ตอนที่แล้วบทที่ 194: โครงการสัตว์! เมล็ดแตงโมสองแบบ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 196: แค่เรื่องไร้สาระ! ปัญหากำลังมา!

บทที่ 195: แผนของฉินหลิน! จะอธิบายเรื่องนี้ยังไง?


เมื่ออ่านข้อมูลของเมล็ดแตงโมทั้งสองแล้วฉินหลินก็ตาเป็นประกาย

‘ตามคาดจริง ๆ ด้วย  เม็ดใหญ่เป็นเวล 2 แบบนี้ที่อุตส่าห์เสียเวลาปลูกมาตั้งนานก็คุ้มค่าแล้วโว้ยยยยยย’

จากนี้ไปแตงโมพันธุ์ที่ปลูกจากบ้านไร่ชิงหลินจะสามารถเรียกว่า “แตงโมชิงหลิน” ได้อย่างไม่ผิดและไม่จำเป็นต้องเรียกมันว่าพันธุ์พิเศษอีกต่อไป

เมื่ออ่านรายละเอียดเมล็ดแตงโมเสร็จแล้วฉินหลินก็ออกจากเกม  จากนั้นก็เล่นเกมต่อโดยจะจัดการกิจวัตรในเกมให้เสร็จ  หนึ่งคือไปตกปลา 35 ตัว  ไปตัดไม้บนภูเขานอเทรอดาม  ช่วงนี้เหมือนภูเขาจะค่อนข้ายากจนเพราะว่าไม่ได้ไม้พิเศษเลยและของป่าเองก็ไม่มีการรีเฟรชใหม่ด้วย

จากนั้นฉินหลินก็ให้ตัวละครกลับบ้านเพื่อไปเปิดทีวีดูว่าวันนี้มีทีวีช้อปปิ้งมั้ย

ผลคือมีรายการทีวีช้อปปิ้งจริง ๆ ด้วยโดยมีตัวการ์ตูนสาวสวยเซ็กซี่เป็นพิธีกรรายการ

สาวสวยเซ็กซี่ก็เรื่องหนึ่ง  แต่ที่สำคัญคือเธอสวมชุดนอนสั้นดูดีเข้ารูปสุด ๆ โดยที่ขาเธอมีถุงน่องสไตล์ที่ตนคุ้นเคยสวมไว้

[วันนี้เป็นเซต *ฟินฟ้าเหลือง* ช้อปปิ้งชุดนอนสุดสวยแสนสนุกลดราคา  ครูจิ่วชื่นชอบมาก ๆ คู่กับถุงน่องที่ทนต่อการฉีกขาด  มีสีให้เลือก  ทั้งล่อตาและล่อใจ  ขึ้นเตียงเมื่อไหร่สนุกเมื่อ...]

เห็นปุ๊บฉินหลินก็จ้องตาเป็นมัน  เพราะถุงน่องรอบก่อนเขาฟินสุด ๆ จริง ๆ ไม่มีทางปฏิเสธได้เลย

แล้วคราวนี้กลายเป็นเวอร์ชั่นอัปเกรด + ชุดนอนด้วย?

ไอ้ทีวีช้อปปิ้งนี่มันเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้เกินไปมั้ยวะหนิ?

ถึงมันดูแล้วจะขายได้เงินดีก็เถอะ  แต่ขายของเชิงบวกก็ได้ป๊ะ?

แต่เชิงลบแบบนี้ก็ดี  ดีตรงที่กูชอบ!

เขากดซื้อจ่ายเงินโดยไม่มีการลังเล  จากบทเรียนถุงน่องครั้งที่แล้วเขาจึงตัดสินใจซื้อ 10 ชุดรวด  แดง  น้ำเงิน  ดำ  ม่วง...  เลือกครบทุกสี

แต่ละวันมันต้องมีประสบการณ์ที่แตกต่างกันไปซิ  เนอะ?

แต่คิด ๆ ดูแล้วจัดไปอีก 10 เลยดีกว่า!

ก็เผื่อ ๆ ไว้ก่อนอะนะ  เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทีวีช้อปปิ้งนี่มันจะมาอีกรอบ

จากนั้นฉินหลินก็ให้ตัวละครในเกมออกจากบ้านโดยต่อไปคือกะจะไปขุดเหมืองชั้น 5 ตรงที่ยังไม่ได้ขุด

แต่แล้วจู่ ๆ จ้าวโม่ชิงก็โทรเข้ามาเรียกให้เขาไปหา  เขาจึงไม่มีทางเลือกต้องปิดจอเกมแล้วไปหาเธอ

จ้าวโม่ชิงกำลังดูข้อมูลบางอย่างหน้าจอคอมพิวเตอร์  และเมื่อฉินหลินเข้ามาเธอก็บอกว่า “เธอ ๆ มาดูข้อมูลที่ดินนี่หน่อยว่าเป็นไงบ้าง  เติ้งกวงพึ่งส่งมาให้”

ฉินหลินเข้าไปดู  เป็นขอมูลข้องพื้นที่อุตสาหกรรมที่เลือกมาเพื่อทำเป็นโรงงานแห่งใหม่ของบริษัทชิงหลินฟู้ด

ในอำเภอเล็ก ๆ นี้โรงงานแต่ละแห่งล้วนเป็นโรงงานขนาดเล็ก  จากตอนกองทุนแนะนำองค์กรทำให้เห็นว่าโรงงานที่ขยายไปนั้นล้วนเป็นโรงงานเล็ก ๆ แยกไม่เป็นเอกภาพ

สถานการณ์ดังกล่าวไม่โอเคเป็นอย่างยิ่ง  มันไม่เอื้อต่อการขนส่งผลผลิต  ดังนั้นหากในอนาคตอยากจะพัฒนาจะต้องหาสถานที่แห่งใหม่ที่สามารถใช้สร้างโรงงานขนาดใหญ่และเป็นเอกภาพ

บริษัทอาหารติดหนี้กองทุนแนะนำองค์กรของทางอำเภออยู่  มีการแบ่งการทำงานเป็นสองกะและสามารถผลิตซอสมะเขือเทศได้เดือนละหลายแสนขวด  และตอนนี้หากจะพัฒนาต่อล่ะก็มันจำเป็นต้องสร้างโรงงานใหม่

ทำให้มีการบรรจุเรื่องการหาที่ดินลงในวาระการประชุมและได้ผลสรุปคือให้เติ้งกวงเป็นผู้รับผิดชอบ

ฉินหลินมองดูที่ดินดังกล่าว  ทั้งขนาดและสถานที่ตั้งก็เหมาะสมกับความต้องการของบริษัทอาหารในตอนนี้

“บอกเติ้งกวงว่าโอเคแล้ว” ฉินหลินบอก

“โอเค  เดี๋ยวฉันจะให้เสี่ยวซินติดตามสถานการณ์โดยต่อด้วย” จ้าวโม่ชิงพยักหน้า

“แล้วเธอช่วยจ้างคนมาบุกเบิกที่ดินห้าพันหมู่ให้หน่อยสิ  ฉันอยากให้บุกเบิกซักร้อยหมู่เอาไว้ปลูกแตงโมน่ะ” ฉินหลินพูดอีกครั้ง

จ้าวโม่ชิงพยักหน้า  เธอรู้ว่าเมล็ดพันธุ์แตงโมเหล่านั้นต้องมีการปลูกต้องมีการขยายพันธุ์

แล้วเมื่อฉินหลินคิดถึงชุดนอนแสนสนุกที่ซื้อมาเขาก็ยิ้มแล้วกอดจ้าวโม่ชิงจับมานั่งตัก

และก่อนที่มือเขาจะล้วงไปถึง...  จ้าวโม่ชิงก็คว้ามือเขาไว้ซะก่อน “อย่าซน!  อีกเดี่ยวฝ่ายบัญชีจะมารายงานแล้ว”

ฉินหลินเลยต้องเปลี่ยนไปกระซิบข้างหู “วันนี้ฉันซื้อของขวัญให้เธอด้วยล่ะ  ถุงน่องบวกชุดนอน  เธอใส่คืนนี้มันต้องดีแน่ ๆ อะฮึ ๆ”

จากที่ได้เห็นสายตาลามกของฉินหลินจ้าวโม่ชิงนึกถึงถุงน่องเมื่อครั้งก่อนแล้วก็มองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า “ครั้งนี้ถึงกับซื้อชุดนอนด้วยเลย?  เธอนี่ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ”

“จัดมาแล้วยี่สิบชุด” ฉินหลินยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

“หน็อยยยยย...” จ้าวโม่ชิงหยิกเอวฉินหลินอย่างแรง

ปกติผู้ชายที่รังแกภรรยาตัวเองแบบนี้ก็มีด้วย?

