ตอนที่แล้วบทที่ 51-2 การสอบสวน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 53 การคาดเดาของศัตรู 

บทที่ 52 อัปเกรดดวงตาประเมิน


บทที่ 52 อัปเกรดดวงตาประเมิน

รถม้าบรรทุกฟลินน์ ไอวี่และพวกลัทธิทั้งเจ็ดกลับไปที่สำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร

หลังจากกลับมาก็พบว่าพวกเขาไม่ใช่ทีมแรกที่กลับมา ก่อนหน้านี้มีหลายทีมที่กำลังสอบสวนพวกลัทธิ

“คุณซอร์ค ไอวี่ ในบรรดาคนที่เธอจับมา มีใครใช้เวทมนตร์บ้างไหม” เมื่อเห็นพวกเขากลับมา ลินดี้กับจูลี่ที่เพิ่งกลับจากภารกิจก็รีบเข้ามาถามพวกเขา

“ไม่ แค่ครึ่งชั่วโมงก่อนที่เราจะมาถึง พวกลัทธิที่รู้เวทมนตร์ก็ได้ข่าวแล้วและหนีไปตั้งแต่เนิ่นๆ” ฟลินน์และไอวี่ส่ายศีรษะ

เมื่อได้ยินคำตอบของฟลินน์และไอวี่ ทั้งลินดี้และจูลี่ก็ผิดหวังเล็กน้อย ลินดี้ถอนหายใจแล้วพูด

“เป็นแบบเดียวกันกับทีมของฉันและจูลี่รวมถึงทีมอื่นๆ ที่กลับมาก่อนหน้านี้ พวกมันรู้ข่าวแน่นอนก่อนจะหนีไป”

“น่าจะเป็นสามคนที่ผมทำหลุดมือ ทำให้ข่าวการจับกุมรั่วไหลออกไป ถ้าผมแข็งแกร่งกว่านี้บางทีอาจจะจับทั้งหกคนในคราวเดียวกันแล้วหลีกเลี่ยงการรั่วไหลของข่าว” ฟลินน์เสียใจที่ละทิ้งทั้งห้าคนและติดตามแค่จิน ไวท์ซึ่งอาจมีสถานะสูงสุดและเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องภายใต้สถานการณ์นั้น

เนื่องจากจิน ไวท์ เพียงคนเดียวทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ หากมีสมาชิกลัทธิใช้รู้เวทมนตร์จากอีกห้าคนที่เหลือ เขาอาจตกอยู่ในอันตราย

อย่างไรก็ตาม หากเขาแข็งแกร่งมากพอสถานการณ์ดังกล่าวก็จะไม่เกิดขึ้น และสามารถจับกุมทั้งหกคนไปพร้อมกันได้

“อย่างไรก็ตามคุณก็เพิ่งเข้าร่วมกับสำนักงานความมั่นคงฯ ได้เพียง 2 เดือน แม้ว่าคุณจะมีพรสวรรค์แต่ก็ต้องใช้เวลาในการเติบโต ภายใต้สถานการณ์ในขณะนั้นคุณทำได้ดีมาก” ลินดี้มองไปที่ไอวี่และพูดว่า

“ไอวี่ ในกลุ่มลัทธิเหล่านี้ให้โฟกัสไปที่กลุ่มลัทธิภายใต้การนำของจิน ไวท์ ที่คุณซอร์คจับได้ก่อนหน้า สอบถามพวกมันทีละคนดูซิว่ามันจะไร้ประโยชน์จริงเหรอ”

พวกลัทธิที่ถูกจับมาได้ไม่มีใครใช้เวทมนตร์ แสดงว่าสถานะของพวกเขาในลัทธิเฟืองสังหารไม่สูงนัก อาจเรียกได้ว่าแทบไม่รู้เป้าหมายของลัทธิเฟืองสังหารด้วยซ้ำ

มีเพียงคนที่สามารถใช้เวทมนตร์เท่านั้นจึงจะมีสถานะสูงในลัทธิเฟืองสังหารและเข้าถึงข้อมูลความลับของลัทธิใด

“ค่ะ” ไอวี่ตอบ

ให้รีบไปที่ห้องสอบสวน แต่ครั้งนี้ฟลินน์ไม่ได้ลงไปดูการสอบสวนด้วย เขาไปที่ห้องรับรองหมายเลข 201 เพราะเขายังบาดเจ็บอยู่

ย้อนกลับไปในห้องรับรองหมายเลข 201 เขาหยิบเขี้ยวแห่งความบ้าคลั่งสีเงินออกมาและใช้ฝ่ามือถูมันเล่น

วัตถุเวทนี้เป็นสมบัติของเขาและไม่จำเป็นต้องส่งมอบให้สำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร

‘ฉันต้องการขายมันให้กับสำนักงานความมั่นคงฯ เชื่อใจนี่ไหมนะ” ฟลินน์กำลังคิดว่าเขาควรจะขายวัตถุเวทนี้หรือไม่ แต่ก็ล้มเลิกอย่างรวดเร็ว

วัตถุเวทนี้เป็นวัตถุเวทประเภท 1 ผลข้างเคียงของมันร้ายแรงมากหากขายให้กับสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรก็ขายได้เพียงพันกว่าปอนด์ทองคำเท่านั้น

เมื่อเทียบกับการขายแล้ว การเก็บไว้เป็นไพ่ตายก้นหีบน่าจะมีค่ามากกว่า

มีเพียงการถือวัตถุเวทไว้ในมือเท่านั้นจึงจะสามารถใช้พลังของดวงตาประเมินได้

ในฐานะที่เป็นผู้วิเศษที่ฝึกฝนดวงตาประเมิน เขาจะไม่มีวัตถุเวทอยู่ในมือได้อย่างไร?

‘ฉันควรหาเวลาไปร้านจิวเวลรี่สักครั้ง’ ชายหนุ่มต้องการไปที่ร้านจิวเวลรี่เพื่อเปลี่ยนมันให้กลายเป็นจี้ห้อยคอ ฟลินน์เก็บเขี้ยวแห่งความบ้าคลั่งกลับเข้าไปในกระเป๋าของเขา

“คงจะดีถ้าผลข้างเคียงน้อยลง” ฟลินน์เลิกคิ้วเมื่อเขานึกถึงความหงุดหงิดจากการใช้เขี้ยวแห่งความบ้าคลั่งก่อนหน้านี้

ในสภาพหงุดหงิดและบ้าคลั่งนั้นเขารู้สึกเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนและประสบการณ์ที่แย่จริงๆ

‘ไม่รู้ว่าคะแนนลึกลับในปัจจุบันมากพอที่จะอัปเกรดดวงตาประเมินไหมนะ’

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฟลินน์ก็เรียกระบบออกมา

ชื่อ: ฟลินน์

ดวงตาประเมิน: 3 วงแหวน (อัปเกรดได้)

ปืนลึกลับ: 3 วงแหวน (อัปเกรดไม่ได้) )

ชันสูตรพลิกศพ: เชี่ยวชาญ (อัปเกรดไม่ได้)

คะแนนลึกลับ: 16.3

‘ตอนนี้มีคะแนนลึกลับอยู่ 16.3 คะแนนแล้ว แม้ว่าการจับกุม จิน ไวท์จะทำให้ฉันได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ทำให้ฉันมีคะแนนเพิ่มขึ้นเกือบสิบคะแนน’ ฟลินน์พอใจกับคะแนนลึกลับที่ได้รับมาก การจับกุมครั้งนี้เขาได้รับเขี้ยวแห่งความบ้าคลั่งจากมนุษย์หมาป่าและได้คะแนนลึกลับเพิ่มจากจิน ไวท์ด้วย

‘คะแนนมากขนาดนี้น่าจะเพียงพอที่จะอัปเกรดดวงตาประเมินได้ ตอนนี้ฉันยังไม่มีเวลาศึกษาปืนลึกลับวงแหวนที่สี่ ก็ยังไม่จำเป็นจะต้องใช้คะแนนลึกลับมากมายขนาดนั้น’ ฟลินน์ตัดสินใจอัปเกรดดวงตาประเมิน เขาจ้องไปที่คอลัมน์ของดวงตาประเมินทันทีแล้วเลือกที่จะอัปเกรด

ติ๊ง!

คะแนนลึกลับลดลง 8 คะแนนเหลือ 8.3 คะแนนและคำว่า ‘3 วงแหวน’ ในคอลัมน์ดวงตาประเมินก็หายไปและเปลี่ยนเป็น ‘ 4 วงแหวน’

ภาพความทรงจำจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาในความคิดของเขา และเขายังเป็นตัวเอกในภาพความทรงจำนับหมื่นเหล่านั้น

มีสิ่งของมากมายหลายอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ

ติ๊ง!

เมื่อภาพความทรงจำเหล่านี้ปรากฏขึ้นในใจ รูม่านตาข้างขวาของฟลินน์ก็สว่างขึ้นด้วยแสงสีน้ำเงิน ค่ายกลของพิธีเบิกเนตรวงกลมก็ปรากฏขึ้นและหมุนอย่างรวดเร็ว

ในระหว่างขั้นตอนนี้ค่ายกลของพิธีเบิกเนตรได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง

อีกสักครู่ การเปลี่ยนแปลงก็สิ้นสุดลง

หลังจากการอัปเกรดสองครั้งจากวงแหวนที่หนึ่งเป็นวงแหวนที่สองและวงแหวนที่สองเป็นวงแหวนที่สาม ค่ายกลพิธีเบิกเนตรค่อนข้างแตกต่างจากค่ายกลดั้งเดิมของพิธีเริ่มต้น

วันนี้ความแตกต่างมีมากขึ้นและความรู้สึกของความลึกลับก็ท่วมท้น

ฮึ่ม!

จากตาขวาของเขา ลมหายใจเย็น ๆ ไหลไปทั่วร่างกายของเขา

ภายใต้ลมหายใจเย็นๆ นี้ ร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาก็กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง

จนถึงตอนนี้ การเปลี่ยนแปลงจากวงแหวนที่สามเป็นวงแหวนที่สี่ของตาประเมินก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว

‘ต้องใช้คะแนนลึกลับ 2 คะแนนเพื่อเลื่อนระดับจากวงแหวนที่หนึ่งไปยังวงแหวนที่ สองและใช้คะแนนลึกลับ 4 คะแนนเพื่อเลื่อนระดับจากวงแหวนที่สองไปยังวงแหวนที่สาม จากนั้นจึงใช้คะแนนลึกลับ 8 คะแนนเพื่อเลื่อนระดับจากวงแหวนที่สามไปยังวงแหวนที่สี่ แสดงว่าในแต่ละวงแหวนคะแนนลึกลับจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า’ ฟลินน์ ได้เห็นการใช้คะแนนลึกลับและเข้าใจการใช้งานระบบมากขึ้น เมื่อเขาคำนวณปริมาณการใช้คะแนนลึกลับของวงแหวนแต่ละวง ก็ทำให้เขาพูดไม่ออก

คะแนนลึกลับจะเพิ่มมากขึ้นตามกฎนี้ ในช่วงเริ่มต้นใช้คะแนนลึกลับไม่มากนักแต่เมื่อวงแหวนเพิ่มมากขึ้นอัตราการบริโภคนี้ดูสยองมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากไปถึงวงแหวนที่สิบ คะแนนลึกลับที่ต้องการยิ่งน่ากลัวมากขึ้น จริง ๆ แล้วต้องการคะแนนลึกลับนับพัน

‘หวังว่าเมื่อระดับของวัตถุเวท สัตว์ประหลาดและพวกลัทธิเพิ่มขึ้น ก็ขอให้คะแนนลึกลับจากพวกเขาเพิ่มขึ้นด้วย!’ ฟลินน์ได้แต่หวังในใจว่าเมื่อระดับพลังลึกลับเพิ่มขึ้น คะแนนลึกลับที่ได้รับจะเพิ่มขึ้น

ฟลินน์ดีดตัวจากโซฟาในห้องนั่งเล่น ชกหมัดไปมาในอากาศและรับรู้ถึงความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา

เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ฟลินน์รู้สึกว่าร่างกายของเขาเบาขึ้นและมีพลังมากขึ้น ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าร่างกายของเขากลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง

‘ไม่รู้ว่าสมรรถภาพทางกายของฉันในตอนนี้ เมื่อเทียบกับผู้วิเศษวงแหวนที่สองของศาสตร์การต่อสู้จะเป็นอย่างไร’ เมื่อสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของตัวเอง ฟลินน์ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องนี้

ไม่ว่าจะเป็นปืนลึกลับหรือดวงตาประเมินก็ไม่ใช่ศาสตร์ลึกลับด้านการต่อสู้ ทุกๆ ครั้งที่อัปเกรดการปรับปรุงที่ร่างกายจะได้รับนั้นจำกัดมาก

อย่างไรก็ตามด้วยการซ้อนทับของศาสตร์ลึกลับทั้งสอง เขาได้เสริมความแข็งแกร่งมาแล้วถึงเจ็ดครั้ง

คุณภาพไม่สัมพันธ์กับปริมาณ ฟลินน์รู้สึกว่าสมรรถภาพทางกายของเขาในปัจจุบันเทียบไม่ได้กับผู้วิเศษที่ฝึกฝนศาสตร์ลึกลับด้านการต่อสู้โดยเฉพาะ

“น่าเสียดายที่ไม่ได้ใช้สมรรถภาพทางกายที่แข็งแกร่งขนาดนั้น วันหยุดนี้ฉันต้องหาเวลาไปเรียนการต่อสู้บ้างแล้ว”

‘ขอดูหน่อยสิว่าดวงตาประเมินวงแหวนที่สี่จะเป็นอย่างไร…’ ฟลินน์นั่งลงบนโซฟา ดึงเขี้ยวแห่งความบ้าคลั่งออกมาอีกครั้งและใช้ดวงตาประเมิน

รูม่านตาข้างขวาเปลี่ยนเป็นสีฟ้า ใต้ตาข้างขวาสีฟ้ามีคำแนะนำของเขี้ยวแห่งความบ้าคลั่งปรากฏขึ้น

ประเภท: วัตถุเวท

รายการ: เขี้ยวแห่งความบ้าคลั่ง

ระดับ: ประเภท 1

ความสามารถพิเศษ: หลังจากใช้มัน ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นมนุษย์หมาป่าได้ มีสมรรถภาพทางกายเหมือนมนุษย์หมาป่ารวมถึงการรับกลิ่นเท่ากับมนุษย์หมาป่าวงแหวนที่สาม

ผลข้างเคียง: หลังใช้มันจะสูญเสียความเป็นเหตุเป็นผลและมีพฤติกรรมคล้ายสัตว์ป่า หลังจากยุติการใช้จะทำให้รู้สึกมึนงง

ผลข้างเคียงหลังจากอ่อนกำลังลง: สามารถรักษาความมีเหตุผลได้ แต่จะมีอาการหงุดหงิดเล็กน้อย

‘หลังจากอัปเกรดดวงตาประเมินเป็นวงแหวนที่สี่ ดูเหมือนว่าข้อมูลการประเมินจะละเอียดมากขึ้น’ ฟลินน์ดูคำแนะนำที่มีรายละเอียดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ข้อมูลที่ได้รับจากดวงตาประเมินจะสัมพันธ์กับระดับของรายการที่ประเมินและระดับวงแหวนของดวงตาประเมิน

สำหรับตาประเมินในระดับเดียวกัน ยิ่งระดับรายการประเมินสูง ข้อมูลที่ได้รับจากการประเมินก็ยิ่งน้อยลง

สำหรับรายการเดียวกันยิ่งระดับของดวงตาประเมินสูงเท่าใดก็ยิ่งได้รับข้อมูลมากขึ้นเท่านั้น

‘หลังจากถูกลดระดับให้อ่อนลง ดูเหมือนว่าผลข้างเคียงจะกลายเป็นหงุดหงิดเล็กน้อย ซึ่งดีกว่าหงุดหงิดฉุนเฉียวและมีแนวโน้มที่จะใช้ความรุนแรงก่อนหน้านี้มาก ผลข้างเคียงนี้น้อยจนเรียกว่าเป็นการใช้พลังวิเศษตามปกติ’

. …

ฟลินน์ไม่ได้อ่านหนังสือแต่นอนหลับบนโซฟาแทนเพราะวันนี้เขาตื่นเช้าเกินไป

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เขาตื่นขึ้นเพราะความหิว

ที่ร้านอาหารที่ไม่มีใครอยู่อีกนอกจากตัวเขาเอง หลังจากพลาดมื้อเที่ยง เขาก็มุ่งหน้าไปยังห้องสอบสวน

ในห้องสอบสวนพวกลินดี้ จูลี่ และไอวี่อยู่ที่นั่นทั้งหมด นอกจากพวกเธอ ที่นี่ยังมีอีกสามคน

หนึ่งในนั้นสวมเสื้อกันลมสีดำหนาและผิวของเขาเป็นสีฟ้าจางๆ ชายคนนี้คือกัปตัน โจนาส โอลส์สันที่เขาเจอเมื่อเช้านี้

หนึ่งในนั้นคือหญิงรูปร่างหน้าตาธรรมดา เธอสวมสร้อยข้อมือประดับอัญมณีที่มือซ้าย เธอมีผมสีดำแต่มันแตกต่างจากผมสีดำของฟลินน์ ผมของเธออาจเป็นสีเทา นี่คือ อัลลา โลเปซ กัปตันคนที่สอง

คนสุดท้ายเป็นชายร่างสูงแขนขวาเป็นโลหะ เขาคือสตีเฟ่น จอร์นสันกัปตันคนสุดท้ายในสามคน

มองดูแว๊บแรกก็สามารถบอกได้ว่าชายนี้คืคนอผู้วิเศษ และศาสตร์ลึกลับที่เขาฝึกฝนคือหัวใจจักรกล และแค้นจักรกลคือข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด

ฟลินน์ชำเลืองมองที่ไอวี่ พบว่าใบหน้างามดวงนั้นดูเหนื่อยล้า เห็นได้ชัดว่าตลอดการสอบสวนกินแรงเธอไปมาก

ฟลินน์ขยับเข้าหาลินดี้และถามเธอด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“รองผู้อำนวยการ คุณได้ขอข้อมูลที่เป็นประโยชน์บ้างไหม”

“พวกลัทธิล้วนใช้ชื่อปลอมในการติดต่อกับจิน ไวท์” ลินดี้ส่ายศีรษะ

“นอกจากนี้พวกเราเคยพยายามใช้กระดานวาดภาพแห่งหายนะค้นหาแต่ก็ล้มเหลว” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เธอมองไปที่ฟลินน์

“ฉันเกรงว่าคุณคงต้องใช้นาฬิกาแห่งวันวานเพื่อค้นหามันอีกครั้ง”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด