใดนั้นมันก็สัมผัสได้ถึงพลังอื่นที่จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นในสมองของมัน

อันตราย!

อันตรายมาก!

ในเวลาเพียงแค่ไม่นานมันก็สัมผัสได้ว่าพลังงานอันแปลกปลอมกำลังรุกล้ำเข้ามาเพื่อควบคุมความคิดในจิตใต้สำนึกของมัน

โกลด์แพนเธอร์เริ่มโต้ตอบในทันทีโดยพยายามขับไล่พลังจิตของเซี่ยเฟยออกไปจากหัวสมองของมัน

หนึ่งคนหนึ่งสัตว์อสูรต่อสู้กันภายในสมองของโกลด์แพนเธอร์อย่างดุเดือด แม้ว่าจากภายนอกทั้งคู่จะดูเหมือนยืนอยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อยก็ตาม

เซี่ยเฟยสูดลมหายใจพร้อมกับตั้งสมาธิ เพราะท้ายที่สุดสัตว์อสูรตรงหน้าก็ยังเด็กมากจนเกินไป ด้วยเหตุนี้ถ้าหากว่าเขาใช้เวลามากกว่านี้ มันก็อาจจะทำให้สมองของโกลด์แพนเธอร์ได้รับความเสียหายอย่างถาวร ดังนั้นเขาจึงจำเป็นจะต้องจบการต่อสู้นี้ให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

‘พินิจใจ!’ เซี่ยเฟยพูดในใจอย่างเงียบ ๆ และในพริบตาต่อมาข้อมูลเป็นจำนวนมากก็ถูกเพิ่มปริมาณขึ้นเป็นสองเท่า จนทำให้โกลด์แพนเธอร์ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบมากขึ้นกว่าเดิม

10 นาทีต่อมาโกลด์แพนเธอร์ที่อยู่ในกรงก็กลายเป็นเพียงแค่แมวเชื่อง ๆ และมันก็พยายามประจบประแจงเซี่ยเฟยแม้ว่าร่างของมันจะยังคงอยู่ในกรง

“ทำไมนิสัยมันถึงดูเหมือนขนอุยเลย?” เซี่ยเฟยยืนขึ้นเช็ดเหงื่อบนหน้าผากพร้อมกับพึมพำกับตัวเองหลังจากที่ได้เห็นท่าทางของโกลด์แพนเธอร์

“อาจจะเป็นเพราะพวกมันเป็นสัตว์อสูรเหมือนกันละมั้ง” อันธกล่าวโดยยังคงรู้สึกตื่นเต้นหลังจากที่เซี่ยเฟยสามารถปราบปรามสัตว์อสูรตัวนี้ลงไปได้

เซี่ยเฟยมองไปทางอันธอย่างว่างเปล่าราวกับกำลังจะบอกว่าถ้าคิดจะตอบแบบนี้ไม่ต้องตอบอะไรออกมาอาจจะดีซะกว่า

“นายพึ่งฝึกมนตราอสูรได้ถึงระดับ 3 เท่านั้น นายจึงแทบที่จะไม่สามารถปราบปรามสัตว์อสูรระดับสูงได้เลย หลังจากนี้นายจะต้องฝึกฝนให้หนักมากขึ้นกว่าเดิม อย่าลืมว่าในเขตดาววิลเดอร์เนสยังมียานบัญชาการจอดรอนายอยู่ทุกเมื่อ และเมื่อไหร่ก็ตามที่นายสามารถจัดการค้างคาวเงาดาราลงไปได้ การได้ครอบครองยานบัญชาการก็คงจะไม่ไกลเกินเอื้อม” อันธกล่าว

“นายพูดถูก ตอนนี้ฉันได้กลายเป็นซัพพลายเออร์ระดับ A ของกรมทหารแล้ว บางทีฉันอาจจะสามารถขอใบนุญาตครอบครองยานบัญชาการได้ก็ได้ แต่ก่อนหน้านั้นฉันต้องจัดการค้างคาวเงาดาราที่เฝ้ายานเอาไว้ให้ได้ซะก่อน และฉันก็จำเป็นที่จะต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้” เซี่ยเฟยกล่าว

ยานบัญชาการไม่ใช่สิ่งที่ใคร ๆ ก็สามารถจะเป็นเจ้าของได้ เพราะมันมีความสำคัญในการรบมากเกินไป มันจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและสถานะทางสังคม

ด้วยสถานะในปัจจุบันเซี่ยเฟยเพิ่งจะได้รับใบอนุญาตให้ครอบครองยานครุยเซอร์ และใบอนุญาตสำหรับการจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธขนาดเล็ก ซึ่งอย่างมากที่สุดเขาก็สามารถที่จะสร้างกองยานครุยเซอร์ได้เป็นของตัวเองเท่านั้น

แต่ด้วยอัตราการเติบโตของบริษัทควอนตัมมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะขอใบอนุญาตครอบครองยานบัญชาการ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เซี่ยเฟยสามารถกลับไปเอายานบัญชาการลำนั้นได้สำเร็จ เขาก็จะรีบดำเนินการเรื่องนี้ในทันที

อย่างไรก็ตามเมื่อเซี่ยเฟยได้นึกถึงค้างคาวเงาดารามันก็ทำให้เขาหน้าซีดขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะความน่ากลัวของสัตว์อสูรตัวนั้นเกือบจะทำให้เขาเสียชีวิตมาแล้วครั้งหนึ่งจริง ๆ ดังนั้นถ้าหากว่าเขาต้องกลับไปเพื่อจัดการกับมันเขาก็จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมมากกว่านี้

“ฉันไม่ได้บอกให้นายไปจัดการกับค้างคาวเงาดาราในตอนนี้สักหน่อย ฉันแค่เตือนเพื่อให้นายเตรียมตัวเอาไว้เฉย ๆ ความเป็นจริงหลังจากที่นายได้กลับมาจากดาวเคราะห์มรดกความแข็งแกร่งของนายก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นระดับการเข้าถึงเทคโนโลยีของนายในตอนนี้ก็ไม่ได้ด้อยเหมือนเดิมด้วย ฉันคิดว่าอีกไม่นานนายย่อมสามารถจัดการกับค้างคาวเงาดาราได้อย่างแน่นอน” อันธกล่าว

“ฉันเข้าใจในสิ่งที่นายต้องการจะพูด แต่ถึงยังไงการจัดการกับค้างคาวเงาดาราและเอายานบัญชาการกลับมาก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งมันจำเป็นจะต้องมีการเตรียมการที่ดีพอสมควร หลังจากที่ฉันกลับไปยังพันธมิตรในครั้งนี้ฉันจะเอาแผนการนี้ใส่เข้าไปในตารางงาน และเริ่มดำเนินงานตามแผนงานทันที” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

ฉัวะ!

เดือยกระดูกตัดกรงที่ขังโกลด์แพนเธอร์ออกอย่างง่ายดาย ซึ่งสัตว์อสูรตัวนี้ก็รีบกระโจนออกมาเข้าสู่อ้อมแขนของเซี่ยเฟยอย่างออดอ้อน

เซี่ยเฟยรีบอุ้มโกลด์แพนเธอร์ออกจากคุกใต้ดินอย่างรวดเร็ว และเตรียมพร้อมที่จะเดินทางกลับไปยังเบโอเนท

แต่ทันใดนั้นเองชายหนุ่มก็สังเกตเห็นร่างสีดำที่เคลื่อนที่ผ่านหน้าต่างด้วยความรวดเร็ว!

“ดูเหมือนเราจะตกเป็นเป้าหมายของผู้เชี่ยวชาญระดับสูง” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันจริงจังขณะที่นิ้วของเขาสัมผัสลงบนเซเลสเชียลมูนอย่างเตรียมพร้อม

***************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด