ตอนที่แล้วตอนที่ 1135 โอ้.. ถ้าฉันไม่ตอบตกลงล่ะ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1137 ไม่.. เป้าหมายของฉันก็คือ การคว้าแชมป์ในลีก…

ตอนที่ 1136 แกนี่มันตาสุนัขจริงๆ!


หลินฟาน ได้กินแคปซูลเซรั่มเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกาย ดังนั้นเขาจึงมีร่างกายที่แข็งแกร่งไปทั่วทั้งร่าง เขาไม่เคยฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาแม้แต่วันเดียว เขาเองเพียงแค่คลําหามันด้วยตัวเอง และเรียนรู้ที่จะใช้พละกำลังภายในร่างกาย

หากให้พูดตามตรงแล้ว หลินฟาน ก็ไม่ใช่คนในโลกของศิลปะการต่อสู้ และเขาก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกของศิลปะการต่อสู้ และที่ยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็ไม่คิดที่จะสนใจเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย

ดังนั้นในวันนั้นที่ลุงทั้งสองคนที่เป็นศิษย์ของ หงเหมิน ได้พูดถึงการประชุมแลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้ หลินฟาน จึงไม่คิดเก็บมาใส่ใจ

แล้วในการประชุมแลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้นั้น พี่เฉิน ที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้ ได้เอาชนะลุงทั้งสองที่เป็นศิษย์ของ หงเหมิน ..ได้จริงๆ นะเหรอ?

ความแข็งแกร่งของลุงทั้งสองที่เป็นศิษย์ของ หงเหมิน หลินฟาน ก็มีความเข้าใจมาเล็กน้อยแล้ว นั่นก็เพราะเขาเคยเห็นมันมาด้วยตาตัวเอง ตอนนั้นทั้งคู่ได้ปะทะกับคู่รักคู่นั้น และไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่ แต่ดูเหมือนพยายามยับยั้งชั่งใจมากกว่า หากพวกเขาจะทุบตีอีกฝ่ายจริงๆ คู่รักคู่นั้นคงจะต้องหาฟันไปทั่วพื้นแล้ว

ดังนั้น ถ้า พี่เฉิน คนนี้ สามารถเอาชนะลุงทั้งสองที่เป็นศิษย์ของหงเหมิน.. ได้จริงๆ งั้นความแข็งแกร่งของเขา ก็ไม่ควรมองข้าม

“ไอ้หนู ..เคยได้ยินชื่อหมัดหนานฉวนไหม?” ชายฉกรรจ์ที่เปลือยท่อนบน ได้หัวเราะ แล้วพูดว่า : “ดูเหมือนว่าจะไม่รู้สินะ.. งั้นฉันจะแนะนําสั้นๆ ให้ฟัง หมัดหนานฉวน หรือเรียกอีกอย่างว่า มวยแดนใต้ ทั้งยังเป็นหมัดมวยชนิดหนึ่งของจีน มีชื่อเสียงในด้านความกล้าหาญ ดูกระดูกของนายสิ เกรงว่าแม้แต่หมัดเดียวก็คงจะรับมันเอาไว้ไม่ได้ แล้วก็คงต้องทิ้งร่างเอาไว้ที่นี่!”

น้องสาวมันเถอะ ทรงพลังขนาดนั้นเลย!

หวาง เซียงเฉียน มีสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที เขาเองรู้สึกกลัวนิดหน่อยแล้ว คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเขาจะไปยั่วยุผู้ที่ฝึกหมัดนี้เข้าให้แล้ว แล้วเช่นนี้คนธรรมดาอย่างพวกเขา ก็ต้องไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายอย่างแน่นอน

ชายฉกรรจ์ที่เปลือยท่อนบน ก็ได้กล่าวขึ้นว่า : “รู้แล้วว่า ..กลัว งั้นก็ขอให้เชื่อฟังกันหน่อย แค่มาคุกเข่าขอโทษ เรื่องมันก็จบแล้ว อย่ามาทำให้เสียเวลา!”

ทุกคนได้มองไปที่ หลินฟาน และรอให้เขาตัดสินใจ คนส่วนใหญ่รู้สึกว่า หลินฟาน ควรจะเลือกการประนีประนอมที่สุดแล้ว

ท้ายที่สุดแล้ว อย่างไร.. หลินฟาน ก็เป็นชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปี แม้ว่าจะเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลา แต่.. ดูๆ ไปก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะสามารถต่อกรกับอีกฝ่ายได้

หรือว่า หวาง เซียงเฉียน จะต้องกลืนความอัปยศอดสูนี้ และต้องคุกเข่าลงเพื่อขอโทษชายร่างผอมคนนี้จริงๆ?

ในตอนนี้ก็เห็นแต่ หลินฟาน ที่ได้ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า : “ฉันเองก็ชอบใช้เหตุผลมากกว่า.. กำลัง และเหตุผลมันก็อยู่ข้างเราอย่างชัดเจน แต่พวกคุณกลับอยากที่จะใช้กําลังมาข่มขู่ นั่นก็คือไม่ต้องการอยากใช้เหตุผลแล้ว? หากมีเหตุผล.. มันก็มีวิธีการแก้ปัญหา แต่หากไม่มีเหตุผล แน่นอนก็ต้องมีวิธีแก้ปัญหาที่ไม่ต้องใช้เหตุผลเข้ามา เช่นกัน”

ให้ตาย! เด็กคนนี้มันกลับไม่ยอมแพ้!

ทุกคนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยแล้ว

พี่เฉิน ไม่ได้คิดเลยว่า หลินฟาน จะมีนิสัยแบบนี้ สีหน้าของเขาได้บึ้งตึงมากขึ้น : “ไอ้เด็กน้อย ความหมายของนายก็คือ ไม่ยอมรับ หรือคือบังคับให้ฉันต้องลงมือจริงๆ? โอ้.. ได้ ฉันจะแก้ไขปัญหานี้ภายในสามวินาที แต่พวกนายเอง ..ก็คงอาจจะรู้สึกไม่ดีนัก!”

“เฮ้ เฮ้ แก้ปัญหากับไอ้หนูนี่ ที่ไหนต้องให้ พี่เฉิน ลงมือเอง มา.. แค่ฉันเองก็พอแล้ว!”

ชายฉกรรจ์ที่เปลือยท่อนบน ได้หัวเราะเยาะออกมา พูดพลางก็ได้ก้าวขึ้นมา พร้อมกับยกกําปั้นขึ้น ทันใดนั้นก็ชกออกไปแบบก้าวร่นระยะเข้าเผชิญหน้า และนี่ก็ถือว่าเป็นกระบวนท่าหนึ่งของมวยหนานฉวน ทั้งมันยังดูมีกลิ่นอายเหมือนในภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้ในยุค 80 ขึ้นมานิดหน่อยแล้ว

แต่หมัดของเขาที่ได้ชกออกมาอย่างกะทันหันเช่นนี้ กลับไม่แม้แต่จะแตะสัมผัสโดนเส้นผมของ หลินฟาน ทั้งในวินาทีต่อมา กำปั้นของเขาก็หยุดชะงัก โดยฝ่ามือของ หลินฟาน ทั้งไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อีกแม้แต่น้อย

ชายฉกรรจ์ที่เปลือยท่อนบนก็ถึงกับอึ้ง และนี่มันก็เห็นได้ชัดเจนว่า.. มันเป็นเรื่องที่เขาไม่คาดคิด เขาเองได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะผลักกระแทกฝ่ามือของ หลินฟาน ออกไป แต่หมัดของเขากลับไม่สามารถเคลื่อนไปข้างหน้าได้แม้แต่น้อย เมื่อนั้นจิตใต้สํานึกของเขาก็ได้พยายามดึงหมัดของเขากลับ แต่เขาก็ได้เห็น หลินฟาน คว้ากุมหมัดของเขาเอาไว้ และเขาก็ไม่สามารถดึงหมัดออกมาได้ แม้ว่าจะออกแรงจนหน้าแดงก่ำแล้วก็ตาม หมัดของเขาก็ยังคงถูก หลินฟาน ยับยั้งเอาไว้

ใบหน้าของ หลินฟาน กลับยังดูสงบ ทั้งยังดูออกจะสบายๆ ด้วยซ้ำ

“เห็นได้ชัดว่าคุณ.. ทำไม่ได้” หลินฟาน ได้ยิ้ม พร้อมกับปล่อยมืออีกฝ่ายอย่างกะทันหัน

ชายฉกรรจ์ที่เปลือยท่อนบนที่กําลังพยายามดึงกําปั้นออก จู่ๆ หลินฟาน ก็ได้ปล่อยมือเขา เขาเองก็ไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองไว้ได้ จนได้แต่เดินถอยหลังออกไปสองสามก้าว และกำลังจะล้มลงกับไปพื้น

พี่เฉิน ที่มีสีหน้าบึ้งตึงในตอนนี้ ก็ได้เอื้อมมือไปจับพยุงตัวชายคนนั้นเอาไว้ได้ทัน

“น้องชาย ฉันไม่ได้คาดคิดเลยว่าเราจะเดินอยู่บนเส้นทางเดียวกัน ทำไมฉันถึงไม่เห็น น้องชายที่การประชุมแลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้ในวันนั้น?” พี่เฉิน ได้จ้องมองไปที่ หลินฟาน และถามคำถามนี้ออกมา

หลินฟาน กล่าวว่า : “นั่นก็เป็นเพราะฉันไม่ใช่เดินอยู่บนเส้นทางเดียวกับคุณ แต่ถ้าคุณอยากจะลองดู ..ก็เข้ามาได้ บังเอิญฉันเองก็รีบร้อนเหมือนกัน”

ชายร่างผอม ได้ไม่พอใจมาก และเขาได้ตะโกนไปว่า : “ไอ้เด็กคนนี้นี่มันหยิ่งผยองมาก พี่เฉิน ขึ้นไปสั่งสอนมันเลย วันนี้ฉันต้องการจะเห็นพวกมันคุกเข่า…”

เขาพูดยังไม่ทันจบ

ทันใดนั้น

ปั้ง!

หลินฟาน ได้ตบโต๊ะที่อยู่ข้างๆ ด้วยฝ่ามือของเขาทันที ซึ่งทําให้ทุกคนตกใจ แต่จากนั้นทุกคนก็ต้องตกตะลึง ..นี่ มันเป็นโต๊ะไม้ แต่แล้ว จู่ๆ มันกลับพังทลายลง และแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ในทันที!

ชายร่างผอมที่พูดไม่ทันจบ ก็รีบกลืนคำพูดนั้นกลับเข้าไป ร่างกายของเขาเองก็ได้แข็งทื่อโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งใบหน้าของเขาก็ได้เขียวไปหมด ..ไปด้วยความตกใจกลัว

“อืม.. เอาล่ะ ถ้า พี่เฉิน คิดว่าตัวเองแข็งแรงกว่าโต๊ะตัวนี้ ก็เข้ามาสั่งสอนฉันได้เลย” หลินฟาน ได้ยิ้ม

ตอนนี้ พี่เฉิน ก็ตกตะลึงไปแล้ว และเขาเองก็ได้กลัวจนตัวสั่น เขาที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ และแน่นอนว่าเขาต้องดูออกว่า ฝ่ามือนี้มันรุนแรงแค่ไหน ถ้าเขาถูกตบ ก็กลัวว่าจะตกตายในทันที ทั้งเขาเองยังไม่มีโอกาสหลีกเลี่ยงมันด้วยซ้ำ!

โอ้.. สวรรค์ นี่มันรุนแรงมาก! ชายหนุ่มคนนี้เป็นใครกันถึงได้เก่งขนาดนี้ นี่เขาเป็นใครกันแน่?

หรือว่า…

ทันใดนั้น พี่เฉิน เหมือนคิดอะไรบางอย่างออก เมื่อนั้นใบหน้าของเขาก็ได้ซีดเผือก เหงื่อเย็นๆ มันก็ได้ไหลตกลงมา ร่างกายของเขาก็ได้สั่นเหมือนแกลบ ถ้าเขาเดาไม่ผิด.. หลินฟาน ก็คงเป็นคนที่มาจากที่นั้น

เขาในตอนนี้ เกือบจะกลัวจนฉี่ราดแล้ว และแทบไม่อยากจะคิด

“น้องชาย... ไม่สิ จอมยุทธน้อย อย่าได้ขุ่นเคืองไป ฉันเองที่เป็นคนทำอะไรกะทันหันไปหน่อย ขอจอมยุทธน้อย สงบสติอารมณ์ลงก่อน…” พี่เฉิน ได้กล่าวด้วยเสียงสั่น

ปฏิกิริยานี้ทําให้ หลินฟาน งุนงงเล็กน้อย เขาเองก็แค่คนธรรมดา ผู้ชายคนนี้คงไม่ต้องแสดงอาการกลัวขนาดนั้นก็ได้มั้ง ทําไมเขากลัวขนาดนี้ ทำเหมือนราวกับเจอผีไปได้?

แถมยังเปลี่ยนมาเรียกเขาว่า จอมยุทธน้อย คำนี้ หลินฟาน ก็เคยเห็นแต่ในนวนิยายศิลปะการต่อสู้..

หลินฟาน กล่าวว่า : “พี่ใหญ่ เกิดอะไรขึ้นกับคุณ และมันจําเป็นต้องกลัวถึงขนาดนี้เลย?”

พี่เฉิน ได้คิดว่า หลินฟาน กำลังพูดแซวเขาอยู่ และนั่นก็ยิ่งทำให้เขากลัวเข้าไปใหญ่ และทำให้เขาได้รีบพูดไปว่า : “จอมยุทธน้อย ฉันรู้ฉันผิดไปแล้ว ทั้งนี้จอมยุทธน้อยเองก็คงมีจิตใจกว้างขวาง และคงจะไม่ถือโทษโกรธเคืองผู้น้อย”

เมื่อพูดพลาง ก็ได้หันกลับไปด้านหลัง เมื่อนั้น พี่เฉิน ก็ได้ยกมือตบหัวชายร่างผอม แล้วร้องตะโกนขึ้นว่า : “แกนี่มันตาสุนัขจริงๆ สร้างแต่ปัญหาให้ฉันเดือดร้อน ยังไม่รีบคุกเข่าลงขอโทษ จอมยุทธน้อย กับเพื่อนอีก!”

ชายร่างผอม ก็ได้รีบคุกเข่าลง หลังจากนั้นเขาก็ได้พูดด้วยเสียงสั่นเครือออกมาว่า : “ฉัน.. ขอโทษ!”

ดูเหมือนว่าฝ่ามือของ หลินฟาน ไม่ได้ทําให้ พี่เฉิน หวาดกลัวเท่านั้น แต่มันยังรักษาอาการขี้หวาดระแวงของชายร่างผอมคนนี้ให้หายดีด้วย

ก่อนหน้านี้ ชายร่างผอมคนนี้ ได้อาศัยเอว พี่เฉิน ค้ำจุน ก็พอให้เล่นปาหี่นั่นได้ แต่พอมาอยู่ต่อหน้าฝ่ามืออันแข็งแกร่งของ หลินฟาน แม้แต่ พี่เฉิน ก็ยังตกใจกลัว ตัวเขาเองจะยังไปหยิ่งผยองอยู่ได้ยังไง

หลินฟาน ได้หันไปถาม หวาง เซียงเฉียน ที่อยู่ข้างๆ ว่า : “เลาหวาง คุณคิดเห็นอย่างไร?”

หวาง เซียงเฉียน ในเวลานี้ ได้ยืดเอวตั้งตรงขึ้นมา ให้ตายเหอะ! พี่ฟาน สุดยอดมาก! ดูหลานสองคนนี้กลัวจนแทบจะฉี่ราดอยู่แล้ว!

แต่.. แค่นี้เขาก็ลืมตาอ้าปากได้แล้ว!

“ไอไอ ..อะแฮ่ม ฉันเองก็เป็นคนใจกว้าง และก็ไม่คิดเก็บมาใส่ใจอะไรหรอก เอาเป็นว่าเรื่องนี้ ก็ช่างมันไปเถอะ!” หวาง เซียงเฉียน ก็ได้พูดพร้อมกับโบกมือไปอย่างใจกว้าง

หลินฟาน ได้พยักหน้า : “อืมม, งั้นก็ลืมมันไปเถอะ”

พี่เฉิน รู้สึกโล่งใจมาก และได้รีบกล่าวขอบคุณทันทีว่า : “ขอบคุณ จอมยุทธน้อย”

ชายร่างผอม ก็ได้รีบกล่าวขอบคุณเช่นกัน : “ขอบคุณ ขอบคุณมาก!”

เถ้าแก่ เจ้าของร้านที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ทําสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ และเขาก็เหมือนได้ปลุกความกล้าหาญขึ้นมา : “นั่น... โต๊ะของฉัน…”

เขารู้สึกว่าตนเองถูกทำร้ายอย่างที่สุด.. พวกเขามา ก็มาก่อเรื่องกันเอง แล้วโต๊ะนี้ นี่มันก็ของของเขานะ

พี่เฉิน รีบกล่าวทันทีว่า : “เถ้าแก่ อย่ากังวลไป โต๊ะนี้ราคาเท่าไร ฉันจ่ายให้เอง ในเรื่องนี้มันต้องโทษที่ฉันมันไม่มีตา ไม่รู้จักเขาไท่ซาน ไปยั่วยุให้ จอมยุทธน้อย ต้องลงมือ ในเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของฉัน!”

หลินฟาน ก็ไม่ได้ห้ามเขา แต่ในใจก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจเข้าไปใหญ่ พี่เฉิน คนนี้ ..ดูเหมือนจะเข้าใจผิดเขาไปนิดหน่อยไหม หรือว่าเข้าได้เข้าใจผิดไปว่า เขาเป็นใครหรือเปล่านะ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด