ตอนที่แล้วตอนที่ 13 ขัดล้างกระบี่ยาว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15 ให้มากเกินไป

ตอนที่ 14 ตลาดมืด


มีตลาดมืดอยู่ในอำเภอผิงหยินซึ่งเฉินเฟยเพิ่งรู้เรื่องนี้จากเจิงเต๋อฟางเช่นกัน ได้ยินมาว่าที่ตั้งเดิมของตลาดมืดอยู่ทางเหนือของอำเภอผิงหยิน

แต่เนื่องจากมีผู้ลี้ภัยเข้ามาในอำเภอ ตลาดมืดจึงเปิดภายในอำเภอผิงหยินโดยตรง

เฉินเฟยเดาว่าตลาดมืดแห่งนี้ต้องมีเบื้องหลังแน่นอน ไม่อย่างนั้นที่ว่าการอำเภอจะปล่อยให้ตลาดมืดเปิดอย่างโจ่งแจ้งได้อย่างไร

ตอนกลางคืน เฉินเฟยสวมหมวกไม้ไผ่และหน้ากากปิดบังใบหน้าไปที่ตลาดมืด

มันแตกต่างจากที่คิดไว้ ตลาดมืดแห่งนี้ค่อนข้างมีชีวิตชีวาเลยทีเดียว นอกจากไม่มีการตะโกนเร่ขายของ ที่แห่งนี้ก็ไม่ต่างจากตลาดกลางคืนในอำเภอผิงหยิน

เฉินเฟยกวาดตามองไปรอบด้าน สิ่งของต่างๆบนแผงขายของล้วนแปลกประหลาดและมีหลายอย่างที่เฉินเฟยไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อน

เมื่อเป็นแบบนั้นเฉินเฟยจึงยืนเงียบอยู่ด้านหลัง ฟังการสนทนาของผู้คนและรับข้อมูลบางอย่างจากพวกเขา

เฉินเฟยได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายจากการสังเกตการณ์นี้

เขาเดินไปเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่หน้าแผงรอยหนึ่ง มีตำรามากมายบนแผงรอยนี้ แต่ที่แปลกคือมีคนน้อยมากที่หยุดดู

“เจ้าสามารถดูได้ตามที่ต้องการ แต่ตำราเหล่านี้เป็นเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น หากเจ้าพอใจพวกเราจะคุยเรื่องราคากัน จากนั้นชายชราจะหยิบตำราสมบูรณ์ให้”

เจ้าของร้านเห็นเฉินเฟยหยุดดู เขามองถุงหนังกวางในมือเฉินเฟยแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

“มีท่าร่างหรือไม่?” เฉินเฟยถามตามตรงโดยไม่ได้หยิบดู

เมื่อวานเฉินเฟยคิดเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง แม้ว่าเขาจะขาดวิชาฝึกฝนแต่สิ่งที่ขาดมากสุดคือท่าร่าง ถ้ามีความว่องไงที่ดี เมื่อตกอยู่ในอันตรายทางเลือกแรกคือการหนี

ตราบใดที่วิ่งได้เร็วพอ แม้การบ่มเพาะจะไม่ดีเท่าคนอื่นแต่โอกาสรอดชีวิตก็สูงขึ้น

“มีแน่นอน ลองดูวิชาเหล่านี้สิ” เจ้าของร้านหยิบตำราสองสามเล่มวางตรงหน้าเฉินเฟย

หยดน้ำ นางแอ่นเหยียบกิ่ง ข้ามผ่านต้นหญ้า เหยียบผิวน้ำ

เฉินเฟยสุ่มหยิบขึ้นมาหนึ่งเล่มแล้วเปิดดู หลังจากนั้นไม่นานก็วางตำราลงและหยิบอีกเล่มขึ้นมา

ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งเค่อ เฉินเฟยอ่านตำราทั้งสี่เล่มด้วยสีหน้าครุ่นคิด

“ของเหล่านี้เป็นวิชาตัวเบาขั้นพื้นฐาน มีวิชาที่ดีกว่านี้หรือไม่?” เฉินเฟยเอ่ยถามหลังครุ่นคิดครู่หนึ่ง

“มีแน่นอน ถ้าข้ากล้าให้แล้วเจ้ากล้าฝึกหรือไม่?”

เจ้าของร้านมองเฉินเฟยด้วยรอยยิ้มกึ่งหนึ่ง “ชายชรามีวิชาที่ดีกว่าวิชาพื้นฐานอยู่แล้ว แต่มันมีบางส่วนขาดหายไปซึ่งชายชราไม่รู้เช่นกัน หากเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหลังฝึกวิชาที่ชายชราให้ไป ชายชราจะไม่รับผิดชอบ”

เฉินเฟยตกตะลึง ท้ายที่สุดแล้วตัวเขามีประสบการณ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

สำหรับตำราวิชา หากมีการเปลี่ยนแปลงคำเล็กน้อยคนธรรมดาจะไม่สามารถแยกแยะความต่างได้ แต่หากเปลี่ยนแปลงจุดสำคัญ คนที่ฝึกวิชานั้นอาจกลายเป็นบ้าหรือพิการครึ่งร่าง

ยิ่งเป็นวิชาลึกล้ำผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นยิ่งมาก ส่วนวิชาพื้นฐานเหล่านั้นวงจรการเคลื่อนเลือดลมล้วนเรียบง่าย ต่อให้ฝึกฝนผิดพลาดก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

ด้วยระดับที่เพิ่มขึ้น หากวิชาพื้นฐานใดมีปัญหาก็จะพบเจอได้อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับเฉินเฟยในตอนนี้ แม้จะอยู่ในระดับขัดเกลาผิวหนังแต่เขาฝึกวิชาหลายอย่างถึงระดับรู้แจ้ง

เขาดูตำราวิชาสี่เล่มนี้และไม่พบปัญหาใดๆ พวกมันทั้งหมดสามารถนำไปฝึกได้

“ตำราสี่เล่มนี้ราคาเท่าไหร่?”

“สำเนาเล่มล่ะสองตำลึงเงิน เจ้าต้องการกี่เล่ม?”

“ข้าต้องการทั้งหมด” เฉินเฟยพูดแล้วหยิบเงินแปดตำลึงออกมาวางไว้บนแผงลอย

เจ้าของร้านรอยยิ้มแก้มปริ เขาหยิบตำราครึ่งหลังจากด้านหลังออกมาและส่งให้เฉินเฟย เฉินเฟยมองคร่าวๆและไม่พบสิ่งผิดปกติ ตำราทั้งสี่เล่มจึงถูกเก็บลงกระเป๋าด้านหลัง

“อย่างไรแล้วนั่นก็เป็นวิชาขั้นสูง” เฉินเฟยคิดอยู่ครู่หนึ่ง

เฉินเฟยอยากลองดูว่ามีวิธีแก้ไขส่วนที่หายหรือบกพร่องของวิชาให้กลับมาสมบูรณ์หรือไม่ จากนั้นตัวเองจะได้นำมาฝึก

เจ้าของร้านขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ไม่ได้ปฏิเสธ เขาหยิบตำราออกมายื่นให้เฉินเฟย “กระบี่เซียนเมฆา วิชากระบี่ประจำสำนักกระบี่เซียนเมฆา”

“สำนักกระบี่เซียนเมฆา?”

เฉินเฟยผงะเล็กน้อย สำนักนี้มีชื่อเสียงมาก ในระยะหลายพันลี้นี้คาดว่าสำนักกระบี่เซียนเมฆาน่าจะเป็นผู้นำ

ในสำนักมีคนที่แข็งแกร่งมากมาย ไม่รู้ว่าทุกปีมีคนอยากเข้าร่วมสำนักมากเท่าไหร่ บรรพบุรุษของเฉินเฟยเคยจินตนาการถึงเรื่องนี้เช่นกันแต่น่าเสียดายที่ทำไม่สำเร็จ

เฉินเฟยหยิบตำรามาเปิดดู คิ้วของเขาขมวดแน่นและคลายออกเป็นบางครั้ง จากมุมมองวิชากระบี่เขาเขียวระดับรู้แจ้งของเฉินเฟย ในตำราวิชากระบี่เซียนเมฆาเล่มนี้มีการบันทึกหลักการลึกลับบางอย่าง

แต่เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องเหลวไหล เหมือนกับว่ากระบวนท่ากระบี่ยังไม่สมบูรณ์จึงใส่ความคิดเห็นของตัวเองลงไป แม้แต่หลักการผิดๆยังถูกเขียนมา

“เท่าไหร่?” เฉินเฟยเงยหน้าถาม

“ห้าสิบตำลึง!” เจ้าของร้านยิ้มกว้าง

เฉินเฟยมองเจ้าของร้านโดยไม่พูด ฆ่าหมูชัดๆ เขียนตำราวิชาเองแบบนี้ยังกล้าเรียกราคานี้อีก

เจ้าของร้านมองเฉินเฟยอย่างใจเย็นโดยไม่ได้แสดงความอ่อนข้อ ข้าจะขายราคานี้ เจ้าจะทำอะไรได้

เฉินเฟยพยักหน้าวางตำราลงและหันหลังจากไป เงินไม่ได้ปลิวมากับลม ถึงเขาจะใช้แบบใจกว้างขึ้นเแต่ต้องใช้ตามความสมควร

หากต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อทดสอบระบบ นั่นคงเป็นการโดนเอาเปรียบ

“นี่ อย่าเพิ่งไป มาคุยเรื่องราคากันก่อนเถอะ!” เสียงเจ้าของร้านดังมาจากด้านหลัง

เฉินเฟยหยุดคิดและพูดว่า “สามตำลึง!”

“ได้ ตกลง!”

เจ้าของร้านตอบตกลงทันทีราวกับกลัวว่าเฉินเฟยจะเปลี่ยนใจ เขาหยิบตำราอีกครึ่งหนึ่งออกมายัดใส่มือเฉินเฟย

เฉินเฟยตกตะลึงเล็กน้อย ราคาสามตำลึงยังมากเกินไป

แต่เฉินเฟยไม่เสียใจ หลังอ่านตำราวิชาช่วงครึ่งหลัง มันมีหลักการบางอย่างของการใช้กระบี่ ถ้าซื้อตำราเล่มนี้ในราคาสามตำลึงก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าเป็นความสูญเสีย

“หากเจ้าต้องการอะไรอีกโปรดลองมาหาชายชราก่อน ชายชราจะตั้งแผงขายของอยู่ตรงนี้” เจ้าของร้านค่อนข้างพอใจหลังทำการค้าขายสำเร็จสองครั้ง

เฉินเฟยโบกมือปัด เก็บตำราแล้วจากไป

ในตลาดมืด เฉินเฟยเดินไปทั่วอีกสองสามครั้งและถามเรื่องสูตรโอสถเป็นพิเศษ แต่นอกเหนือจากสูตรโอสถพื้นฐาน ในตลาดมืดไม่มีสูตรโอสถขั้นสูงแม้แต่อันเดียว

ตอนกลางคืนดึกเริ่มมืดลง เฉินเฟยไม่อยู่ต่อและออกจากตลาดมืด

เมื่อกลับมาถึงที่เช่า เฉินเฟยเริ่มฝึกวิชาหยดน้ำอย่างจริงจัง

ครึ่งชั่วยามต่อมา วิชาหยดน้ำปรากฏบนระบบ

“ระบบ หยดน้ำแบบง่าย”

“หยดน้ำแบบง่าย...ทำให้เป็นแบบง่ายสำเร็จ...หยดน้ำ → การเดิน!”