ตอนที่แล้วตอนที่ 46
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 48

ตอนที่ 47


ในเวลานี้ อเล็กซกำลังยิ้มแย้มในใจอย่างมีความสุข ทุกลูกเตะของศัตรู เป็นเหมือนไม้ที่กำลังนวดเขาอย่างดุเดือด แม้จะเจ็บปวดแต่ก็รู้สึกดีเป็นอย่างยิ่ง

ซึ่งความเสียหายทั้งหมด ก็จะไปแปรเปลี่ยนไปเป็นการกระตุ้นความสามารถต้านทานการโจมตีประเภทกระแทกที่เขามีให้พัฒนาสูงยิ่งขึ้นกว่าเดิม

เรียกได้ว่า นอกจากจะมาฝึกฝนการต่อสู้และทดลองความสามารถใหม่แล้ว อเล็กซ์ก็มาเป็นเป้าให้ศัตรูซ้อมเล่นด้วย

อเล็กซ์เริ่มปล่อยให้ตัวเองพลาดท่าและเพลี้ยงพล้ำ จนถูกส้นเท้าอีกฝ่ายกระแทกเข้าใส่ซี่โครง จนเซไปด้านข้าง

อามันจึงตามมาโจมตีอย่างต่อเนื่อง ด้วยการส่งลูกเตะอันหนักหน่วงเข้าใส่ราวกับห่าฝน

คนธรรมดาได้แต่มองเห็นการเคลื่อนไหวนี้เป็นภาพเบลอ และมีเพียงเสียงกระแทกดังสนั่นราวกับพายุเท่านั้น

อเล็กซ์ถูกกดดันเข้าไปยังมุมเวที แต่เขาก็ยังคงยืนหยัดและให้อีกฝ่ายโจมตีอย่างหนักหน่วง ราวกับภูเขาที่ตั้งตระหง่านพร้อมท้าทายลมและฝนอย่างไม่หวั่นเกรง

" เจ้าเด็กนี้ใจมันสู้มาก "

" การโจมตีของอามันไม่เบาเลย แม้จะใช้แขนกัน แต่ก็ต้องบาดเจ็บแน่ แต่เจ้าเด็กนี้โดนไปจะร้อยครั้งแล้ว "

อามันเริ่มสงสัยในฝีมือตัวเอง เขาใช้สเต็ปเท้าเข้าออก เล็งโจมตีเข้าแต่จุดสำคัญ แต่อีกฝ่ายก็เหมือนกับป้อมปราการที่ไม่ยอมแตกพ่ายลงซักที

ทุกคนล้วนคิดว่าอเล็กซ์นั้นกำลังพยายามฝืนยืนหยัด ด้วยพลังใจอันเปี่ยมล้น

แต่แท้จริงแล้ว อเล็กซ์บาดเจ็บเพียงแค่บาดแผลภายนอกเท่านั้น ซึ่งมันจะใช้เวลาฟื้นฟูอย่างง่ายดาย

แต่แม้เขาจะบาดเจ็บมากกว่านี้ แต่ด้วยความสามารถต้านทานความเจ็บปวด รวมถึงความสามารถต้านทานจำนวนมาก

ทั้งยังมีความสามารถ กายแห่งความโกลาหล ที่เพิ่มความต้านทานทั้งหมดเสริมเข้ามาอีก

แม้อเล็กซ์จะซี่โครงแตก กล้ามเนื้อฉีกขาด แต่อเล็กซ์ก็จะลดประสิทธิภาพร่างกายแค่เล็กน้อยเท่านั้น

เรียกได้ว่าอเล็กซ์มีความทนทานที่มากกว่าคนทั่วไปมากๆ ทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงประสบการณ์การบาดเจ็บสาหัส

ซึ่งมันเป็นผลมาจากการฝึกอย่างบ้าคลั่งและโรคจิตเกินมนุษย์ของเขา

' ในอนาคตเราจะต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอันตรายมากมายกว่านี้หลายเท่า เราจึงต้องเริ่มฝึกตั้งแต่ตอนนี้ '

นี้คือสิ่งที่อเล็กซ์ได้บรรลุ ในสมัยก่อนเขาก็คิดว่าเกมส์นี้มันจะดำเนินไปเหมือนเกมส์ทั่วไป

แต่ความจริงแล้ว มันมีความสามารถมากมาย ที่ต้องใช้เวลาและความอดทนในการฝึกฝน เพื่อที่จะได้รับมา

หากเขาต้องการเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุด เขาก็ต้องทนรับการโจมตีทุกประเภทให้ไหว ดุจดั่งลาสบอสตัวสุดท้ายในเกมส์

