ตอนที่แล้วระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 144 ไฟแค้นของจู๋เฟย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 146 ตามหาช่างตีเหล็กขั้นปรมาจารย์

(ฟรี) ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 145 ภารกิจตามหาโอสถ


เมื่อชิงอี้มองไปตามทิศทางนั้น นางก็รู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย

‘เหมียว…’

“เจ้าไม่เคยเห็นแมวมาก่อนหรือ?” ชิงอี้ไม่รู้จะตอบคำถามของเขาอย่างไร แมวนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงทั่วไปที่ศิษย์หญิงหลายคนจากนิกายกระบี่ล่องนภาเลี้ยงไว้เคียงข้าง ขณะที่บ่มเพาะ นางไม่รู้จริง ๆ ว่าฉู่หยางไม่รู้หรือแกล้งโง่

“ข้าไม่ได้หมายถึงแมว! ข้าหมายถึงรูปปั้นที่แมวนั่งอยู่ต่างหาก!” ฉู่หยางรีบพูดแก้ต่าง ก่อนที่ชิงอี้จะหันกลับไปมองอีกครั้ง

รูปปั้นเป็นสิ่งที่มักจะรายเรียงตามหน้าอาคารต่าง ๆ หรือท้องถนน รูปปั้นนั้นมักจะเป็นรูปอสูรในตำนานและอสูรที่ทรงพลัง

รูปปั้นนั้นมีไว้เพื่อแสดงให้เห็นถึงอสูรตัวแรกหรือตัวที่แข็งแกร่งที่สุดที่เจ้าของเคยได้สังหาร มันถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่บ่งบอกสถานะของผู้คนในนิกายกระบี่ล่องนภา

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะมีรูปปั้นเช่นนี้ ยกตัวอย่างเช่นเซวียนห่าวและเฟิงเฉิน พวกเขาทั้งสองก็ไม่มีรูปปั้นหน้าตำหนักเช่นกัน

ที่หน้าตำหนักของจู๋เฟยเองก็มีรูปปั้นอสูรหมาป่าเช่นกัน มันคือสัญลักษณ์ของอสูรตัวแรกที่นางเคยสังหาร แต่น่าเสียดายที่มันต้องพังทลายไปพร้อมกับการต่อสู้ก่อนหน้านี้...

แต่อย่างไรก็ตาม รูปปั้นตรงหน้าของฉู่หยางและชิงอี้นี้ไม่ใช่รูปปั้นอสูรที่ทรงพลังเช่นมังกรหรือวิหคเพลิง มันเหมือนแมวที่ตัวใหญ่กว่าแมวบ้านทั่วไป...

รูปปั้นแมวนี้ไม่ได้ดูน่ากลัวเท่าใด ในทางกลับกัน มันกลับดูน่ารักเสียด้วยซ้ำ

“ข้าเองก็ไม่รู้… มันอาจจะเป็นแมวตัวใหญ่ก็ได้? บางทีเราควรลองถามเจ้าของดูว่ามันเป็นอย่างไร” ชิงอี้ไม่รู้จักแมวยักษ์เช่นเดียวกับในรูปปั้น นางจึงจะเดินเข้าไปในตำหนักที่มีรูปปั้นอยู่ข้างหน้า

ฉู่หยางไม่ได้คัดค้านชิงอี้และรีบตามนางไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ชิงอี้โน้มตัวไปข้างหน้าและเคาะประตู

ก๊อกก๊อก!

เสียงนั้นสะท้อนออกมาและในไม่ช้าก็ได้ยินเสียงใครบางคนจากด้านหลังประตู ก่อนที่ประตูจะเปิดออก ชิงอี้และฉู่หยางรออย่างอดทน ขณะที่สาวน้อยอายุประมาณสิบสามปีชะโงกหัวออกมาจากประตู

“พวกเจ้าต้องการสิ่งใด?” เมื่อมองดูสาวน้อยตรงหน้าอย่างใกล้ชิด ฉู่หยางและชิงอี้ก็สังเกตว่าตาของสาวน้อยผู้นี้เริ่มเป็นสีแดงและรูจมูกของนางก็มีน้ำมูกไหลออกมา

จากสิ่งที่เห็น สาวน้อยผู้นี้กำลังป่วย ฉู่หยางและชิงอี้ต่างก็มึนงง สำหรับผู้ฝึกตนเช่นพวกเขา การเจ็บป่วยมักจะไม่เกิดขึ้น ยกเว้นว่าจะถูกพิษหรือสิ่งที่คล้ายคลึงเช่นการกินสมุนไพรผิดวิธี...

สาวน้อยผู้นี้เป็นผู้ฝึกตนแน่นอน! แม้ว่านางจะอยู่แค่ขอบเขตรวมปราณ แต่นางก็ยังเป็นผู้ฝึกตน แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่นางจะเจ็บป่วยเช่นคนธรรมดา!

“พวกเราขอถามเจ้าได้หรือไม่ รูปปั้นอสูรตรงหน้าตำหนักนั้นเป็นอสูรประเภทใดกัน?” เมื่อเห็นสาวน้อยกำลังจะถอยกลับเข้าไปในตำหนัก ชิงอี้ก็รีบโบกมือเผยให้เห็นว่านางไม่ได้มาทำอันตรายใด ๆ

“ข้าเข้าใจแล้ว… ข้- ข้าขอให้เจ้าช่วยหาโอสถให้ข้าเป็นการตอบสำหรับการบอกว่ารูปปั้นแมวเงานั้นเป็นอสูรชนิดใดได้หรือไม่?” นางไม่รู้ตัวว่าตนนั้นได้เอ่ยถึงชื่อของอสูรไปแล้ว นางจ้องมองไปที่ชิงอี้อย่างมีความหวัง

“แน่นอน… เราจะหาโอสถของเจ้าได้ที่ใดหรือ?” ชิงอี้ไม่กล้าปฏิเสธคำขอของสาวน้อยน่ารักที่อยู่ตรงหน้านาง แม้ว่าจะรู้ชื่อของอสูรแล้วก็ตาม ชิงอี้ตอบรับคำขอทันที

“ขอบคุณเจ้ามาก! เข้าต้องไปหาท่านปู่ซ่ง ปกติแล้วเขาจะเป็นผู้ส่งโอสถให้แก่ข้า แต่วันนี้เขากลับยังไม่มา… ข้าคาดว่ามันต้องเป็นเพราะกระบี่ใหญ่ยักษ์ที่ปรากฏเหนือยอดเขาของผู้อาวุโสจู๋เฟยเป็นแน่!” สาวน้อยออกมาจากประตูและเริ่มพูดถึงสถานที่ที่สามารถหาโอสถของนางได้ แต่เมื่อนางพูดถึงท่านปู่ของนาง สาวน้อยก็เริ่มพูดถึงการต่อสู้ก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้นบนของยอดเขารองจ้าวนิกาย นางใช้มือเล็ก ๆ ของนางอธิบายถึงความใหญ่ของกระบี่ที่นางกล่าว

“แล้วเราจะไปหาท่านปู่ซ่งได้ที่ใด” ชิงอี้พยายามดึงสาวน้อยให้กลับมาหัวข้ออีกครั้ง ก่อนที่สาวน้อยจะทันได้พูดถึงดอกบัวขนาดใหญ่

“หืม… เจ้าลองไปที่โถงผู้อาวุโส ท่านปู่ซ่งมักจะเล่นหมากรุกกับสหายของเขาในตอนที่ไม่ได้ทำงาน” สาวน้อยชี้ไปทิศทางของอาคารสูงที่ตั้งอยู่ใจกลางนิกาย ก่อนที่นางจะครุ่นคิดและกล่าวอีกครั้ง

“หากเขาไม่อยู่ที่นั่น เจ้าต้องถามผู้อาวุโสเขมือบมาร เขามักจะเล่นหมากรุกกับท่านปู่ซ่งและน่าจะรู้ว่าท่านปู่ซ่งอยู่ที่ใด เมื่อเจ้านำโอสถมาให้ข้าแล้ว ข้าก็จะบอกเจ้าเกี่ยวกับรูปปั้น!” เมื่อพูดจบ สาวน้อยก็รีบวิ่งกลับเข้าไปในตำหนัก ทิ้งให้ฉู่หยางและชิงอี้ตกอยู่ในความสงสัย

‘ผู้ใดกันที่ถูกสาวน้อยเรียกว่าผู้อาวุโสเขมือบมาร?’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด