ตอนที่แล้วตอนที่ 28 ติดตาม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 30 กระดาษหนังวัว

ตอนที่ 29 เซียนชี้นำ


ตลอดช่วงกลางวัน อำเภอผิงหยินอยู่ในความสงบ

เฉินเฟยสับสนเล็กน้อย คนในที่ว่าการอำเภอไม่เชื่อข้อความของเขาหรือ?

เรื่องนี้อาจเป็นไปได้เพราะวิธีการลับๆล่อๆแบบนี้ได้รับความไว้วางใจจากผู้คนได้ยาก แต่อย่างน้อยที่ว่าการก็ควรส่งคนไปตรวจสอบสักหน่อย

หากตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนจริง อย่างน้อยคงได้เจอเงื่อนงำบางอย่าง

ตอนกลางวัน เฉินเฟยฝึกกระบี่เขาแกร่งและศึกษาสูตรโอสถจิตเบาเป็นครั้งคราวซึ่งเป็นการเปลี่ยนความคิดของตัวเอง

ส่วนสูตรโอสถจิตเบาที่ได้จากฉือเต๋อเฟิงนั้น ถ้าบอกว่ามันไร้ประโยชน์เลยคงพูดเกินจริงไปหน่อย แต่ถึงจะมีประโยชน์มันก็เป็นส่วนน้อยมาก

โชคดีที่เฉินเฟยมีระบบ หลังทำให้สูตรโอสถจิตเบาเป็นแบบง่ายเขาก็ได้รับวิธีหลอมโอสถจิตเบา

เมื่อเริ่มหลอมโอสถจะมีหลายสิ่งที่ต้องให้ความสนใจ และวิธีหลอมโอสถนี้จะถูกใช้ในการปรับแต่งในโอสถเตาหลอม

ดังนั้นวิธีหลอมโอสถจิตเบาจึงมีประโยชน์กับเฉินเฟย แต่เฉินเฟยยังต้องคาดเดาสมุนไพรในการหลอมโอสถเอาเอง

เฉินเฟยกำลังคิดว่าจะซื้อสูตรโอสถที่คล้ายกันอีกสองสามสูตร จากนั้นนำมาทำเป็นแบบบง่ายและดูว่าสามารถเพิ่มอะไรได้อีกหรือไม่

แต่น่าเสียดายที่เมื่อเทียบกับตำราวิชาแล้ว มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่มีสูตรโอสถ และไม่มีนักหลอกโอสถคนไหนยอมซื้อสูตรโอสถที่อธิบายไม่ได้

หากไม่มีการซื้อขายย่อมไม่มีใครรวบรวมสูตรโอสถ ตำราวิชาเหล่านั้นยังพอใช้อ่านแก้เบื่อได้ แต่สิ่งที่น่าเบื่ออย่างสูตรโอสถนำมาใช้แก้เบื่อไม่ได้ด้วยซ้ำ

ดังนั้นเวลาที่เฉินเฟยกำลังฝึกกระบี่ เขาจะนำโอสถจิตเบาที่หลอมเสร็จแล้วออกมาวิเคราะห์องค์ประกอบสมุนไพรในนั้น บางครั้งเขาจะลองหลอมสักสองสามเตาเพื่อดูผลลัพธ์

ตกกลางคืน เฉินเฟยฝึกซ้อมในลานบ้านที่เขาอาศัยอยู่

ลานนี้ไม่ใช่ที่เดิมเพราะซุนซู่รู้จักลานเก่าแล้ว เฉินเฟยไม่อยากอยู่แบบระแวดระวังตลอดเวลาดังนั้นจึงย้ายไปอยู่ที่อื่นเพื่อคลายความกังวล

เฉินเฟยถือกระบี่ยาวและเดินไปรอบลาน แสงกระบี่วาบผ่านโดยมีปราณกระบี่จางๆห่อหุ้ม

“ฆ่า!”

ทันใดนั้นมีเสียงดังมาจากระยะไกล เฉินเฟยหยุดมือและหันไปทางตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งกำลังเกิดไฟไหม้ เฉินเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย นั่นมันจุดที่พวกโจรภูเขาซ่อนตัวไม่ใช่หรือ?

“ที่ว่าการอำเภอน่าจะลงมือแล้ว!”

