ตอนที่แล้วตอนที่ 46 เชือดไก่ให้ลิงดู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 48 เตรียมพร้อมเรียบร้อย

ตอนที่ 47 มาดั่งอัสนีบาตพิโรธ


“เดิมทีคิดว่ากระบี่สามเซียนใช้จัดการนักยุทธ์หลอมกระดูกได้ แต่คงมองในแง่ดีเกินไป”

เฉินเฟยพึมพำกับตัวเอง หากไม่ได้ต่อสู้จริงและอาศัยการตัดสินเพียงอย่างเดียว หลายสิ่งจะคลาดเคลื่อนอย่างมหาศาล เจี่ยนเหลียงกับจางเซียนถิงอยู่ในระดับหลอมกระดูกเหมือนกัน แต่พลังต่อสู้ของพวกเขาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ต้องไม่ประมาทศัตรูเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะได้ไม่เห็นตะวันในวันรุ่งขึ้นเพราะตกตาย

ดูความยุ่งเหยิงในลานบ้านและซากศพบนพื้น

แผนงานที่ต้องทำยุ่งเหยิงไปหมด เฉินเฟยไม่รู้เหมือนกันว่าจะอธิบายอย่างไรเมื่อตระกูลจ้าวมาพรุ่งนี้ สามคนนี้ตายพร้อมกัน? เรื่องนี้ยากจะเชื่อเพราะบาดแผลที่คอคนคุ้มกันทั้งสองเรียบเกินไป

เมื่อเห็นครั้งแรกน่าจะคาดว่าต่อต้านไม่ได้และถูกฆ่าโดยตรง

“ตัวตนนี้คงใช้ไม่ได้แล้ว”

เฉินเฟยถอนหายใจ นำร่างทั้งสามไปไว้ในลานบ้านทรุดโทรมแห่งอื่นที่ไม่มีผู้อาศัย

จางเซียนผิงมีเงินติดตัวแต่ไม่วิชายุทธ์อย่างที่เฉินเฟยคิดไว้ เห็นได้ชัดว่าวิชาสืบทอดของจางเซียนถิงไม่ธรรมดา น่าเสียดายที่เฉินเฟยไม่มีโอกาสได้ฝึกมัน

เฉินเฟยกลับมาที่บ้าน เก็บสิ่งของจำเป็นลงตู้ไม้และเก็บตู้ไม้ใส่ช่องมิติ

จากนั้นเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปที่ตลาดมืด

“ข้ากำลังตามหาเจ้าอยู่พอดีเลย สามวันต่อจากนี้ไปรวมกันที่หินเฟิงตง อย่ามาสายล่ะ”

ฉือเต๋อเฟิงเห็นเฉินเฟยปรากฏตัวหน้าแผงลอยจึงรีบดึงเขาเข้าไปในห้องและพูดด้วยเสียงต่ำ

“ได้!”

เฉินเฟยอดยิ้มไม่ได้เมื่อได้รับข้อมูลที่ต้องการ ในที่สุดก็ได้ออกจากอำเภอผิงหยิน ขีดจำกัดของเฉินเฟยคือเจ็ดวัน หากไม่มีข่าวการออกไปภายในเจ็ดวันนี้เฉินเฟยจะออกไปด้วยตัวเอง

เมื่อก่อนเขาไม่กล้าทำแบบนั้น แต่ตอนนี้มีช่องมิติที่สามารถเก็บของได้มากมายซึ่งทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น

ที่สำคัญคือรอยประทับเนื้อเน่าติดกระดูกทำให้เฉินเฟยรู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ในคอ พอรู้ว่ากำลังจะมีบางอย่างเกิดขึ้นเขาจึงอยากหนีไปให้ไกลที่สุด

“สามวันต่อจากนี้ จำไว้ให้ดี!”

ฉือเต๋อเฟิงตอกย้ำอีกครั้งก่อนเฉินเฟยจากไป เฉินเฟยโบกมือเดินออกจากกระท่อม

เขาเดินไปมาอยู่ในที่มืดของตลาดมืดสองสามรอบ หลังเปลี่ยนรูปลักษณ์อีกครั้งเฉินเฟยได้ไปที่แผงขายโอสถ

“เจ้ามาแล้ว!”

เจ้าของร้านแสดงสีหน้ายินดีเมื่อเห็นเฉินเฟย สองวันที่ผ่านมาเฉินเฟยไม่ได้มาที่นี่ซึ่งทำให้เจ้าของร้านเลยนอนไม่หลับ เพราะสิ่งนี้เป็นการตัดความต้องการสินค้า

ในสองวันนี้เจ้าของร้านได้รับคำตะโกนด่ามากมาย โชคดีที่ในที่สุดเฉินเฟยก็มา เจ้าของร้านถึงกับถอนหายใจโล่งอก

เฉินเฟยพยักหน้าหยิบโอสถในห่อออกมา หนึ่งเค่อต่อมา ทั้งสองทำการค้าเสร็จสิ้น ห่อด้านหลังเฉินเฟยมีเงินมากกว่าพันตำลึง

เขาไม่ได้เก็บเงินเข้าแผงเพราะมันไม่สามารถถอนเงินได้ และหลังจากนี้สามวันต้องใช้เงินสด

เฉินเฟยหันหลังจากไปโดยไม่อยู่นาน ทันทีที่เดินออกจากร้าน เขาสัมผัสได้ว่ากำลังถูกติดตาม

เฉินเฟยขมวดคิ้ว นี่ไม่ใช่ผู้ติดตามตัวเล็กๆ ศัตรูครั้งนี้ค่อนข้างแข็งแกร่งและปล่อยจิตสังหารออกมา

เฉินเฟยชำเลืองมองและเห็นใครบางคนกำลังจ้องมองเขา เฉินเฟยนึกถึงคำพูดของเจ้าของร้านเมื่อครู่ หัวใจเขาถึงกับเต้นไม่เป็นจังหวะ

เฉินเฟยยังคงนิ่งสงบเดินเตร่ในตลาดมืด เดินผ่านถนนไปหลายสาย เมื่อปรากฏตัวอีกครั้งเฉินเฟยได้เปลี่ยนใบหน้าและเครื่องแต่งกายเรียบร้อย

สายตาสอดแนมเหล่านั้นหายไปทันที

เฉินเฟยเดินรอบตลาดมืดสองครั้งก่อนออกจากตลาดมืด

ห่างออกไปหลายร้อยหมี่

“พี่ใหญ่ มันหายไป!”

“พวกขยะ ข้าบอกแล้วไงว่าให้ระวัง!”

หลิงฮั่นจุนเตะคนนั้นจนสลบด้วยการเตะครั้งเดียว ในตลาดมืด ตราบเท่าที่หลิงฮั่นจุนคิดว่าน่าสงสัย คนเหล่านั้นจะถูกหลิงฮั่นจุนติดตาม สองสามวันที่ผ่านมาพวกเขาทำแบบนี้ตลอด

สำหรับคนเมื่อครู่ แม้มีโอกาสที่จะเป็นคนนั้นต่ำมากเนื่องจากท่าร่างแตกต่างกันและมีวิชาปลอมตัวระดับสูง แต่เขายอมฆ่าผิดคนดีกว่าปล่อยไป

อุตส่าห์รอให้มันมาขายโอสถวันนี้ แต่คาดไม่ถึงว่าลูกน้องจะทำมันหาย

“การขายโอสถได้กำไรมหาศาล ข้าไม่เชื่อว่ามันจะไม่มาอีก!”

ดวงตาหลิงฮั่นจุนเต็มไปด้วยความเย็นชา เพื่อตามหาคนคนนั้น หลิงฮั่นจุนไม่สนใจว่าจะจับผิดตัวหรือไม่

เฉินเฟยยืนมองหลิงฮั่นจุนอยู่บนที่สูงจากระยะไกล หลังฝึกวิชาธนูสายตาเฉินเฟยก็ดีขึ้นมาก ดังนั้นแม้อยู่ในความมืดแบบนี้เฉินเฟยยังมองเห็นได้จากระยะไกล

ธนูยาวปรากฏในมือเฉินเฟย เมื่อกี้เกือบโดนซุ่มโจมตี เขาจะไม่โต้ตอบได้อย่างไร

สายธนูถูกดึงจนถึงขีดสุด ครู่ต่อมาลูกธนูพุ่งข้ามท้องฟ้าเจาะเข้าหน้าอกกบฏ นี่เป็นฝีมือของนักธนู

“ศัตรูโจมตี!”

ด้วยเสียงเตือนดังขึ้นทำให้ผู้คนรอบตัวหลิงฮั่นจุนตื่นตัว เมื่อครู่ลูกธนูมาอย่างกะทันหันจึงไม่มีใครเห็นว่ามันยิงมาจากทางไหน

“อ๊าก!”

เสียงร้องเจ็บปวดดังขึ้นอีกครั้ง ล้มตายไปอีกคน ยังคงเป็นฝีมือของนักธนู ตอนนี้คนที่หลิงฮั่นจุนนำมาด้วยตายเพราะนักธนูสองคนแล้ว

“ตรงนั้น! ไปเร็ว!”

หลิงฮั่นจุนไปเห็นจึงรีบตรงไปยังตำแหน่งเฉินเฟย กบฏคนอื่นไม่กล้ารอช้ารีบตามรอยเท้าหลิงฮั่นจุนไป

บนจุดสูง เฉินเฟยยังคงมีสีหน้านิ่งเฉย เขายิงใส่เหล่ากบฏโดยเมินเฉยหลิงฮั่นจุน

“อ๊าก..”

เสียงร้องดังไม่จบสิ้น เส้นเลือดดำปรากฏบนหน้าผากหลิงฮั่นจุน ยังไปไม่ถึงตัวมันลูกน้องส่วนใหญ่ก็ตายแล้ว คนเหล่านี้ล้วนเป็นลูกน้องเขาตั้งแต่ก่อนหน้านี้และมาเข้าร่วมกองทัพกบฏด้วยกัน

กล่าวคือถ้าคนเหล่านี้ตาย หลิงฮั่นจุนจะสั่งการคนได้ไม่ง่ายเหมือนในตอนนี้

“พวกเจ้าไม่ต้องไป!”

หลิงฮั่นจุนตะโกนด้วยความโกรธและพุ่งเข้าหาเฉินเฟยคนเดียว

เฉินเฟยยังคงยิงอย่างต่อเนื่องแต่ลูกธนูในซองด้านหลังว่างเปล่า ครู่ต่อมาลูกธนูชุดใหม่ปรากฏขึ้นทันที มือของเฉินเฟยไม่ได้หยุดแม้แต่ชั่วขณะ

กบฏยังคงอยู่ในจุดเดิมและปกป้องซึ่งกันและกัน ภัยคุกคามจากลูกธนูของเฉินเฟยลดลงมาก มันสร้างความเสียหายได้มากแต่ไม่สามารถฆ่าคนได้เหมือนเมื่อครู่

ดวงตาเฉินเฟยหันไปมองหลิงฮั่นจุนที่ใกล้เข้ามา คันธนูในมือเขาเปลี่ยนเป้าหมายเป็นหลิงฮั่นจุนแทน

“เคร้ง!”

หลิงฮั่นจุนปัดลูกศรด้วยการฟันครั้งเดียว ลูกศรนี้ไม่เป็นภัยต่อเขาแม้แต่น้อย แต่ความเร็วของหลิงฮั่นจุนช้าลงอย่างหลีกดลี่ยงไม่ได้

เฉินเฟยไม่สนใจว่าจะทำให้หลิงฮั่นจุนบาดเจ็บได้หรือไม่และยังคงยิงใส่อย่างรวดเร็ว วิชาธนูมากมายวนเวียนอยู่ในความคิดเฉินเฟย การเคลื่อนไหวของหลิงฮั่นจุนช้าลงเรื่อยๆ

ผ่านไปมากกว่าสิบลมหายใจ ลูกธนูในซองธนูด้านหลังเฉินเฟยหมดลงอีกครั้ง

หลิงฮั่นจุนแสดงรอยยิ้มน่ากลัวบนใบหน้า ขณะที่กำลังพุ่งเข้าหาเฉินเฟยเขาก็เห็นรอยยิ้มของเฉินเฟย ร่างเฉินเฟยสั่นไหวหายไปจากจุดนั้น

มาดั่งอัสนีบาตพิโรธ หยุดเหมือนแม่น้ำทะเลรวมแสงใส

ภายใต้ดวงตาหมองหม่นของหลิงฮั่นจุน เฉินเฟยจากไปด้วยความเร็วเหนือจินตนาการ

ท่าร่างนี้เร็วมากจนหลิงฮั่นจุ่นที่ต้องการไล่ตามถูกบังคับให้หยุด ต่อให้ใช้วิชาลับกับโอสถเขาก็ตามไปไม่ทันอยู่ดี

รังแกกันมากเกินไปแล้ว