ตอนที่แล้วตอนที่ 3 ซากวิหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 5 เนื้อร้ายติดกระดูก

ตอนที่ 4 ก้าวข้าม


ประตูเมืองผิงหยินถูกปิดไว้จึงยังไม่สามารถเข้าเมืองได้ โชคดีที่มีพ่อค้าจากเมืองอื่นมาที่นี่ เพราะยังไม่สามารถเข้าเมืองได้พวกเขาจึงตั้งค่ายอยู่ด้านนอก

เฉินเฟยนั่งอยู่ข้างกองไฟ พอได้ยินเสียงจากรอบข้างอารมณ์ประหม่าจึงผ่อนคลายลง

วันนี้เกิดอะไรหลายอย่าง หากไม่ใช่เพราะทะลวงระดับจึงแข็งแกร่ง ตอนนี้เฉินเฟยคงนอนตัวตรงอยู่บนภูเขาผิงหยิน

พอคิดได้ดังนั้นจึงอดอดดูแผงระบบไม่ได้

[ชื่อ: เฉินเฟย]

[อาชีพ: นักยุทธ์]

[วิชายุทธ์: หมัดจีซาน(เชี่ยวชาญ307/1000), วิธีหายใจจีซาน(รู้แจ้ง)]

[ระดับ: ขัดเกลาผิวหนัง(2/1000)]

หมัดจีซานถึงระดับเชี่ยวชาญ ความเข้าใจวิชาหมัดปรากฏในใจเฉินเฟย พูดได้คำเดียวว่าฟังก์ชั่นทำให้เป็นแบบง่ายนี้ทรงพลังอย่างยิ่ง

“ความก้าวหน้าระดับขัดเกลาผิวหนังไม่เปลี่ยนแปลง”

เฉินเฟยขมวดคิ้วเมื่อเห็นการบ่มเพาะของตัวเอง ก่อนหน้านี้วิธีหายใจจีซานระดับรู้แจ้งเพิ่มการบ่มเพาะได้ประมาณสิบคะแนน แต่ผ่านมาแล้วครึ่งวันมันเพิ่มเพียงหนึ่งคะแนน

“ระดับก้าวหน้าขึ้นวิธีหายใจจีซานเลยล้าหลัง?”

เฉินเฟยเกิดความคิดนี้ในใจ หลังคิดอยู่พักหนึ่งจึงคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ ท้ายที่สุดวิธีหายใจเป็นเพียงวิชาพื้นฐานที่สอนให้ศิษย์สำนักหมัด

หากเป็นวิธีหายใจขั้นสูง ค่าเล่าเรียนจะมีเพียงเล็กน้อยได้อย่างไร

“ลองสังเกตสักสองสามวันก่อน จะได้รู้ว่าวิธีหายใจจีซานเพิ่มการบ่มเพาะมากแค่ไหน”

เฉินเฟยลืมตาค้างไม่ยอมหลับ แม้จะอยู่ที่เชิงเขาผิงหยินแต่ยังไม่กล้าหลับ เฉินเฟยไม่ปล่อยให้เวลาเสียเปล่าและนั่งโบกมือไปมาอยู่ข้างกองไฟ

ขณะที่เฉินเฟยโบกมือความเข้าใจหมัดจีซานก็เพิ่มขึ้นในใจ การทำงานหนักและได้รับผลตอบแทนเช่นนี้ทำให้เฉินเฟยหยุดทำไม่ได้

คนรอบข้างมองเฉินเฟยด้วยสายตาแปลกๆ พวกเขาคิดไม่ออกเลยว่าชายหนุ่มข้างกองไฟคนนั้นโบกมือตลอดเวลาทำไม ป่วยหรือเปล่า?

พอเห็นแบบนั้นบางคนจึงถอยห่างจากเฉินเฟยเล็กน้อย

เวลามักจะผ่านไปเร็วเสมอเมื่อคนเราหมกมุ่นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง พริบตาเดียวฟ้าก็สว่าง ประตูเมืองผิงหยินเปิดออก

เฉินเฟยตามฝูงชนเข้าไปในอำเภอผิงหยินแล้วรีบไปยังศูนย์การแพทย์

“หมายความว่าเมื่อคืนเจ้าเป็นคนเดียวที่รอดมาได้ ส่วนคนอื่นตายหมด?” ชุยซานเจียมองเฉินเฟยด้วยใบหน้าน่าเกลียด

แม้คนรับใช้จะไร้ค่าแต่พวกเขายังเป็นทรัพย์สินของศูนย์การแพทย์ ตอนนี้มีคนตายมากกว่าสิบและที่สำคัญคือสมุนไพรไม่ถูกเก็บกลับมา มันจึงเป็นเรื่องลำบากสำหรับศูนย์การแพทย์

หากผู้นำถามเขา เกรงว่าเขาต้องรับผิดชอบ

“ข้าไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นหรือตาย แต่เมื่อคืนข้าไม่เห็นคนอื่นที่ประตูเมือง” เฉินเฟยตอบเสียงเบา

“ในเมื่อคนอื่นตายหมด แล้วทำไมเจ้าถึงรอดกลับมา?” เสียงแหบพร่าดังขึ้น

เฉินเฟยหันมอง เห็นว่าเป็นผูเหลียวผู้คุ้มกันของศูนย์การแพทย์ เฉินเฟยจึงกุมมือพูด “ทะลวงระดับเล็กน้อยอย่างขัดเกลาผิวหนังจึงหนีรอดมาได้”

ขณะที่เฉินเฟยพูดก็ชกหมัดออกไปจนเกิดเสียง

สีหน้าคนรอบข้างเปลี่ยนไปเล็กน้อย พลังหมัดแบบนี้คนธรรมดาสู้ไม่ได้แน่นอน สิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจคือใครบางคนในหมู่คนรับใช้ยกระดับการบ่มเพาะสู่ระดับขัดเกลาผิวหนัง

แม้ระดับขัดเกลาผิวหนังจะไม่ควรค่าให้พูดถึง แต่มันเหนือกว่าคนธรรมดาอยู่ดี หากไร้พรสวรรค์ด้านวรยุทธ์ในระดับหนึ่ง การบรรลุถึงขั้นนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้

สำหรับระดับขัดเกลาผิวหนัง หากระวังตัวให้ดีจะสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งแปลกประหลาดบางอย่างได้

“ดี”

ชุยซานเจียพยักหน้าเล็กน้อย สีหน้าของเขาผ่อนคลายลง คนรับใช้ระดับเกลาผิวหนังชดเชยการสูญเสียคนรับใช้ได้เล็กน้อย ท้ายที่สุดแล้วคนรับใช้ยังสามารถรับสมัครได้ แต่การรับสมัครนักยุทธ์ขัดเกลาผิวหนังเป็นเรื่องยากกว่า มูลค่าของทั้งสองต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ข้าจะรายงานเรื่องนี้ให้ท่านผู้นำทราบ ส่วนเจ้า ต่อจากนี้ให้เป็นผู้คุ้มกันศูนย์การแพทย์”

ชุยซานเจียหันไปหาผูเหลียว “หลังออกจากสถานะคนรับใช้ เจ้ามีคุณสมบัติในการสัมผัสวิชามรดกของศูนย์การแพทย์ชิงเจิ้นเช่นกัน ผูเหลียวเจ้าสอนวิชาบ่มเพาะกับวิชาต่อสู้ของเราให้เขาสักสองสามครั้งแล้วกัน”

“ได้!” ผูเหลียวพยักหน้าแล้วมองเฉินเฟยโดยไม่พูดอะไรอีก

เฉินเฟยอดยิ้มไม่ได้ ก่อนกลับมาเฉินเฟยพิจารณาว่าจะอยู่ศูนย์การแพทย์ชิงเจิ้นหรือไปสำนักหมัดจีซาน

หลังเข้าสู่ระดับขัดเกลาผิวหนังเฉินเฟยจึงมีสิทธิ์เลือก

สิ่งเดียวที่ต้องพิจารณาคือข้อดีและข้อเสียของทั้งสอง

การอยู่ในศูนย์การแพทย์ชิงเจิ้งสามารถรับวิชามรดกของศูนย์การแพทย์ แม้ว่าจะไม่ก้าวหน้าอย่างแน่นอนแต่ยังดีกว่าวิธีหายใจจีซาน

แต่การอยู่ในศูนย์การแพทย์ชิงเจิ้งจะทำให้มีสถานะเป็นคนรับใช้เหมือนเดิมและอิสระอยู่ภายใต้ข้อจำกัด

หากไปสำนักหมัดจีซานจะมีอิสระ วิชามรดกของที่นั่นไม่น่าด้อยกว่าศูนย์การแพทย์ แต่การออกจากศูนย์การแพทย์ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการยกเลิกสัญญาที่สูงลิ่ว

เฉินเฟยใช้เวลาเกือบสี่เดือนถึงเข้าสู่ระดับขัดเกลาผิวหนัง พรสวรรค์แบบนี้อยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น สำนักหมัดจีซานไม่ยอมจ่ายค่ายกเลิกสัญญาให้เฉินเฟยแน่นอน และเฉินเฟยไม่มีเงินเช่นกัน

เหตุผลที่เฉินเฟยตัดสินใจอยู่ในศูนย์การแพทย์คือเขาสามารถเรียนรู้ทักษะการแพทย์และการหลอมโอสถในศูนย์การแพทย์ได้ สิ่งนี้เป็นเรื่องที่เฉินเฟยให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

หลังชุยซานเจียและผูเหลียวถามเฉินเฟยอีกสองสามคำถามก็จากไป

“ช่วงนี้ข้าไม่ค่อยมีเวลา หลังจากนี้อีกสองสามวันเจ้าค่อยมาหาข้า ถ้าว่างข้าจะสอนวิชาให้”

ผูเหลียวเดินไปหาเฉินเฟยแล้วพูดชัดถ้อยชัดคำ จากนั้นหันหลังจากไป

หลังทุกคนออกไปเฉินเฟยก็ถอนหายใจโล่งอก ถ้าเขาไม่ได้อยู่ในระดับขัดเกลาผิวหนังคงไม่รอดจากการโดนเฆี่ยนตีและดุด่าแน่นอน

แต่เพราะตัวเขามีคุณค่าจึงรอดการจากโดนสิ่งเหล่านั้น

ศูนย์การแพทย์จัดห้องแยกต่างหากให้ แม้ห้องจะเล็ก แต่เมื่อเทียบกับห้องพักรวมอันเก่าแล้วเรียกได้ว่าอยู่คนละโลก เฉินเฟยค่อนข้างพอใจกับห้องนี้เพราะเมื่อเริ่มการบ่มเพาะจะได้ไม่ต้องกลัวโดนเปิดเผย

สามวันผ่านไปในพริบตา

นอกจากการยืนเฝ้าในห้องโถงศูนย์การแพทย์เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนสร้างปัญหา เฉินเฟยใช้เวลาส่วนใหญ่บ่มเพาะอยู่ในห้อง

สามวันเป็นเวลาที่ไม่นาน แต่นั่นมากพอที่เฉินเฟยจะฝึกหมัดจีซานถึงระดับรู้แจ้ง

ด้วยระดับขัดเกลาผิวหนังกับหมัดจีซานระดับรู้แจ้ง เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ พลังต่อสู้ในปัจจุบันของเฉินเฟยเพิ่มขึ้นมากกว่าครึ่ง แม้อยู่ในระดับขัดเกลาผิวหนังแต่พลังของเฉินเฟยก็ไม่แย่

ท้ายที่สุดไม่ใช่ขัดเกลาผิวหนังทุกคนจะฝึกวิชาหมัดพื้นฐานถึงระดับรู้แจ้ง

สิ่งเดียวที่ทำให้เฉินเฟยไม่พอใจคือการบ่มเพาะ ในสามวันนี้คะแนนขัดเกลาผิวหนังเพิ่มขึ้นเพียงสามคะแนน

หนึ่งวันเพิ่มหนึ่งคะแนน แถบขัดเกลาผิวหนังมีหนึ่งพันคะแนน หากใช้วิธีหายใจจีซานอย่างเดียวจะต้องใช้เวลาสามปีในการทะลวงระดับต่อไป