ก๊อก ๆ

มีเสียงเคาะประตู  ฉินหลินก็เลยต้องปล่อยตัวจ้าวโม่ชิงอย่างช่วยไม่ได้

จ้าวโม่ชิงปรับสีหน้าของเธอให้กลับเป็นปกติ  แล้วนั่งลงที่เดิม “เข้ามา!”

แล้วสาว ๆ การเงินก็เข้ามาทักทายฉินหลินทีละคน “สวัสดีค่ะเถ้าแก่”

ฉินหลินพยักหน้าให้พวกเธอก่อนจะเดินจากไป

เมื่อกลับมาห้องทำงานเข้าก็เปิดจอเกมอีกรอบแล้วให้ตัวละครไปขุดเหมืองต่อโดยอารมณ์ที่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันมันอยากให้ถึงตอนมืดเร็ว ๆ

[ขอแสดงความยินดี  ได้รับดินวิเศษ!]

ได้ดินที่มีสีเทาดำมาอีกกระสอบหนึ่ง

เป็นดินที่มีอัตราการรอดชีวิต +2 และโอกาสกลายพันธุ์ +1 อีกเหมืนเดิม

ได้มาก็ดี  ถึงเขาจะมีอยู่แล้วแต่ก็ไม่ได้เยอะ  การได้มาเพิ่มย่อมดีที่สุด  เมล็ดพันธุ์ดี ๆ ใด ๆ ที่เขาอยากจะทำขยายพันธุ์ในอนาคตมันควรจะเอาปลูกในดินนี้ก่อน

การเอาดินวิเศษไปใส่ในทุ่งนาเก่าที่บ้านเกิดมันดูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่

‘หรือว่าจะสร้างห้องทดลองขึ้นมาบังหน้าเลยดีวะ?’

‘แล้วก็เอาดินทั้งหมดไปที่ห้องทดลอง  ใช้อุบายนิด ๆ หน่อย ๆ บอกว่าห้องทดลองสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ขึ้นมาจากดินนี่ได้’

คือถ้ามีห้องทดลองก็ต้องมีนักวิจัย  แล้วการจะหานักวิจัยที่เก่ง ๆ ที่ไว้ใจได้มาบังหน้านั้นยากที่สุดแล้ว

แล้วจู่ ๆ หลี่ไข่เข้ามาในหัวเฉยเลย  ชายผู้นี้ไม่สงสัยเรื่องดินในทุ่งนาเก่าเลยซักนิด

แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ทางครอบครัวของอีกฝ่ายมันจะทำให้ชวนมาร่วมได้รึเปล่าก็ไม่รู้

ลองหาโอกาสเอาเหล้าสมุนไพรชิงหลินซักสองสามขวดเป็นตัวเกลี้ยกล่อมดีมั้ย?

เขาคิดไปด้วยก็จริงแต่เขาก็ยังไม่หยุดเล่นเกม  ยังคงให้ตัวละครขุดเหมืองต่อไป

[ขอแสดงความยินดี  ได้รับแร่หยกเปลือกแตงโมเลเวล 2]

[ขอแสดงความยิน  ได้รับดินวิเศษ!]

ฉินหลินขุดเหมืองน้ำพุชั้น 5 จนหมด  และได้รับแร่หยกหนึ่งชิ้นกับดินวิเศษอีกกระสอบหนึ่ง

และต่อไปก็จะเข้าชั้น 6 แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่สามารถเข้าได้

ในเวลานี้ฉินหลินยังได้รับแจ้งเตือนจากเกมอีกว่าบริการจัดส่งของทีวีช้อปปิ้งได้ส่งของให้แล้ว

เขารีบให้ตัวละครกลับฟาร์มอย่างด่วนเพื่อไปเช็กของ  ส่วนตัวเองไปล็อคห้องทำงานก่อนที่จะเข้าโลกในเกม  เมื่อเข้ามายืนแทนตัวละครแล้วก็เห็นพัสดุวางอยู่

จาก: โอลีฟทาวน์

สินค้า: *ฟินฟ้าเหลือง* จากโอลีฟทาวน์ (ชุดนอน + ถุงน่อง)

ของจากโอลีฟทาวน์อีกและ

ถึงจะมีคนเคยบอกว่าการพัฒนาเศรษฐกิจต้องให้ความสำคัญกับเอกลักษณ์ก็เถอะ  แต่เอกลักษณ์ของโอลีฟทาวน์เหมือนจะ...  ไปหน่อยมั้ย  แต่ก็เป็นเอกลักษณ์จริง ๆ

ฉินหลินหามีดมากรีดเปิดดูก็เห็นว่าข้างในเป็นชุดนอนสีชมพู + ชุดถุงน่อง

กับข้อความ

[ชุดนอนเซ็กซี่: เลเวล 2]

[เซตสำครับความฟินฟ้าเหลือง  ผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันที่โอลีฟทาวน์  ผิวสัมผัส +2, ใส่สบาย +2, เซ็กซี่ +2, น่าค้นหา +2, ยั่วสวาท +2, ความตื่นเต้นเวลาฉีก +2!]

ฉินหลินกลืนน้ำลายอึกใหญ่

ผลรวมคือ +2 ล้วน ๆ?

ก่อนหน้านี้ +1 ก็สุดจัดปลัดบอกแล้ว  แล้วตอนนี้ +2 มาเต็มมันจะขนาดไหน!

เกจความตั้งตารอพุ่งปรี๊ด

หลังจากนั้นฉินหลินก็จัดการฉีกข้อมูลผู้ส่งออกจากกล่องพัสดุทั้งหมดออก  เพราะว่าโอลีฟทาวน์มันเป็นเมืองในเกมฮาร์เวสต์มูนไม่ได้มีอยู่ในโลกจริง  ดังนั้นจะให้ใครเห็นไม่ได้เด็ดขาด  ทำเสร็จก็เอาพัสดุทั้งหมดออกจากเกม

ในที่สุดเมื่อถึงเวลาเลิกงาน  เขาโทรเรียกจ้าวโม่ชิงมาหา  เขาไม่อาจหอบพัสดุ 20 ชุดไปได้ในทีเดียว  แต่ก็ยังดีที่พัสดุมันไม่ได้ใหญ่นักดังนั้นถ้าสองคนช่วยกันหอบก็ได้ในเที่ยวเดียว

“เธอ  มีอะไรเหรอ  จู่ ๆ ก็เรียกมา” จ้าวโม่ชิงเดินเข้าห้องทำงานมาอย่างสงสัยและเห็นกองพัสดุ

แล้วเธอก็นึกถึงสิ่งที่ฉินหลินกระซิบข้างหูเมื่อตอนกลางวันก็ถึงกับมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า

ไอ้ผู้ชายคนนี้นี่มันจะเกินไปแล้ว  มันกล้าทรมานเธอด้วยการซื้อของพวกนี้มาไม่พอยังให้เธอมาช่วยขนอีก!

ฉินหลินก็เรียกเธอหน้ายิ้ม ๆ “มาช่วยหน่อยเร็ว  ฉันซื้อมาให้เธอหมดนี่เลยเชียวน้า  ดูซิว่าฉันดีกะเธอแค่ไหน”

“เธอเอาแต่รังแกฉันแต่ยังกล้าบอกว่าดีกะฉันอีกเนี่ยนะ?  เดี๋ยวนี้รู้จักกลับดำเป็นขาวแล้วนะ!” จ้าวโม่ชิงบ่นแต่กลับไม่ได้ปฏิเสธนิสัยของฉินหลิน

ฉินหลินกับจ้าวโม่ชิงออกจากห้องทำงานพร้อมกับพัสดุ  แล้วเขาก็ไม่ลืมถามเธอว่า “มีตั้งหลายสีเลยนะเธอชอบสีไรเหรอ  ชมพู  ดำ  ลาเวนเดอร์...”

“ฉินหลิน!  อยากโดนเหรอ!  พูดจาอะไรไม่กลัวคนอื่นได้ยินไง?” จ้าวโม่ชิงมองเขาด้วยความเขินอายแล้วรีบเร่งความเร็วโดยอยากที่ทำเป็นเมินเจ้าผู้ชายไร้ยางอายนี่จนกว่าจะถึงบ้าน

เมื่อเห็นว่าข้อมูลทั้งหมดบนบรรจุภัณฑ์ถูกขูดออกก็รู้ว่าเขาอยากปกปิดแต่แค่ที่อยู่บ้านตัวเองก็ยังต้องเอาออกด้วยเหรอ?

เมื่อมาถึงที่จอดรถก็เธอก็รีบเอาของใส่ท้ายรถภายใต้สายตาประหลาดใจของหลินเฟิน

เมื่อกลับถึงบ้านทันทีที่คู่ผัวเมียเข้าห้องจ้าวโม่ชิงก็วางของในมือลงแล้วเข้าไปโอบรอบคอฉินหลิน “ที่ล้าก  ซื้อมาซะเยอะเลยน้า  เธออยากใส่สีไหนเชิญเลยเอาเลยน้า  ไหน ๆ ใส่ให้ดูหน่อยซี้~”

“อา  ราย  น้า~” ฉินหลินตกตะลึง

กู...

ใส่...

เหรอ?

.................................................................................................…

วันต่อมา

เมื่อฉินหลินตื่นเช้าขึ้นมาก็เห็นว่าจ้าวโม่ชิงยังไม่ตื่น

เมื่อคิดถึงเรื่องบ้า ๆ เมื่อคืนเขาก็อดยิ้มไม่ได้

เสื้อผ้าจากเกมมันช่างสุดยอดจริง ๆ ด้วย!

ทั้งคู่มีการกระตุ้นซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี  โบนัสคุณสมบัติใส่สบาย +2 นี่ใส่สบายจริง!

เมื่อเห็นว่าจ้าวโม่ชิงยังคงนอนหลับสนิทอยู่ก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผลแล้ว  เพราะเมื่อคืนทั้งคู่บ้าสุด ๆ ขนาดหนัก

จ้าวโม่ชิงที่ไม่เคยกินผลของต้นไม้แห่งพลังเหมือนอย่างเขาจึงต้องจบอยู่ที่นอนสลบไสลอยู่บนเตียงเป็นธรรมดา

กระนั้นท่าทางเย้ายวนของจ้าวโม่ชิงมันก็ยังดีมาก ๆ

ผู้หญิงก็เหมือนดอกไม้  ต้องรดน้ำให้ชุ่มทั้งกายและใจ

คำนี้จริง

หลังจากอาบน้ำกินข้าวเช้าเสร็จแล้วฉินหลินก็ไปที่โกดังเช่าเพื่อย้ายสินค้าส่วนของวันนี้ไปยังบ้านไร่  โดยเช้าวันนี้ไม่ได้มีอะไรสำคัญ  ดังนั้นเขาเลยกลับไปเล่นเกมที่ห้องทำงาน

ภูเขานอเทรอดามก็เหมือนเมื่อวาน  ไม่ได้มีต้นไม้พิเศษใด ๆ และไม่มีของป่า  เดินเข้าไปดูในเมืองแร่ดิบก็ไม่เห็นเควสใด ๆ ปรากฏขึ้นเลย

เปิดทีวีก็ไม่เห็นทีวีช้อปปิ้งอีก

มีหลายสถานที่ที่บ้านไร่ชิงหลินกำลังก่อสร้างอยู่  ลานย้อนยุคขนาดใหญ่หลังห้องโถงเดิมเองก็กำลังคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วและอีกไม่นานก็น่าจะเสร็จ

โดยที่หน้าลานได้มีการเอาหินก้อนใหญ่ที่สลักคำว่า “ลานแปะก๊วยโบราณ” มาตั้งวางไว้

นี่คือที่ตั้งของต้นแปะก๊วยอายุ 500 ปีสองต้นซึ่งเปลี่ยนไปมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน

คนงานก่อสร้างกำลังสร้างแผ่นหินขนาดใหญ่ขนาดใหญ่อยู่โดยมีการสลักตัวอักษรลงไปทีละตัว ๆ

เนื้อความคือเรื่องราวของต้นแปะก๊วยกับอาจารย์หลินนั่นเอง

อาจารย์หลินยืนเฉย ๆ และดูการก่อสร้างของคนงานเหล่านี้  เมื่อเห็นเรื่องราวที่สลักอยู่บนแผ่นหินเขาก็ยิ้มกว้าง

เรื่องราวได้เล่าตั้งแต่เขาหนีภัยสงครามมาพร้อมกับปู่มาจนถึงตอนนี้ที่ช่วยต้นแปะก๊วยทั้งคู่สำเร็จ

เขาเงยหน้าขึ้นมองต้นแปะก๊วยทั้งสองต้นอีกครั้ง  กิ่งก้านใบของมันก็ช่างเติบใหญ่ได้เร็วเกินไปอยู่ดี

ตลอดหลายปีมานี้มันยังเป็นต้นไม้โกร๋น ๆ ไม่มีใบเลยด้วยซ้ำ  แต่ตอนนี้มันกลับเขียวชอุ่ม

ความเร็วนี้ผิดปกติเกินไป  ถ้าเถ้าแก่ถามว่าต้นไม้ฟื้นตัวได้ไงเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าขี้วัว + ปุ๋ย + ดินแปลงนาของเถ้าแก่จะหลอกเถ้าแก่ได้มั้ย

เพื่อหลอกเถ้าแก่ให้เนียนยิ่งขึ้นเขาเลยมีการแอบขุดดินบางส่วนจากแปลงนามาฝังไว้รอบ ๆ โคนต้นแปะก๊วยด้วย

คนงานทำแผ่นศิลาจารึกและคนอื่น ๆ ได้เงยหน้ามองต้นแปะก๊วยและพูดสะท้อนอารมณ์ “อาจารย์หลินครับ  ต้นไม้สองต้นนี่โตเร็วมากเลยนะครับ”

เขาพาคนมาทำงานที่นี่เลยได้เห็นมันแทบทุกวันซึ่งแต่ละวันก็ไม่มีภาพที่เหมือนกันเลย

อาจารย์หลินได้ยินก็รู้สึกกระวนกระวายใจ “ต้นไม้สองต้นนี่มันไม่ได้โต  มันแค่แตกกิ่งก้านสาขาใหม่แต่เพราะกิ่งใหม่มันใหญ่เร็วเลยดูเหมือนมันเติบโต  แถมมันยังเป็นต้นไม้อายุตั้งห้าร้อยปีเลยนา  นายเคยเห็นต้นไม้อายุห้าร้อยปีมาก่อนมั้ยล่ะ”

อาจารย์หลินพูดต่อไปว่า “เพราะไม่เคยเห็นมาก่อนก็เลยตะลึงไง  แต่นายรู้มั้ยว่าต้นไม้อายุห้าร้อยปีมันเป็นยังไง?  ต้นไม้ที่อายุร้อยปีจะกลายเป็นต้นไม้งาม  ส่วนต้นไม้งามเมื่อผ่านไปห้าร้อยปีจะมีจิตวิญญาณเป็นของตนเองทำให้กิ่งก้านที่งอกออกมาใหม่เติบโตเร็วมาก”

“ตอนที่ฉันอายุแปดขวบฉันหนีภัยสงครามกับปู่มาหลบใต้ต้นแปะก๊วยทั้งสองต้นนี้  ที่ฉันรู้ว่าต้นแปะก๊วยทั้งสองนี้มีจิตวิญญาณก็หลังตอนนั้น...”

“พูดไปตอนนั้นตัวเองยังไม่เชื่อเลย  วันหนึ่งมันได้มีคนร้ายมาหาเรา  พวกมันถือคบเพลิงวิ่งไล่ล่าเราในตอนกลางคืน  แล้วตอนนั้นแหล่ะที่ต้นไม้นี่ช่วยชีวิตพวกเราไว้  มันได้มีเสียงราวกับคนเล่นดนตรีอยู่ดังออกมาทำเอาไอ้พวกสารเลวที่วิ่งไล่พวกเราต้องกลัวจนหัวหด”

ไม่บอกก็รู้ว่าอาจารย์หลินโม้เหม็นขึ้นมาเอง  เรื่องยิ่งมาก็ยิ่งไม่จริง  เล่าไปเล่ามาจนมันจะกลายเป็นตำนานต้นไม้วิเศษไปแล้ว

คนงานก็มองอาจารย์หลินด้วยใบหน้างุนงงว่าตกลงว่าควรจะพาแกไปหาหมอดีมั้ย?  คิดว่ากูโง่เหรอ?  เรื่องหลอกเด็กแบบนี้เล่าให้หมาหมามันยังไม่เชื่อเลย

ทว่าจู่ ๆ กลับมีลมพัดเข้ามาอย่างแรงและเสียงดนตรีอันแผ่วเบาก็แว่วมาจากต้นแปะก๊วยทั้งสอง

แล้วคนงานก็ตาถลนมองต้นไม้

“????” อาจารย์หลินไม่แค่ตาถลน  ยังอ้าปากหวออีกต่างหาก

มีเสียงที่ต้นไม้จริง ๆ ซะงั้น

‘กู...  พึ่งจะเมคเรื่องขึ้นมา...  สด ๆ...’

‘แล้วจะบอกกับเถ้าแก่ยังไงวะเนี่ย?’

และก็ชัดเจนแล้ว  ว่าเมื่อต้นแปะก๊วยมีการฟื้นตัวได้ในระดับหนึ่งเอฟเฟคต์เสียงของต้นไม้ที่ฉินหลินใช้ก่อนหน้านี้ก็จะแสดงผลออกมา

5 1 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด