ตอนที่แล้วตอนที่ 280 สังเวียนเลือด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 282 รอฉัน

ตอนที่ 281 ร่างที่คุ้นเคย


ตอนที่ 281 ร่างที่คุ้นเคย

วันนี้หลี่โม่อารมณ์ดีมากเป็นพิเศษ เขาจึงเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับสาวสวยหลายคน ก่อนที่จะเปิดระบบทีวีขนาดใหญ่แล้วทำการเชื่อมต่อทีวีเข้ากับรหัสสัญญาณพิเศษ

ในหลาย ๆ ดาวของพันธมิตรขณะนี้ยังคงเป็นช่วงเวลาเช้าตรู่ แต่มันก็มีผู้คนเป็นจำนวนมากได้ตื่นขึ้นมารอดูการแข่งขันในสังเวียนเลือด

ผู้รับชมสังเวียนเลือดเป็นประจำต่างก็ล้วนแล้วแต่รู้จักชื่อเสียงของบุชเชอร์เป็นอย่างดี เพราะเขาคนนี้ได้รับชัยชนะติดต่อกันมาถึง 273 ครั้งและยังไม่เคยพ่ายแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ยิ่งไปกว่านั้นบุชเชอร์ยังชอบสังหารศัตรูด้วยวิธีการอันโหดร้าย และมันก็ทำให้ผู้ชมหลาย ๆ คนไม่พลาดรับชมการแข่งขันของชายคนนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

วันนี้นักสู้ผู้โด่งดังกำลังจะได้เผชิญหน้ากับเซี่ยเฟย ผู้ซึ่งเป็นจัสทิสฝึกหัดที่เคยสร้างชื่อจากการต่อสู้กับเฉินตงมาก่อน และในปีนี้เขายังเป็นผู้ที่ได้รับคะแนนดับเบิ้ลเพอร์เฟคเป็นคนแรกของการแข่งขันรายการโกลเดนฟิงเกอร์ จนทำให้หลาย ๆ คนเชื่อว่าหากไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเซี่ยเฟยก็คงจะกลายเป็นแชมเปี้ยนของรายการโกลเดนฟิงเกอร์ในปีนี้อย่างแน่นอน

แต่น่าเสียดายที่ชายหนุ่มผู้มีอนาคตคนนี้กลับต้องลงไปต่อสู้ในสังเวียนเลือดซะแล้ว มันจึงทำให้แม้แต่ผู้ชมที่พยายามมองโลกในแง่ดีที่สุด ก็ไม่เชื่อว่าเซี่ยเฟยจะสามารถหลบหนีออกมาจากสังเวียนเลือดได้ เพราะในประวัติศาสตร์ของสังเวียนเลือดไม่มีใครเคยหลบหนีออกมาจากสถานที่แห่งนี้ได้มาก่อน

“ครั้งนี้ฮุกทำได้ดีจริง ๆ เมื่อเซี่ยเฟยต้องเผชิญหน้ากับบุชเชอร์ มันก็จะต้องถูกทรมานไปจนตาย” หลี่โม่กล่าวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับยกแก้วแชมเปญขึ้นมาดื่ม

“นายน้อยอย่าลืมสิครับว่าเซี่ยเฟยเป็นสมาชิกของสมาพันธ์จัสทิส และการฆ่าจัสทิสก็ไม่ต่างไปจากการประกาศสงครามกับสมาพันธ์ ยิ่งไปกว่านั้นการแข่งขันในครั้งนี้ยังถ่ายทอดสดไปทั่วทั้งพันธมิตร ผมเกรงว่าหลังจากนี้ฮุกจะถูกตามล่าจากสมาพันธ์จัสทิสอย่างบ้าคลั่ง” พ่อบ้านที่ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครากล่าวพร้อมกับโค้งศีรษะลงมาด้วยความเคารพ

“ฮุกถูกตามล่าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรา ท้ายที่สุดฉันก็จำเป็นต้องใช้เงินแค่นิด ๆ หน่อย ๆ ในการกำจัดคนที่ขวางหูขวางตาของฉันไป ก่อนหน้านี้พ่อของฉันพูดถูกแล้วว่าไม่มีอะไรที่เงินไม่สามารถทำได้ ความผิดของเซี่ยเฟยเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือมันเป็นคนจนแต่สะเออะกล้ามาเผชิญหน้ากับชนชั้นสูงอย่างฉัน!” หลี่โม่กล่าวอย่างเย้ยหยัน

“นายน้อยพูดถูกแล้วครับ ครั้งนี้ผมจัดการหลักฐานทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ฮุกจะเดาได้ว่าคนคนนั้นถูกส่งมาจากพวกเรา แต่เขาก็ไม่มีหลักฐานที่จะเชื่อมโยงเรื่องเซี่ยเฟยมาหาพวกเราได้อยู่ดี” พ่อบ้านกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

ณ แผนกอาวุธยุทโธปกรณ์ของสมาพันธ์จัสทิส

ทูรามกำลังเดินไปเดินมาในห้องทำงานอย่างร้อนรน ซึ่งเลขาของเขาก็นั่งมองอยู่จากมุมห้องโดยไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ

ทันใดนั้นเครื่องสื่อสารบนโต๊ะก็ส่งเสียงขึ้นมาพร้อมกับไฟแสดงสถานะที่บ่งบอกว่าการติดต่อในครั้งนี้มาจากแผนกสืบสวนลับของสมาพันธ์

“เป็นไงบ้าง? มีข่าวอะไรไหม?” ทูรามรีบกดปุ่มเชื่อมต่อการสื่อสารตัดหน้าเลขาของตัวเอง

ภาพที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอคือชายชราผู้มีรอยสักเต็มใบหน้าทางด้านซ้าย ดวงตาของเขาเฉียบคมเหมือนกับเหยี่ยว และใบหน้าของเขาก็ให้ความรู้สึกอันเย็นชา จนทำให้คนที่ถูกชายชราคนนี้จ้องมองรู้สึกกลัวขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

“พวกเราพยายามตรวจสอบเรื่องสังเวียนเลือดมานานหลายปีแล้ว แต่พวกเราก็ยังไม่สามารถระบุตำแหน่งของสังเวียนเลือดได้ ไม่ว่านายจะร้อนใจแค่ไหนแต่ฉันก็รีบทำอะไรให้กับนายไม่ได้อยู่ดี” ชายชราภายในจอภาพกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

ปัง!

ทูรามใช้มือทุบโต๊ะอย่างแรงก่อนที่เขาจะตะโกนออกไปด้วยความหงุดหงิด

“ลั่วซา! นายรู้ใช่ไหมว่าเซี่ยเฟยคือคนของไอ้บ้าฉินหมาง ถ้าฉินหมางรู้เรื่องนี้ทั้งนายและฉันไม่มีวันได้อยู่อย่างสงบสุขแน่ นายเป็นถึงหัวหน้าแผนกสืบสวนลับของสมาพันธ์ ถ้านายให้คำตอบฉันไม่ได้แล้วฉันจะต้องไปหาคำตอบจากใคร!?”

ใบหน้าของลั่วซาเปลี่ยนไปอย่างน่าเกลียด เพราะท้ายที่สุดเขาก็รู้ดีว่าฉินหมางมีนิสัยยังไง เขาจึงถอนหายใจพร้อมกับกล่าวออกมาเบา ๆ ว่า

“ฉันคิดว่าครั้งนี้นายควรจะต้องบอกความจริงกับฉินหมาง พวกเราประกาศรหัสสีส้มไปสักพักใหญ่ ๆ แล้ว และลูกน้องของฉันก็กำลังพยายามอย่างเต็มที่ ถ้านายอยากให้ทุกอย่างเร็วกว่านี้ นายลองติดต่อไปหานิโคลัสดูเผื่อว่าแผนกบริหารจะทำอะไรได้บ้าง”

“ถ้านิโคลัสช่วยฉันได้แล้วฉันต้องมาลำบากโทรหานายอีกไหม สัญญากับฉันมาว่านายจะจัดการเรื่องนี้ด้วยความสำคัญระดับสูงสุด ไม่ว่ายังไงนายก็จะต้องเอาเขากลับมาให้ได้” ทูรามกล่าวพร้อมกับฉีกชุดเครื่องแบบของตัวเองออกอย่างหงุดหงิด

“ขอโทษด้วย แต่คำสั่งความสำคัญระดับสูงสุดต้องได้รับการอนุมัติจากกรรมการผู้อาวุโสขึ้นไปเท่านั้น ฉันไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งโดยพลการ” ลั่วซากล่าวพร้อมกับส่ายหัว

เมื่อไม่มีทางออกทูรามก็ปิดระบบการสื่อสารอย่างหงุดหงิด จากนั้นเขาก็นั่งลงที่โต๊ะเพื่อพยายามสงบสติอารมณ์ ก่อนที่จะเริ่มทำการสั่งงานคอมพิวเตอร์ AI อีกครั้ง

“ติดต่อไปหาฉินหมาง”

ภาพที่ปรากฏคือฉินหมางกำลังอาบแดดริมชายหาด และเนื่องมาจากสภาพแวดล้อมในการฟื้นฟูที่ดี มันจึงทำให้ชายชราคนนี้กลับมาดูดีใกล้ ๆ จะเหมือนเดิมแล้ว

“นายมาถูกเวลาพอดี ฉันกำลังคิดว่าฉันจะไม่อยู่ในห้องสมุดของค่ายฝึกอีกต่อไปแล้ว แต่จะกลับไปอยู่ที่ใกล้ ๆ กลุ่มดาวนครหลวงแทน” ฉินหมางกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะจิบเครื่องดื่มและรับชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามทางด้านหน้า

“นายทำข้อตกลงกับพวกนั้นว่าจะไม่กลับมายังกลุ่มดาวนครหลวงตลอดชีวิตไม่ใช่เหรอ?” ทูรามกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ฉันไม่ได้จะเข้าไปอยู่ในเขตกลุ่มดาวนครหลวงสักหน่อย แค่จะหาที่อยู่บนดาวใกล้ ๆ กับนครหลวงเท่านั้นเอง ฉันเดาว่าหลังจากเซี่ยเฟยพัฒนาไปสักพัก เขาก็คงจะต้องเดินทางมาที่กลุ่มดาวนครหลวงบ่อยมากขึ้น” ฉินหมางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ทูรามพูดไม่ออกไปชั่วขณะและเขาก็ไม่รู้ว่าจะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับเซี่ยเฟยยังไงดี

“นายมีอะไรอยากจะบอกฉันหรือเปล่า?”

“ตอนนี้เซี่ยเฟยกำลังเจอกับปัญหาใหญ่” ทูรามกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

ณ คฤหาสน์ซันเซ็ทวิลล่า

ถึงแม้ว่าแอวริลจะไม่สบายใจจากการจากไปอย่างกะทันหันของเซี่ยเฟย แต่เธอก็ยังคงใช้ชีวิตประจำวันเหมือนเดิมจนทำให้เหล่าบรรดาคนรับใช้รู้สึกว่าเธอโตขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก

ขณะเดียวกันสิ่งที่เกิดขึ้นในสังเวียนเลือดก็ไม่ใช่ความลับและตระกูลขนาดใหญ่ในพันธมิตรต่างก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าตระกูลของแอวริลที่มีขนาดใหญ่อยู่ในอันดับ 11 ของพันธมิตร และเป็นตระกูลที่คอยควบคุมสตาร์เน็ตเวิร์กเอาไว้ย่อมรับรู้ข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นภายในพันธมิตรไม่น้อยหน้าไปกว่าพวกกองทัพ

ผางชิงรู้ดีว่าแอวริลกำลังรู้สึกกังวลเรื่องของเซี่ยเฟย เขาจึงพยายามรวบรวมข้อมูลทั้งหมดในบริษัทอย่างลับ ๆ เพื่อพยายามหาข่าวของชายหนุ่มที่อาจจะถูกเผยแพร่ออกมา และเมื่อไม่กี่นาทีก่อนผางชิงก็ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ที่คอยสืบหาข้อมูล ก่อนที่เขาจะได้รู้ว่าเซี่ยเฟยได้ถูกจับตัวเข้าไปทำการแข่งขันในสังเวียนเลือด

“มีใครรู้เรื่องนี้อีกบ้าง?” ผางชิงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ข้อมูลนี้ยังใหม่มาก น่าจะยังไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องนี้ครับ”

“ถ้าอย่างนั้นเก็บเรื่องนี้เอาไว้ก่อน อย่าพึ่งรายงานใครจนกว่าฉันจะอนุญาต”

“คือว่า… ผู้อาวุโสก็กำลังสนใจเรื่องคุณเซี่ยเฟยด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าพวกเราควรจะรายงานผู้อาวุโสทันทีที่พวกเราได้รับข่าวเหรอครับ?”

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจะอธิบายเรื่องนี้ด้วยตัวเอง สิ่งที่นายจะต้องทำคืออย่าพึ่งรายงานเรื่องอะไรจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้” ผางชิงกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงเข้ม

“ได้ครับ”

หลังจากนั้นผางชิงก็เดินออกมาจากห้องรักษาความปลอดภัยด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ท้ายที่สุดสิ่งที่เขากำลังรู้สึกกังวลมากที่สุดก็ไม่ใช่เรื่องที่กำลังเกิดขึ้นกับเซี่ยเฟย แต่เขาไม่รู้ว่าแอวริลจะสามารถทนรับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นกับเซี่ยเฟยได้หรือเปล่า

พ่อบ้านหัวโล้นเดินขึ้นไปยังห้องโถงชั้น 2 อย่างช้า ๆ ก่อนที่จะแอบมองดูแอวริลจากรอยแยกบนบานประตู

คุณหนูของเขากำลังเรียนมารยาทอย่างเคร่งครัด เพราะอีกไม่กี่วันจะถึงวันเกิดของผู้อาวุโสแล้ว และในฐานะที่แอวริลเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลเจี่ยน เธอจึงมีหน้าที่รับผิดชอบในการออกมาดูแลแขกทุกคน

ก่อนหน้านี้แอวริลเกลียดการเข้าเรียนเรื่องมารยาทมาก แต่จู่ ๆ เธอก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนจนทำให้เขาอดที่จะถามเธอถึงเรื่องนี้ขึ้นมาไม่ได้

คำตอบที่เขาได้รับคือหญิงสาวตั้งใจจะแต่งงานกับเซี่ยเฟยในอนาคต และเธอก็ไม่สามารถปล่อยให้ชายหนุ่มเสียหน้าได้ ดังนั้นถึงแม้ว่าเธอจะไม่ชอบเรียนเรื่องพวกนี้ แต่เธอก็จะตั้งใจเรียนเพื่อให้เธอเป็นเจ้าสาวที่ดีที่สุดของเขา

เมื่อนึกถึงคำตอบในวันนั้นผางชิงก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิม เขาจึงเอนตัวพิงมุมเสาอย่างอ่อนแรงก่อนที่จะพึมพำกับตัวเองขึ้นมาเบา ๆ

“แล้วฉันจะต้องบอกคุณหนูยังไงดีเนี่ย”

ไม่ว่าคนนอกจะรู้สึกกังวลมากแค่ไหน แต่มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในปัจจุบันของเซี่ยเฟยไปได้

เมื่อถึงเวลาเริ่มต้นการแข่งขันรั้วเลเซอร์ที่กักขังเซี่ยเฟยกับบุชเชอร์ก็หายไป

“ไปกันเถอะ ท้ายที่สุดพวกเราทั้งคู่ต่างก็เป็นนักสู้ และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพวกเราก็จะต้องคอยรักษาศักดิ์ศรีของตัวเองเอาไว้” บุชเชอร์กล่าวพร้อมกับเดินนำเข้าไปในสังเวียน

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามชายฉกรรจ์ผิวเข้มเข้าไปในสังเวียนเช่นเดียวกัน

เฮ้!!!

ผู้ชมหลายหมื่นคนส่งเสียงโห่ร้องตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง แล้วมันก็มีทั้งคนที่ตะโกนชื่อของบุชเชอร์และคนที่ตะโกนชื่อของเซี่ยเฟย

เซี่ยเฟยเงยหน้าขึ้นไปเผชิญหน้ากับแสงสปอร์ตไลท์ พร้อมกับกวาดตามองไปยังเหล่าบรรดาผู้ชมที่อยู่บนอัฒจันทร์

ฮุกนั่งอยู่บนที่นั่งที่สะดุดตาและที่นั่งของเขาก็ทำขึ้นมาจากทองคำขนาดใหญ่ทำให้คล้ายกับว่าเขากำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ของจักรพรรดิ

สายตาของเซี่ยเฟยยังคงมองไปยังผู้รับชมที่อยู่รอบ ๆ ก่อนที่เขาจะได้พบกับร่างที่คุ้นเคย ซึ่งการเผชิญหน้ากันในครั้งนี้ได้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึงจนร่างของเขาแข็งค้างไป

***************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด