ย้อนเวลาเขย่าจักรวาล 2005 ตอนที่ 31 ความหวัง ความสิ้นหวัง ความหวัง

ตอนที่ 31 ความหวัง ความสิ้นหวัง ความหวัง

“ตัวใหญ่เริ่มเคลื่อนไหวแล้วสินะ”

หยางเฟยพูดขณะมองผู้น้ำตระกูลบ่มเพาะทั้ง 7 ที่ลอยอยู่รอบๆ บ้านของเขา แต่ใบหน้าของเขาไม่แสดงความกังวลออกมาเลย เขามั่นใจมากๆ ว่าต่อให้ผู้บ่มเพาะระดับสวรรค์สูงโจมตีพร้อมกัน 7 คน บาเรียที่ปกป้องบ้านของเขาอยู่ก็ไม่โดนทำลาย ถ้าจะทำลายบาเรียนี้คนที่โจมตีต้องเป็นจอมเวทย์ระดับ 5 เป็นอย่างน้อย คน 7 คนที่มีพลังเทียบเท่ากับจอมเวทย์ระดับ 2 ทำลายบาเรียนี้ไม่ได้หรอก

แต่ว่า จะไม่ให้ความหวังอีกฝ่ายเลยก็ไม่ได้ หยางเฟยวางแผนเอาไว้ว่าเขาจะให้กลุ่มตระกูลเฉินโจมตีบาเรียจนเหนื่อย พอพวกกลุ่มตระกูลเฉินเหนื่อยแล้วเขาก็จะส่งหุ่นยนต์ออกไปกวาดล้างพวกมัน ถ้าจะให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนเขาต้องให้ความหวังพวกตระกูลเฉินด้วย เขาต้องทำให้พวกตระกูลเฉินคิดว่าพวกเขามีโอกาสทำลายบาเรียได้

“อลิส หลังจากที่ผู้น้ำตระกูลบ่มเพาะทั้ง 7 โจมตี  ทำให้บาเรียสั่นหน่อยๆ ด้วยนะ”

หยางเฟยออกคำสั่ง

[ติ้ง! รับทราบ]

อลิสรับคำสั่ง

….

“โจมตี!!!”

ผู้นำตระกูลเฉินตะโกนออกคำสั่ง จากนั้นเขาก็ต่อยไปที่บาเรียด้านหน้าของเขา

ในเวลาเดียวกัน ผู้น้ำตระกูลบ่มเพาะคนอื่นๆ ก็ต่อยไปที่บาเรียด้านหน้าแบบผู้นำตระกูลเฉิน พวกเขาใช้พลังเต็มที่ของตัวเอง พวกเขาหวังว่าการโจมตีครั้งนี้จะสามารถทำลายบาเรียได้

ตูม!!!

ตูม!!!

ตูม!!!

การโจมตีด้วยแรง 100% ของผู้บ่มเพาะระดับสวรรค์สูงรุนแรงกว่าการโจมตีของรถถัง 10 เท่า เท่ากับว่า บาเรียที่ปกป้องบ้านของหยางเฟยอยู่เจอรถถัง 70 คัน ยิงใส่พร้อมๆ กัน เสียงของการปะทะดังสนั่นมาก เสียงครั้งนี้ดังกว่าเสียงที่ผู้น้ำตระกูลเฉินโจมตีคนเดียวมาก

หลังจากต่อยไปแล้วผู้น้ำตระกูลเฉินก็มองบาเรียด้านหน้าด้วยใบหน้าจริงจัง และในระหว่างที่เขามองอยู่เขาก็เห็นว่าบาเรียเริ่มมีรอยแตกขนาดใหญ่ตรงใจกลาง

‘สำเร็จ เราทำลายมันได้แล้ว’

ผู้นำตระกูลเฉินดีใจ ถ้าการโจมตีของผู้นำตระกูลบ่มเพาะทั้ง 7 ยังทำอะไรไม่ได้ เขาก็ไม่รู้แล้วว่าจะทำลายมันยังไง แต่ตอนนี้มันเริ่มพังแล้ว มันเริ่มพังแบบนี้แปลว่ายังพอมีทางทำลายมันอยู่ แต่ว่า ผู้นำตระกูลเฉินก็ดีใจได้ไม่นาน ไม่กี่วินาทีต่อมารอยร้าวที่เกิดขึ้นบนบาเรียก็ค่อยๆ หายไป และภายในเวลาไม่ถึง 10 วินาที บาเรียก็กลับไปเป็นปกติอีกครั้ง รอยร้าวที่เกิดขึ้นหายไปราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้น

“มันสามารถซ่อมแซมตัวเองได้…”

ผู้นำตระกูลเฉินรู้สึกหัวเสีย

“รวมตัว!!!”

ผู้นำตระกูลเฉินตะโกนเรียก

เมื่อได้ยินเสียงของผู้นำตระกูลเฉิน ผู้นำตระกูลบ่มเพาะคนอื่นๆ ก็ลอยเข้าไปหาผู้นำตระกูลเฉิน

“พวกเราต้องโจมตีเรื่อยๆ จนกว่ามันจะพัง พวกเราต้องโจมตีให้เร็วกว่าการซ่อมแซมของมัน”

ผู้น้ำตระกูลเฉินพูด

“นั่นก็ใช่ แต่จะให้พวกเรา 7 คนโจมตีงั้นเหรอ อย่าลืมสิว่าหยางเฟยอยู่ในนั้น และเราก็ไม่รู้ด้วยว่าในบ้านของหยางเฟยมีกำลังรบเท่าไหร่ ถ้าพวกเราโจมตีบาเรียจนพวกเราอ่อนแรง หยางเฟยก็จะสามารถจัดการกับพวกเราได้ง่ายๆ”

ผู้นำตระกูลเจียงพูด เขาเข้าใจดีว่าการทำลายบาเรียคือต้องโจมตีให้เร็วกว่าการซ่อมแซมของมัน แต่ว่า น้ำพลังปราณไม่สามารถใช้ได้ตลอด ถ้าพวกเขาใช้มากๆ ร่างกายก็จะเคยชิน เมื่อร่างกายเคยชินแล้วน้ำพลังปราณก็ไม่ต่างจากน้ำเปล่า ถ้าใช้น้ำพลังปราณจนเคยชินพวกเขาต้องรอประมาณ 1 ปี พวกเขาถึงจะสามารถใช้น้ำพลังปราณเพิ่มพลังปราณของตัวเองได้

แล้วถ้าพวกเขาใช้น้ำพลังปราณจนร่างกายเคยชิน ปัญหามันก็คงไม่จบหลังที่นี่แน่ ถ้าเกิดว่าตระกูลบ่มเพาะที่เป็นศัตรูกับพวกเขารู้เรื่องนี้ ตระกูลบ่มเพาะที่เป็นศัตรูกับพวกเขาไม่มีทางปล่อยโอกาสนี้ไปแน่ ถ้าอีกฝ่ายสามารถใช้น้ำพลังปราณฟื้นพลังได้แต่อีกฝ่ายไม่สามารถใช้ได้ ผลการต่อสู้มันก็คาดเดาได้ง่ายๆ ว่าฝ่ายไหนจะเป็นฝ่ายชนะ ฝ่ายที่ใช้น้ำพลังปราณได้ต้องชนะแน่นอน 100%

“ไม่ พวกเราจะไม่โจมตีเอง เราจะให้ผู้บ่มเพาะระดับก่อเกิดและผู้บ่มเพาะระดับปฐพีรุมโจมตี ถ้ายังไม่สามารถทำลายได้ฉันก็จะติดต่อไปที่ต่างประเทศ และบอกพวกเขาว่า ‘ถ้าทำลายสิ่งที่ห่อหุ้มบ้านของหยางเฟยได้ ตระกูลเฉินจะย้ายไปอยู่ประเทศของคุณ’”

ผู้นำตระกูลเฉินพูด ตระกูลเฉินมีชื่อเสียงมากในสังคมการบ่มเพาะของโลกใบนี้ ถ้าตระกูลเฉินบอกว่าจะย้ายประเทศผู้นำตระกูลเฉินเชื่อว่า ทุกประเทศบนโลกต้องต้อนรับพวกเขาแน่นอน เพราะเมื่อพวกเขามีตระกูลเฉินอยู่ในประเทศ อำนาจทางทหารของประเทศนั้นๆ ก็จะเพิ่มขึ้น

“ตกลง”

“เห็นด้วย”

“จัดการเลย”

ผู้นำตระกูลบ่มเพาะคนอื่นๆ ยอมรับแผนของผู้นำตระกูลเฉิน