เฉินเฟยมองเปลวไฟในระยะไกล เสียงการต่อสู้ดังขึ้นเป็นระยะๆ แม้ว่าจะดังขึ้นเป็นช่วงๆแต่เฉินเฟยก็ได้ยินเสียงกรีดร้องทั้งหมด

นอกจากไฟที่อยู่ไกลออกไปแล้ว ไฟทุกดวงตามบ้านยังดับลง เห็นได้ชัดว่าการเคลื่อนไหวตรงนั้นทำให้คนธรรมดาหลายคนหวาดกลัว และตอนนี้พวกเขาไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่น้อย

“โจรภูเขาพวกนั้นฝ่าวงล้อมไปแล้ว!”

เฉินเฟยขมวดคิ้ว เสียงการต่อสู้ในระยะไกลเริ่มกระจายออกไปรอบด้าน เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้ที่ว่าการอำเภอปิดล้อมไม่สำเร็จ

เสียงการวิ่งไล่สังหารดังมาจากที่ไกลและใกล้เข้ามา โจรวิ่งมาทางด้านนี้โดยมีนักว่าการตามหลังมา เสียงค่อยๆจางหายไป ไม่รู้ว่าโจรโดนฆ่าไปหรือเป็นนักว่าการที่โดนฆ่า

ยังมีเสียงประปรายอยู่รอบด้านแต่มันก็เริ่มสงบลง เฉินเฟยเก็บกระบี่ยาวและกำลังจะกลับเข้าบ้าน ทันใดนั้นก็มีร่างสามร่างกระโดดเข้ามาจากนอกกำแพงลานบ้าน

ทั้งสามคนผงะเช่นกันเมื่อเห็นเฉินเฟยที่ลานบ้าน

“เป็นเขานี่เอง”

เมื่อเจี่ยนเหลียงเห็นเฉินเฟยเขาก็จำได้ทันทีว่าชายคนนี้คือหมอในตอนนั้น เขาไม่คิดเลยว่าจะพบเขาที่นี่ มันเป็นโชคชะตาที่แปลกประหลาดจริงๆ

“เจ้าเป็นใคร!”

เฉินเฟยก้าวถอยหลังอย่างกระวนกระวาย เขาเซล้มลงกับพื้นราวกับหวาดกลัวเกินไป

“ฆ่ามันซะ!”

เจี่ยนเหลียงออกคำสั่งจากนั้นหันกลับไปมองระวังนอกกำแพงลานบ้าน ถ้าข้างนอกมีปัญหาเขาจะได้หนีต่อ นักว่าการเหล่านั้นยังไล่ตามพวกเขามาอย่างใกล้ชิด

สำหรับความเมตตาของเฉินเฟยที่ช่วยเขาในตอนนั้น เจี่ยนเหลียงไม่ได้ใส่ใจเลย ครั้งก่อนที่ปล่อยพวกเขาไปเป็นการแทนคุณแล้ว เมื่อพบกันอีกครั้งเจี่ยนเหลียงก็ไม่คิดเปิดเผยตัวตนและฆ่าเขาโดยตรง

“ช่วย...ช่วย…”

ดูเหมือนว่าเพราะกลัวมากเกินไปเสียงของเฉินเฟยที่ขอความช่วยเหลือจึงแหบแห้งมาก โจรทั้งสองเย้ยหยันและเดินไปหาเฉินเฟย ใบดาบในมือฟันไปที่หัว

“ชึบ!”

เสียงอาวุธตัดเข้าไปในเนื้อดังขึ้น โจรทั้งสองตัวแข็งทื่อ พวกเขาเอามือปิดคอที่มีเลือดไหลออกมาอย่างบ้าคลั่ง มือของพวกเขาไม่สามารถหยุดเลือดที่ไหลออกมาได้เลย

“อ่อก...อ่อก..”

เสียงหายใจผสมเลือดดังออกมาจากปากของโจรทั้งสองแต่พวกเขาไม่สามารถพูดอะไรได้อีก ร่างทั้งสองล้มลงกับพื้นจนเกิดเสียงดัง

เจี่ยนเหลียงหันกลับมาและเห็นเฉินเฟยถือกระบี่ยาว ใบหน้าตื่นตระหนกเมื่อกี้หายไปนาน เหลือเพียงความนิ่งสงบเท่านั้น

เจี่ยนเหลียงมองคนทั้งสองที่ตัวกระตุกอยู่บนพื้น เขาหรี่ตาเงยหน้ามองเฉินเฟย “ไม่คิดเลยว่าข้าจะมองผิด!”

“ตอนนี้เจ้าเห็นชัดแล้ว” เฉินเฟยสบัดกระบี่ยาวในมือ เลือดบนกระบี่กระดอนออกไป

“บังอาจ!”

เจี่ยนเหลียงตะโกนด้วยความโกรธ ขณะที่ร่างเขาสั่นหายไปและมาปรากฏตรงหน้าเฉินเฟย ดาบในมือเขาก็กลายเป็นภาพลวงปรากฏที่คอเฉินเฟย

“เคร้ง!”

มีเสียงดาบปะทะกัน เฉินเฟยถอยหลังหนึ่งก้าว เจี่ยนเหลียงกำลังจะไล่ตามแต่กระบี่ยาวของเฉินเฟยแทงมาที่หน้าของเขา

“ชึบ!”

ปราณกระบี่พุ่งออกมา รูเลือดปรากฏบนแก้มเจี่ยนเหลียง เส้นผมบางเส้นถูกตัดลอยออกไป

เจี่ยนเหลียงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อกี้เขาเกือบโดนปราณกระบี่นี้แทงแล้ว หากไม่ใช่เพราะเขาพบสิ่งผิดปกติในช่วงสุดท้ายจึงหลบอย่างรวดเร็ว ในเวลานี้เขาคงตายแล้ว

หลังจากความกลัวคือความโกรธมหาศาล

ตอนแรกเป็นเพียงมดที่ถูกบีบตายคามือได้ง่าย ด้วยความเมตตาของตัวเองจึงไว้ชีวิตอีกฝ่าย แต่ตอนนี้เกือบถูกมันฆ่าตาย แล้วเจี่ยนเหลียงจะทนได้อย่างไร

“ตายซะ!”

เสียงคำรามดังขึ้น เส้นเลือดปรากฏขึ้นบนหน้าผากเจี่ยนเหลียง ใบดาบในมือเขาเหมือนกลายเป็นคลื่นสีเขียวพุ่งไปหาเฉินเฟย

“ตึง!”

คมดาบอยู่ตรงหน้ากระทบหน้าอกของเฉินเฟย เฉินเฟยลอยไปกระแทกผนังลานที่จนมุมปากหลั่งเลือด

“ข้าจะเฉือนเนื้อเลาะกระดูกเจ้าให้หมด!”

ดวงตาของเจี่ยนเหลียงเป็นสีแดง เลือดลมของเขาไหลเวียนไปจนสุดขีด เพียงไม่กี่ก้าวเขาก็มาอยู่ต่อหน้าเฉินเฟย ดาบเล่มนั้นฟันลงมาอีกครั้งและเหมือนจะเกิดคลื่นเสียงอีกครั้ง

“ปลดปล่อยปราณกระบี่”

เฉินเฟยตะโกนอย่างกะทันหัน ร่องลอยปราณกระบี่ปรากฏบนกระบี่

หัวใจของเจี่ยนเหลียงกระชับขึ้น เมื่อนึกถึงปราณกระบี่ของเฉินเฟยและได้ยินชื่อท่ากระบี่แบบนั้น ดาบยาวในมือเขาจึงแผ่วแรงลง

หากมีอะไรเกิดขึ้นเจี่ยนเหลียงจะป้องกันได้ทันที

“ฟึบ!”

ไม่มีปราณกระบี่ออกมา เฉินใช้เท้าขวาถีบตัวไปอยู่บนกำแพงลานบ้าน เวลาต่อมาเฉินเฟยวิ่งหนีไปไกลแล้ว

เจี่ยนเหลียงเบิกตากว้างและรู้ว่าตัวเองโดนหลอกเข้าแล้ว อารมณ์ที่โกรธจัดทำลายสภาพการป้องกันทันที เลือดลมเดือดดาลจนถึงขั้นเห็นเลือดไหลออกมาจากรูขุมขน

ร่างเจี่ยนเหลียงพุ่งออกไป ภายในไม่กี่ก้าวเขาก็ตามเฉินเฟยทัน

“จงตายให้ข้า!”

เจี่ยนเหลียงยกดาบขึ้นสูงและกำลังจะเหวี่ยงมันลง ทันใดนั้นมีแสงวาบขึ้นต่อหน้าเขา

แสงขาววาบผ่านไปอย่างรวดเร็ว มันเหมือนกับท่าของเซียนชี้นำ