สิ่งใดที่ทำให้เราเจ็บปวด ถ้ามันไม่ถึงตาย มันจะทำให้เราแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม นี้ถือเป็นคติที่อเล็กซ์ยึดถือเอาไว้ในใจ

" ปักๆๆๆๆ "

ลูกเตะสาดเข้าใส่อย่างไม่หยุดยั้ง แต่อเล็กซ์ก็เหมือนคนที่กำลังเอาตัวรอดอยู่ท่ามกลางพายุ

จนอามันเริ่มหงุดหงิดมากขึ้น เขาจึงเริ่มถอยหลังมาตั้งหลัก พร้อมใช้ทักษะ ลูกเตะพายุ

ซึ่งเป็นทักษะ ที่มีความรุนแรงมาก แต่ข้อเสียคือเป็นท่าใหญ่ที่ใช้เวลาและท่าร่างที่อาจจะเปิดช่องโหว่ขนาดใหญ่ และการโจมตีก็อาจจะถูกอีกฝ่ายมองออกและหลบได้

แต่อามันรวมถึงคนอื่นๆ คิดว่าอเล็กซ์นั้นเป็นเพียงแค่กระสอบทราย ที่ยืนหยัดอยู่ได้เพียงเพราะกำลังใจเท่านั้น

มันจึงทำให้อามันวางใจ และหมุนตัวสองครั้ง พร้อมฟาดลูกเตะออกมาราวกับเครื่องจักรที่มีพละกำลังสูง

อเล็กซ์ยกมือขึ้นมากัน แต่ลูกเตะก็ทะลวงจนกระแทกเข้าไปโดนศรีษะ

ซึ่งอเล็กซ์ก็ตอบสนองต่อโดยการใช้ช่วงหน้าผากรับเท้า พร้อมเบี่ยงสลายพลังไปด้วย

แต่การโจมตีอีกฝ่ายก็รุนแรงระดับสังหารหมีควายได้เลยทีเดียว ทำให้อเล็กซ์เซถอยหลังเล็กน้อย

ผู้คนรอบข้างรวมถึงพวกนักสู้ ก็มามุงดูการต่อสู้นี้ด้วยใจจดจ่อ พร้อมดวงตาที่ไม่อยากเชื่อ

" ไอเด็กบ้านี้มันกินอะไรเข้าไป ? ทำไมมันอึดนัก "

" หรือว่าเจ้านี้ แท้จริงแล้วมีคลาส นักรบ ระดับสูง แต่ปลอมตัวมา ? "

" บ้าหรอ นักรบมันทนทานสูงก็จริง แต่ความสามารถส่วนใหญ่ไว้ใช้กับชุดเกราะและโล่ "

" แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่เจ้าเด็กนี้ก็อึดเกินไปแล้ว "

อเล็กซ์เซเล็กน้อย และถูกตามมาส่งลูกถีบจนไปชิดมุมเชือก แต่เขาก็เด้งตัวขึ้นมายืนได้อีกครั้ง

" แฮ๊กๆๆๆ "

แต่แทนที่อเล็กซ์จะสภาพย่ำแย่ แต่กับกลายเป็นอามัน ที่ใช้พลังส่งลูกเตะไปมาก

พลังเสริมของความสามารถ เลือดนักสู้ ที่ใช้ก่อนหน้าก็เริ่มหมดลงแล้ว ทำให้ในเวลานี้เริ่มโดนผลของค่าสถานะด้านลบเข้าลุมเล้าร่างกาย

' ดูเหมือนอีกฝ่ายจะหมดสภาพโจมตีแล้ว '

อเล็กซ์เห็นเช่นนั้น เขาก็ค่อยเคลื่อนไหวไปด้านหน้าช้าๆ

เอาตามจริง นอกจากความทนทาน อเล็กซ์ก็ยังมีพละกำลังและความเร็วสู้อีกฝ่ายไม่ได้เลย

เขาหลบการโจมตีส่วนใหญ่ได้ เพราะใช้ทักษะ ควบคุมจักระเพิ่มพลังจักระไปที่กล้ามเนื้อช่วงล่าง ทำให้ฟุตเวิร์คมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การถ่ายเทน้ำหนักมีประสิทธิภาพ จึงสามารถสลายพลังโจมตีอีกฝ่ายไปหลายส่วน

อามันฝืนใช้ฟุตเวิร์ค และพยายามใช้ทักษะ ม้วนตัวเตะหวังให้อีกฝ่ายสลบในการโจมตีนี้

" ปัง "

ซึ่งอเล็กซ์ก็โดนที่ก้านคอจังๆ แต่เขาก็ปล่อยหมัดตรงออกมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน

หมัดตรงกระแทกเข้าใส่ใบหน้าของอามันอย่างแรง จนเขาสติดับวูบและล้มลงกับพื้นทันที

อเล็กซ์บิดคอ ที่กล้ามเนื้อเกิดอาการเกร็งเพราะถูกลูกเตะที่รุนแรงเข้าใส่

แต่ถึงอย่างนั้น การโจมตีที่รุนแรงนี้ ก็ทำให้อเล็กซ์รู้สึกเจ็บเหมือนเป็นตะคริวก็แค่นั้น

ส่วนหมัดสุดท้ายที่เขาปล่อยออกไป อเล็กซ์ได้ใช้ทักษะ ควบคุมจักระเข้าที่กล้ามเนื้อหัวไหล่ไล่ไปจนถึงกล้ามเนื้อท่อนแขน

ซึ่งเขาไม่ได้ใช้ทักษะ หมัดตรง ( ทะลวง ) ด้วยซ้ำ เพราะกลัวจะต่อยอีกฝ่ายตายคาที่ซะก่อน และจะเป็นเรื่องใหญ่ซะเปล่าๆ

ด้วยความสามารถ หมัดเหล็ก ( III ) ก็มากเพียงพอที่จะต่อยอีกฝ่ายให้สลบแล้ว

' ด้วยความสามารถร่างกายจักระ เราจะสามารถตอบโต้พวกคลาสขั้นสองระดับสูงได้แล้ว '

ถ้าหากเขาเจอกับพวกนักฆ่าสองคนนั้นในเวลานี้ พวกมันจะโดนเขาจัดการได้ง่ายดายกว่าเดิมมาก

แต่ข้อเสียของอเล็กซ์ก็มี คือเขาสามารถใช้ประสิทธิภาพร่างกายสูงสุดได้แค่ช่วงสั้นๆเท่านั้น

มันคือข้อเสียของพวกคลาสพิเศษ เพราะเขาพึ่งพาพลังอื่นเข้ามาเสริมแทน

ต่างจากพวกสายตรง ที่ใช้ทางพลังกายภาพของตัวเองโดยตรง มันจึงมีพลังงานให้ใช้เยอะกว่า

แต่อเล็กซ์ก็ไม่ใช่ธรรมดา เขามีความสามารถหลายอย่าง ที่เพิ่มทั้ง พลังชีวิต พลังมานา และพลังกาย

ทำให้ในระดับเดียวกัน อเล็กซ์ก็จะแสดงพลังได้นานกว่าแน่นอน

และในอนาคต เขาก็ต้องมองหาความสามารถเกี่ยวกับพลังงานเพิ่มเติมให้มากกว่านี้

" บัดซบ ทำไมรู้สึกเหมือนอามันแพ้ เพราะโจมตีอีกฝ่ายจนเหนื่อยเลย เพียงโดนสวนทีเดียวก็ไปซะแล้ว "

" หึ เจ้าอาจจะดูไม่ออก แต่หมัดสุดท้ายนั่น อีกฝ่ายต่อยได้ดีมาก แถมในฐานะนักสู้ ข้าก็ไม่คิดว่าเขาใช้ทักษะด้วย เหตุใดถึงโจมตีรุนแรงขนาดนั้นได้กัน ? "

พวกนักสู้คนอื่นๆในสนามก็พยายามวิเคราะห์ พวกเขาเริ่มมองอเล็กซ์เป็นภัยคุกคาม ซึ่งมีบางคนก็อยากท้าทายความอึดของอเล็กซ์ดู ว่าจะแน่ซักแค่ไหน

ทางด้านของคนทั่วไป พวกเขาเริ่มซุบซิบกันปากต่อปาก

จนในที่สุด อเล็กซ์ก็เริ่มได้รับสมญานาม ' จอมทรหด อเล็กซ์ '

ซึ่งมาจากการฝืนตั้งรับการโจมตีอย่างแน่วแน่ และสามารถทำให้ศัตรูพ่ายแพ้จากความดื้อด้านในส่วนนั้น

จึงได้รับฉายา จอมทรหด ผู้ที่ไม่ยอมพ่ายแพ้แม้จะโดนโจมตีมากซักแค่ไหน

[ ท่านได้รับสมญานาม จอมทรหด ( ทั่วไป ) ]

คำอธิบาย : เพิ่มพลังกาย 5% , เพิ่มพลังชีวิต 5% , ต้านทานการโจมตี 5%

อเล็กซ์ได้รับหน้าจอแจ้งเตือน ใบหน้าของเขาก็เผยให้เห็นถึงความประหลาดใจ

' ในที่สุดเราก็สามารถสร้างชื่อเสียงจนได้รับสมญานาม '

สำหรับค่าสถานะ สมญานาม มันจะมอบความสามารถพิเศษให้กับผู้ที่ครอบครองสมญานามนั้น

ซึ่งต้องเกิดจากการยอมรับจากผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะเป็น NPC หรือผู้คนในโลกแห่งนี้

แต่สมญานามสามารถมีได้เพียงแค่หนึ่ง หากมีชื่อเสียงใดที่ได้รับการยอมรับมากกว่า สมญานามเก่าก็จะหายไป

ส่วนระดับแบ่งของสมญานาม จะแบ่งออกเป็น ทั่วไป พิเศษ ยิ่งใหญ่ และตำนาน

สำหรับสมญานามระดับตำนาน คือพวกเขาจะได้รับการยอมรับจากทั้งมนุษยชาติ ว่ามีความสามารถมากจริงๆ ไม่ว่าจะในทางด้านที่ดีหรือในทางด้านที่เลวร้ายก็ตาม

ดังนั้นผู้คนในโลกนี้ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ก็รับประกันได้เลยว่าพวกเขาจะต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ

แถมสมญานามบางอัน ก็สามารถนำไปกระตุ้นคลาสลับได้ ยกตัวอย่างคลาส ผู้กล้า ซึ่งถือเป็นคลาสลับที่มีเพียงหนึ่งเดียว

การจะได้รับพลังระดับนั้นได้ ก็ต้องได้รับการยอมรับจากทั้งมนุษยชาติ ไม่ใช่เพียงแค่มีพรสวรรค์อย่างเดียวเท่านั้น

คลาสในเกมส์แห่งนี้มีมหาศาลเกินจะกล่าวไหว มันมีทั้งคลาสลับ คลาสพิเศษ หรือคลาสที่สามารถรับได้เพียงหนึ่งเดียว

ทำให้ข้อมูลฝ่ายตรงข้ามถือเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงพวกความสามารถพิเศษหรือสมญานามด้วย

ถ้าเรามีประสบการณ์การรับมือมาก่อน หรือรู้พวกคลาสและความสามารถศัตรู เราก็จะสามารถหาทางรับมือได้ดียิ่งขึ้น และไม่เสียเปรียบอย่างแน่นอน

กลับมาที่อเล็กซ์ เขาขอลากลับไปพักผ่อนที่โรงแรม เพราะทุกคนรอบข้างที่ได้เห็นก็พอจะทราบได้ว่า อเล็กซ์นั้นบาดเจ็บร้ายแรงขนาดไหน

อเล็กซ์จึงกลับโรงแรมอย่างได้ และรีบใช้ทักษะ ควบคุมจักระเพื่อสลายสถานะด้านลบทั้งหมด

' ใช้จักระเสริมพลังกล้ามเนื้อ มันจะทำให้กล้ามเนื้อในส่วนนั้นติดสถานะ อ่อนล้าง่ายมาก แต่โชคดีที่เราพอมีความสามารถต้านทานอยู่บ้าง '

ด้วยเหตุนี้ ความสามารถต้านทานทุกค่าสถานะจึงมีความสำคัญมากๆ

แต่เมื่อพวกมันขึ้นระดับ ( III ) แล้ว การจะพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นก็ยากมาก มันต้องใช้เวลาที่ยาวนาน พร้อมกับต้องเป็นการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ต่อสู้จริงๆเท่านั้น ถึงจะพัฒนาอย่างเห็นผลชัดเจน

' ดูเหมือนเราเริ่มพร้อมจะไปสู้กับพวกสภากองกำลังใต้ดินแล้ว '

ด้วยการที่แก้ไขด้านพลังทางกายภาพได้ อเล็กซ์จึงกลับมามีศักยภาพเทียบเท่ากับคลาสทางกายภาพขั้นสองระดับสูงแล้ว

แต่พวกมันอยู่กันเป็นสภา การจะกวาดล้างในครั้งเดียวคงเป็นไปไม่ได้

อเล็กซ์สามารถเลือกที่จะหาพวกพ้อง หรือเส้นสายทางทหารไปถล่มพวกมันได้ แต่อเล็กซ์ก็ไม่เลือกทำเช่นนั้น

เขาจะได้ประโยชน์อะไรจากการถล่มพวกมัน เขาเพียงแค่อยากจะได้รับค่าประสบการณ์จากพวกมันเท่านั้น

' แต่ใครสนหล่ะ เราเพียงแค่ป่วนพวกมันไปเรื่อยๆก็พอ สู้ไม่ได้ก็หนี '

พวกสภากองกำลังใต้ดิน ถามว่ามันคุกคามมากไหม ? จริงๆแล้วพวกมันก็เก่งแค่กับคนธรรมดา

ในซักหนึ่งเมือง จะมีพวกมันไม่มากก็น้อย ตราบใดที่อเล็กซ์อาศัยในเมือง พวกมันก็ไม่กล้ามาหาเรื่องเขาเลยด้วยซ้ำ

' คืนนี้เราก็แวะไปหน่อยดีกว่า ไปตามล่าเจ้าค้างคาวโลหิตกัน '

ในการซุ่มโจมตีครั้งก่อน อเล็กซ์จดจำค้างคาวโลหิตได้ ในคราวนี้เขาจึงอยากที่จะไปตามเอาคืนซะหน่อย…..

…..

ท้องฟ้าเริ่มมืด เผยให้เห็นเพียงแสงของดวงจันทร์และดวงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้า

ในเขตสลัมระดับสูง ซึ่งเป็นที่อยู่ของเหล่าอันธพาลและมาเฟียแก๊งต่างๆมากมาย

มีร่างเงาปรากฏตัวขึ้น ณ จุดที่สูงที่สุดในบริเวณโดยรอบนี้

ซึ่งนั้นก็คือบนแทงค์น้ำสำรอง ที่ไว้ใช้เก็บน้ำฝนเพื่อนำมาใช้ในยามจำเป็นของผู้คนในบริเวณนี้

อเล็กซ์ที่สวมหน้ากากยืนอยู่บนนั้น จึงสามารถมองเห็นพื้นที่โดยรอบได้อย่างละเอียด

ในมุมหนึ่ง เขามองเห็นแม่น้ำสายหนึ่ง ซึ่งมันเป็นแหล่งน้ำเสีย ที่ไหลออกมาจากระบบประปาภายในเมือง ส่วนรอบข้างก็มีพวกกองขยะหลายกองทับรวมกันอยู่ ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างแย่

อเล็กซ์จ้องมองไปที่พวกมันซักพัก ก่อนที่จะมองไปยังผู้คนด้านล่างพร้อมใช้ดวงตาจักระส่องผ่านทุกผู้คน

ซึ่งพวกอันธพาลที่เดินผ่านตามท้องถนนส่วนใหญ่ พวกมันล้วนมีสีออร่าที่ค่อนข้างธรรมดา

อเล็กซ์กวาดตามองซักพัก จนเริ่มไปเห็นคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งพวกมันดูแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปมากอย่างชัดเจน

แต่ละคนก็ใส่อุปกรณ์ที่ค่อนข้างดูดี ทำให้พอจะคาดเดาได้ว่าเป็นพวกระดับสูงแน่นอน

อเล็กซ์จึงเร่งติดตามอย่างเงียบงัน จนอีกฝ่ายเดินเข้ามาจนถึงเขตกำแพงที่สูงใหญ่แห่งหนึ่ง

ในเขตสลัมที่มีแต่บ้านเมืองเก่าทรุดโทรม แต่กับมีกำแพงที่แข็งแกร่งเช่นนี้อยู่ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดมากจริงๆ

' ดูจากสถาปัตยกรรม มันเหมือนพวกกำแพงปราสาทของพวกขุนนาง แต่อาจจะเป็นเพราะเขตนี้กลายเป็นสลัม ทำให้ขุนนางเดินทางจากไป '

นี้เป็นข้อสรุปเดียวที่อเล็กซ์คิดได้ เพราะทางการไม่ยอมให้เจ้าอันธพาลพวกนี้สร้างกำแพงขึ้นมาแน่นอน

ยกเว้น ว่ามันจะเป็นของเก่าและเจ้าพวกนี้ก็ใช้เส้นสายในการยึดมาเป็นฐานของตน

อเล็กซ์เห็นกำแพงสูงเกือบ 10 กว่าเมตร แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาในเวลานี้เลย

อเล็กซ์ส่งจักระไปไว้ที่ช่วงเท้าตั้งแต่ข้อเท้าลงไป เสร็จแล้วเขาก็ค่อยๆเดินไต่ขึ้นไปบนกำแพง

ในตอนนี้เขามีพลังจักระที่สามารถนำมายึดตัวเองกับกำแพงและต้านทานแรงหนืดกับแรงโน้มถ่วงได้แล้ว แถมด้วยความสามารถ ตัวเบา

ทำให้พวกอุปสรรคต่างๆ อย่างเช่นกำแพงเมืองสูง ไม่ได้มีค่าในสายตาอเล็กซ์อีกต่อไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด