ตอนที่แล้วตอนที่ 102 ความโศกเศร้าของมิกะ อุเอะฮาระ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 104 วาดภาพ

ตอนที่ 103 ขอบคุณที่ชอบผมนะ


หลังจากกินไอศกรีมจนหมด มิกะและเซจิจึงเดินกลับไปที่อพาร์ตเมนต์ พร้อมกับถือของกลับด้วยกัน

และเกิดประกายแสงลึกลับที่แววตาของมิกะ "เซจิ มากินอาหารเย็นที่บ้านของเราคืนนี้นะ"

"เอ๊ะ? ทำไมถึงได้ชวนปุบปับนักล่ะ... "

"ฉันบอกให้นายมา ก็มาเถอะน่า! "

"แต่คุณเจ้าของบ้าน... "

"แม่ของฉันก็เห็นด้วย... ฉันจะบอกเธอตอนนี้แหล่ะ!" จากนั้นมิกะก็หยิบเอามือถือของเธอออกมา

โนโซมิ อุเอะฮาระกดรับโทรศัพท์ของเธอทันที

หลังจากที่วางสาย โนโซมิก็ยิ้มบางๆ

'ดีมาก ให้มันได้ยังงั้น มิกะ! ถ้ามีคู่แข่งปรากฏตัว ลูกสาวของฉันกลายเป็นคนที่เด็ดขาดขึ้นมาทันที’ เจ้าของบ้านเห็นด้วยกับการเติบโตของลูกสาวที่โตขึ้นเล็กน้อยของเธอ

"แม่ของฉันตกลงแล้ว แต่นายต้องช่วยทำอาหารด้วยเหมือนกัน นายไม่จำเป็นต้องกลับไปที่ห้องของนาย แค่มากับฉันก็พอ!" มิกะรู้สึกมีชีวิตชีวามาก เมื่อเธอได้พูดกับเซจิหลังจากที่โทรไปหาแม่ของเธอแล้ว

"อ๊ะ... โอ้ว" เซจิตบตกลงโดยอัตโนมัติ

เขามีความสุขมากกว่าที่จะได้ช่วยทำอาหารและได้ทานอาหารเย็นร่วมกับครอบครัวคุณอุเอะฮาระ เขารู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างเกี่ยวกับอาหารมื้อนี้โดยเฉพาะ...

'อืม คงไม่มีอะไรมากหรอกมั้ง ฉันควรที่จะหยุดคิดลึกเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ได้แล้ว'

จากนั้นชายหนุ่มและหญิงสาวจึงเดินกลับบ้านไปพร้อมกัน

...

หลังจากที่โนโซมิ อุเอะฮาระกลับมาบ้าน เธอพบว่าลูกสาวของเธอได้กำลังเตรียมอาหารอยู่ในห้องครัวพร้อมกับผู้ชายซึ่งเป็นผู้เช่าของเธอ

เด็กทั้งสองคนสวมผ้ากันเปื้อน ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมอาหารและบางครั้งพวกเขาก็คุยกันในขณะที่ทำอาหารด้วยกัน  มันเป็นฉากที่ดูอบอุ่นมาก

โนโซมิรู้สึกอย่างแท้จริงว่ามันเป็นสิ่งที่เยี่ยมมากที่ได้เห็น

แน่นอนว่าเธอเคยชินกับลูกสาวของเธอที่อยู่ที่นั่น และสำหรับผู้ชายคนนั้น... มันจะทำให้เธอรู้สึกมั่นใจถ้ามีผู้ชายคนหนึ่งที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือได้ในครอบครัวของเธอ

สามีของเธอนั้นเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นเธอจึงต้องเลี้ยงดูลูกสาวของเธอในฐานะม่าย(single mother) มีปัญหาหลายอย่างที่เธอต้องทนกับแรงกดดันในชีวิต

ถึงแม้ว่าเธอจะคิดแล้วว่าถึงเวลาแล้วที่จะได้เวลาแต่งงานใหม่ แต่เวลาก็ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว และก่อนที่เธอจะรู้ตัว ลูกสาวของเธอโตขึ้นเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เธอจำได้แค่สามีของเธอเท่านั้น

เธอเกือบลืมไปแล้วว่าการมีผู้ชายอยู่ในบ้านเป็นยังไง แต่คราวนี้เธอจำมันได้อย่างชัดเจนแล้ว

แผ่นหลังของเด็กผู้ชายคนนั้นได้ทับซ้อนกับภาพของสามีของเธอ

โนโซมิต้องสูญเสียความคิดไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่เธอจะรู้ตัว และพบว่าใบหน้าของเธอกำลังร้อนขึ้นด้วยความเขินอาย

ให้ตายเถอะ นี้เธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่!

เขาเป็นแค่เด็กผู้ชาย และเป็นนักเรียนที่อายุเท่าลูกสาวของเธอ แม้ว่าเขาจะสูงและแข็งแรง แต่เขาก็ยังเด็กอยู่ดี

แต่มันก็ทำให้รู้สึกมั่นใจที่มีเขาอยู่ด้วยจริงๆ...

โนโซมิหยุดความคิดพวกนี้ทันทีขณะที่เธอควบคุมความรู้สึกที่ไม่มั่งคงที่เล็กน้อยพวกนี้เอาไว้ เธอยิ้มบางๆและเดินเข้าไปทักทายพวกเขา

"แม่เหรอ? ยินดีต้อนรับบ้านค่ะ"

"วันนี้รบกวนด้วยนะครับ คุณเจ้าของบ้าน"

ลูกสาวที่น่ารักของเธอทักทายเธอเหมือนปกติ และเด็กผู้ชายที่ดูอ่อนโยนก็ได้ทักทายเธออย่างสุภาพ

"กลับมาแล้วจ๊ะ... ยินดีต้อนรับเธอนะ ฮารุตะคุง"

โนโซมิยิ้มตอบอย่างร่าเริง ขณะที่เธอเริ่มเตรียมตัวช่วยทำอาหารในห้องครัว

นี้มันดูเหมือนครอบครัวจริงๆเลย

การทำอาหารกับมิกะและคุณเจ้าของบ้าน ก่อนที่จะทานอาหาเย็นร่วมกับพวกเธอ เป็นสิ่งที่ไม่ทำให้เซจิผิดหวัง

เขามีความสุขกับพวกเธอ..

เพียงแต่... มีบางอย่างที่ได้ดึงดูดความสนใจของเขา มิกะ... ดูรุกขึ้นมากกว่าก่อน

เธอตั้งใจที่จะนั่งใกล้ๆกับเขาและป้อนอาหารให้เขากินด้วยตะเกียบของเธอ เธอมองตรงไปที่เขาและพูดคุยกับเขามากกว่าเมื่อก่อน... ถึงอย่างนั้น มันก็เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเธอกำลังรุกมากขึ้น แม้ว่าใบหน้าของเธอจะแดงขึ้น แต่เธอก็ยังคงพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับเขามากขึ้น

สำหรับพวกเรื่องนี้เดาได้ง่ายๆเลย เซจิทำได้แค่ถอนหายใจเท่านั้น

คาเอเดะ จูมอนจิ...

เซจิเก็บอารมณ์ที่ผสมปนเปที่เขารู้สึกเมื่อคิดถึงสาวสวยผมบลอนด์คนนั้น ขณะที่เขายังยิ้มต่อหน้าครอบครัวอุเอะฮาระ

หลังอาหารเย็น

เซจิช่วยล้างจานและกลับไปที่ห้องของเขาหลังจากนั้น

แต่เขาก็พักผ่อนได้ไม่เกินกว่าหนึ่งนาที ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงเคาะประตู

เซจิกุมขมับไปที่หัวของเขาหลายวินาทีก่อนจะเดินไปเปิดประตู

ตามคาด เธอคือสาวสวยผมบลอนด์จากครอบครัวมาเฟีย

เธอต้องรอเขากลับห้องอยู่แน่!

คาเอเดะ จูมอนจิยังคงยิ้มอยู่ แต่มีเงาดำอยู่ใต้รอยยิ้มนั้น

"สวัสดี ฮาราโนคุง นายกินข้าวเย็นหรือยัง?"

"สวัสดีครับ... ผมเพิ่งกินมานะครับ"

"อันที่จริงแล้ว ฉันสั่งซูชิแบบกลับบ้านมาน่ะ และฉันก็อยากจะเชิญนายถ้านายยังไม่ได้กินข้าวมา... แต่ดูเหมือนว่าฉันคงจะต้องรอครั้งต่อไปสินะ" มีสายตาที่ดูผิดหวังปรากฏออกมาในแววตาของคาเอเดะขณะที่เธอถอนหายใจ

เซจิไม่รู้จะตอบกลับยังไงดี

"นี่ของขวัญย้ายเข้าที่ฉันจะให้นายน่ะ แต่เราก็ถูกขัดจังหวะ ตอนนี้... ยังให้ได้อยู่รึเปล่า?" คาเอเดะส่งกล่องเค้กให้เขาเป็นครั้งที่สอง

"... ขอบคุณครับ ผมจะรับมันไว้" เซจิหยิบเอากล่องเค้กจากเธอ

"ขอโทษที่รบกวนนะ  ดูแลตัวเองและพักผ่อนให้เพียงพอด้วยล่ะ" คาเอเดะโค้งคำนับเล็กน้อยขณะที่เธอเดินจากไป

ใบหน้าที่งดงามของเธอนั้นดูโดดเดี่ยวเหงาหง่อย ขณะที่เธอเดินจากไป

สีหน้าของเซจิสั่นไหวเล็กน้อยขณะที่เขาถือกล่องเค้ก

"เดี๋ยวก่อน!" เขาเรียกหยุดเธอไว้

ฝีเท้าของสาวผมบลอนด์นั้นหยุดชั่วคราว

"คุณอยากเข้ามาในห้องผมหรือเปล่า? แม้ว่าผมจะไม่มีของใช้ตอนรับแขกมากก็เถอะ... "

คาเอเดะค่อยๆหมุนตัวกลับมา

"ฉัน...  ด้วยความยินดีค่ะ"

ใบหน้าที่งดงามของเธอแดงระรื่นออกมา และดวงตาของเธอก็ดูเปล่งประกาย

'ฉันนี้มันโง่สุดๆ!' เซจิคิดกับตัวเองขณะมองไปที่สาวผมบลอนด์ที่กำลังเดินเข้ามาที่เขา

แต่เขาก็คงไม่สามารถปล่อยให้เป็นแบบเดิมได้

จำเป็นต้องมีการพูดคุยกับเธอ

เมื่อคิดได้แบบนี้เซจิก็เชิญเธอเข้ามาในห้องของเขา

อพาร์ตเมนต์ของเขาค่อนข้างเล็กและแคบ มันไม่เหมาะนักที่จะใช้รองรับแขก เซจิปล่อยให้เธอนั่งบนเก้าอี้ ขณะที่เขานั่งอยู่บนขอบเตียง

โชคดีที่เขามีถ้วยสองใบ... มันมีแค่ถ้วยสองใบเท่านั้นที่เขามีอยู่

เขารินชาใส่ทั้งสองถ้วยและเปิดกล่องเค้กและวางทุกอย่างไว้บนโต๊ะ คิดซะว่าเขากำลังรับแขกก็แล้วกัน

"ใบชาพวกนี้ค่อนข้างราคาถูก ดั้งนั้นอย่าได้คาดหวังอะไรเกี่ยวกับรสชาติพวกมันเลย แล้วก็เชิญทำตัวตามสบายได้เลยครับ"

"ไม่หรอก... ตราบเท่าที่นายชงชานี้ มันก็เป็นชาที่เยี่ยมสำหรับฉันแล้ว" ใบหน้าของคาเอเดะแดงขึ้นเล็กน้อยขณะที่เธอพูด เธอค่อยๆจับถ้วยชาด้วยมือทั้งสองข้าง และยกขึ้นเข้าไปที่ปากของเธอ

เมื่อเห็นว่าเธอกำลังระวังแม่แต่กับถ้วยชา เซจิก็ถอนหายใจ

สำหรับสาวสวยชั้นสูงที่มีความรู้สึกต่อกับผู้ชายเช่นนี้แล้ว จะเป็นไปได้ยังไงที่ผู้ชายจะไม่รู้สึกหวั่นไหวเลย?

เซจิไม่ได้ไม่รู้สึกอะไรเลย

อย่างน้อยที่สุดเขาก็รู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย

ที่โรงเรียนตอนเขาได้รับจดหมายรักทั้งหมด สถานการณ์มันต่างกัน เพราะพวกมันเป็นเพียงจดหมายรักเท่านั้น เขาไม่จำเป็นต้องเจอกับผู้หญิงด้วยตัวเอง ดังนั้นเขาจึงสามารถจัดการกับมันได้

แต่คาเอเดะ จูมอนจิที่เป็นคนที่งดงามจนไม่อาจละสายตาได้ ซึ่งได้ตามเขามาตลอดจนถึงที่นี้!

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สะดวกเล็กน้อย แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะยังคงไม่ไหวติง

มันยังคงไม่ได้อยู่ในระดับโรแมนติก แต่แม้ว่าเขาจะยังคงต้องคิดถึงตัวตนของเธอในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของพวกมาเฟีย

'ไม่ว่าจะยังไง คงจะดีที่สุดที่จะได้พูดคุยกันก่อนเป็นอย่างแรก'

"คุณจูมอนจิ คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวเพื่อสุภาพกับผมก็ได้ ทำตัวสบายๆและผ่อยคลายก็ได้ครับ"

"ไม่เป็นไรแน่เหรอ?" แววตาของคาเอเดะสว่างขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดนั้น

"ก็ตามที่ว่านั้นแหละครับ  ช่วยทำตามที่ว่านั้นด้วยเถอะครับ มันก็ดีอยู่หรอกที่จะมีมารยาท แต่ผมไม่ค่อยชินกับมารยาทพวกนี้สักเท่าไหร่" เซจิยกถ้วยน้ำชาของตัวเองขึ้นและจิบมัน

"งั้นตกลง... " คาเอเดะรู้สึกยินดีที่ได้ลดช่องว่างระหว่างเธอกับเซจิ

ความเงียบได้อยู่ในห้องเพียงไม่นาน

"ผมไม่ค่อยเก่งในการพูดอ้อมค้อม ดังนั้นผมจะพูดตรงๆเลยนะครับ" เซจิเกาหน้าด้วยความเขินอาย "ถ้าผมเข้าใจผิดหรือถ้าผมไม่สุภาพ ผมก็ต้องขอโทษด้วย... ถึงอย่างนั้น ผมอยากจะถามคุณว่า คุณมาที่นี่เพราะผมใช่หรือเปล่า?"

ใบหน้าของคาเอเดะกลายเป็นสีแดงเข้ม ขณะที่เธอพยักหน้าช้าๆ

"ถ้าเป็นแบบนั้น ผมก็มีความสุขที่คุณ... รู้สึกแบบนั้นกับผม แต่ตอนนี้ฉันไม่มีคิดที่จะมีแฟน" เซจิพูดด้วยความจริงใจในขณะที่มองเข้าไปในดวงตาของเธอ

ใบหน้าของคาเอเดะมืดลงเล็กน้อย

"ฮาโนะคุง... การที่ฉันย้ายมาที่นี้มันรบกวนนายหรือเปล่า?" เธอถามด้วยเสียงที่เบา

"ไม่หรอก คุณไม่ได้รบกวนผมเลย... แต่เอาจริงๆคือมันไม่สะดวกนิดหน่อย" เซจิบอกกับเธอโดยตรง

ใบหน้าของคาเอเดะดูมืดลงอีกครั้ง

"แต่คุณก็ไม่ได้ทำอะไรผิด จะอยู่ที่นี้หรือที่ไหนก็ตามมันก็เป็นอิสระในที่คุณจะเลือก คุณมาที่นี้เพราะผม ดังนั้นผมควรจะตอบสนองต่อความรู้สึกของคุณ และนั่นคือสิ่งที่ผมเพิ่งทำไป แม้ผมจะไม่เชื่อว่าสิ่งที่ผมทำจะคู่ควรกับสิ่งที่คุณทำมาก แต่... ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม... "

แววตาของเซจิดูเลื่อนลอยเล็กน้อย ขณะที่เขาเกาไปที่ใบหน้าของเขาอย่างงุ่มง่าม และแสดงถึงความเขินอายออกมา " ขอบคุณที่ชอบผมนะครับ"

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้และเห็นท่าทางของเขา ความรู้สึกที่มืดมนของคาเอเดะก็ถูกกำจัดออกไป และแสงที่ไม่อาจอธิบายได้ปรากฏขึ้นในแววตาของเธอ

เขานี้มัน...

ความรู้สึกที่อบอุ่นที่ยากจะอธิบายได้เกิดขึ้นมาภายในหัวใจของเธอ รู้สึกเหมือนกับว่าความเจ็บปวดที่ได้พ่ายแพ้ของเธอที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ถูกเอาออกไปจากหน้าอกของเธอจนหมดสิ้น

'ฉันจะไม่... ยอมแพ้อย่างเด็ดขาด' เธอได้ตัดสินใจที่จะกัดฟันสู้ต่อไปด้วยความมุ่งมั่นของเธอ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด