ตอนที่แล้วย้อนเวลาเขย่าจักรวาล 2005 ตอนที่ 9 เวลา 1 วัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปย้อนเวลาเขย่าจักรวาล 2005 ตอนที่ 11 มีร้อยชีวิตก็ไม่พอ

ย้อนเวลาเขย่าจักรวาล 2005 ตอนที่ 10 จุดจบ


ตอนที่ 10 จุดจบ

“ตำรวจมาแล้ว!!!”

เสียงผู้ชายตะโกนขึ้น หลังจากเสียงตะโกนดังขึ้นตำรวจประมาณ 10 คน ก็ปรากฏตัวที่หน้าประตูเข้าออกของธนาคาร คนที่ขวางทางพวกตำรวจอยู่หลีกทางให้ทันที ตำรวจที่เดินอยู่ด้านหน้าสุดคือตำรวจรูปร่างสมส่วน อายุประมาณ 50 ปี แบบผู้จัดการธนาคาร ตำรวจที่เดินอยู่ด้านหน้าสุดคือผู้กำกับของเขตนี้ และเขาคนนี้ก็คือเพื่อนของผู้จัดการธนาคาร

หลังจากผู้กำกับเดินเข้าธนาคาร ใบหน้าของเขาก็เริ่มจริงจังขึ้นมา ตอนที่ได้รับแจ้งเขาคิดว่าจะมีคนแค่ไม่กี่คนที่กำลังทวงเงินประกันชีวิต เขาคิดว่ามาพูดนิดๆข่มขู่หน่อยๆ ก็คงสามารถจบเรื่องนี้ได้ แต่หลังจากเขาเห็นคนจำนวนมากในธนาคารเขาก็รู้ว่าเรื่องนี้คงไม่ง่ายแบบที่คิด

‘ให้ตายสิ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เฮ้อ~’

ผู้กำกับคิดในใจเงียบๆ เขาช่วยผู้จัดการธนาคารปิดเรื่องเงินปรกันชีวิตมาแล้วหลายครั้ง เขาเลยรู้ว่าผู้จัดการธนาคารพยายามโกงเงินประกันชีวิต แต่ว่า เขาเองก็ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้เช่นกันเขาเลยเงียบเอาไว้ ทุกที่เขาจัดการปิดเรื่องให้ ผู้จัดการธนาคารก็จะให้เงินให้เขาครั้งละ 10,000 หยวน เขาเลยทำเป็นมองไม่เห็นสิ่งที่ผู้จัดการธนาคารกำลังทำ

ผู้กำกับหยุดที่ใจกลางห้อง จากนั้นเขาก็พูดว่า

“ทุกคนหันมาทะ- เอ่ะ!?!?!?”

ก่อนที่พูดกำกับจะพูดจบเขาก็หยุดไป เหตุผลที่เขาหยุดไปก็เพราะว่าเขาเห็นชายอ้วนที่ยืนอยู่ข้างๆ ผู้จัดการธนาคาร เมื่อเช้านี้ผู้กำกับได้รับคำสั่งว่า ห้ามยุ่งกับคนในรูป! และคนในรูปก็คือชายอ้วนที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ ผู้จัดการธนาคาร

“ผู้กำกับคุณช่วย-”

“ไปจับผู้จัดการธนาคาร!!”

ก่อนที่ผู้จัดการธนาคารจะพูดจบ ผู้กำกับก็ขัดขึ้นก่อน

เมื่อได้รับคำสั่งพวกตำรวจก็ทำตามคำสั่งทันที พวกเขาตรงไปทางผู้จัดการธนาคารและจับเขาใส่กุญแจมืออย่างรวดเร็ว

“???” ผู้จัดการธนาคารทำอะไรไม่ถูก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องมันถึงได้เป็นแบบนี้ เพื่อนของเขาควรช่วยเขาสิ ทำไมเพื่อนของเขาถึงสั่งให้ลูกน้องจับเขาล่ะ? นี่มันอะไร?

ในหัวของผู้จัดการธนาคารเต็มไปด้วยความสงสัย ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ถูกเลย

“เดี๋ยวก่อน!!”

หยางเฟยหยุดพวกตำรวจเอาไว้

ตำรวจที่โดนหยุดหันมองไปทางหยางเฟย ไม่สิ! ตอนนี้คงที่หันมองไปทางหยางเฟยไม่ใช่แค่ตำรวจที่โดนหยุดเอาไว้เท่านั้น แต่เป็นทุกคนที่อยู่ในธนาคาร ทุกคนที่อยู่ในธนาคารต่างก็มองไปทางหยางเฟย

หยางเฟยพูดต่อ

“ถ้าพวกคุณเอาตัวผู้จัดการธนาคารไปสถานีตำรวจ ใครจะจ่ายเงินให้พวกเรา”

“นักเรียนคนนี้พูดถูก”

“ใช่ๆ ให้ผู้จัดการธนาคารจ่ายเงินมาก่อน พวกคุณค่อยเอาตัวเขาไปสถานีตำรวจ”

“จ่ายเงินมา!!”

“จ่ายมา!!”

กลุ่มคนเห็นด้วยกับหยางเฟยทันที พวกเขาไม่ใช่คนโง่ พวกเขารู้ดีว่าถ้าผู้จัดการธนาคารโดนเอาตัวไปพวกเขาก็คงไม่ได้เงินอีก พวกเขาจึงเห็นด้วยกับคำพูดหยางเฟย

“ทุกคนใจเย็นก่อน กฎหมายมีขั้นมีตอน พวกคุณได้เงินแน่แต่มันต้องเป็นขั้นเป็นตอน”

ผู้กำกับพูด

“จ่ายเงินซะ”

เสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงที่ดังขึ้นคือเสียงของชายอ้วนที่แต่งตัวแปลกๆ

ทันทีที่ได้ยินชายอ้วนพูดออกมา ผู้กำกับก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก อำนาจของเขาไม่สามารถต่อกรกับรัฐบาลกลางได้ ถ้ารัฐบาลกลางต้องการปลดเขาออกจากตำแหน่งรัฐบาลกลางก็สามารถทำได้เงินง่ายๆ ถ้าเขาทำให้ชายอ้วนที่เป็นคนของรัฐบาลกลางไม่พอใจ เขาต้องซวยแน่ๆ

ผู้กำกับหันไปทางผู้จัดการธนาคาร จากนั้นก็พูดว่า

“จ่ายเงินซะ”

ผู้กำกับพูดใส่ผู้จัดการธนาคาร ใบหน้าของเขาจริงจังมาก

ผู้จัดการธนาคารไม่ใช่คนโง่ เมื่อเห็นว่าเพื่อนของเขาแสดงท่าทางแตกต่างไปจากเดิมเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าสถานการณ์ตอนนี้มันซับซ้อนกว่าที่เขาคิด ผู้จัดการธนาคารมองไปทางหยางเฟย เขาคิดว่าเหตุผลที่เพื่อนของเขาเปลี่ยนไปมันต้องเป็นเพราะเด็กอายุ 18 ปี คนนี้แน่ๆ

‘เด็กนี่มันเป็นใครว่ะเนี้ย ข้อมูลของมันเขียนเอาไว้ว่ามันเป็นแค่เด็กกำพร้าที่โดนรับเลี้ยงไม่ใช่เหรอ ทำไมคนระดับผู้กำกับถึงกลัวมัน???

ผู้จัดการธนาคารคิดในใจ

“ผมจำได้แล้ว”

หยางเฟยพูดด้วยน้ำเสียงจำอะไรได้

ทุกคนหันมองไปทางหยางเฟยอีกครั้ง พวกเขาอยากรู้ว่าครั้งนี้หยางเฟยจะพูดอะไรออกมาอีก สิ่งที่หยางเฟยพูดออกมามันมีแต่เรื่องที่ทำให้สถานการณ์สนุกขึ้นทั้งนั้น

“เมื่อวานผมไปกินข้าวที่ร้านอาหาร ผมเห็นคุณกินข้าวอยู่กับผู้จัดการธนาคารและผู้จัดการธนาคารก็ส่งซองสีขาวให้คุณ”

หยางเฟยชี้ไปทางผู้กำกับ

“???” ผู้กำกับทำหน้าสงสัย เมื่อวานนี้เขากินข้าวอยู่บ้านทำไมเด็กนี้ถึงบอกว่าเห็นเขาอยู่กับผู้จัดการธนาคาร แถมยังบอกว่าเห็นผู้จัดการส่งซองสีขาวๆ ให้เขาอีก ใส่ร้าย! นี่มันใส่ร้ายชัดๆ!

“นายพูดอะไรออกมา พ่อแม่ของนักเรียนคนนี้อยู่ไหน”

ผู้กำกับพูด

“ตายแล้ว”

หยางเฟยตอบ

“…ครั้งนี้ฉันจะทำเป็นไม่ได้ยินก็แล้วกัน นายควรรู้เอาไว้ว่าพูดอะไรต้องมีหลักฐาน ถ้าไม่มีหลักฐานคำพูดของนายมันก็คือคำโกหก”

ผู้กำกับสั่งสอน ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติเขาคงสั่งให้ลูกน้องจับตัวหยางเฟยไปที่สถานีตำรวจ แล้วก็ให้ตำรวจใช้หมัดกับตีนปรับทัศนคติสักหน่อย แต่สถานการณ์ตอนนี้มันไม่ปกติ เขาเลยยอมมองผ่านเรื่องนี้

“แต่ผมเห็นจริงๆ… แล้วซองสีขาวมันก็หนามากด้วย…”

หยางเฟยพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ

“หรือว่าจะเป็นสิ่งนั้น…”

“น่าจะใช่ ฉันเคยไปแจ้งตำรวจเรื่องผู้จัดการธนาคารไม่ให้เงินประกันชีวิต แต่คดีไม่ไปไหนเลย พอไปถามตำรวจก็บอกว่าสืบอยู่”

“เหมือนกัน ผมก็ไปแจ้งตำรวจแล้วคดีไม่ไปไหนเหมือนกัน พอไปถามตำรวจก็บอกว่าสืบอยู่”

“ไม่แปลกใจเลยมันเป็นแบบนี้นี่เอง ผู้กำกับ กับ ผู้จัดการธนาคาร มันรวมหัวโกงพวกเรา”

“ต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกนักข่าว ไม่สิ! ก่อนจะเอาเรื่องนี้ไปบอกนักข่าวเราต้องขวางพวกตำรวจเอาไว้ ถ้าพวกตำรวจเอาตัวผู้จัดการธนาคารไป ใครจะจ่ายเงินให้เรา”

“ใช่ๆ ขวางประตูเอาไว้!!”

“ไปขวางประตูไว้!! ใครมีเบอร์นักข่าวบ้าง?”

“ฉันมี!!”

“โทรหานักข่าวเลย”

กลุ่มคนในธนาคารพูดคุยกัน บางคนก็ขวางประตู บางคนก็โทรหานักข่าว บางคนก็ขวางทางตำรวจเอาไว้ ในตอนนี้ คนที่เคลื่อนไหวไม่ได้มีแค่คนที่มาทวงเงินประกันเท่านั้น แต่คนที่ดูอยู่ก็เคลื่อนไหวเช่นกัน  คนที่ดูอยู่เคลื่อนไหวก็เพราะว่า พวกเขาไม่ชอบการกระทำเหี้xๆ ของ ผู้กำกับ และ ผู้จัดการธนาคาร

หยางเฟยหันไปทางชายอ้วน จากนั้นก็ถามว่า

“จัดการที่เหลือได้ไหม?”

“ได้ครับ”

ชายอ้วนตอบแบบไม่ลังเล ตอนนี้ชายอ้วนก็เหมือนกันคนอื่นๆ เขาไม่ชอบการกระทำเหี้xๆ นี้เหมือนกัน ตำรวจที่เป็นโจรในเครื่องแบบแบบนี้มันต้องถูกลงโทษ

“พ่อ และ แม่ ของผู้จัดการธนาคารใช้เงินของผู้จัดการธนาคาร ลูก และ เมีย ของผู้จัดการธนาคารก็ใช้เงินของผู้จัดการธนาคารเหมือนกัน คุณเข้าใจสิ่งที่ผมพูดไหม”

หยางเฟยพูด

“ครับ ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เงินทั้งหมดของผู้จัดการธนาคารจะถูกยึด เงินทั้งหมดของพ่อและแม่ของผู้จัดการธนาคารจะถูกยึด เงินทั้งหมดที่เมียและลูกของผู้จัดธนาคารมีอยู่จะถูกยึด”

ชายอ้วนพูด

“แค่ผู้จัดการ?”

หยางเฟยถาม

“…ผู้กำกับด้วยครับ”

ชายอ้วนพูดแบบไม่เต็มใจ ผู้จัดการธนาคารเป็นเพียงพนักงานธนาคารเขามีเส้นสายแค่ในธนาคาร และนอกธนาคารนิดหน่อย แต่ผู้กำกับไม่ใช่ ผู้กำกับมีเส้นสายมากมาย เงินที่ผู้กำกับได้มันโดนส่งเป็นทอดๆ ถ้าเขาเลือกจัดการกับผู้กำกับ เขาจะต้องจัดการเส้นสายของผู้กำกับด้วย

และถ้าเขาจัดการกับเส้นสายของผู้กำกับ มันก็ไม่ต่างจากการกวาดล้างเมืองทั้งเมือง เพราะเส้นสายของผู้กำกับมันฝังตัวอยู่ทั่วทั้งเมือง มันต้องเป็นเรื่องที่ปวดหัวมากๆ แน่ แต่ถ้าเอาเรื่องกวาดล้างไปเปรียบเทียบกับเรื่องดาวเทียมทั้งหมดตก เรื่องกวาดล้างปวดหัวน้อยกว่าหลายเท่า

หยางเฟยไม่พูดอะไรอีก เขาเดินออกจากธนาคารทันทีหลังจากบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการ

“หยางเฟย!!”

เมื่อหยางเฟยเดินออกจากธนาคารได้ประมาณ 10 ก้าว เสียงผู้หญิงก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของเขา หยางเฟยหันมองไปทางด้านหลังของเขา เมื่อเห็นคนที่อยู่ด้านหลังหยางเฟยก็มีคำว่า ‘ใครว่ะ’ ดังขึ้นในหัวของเขา

ผู้หญิงที่เรียกหยางเฟยคือผู้หญิงอายุประมาณ 18 ปี ผมยาวสีดำ รูปร่างดี หน้าอกขนาดพอดีไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป ผิวสาวขาวเรียบเนียน สรุปสั้นๆ คือ เธอคือคนที่สวยมาก

หยางเฟยพยายามนึกว่าเธอคือใคร แต่นึกเท่าไหร่เขาก็นึกไปออก เมื่อนึกไม่ออกเขาก็เรียกใข้งานอลิสโดยใช้ความคิดของเขา เขาบอกให้อลิสหาข้อมูลของผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าของเขา

[ชื่อ : จางถงถง]

[อายุ : 18 ปี 1 เดือน 12 วัน]

[น้ำหนัก : 48 กิโลกรัม]

[ส่วนสูง : 168 เซนติเมตร]

[สถานะ : เพื่อนร่วมชั้นของโฮสต์]

หน้าต่างสี่เหลี่ยมปรากฏต่อหน้าของหยางเฟย

หลังจากอ่านข้อมูลหยางเฟยก็รู้ว่าเขากับเธอมีความสัมพันธ์ยังไง เขาพูดว่า

“เธอมาทำอะไรที่นี่”

“ฉันพาแม่มาทวงเงินประกันชีวิตของพ่อ พวกเรามาที่นี่รอบที่ 7 แล้ว”

จางถงถงตอบ

“ออ~ ตอนนี้เธอว่างไหม?”

หยางเฟยถาม

“ก็… ก็น่าจะว่าง”

จางถงถงตอบ เธอคิดว่าตอนนี้เธอน่าจะว่างเพราะตอนนี้เธอไม่มีธุระอะไร

“ไปกินไก่ทอด KFG กัน ฉันเลี้ยงเอง”

หยางเฟยชวน

“ตอนนี้เลยเหรอ”

จางถงถงแปลกใจ ในความทรงจำของเธอหยางเฟยเป็นคนเงียบๆ เธอจำได้ว่า ตั้งแต่เปิดเทอมเธอคุยกับเขาไม่กี่ครั้งเอง เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะชวนเธอไปกินไก่ทอด KFG ที่มีราคาโครตแพง

จริงๆ แล้ว จางถงถงอยากกินไก่ KFG ที่ราคาโครตแพงมานานแล้ว แต่ที่บ้านของเธอกำลังมีปัญหาเรื่องเงินเธอเลยยังไม่เคยกิน ถ้าไม่ใช่เพราะต้องรักษามารยาท เธอคงตอบว่า ‘ไปค่ะ’ ทันทีที่โดนถาม

“ใช่”

หยางเฟยตอบ

“ตกลง”

จางถงถงตอบตกลง

หลังจากนั้น ชาย 1 หญิง 1 ก็เดินไปที่ร้านไก่ KFG

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด