ตอนที่แล้วตอนที่ 93 สิ่งที่พวกเธอได้เห็นในส่วนลึกของความสิ้นหวัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 95 บางอย่างในตัวนายที่ไม่สมควรมีก็ได้ตื่นขึ้นมาแล้วสินะ!?

ตอนที่ 94 หลังจากนั้น


เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น?

เขาไม่รู้หรอก

หลังจากนั้นเขาก็ได้ออกไปพร้อมกับมิกะและชิอากิ

โดยมีโฮชิยืนอยู่ด้านหลัง

ตอนนี้ก็เลิกเรียนแล้ว เซจิจึงต้องอยู่ช้าเพราะต้องเขียนรายงานเป็นบทลงโทษ เพราะการโดดเรียนโดยไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด

มิกะและชิอากิมาตามเขามาเหมือนปกติ เพราะทั้งสองคนก็ถูกลงโทษแบบเดียวกัน

ในระหว่างที่เขียน ผู้หญิงทั้งสองได้แอบไปมองที่เซจิ และพบว่าเขาเอาแต่จ้องออกไปนอกหน้าต่างด้วยความยุ่งเหยิงขณะที่ปากกาของเขาในมือไม่ขยับ

ฉากที่น่าจดจำขณะที่กำลังเหม่อลอยออกไป ของหนุ่มหล่อ...  ช่างมันเถอะ! แค่ถ่ายรูปไว้ก็พอ!

"ชิอากิ!" มิกะตำหนิเพื่อนของเธอ เมื่อเธอเห็นชิอากิหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อถ่ายรูป

"ขอโทษ มันเป็นฉากที่สวยจริงๆนี้น่า ฉันเลยอดไม่ได้... " ชิอากิเกาศีรษะของเธอ "เธอเองก็ชอบไม่ใช่หรือไง?"

ใบหน้าของมิกะแดงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่เธอพยักหน้า

"เธอคิดว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่?" มิกะถามหลังจากที่เธอได้รับภาพที่ก็อปปี้มาแล้ว

"เขาอาจจะกำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นก็ได้"

"อืม ฉันเองก็คิดอย่างงั้นเหมือนกัน ตั้งแต่ที่... เซจิเป็นคนอ่อนโยน"

"อืม ใช่แล้ว" ตาของชิอากิเป็นประกาย เมื่อเธอหันไปมองที่ชายหนุ่มกับมิกะ "เธอไม่เข้าใจอะไรที่เกิดขึ้นในห้องโดโจบ้างไหม?"

มิกะกระพริบตา ขณะที่เธอแสดงท่าทางย่างรอบคอบ " ฉันเองก็ไม่เข้าใจหรอก... แต่ฉันรู้สึกเหมือนทุกอย่างที่เซจิทำก็เพื่อพวกเธอ... "

"ฉันรู้ว่าเธอไม่เข้าใจ ดังนั้นให้ฉันอธิบายให้เธอฟังเอง คุณอุเอะฮาระ!" ชิอากิแกล้งทำเป็นไอ และทำตัวเหมือนกับว่าเธอเป็นครูสอนบรรยาย "สิ่งที่เธอควรสนใจที่สุดก็คือฉากที่สองในฉากสุดท้าย ซึ่งเซจิที่ดูเหมือนจะกลายเป็นคนที่ชั่วร้ายมาก"

"เซจิดูน่ากลัวมากจริงๆ แต่คิดดูแล้ว เขาก็ค่อนข้างดูเท่เหมือนกัน~" ชิอากิเลียริมฝีปากด้วยความตื่นเต้น "และจงเรียกเขาว่า  'ดาร์กเซจิ!' "

"ทำไมเธอถึงทำเหมือนมันเป็นชื่อเล่นพิเศษได้ล่ะ!?" มิกะถามตอบกลับทันที "ตอนที่เขาเป็นแบบนั้น... ฉันแคร์กับเรื่องนี้มาก เพราะฉันไม่ชอบแบบนั้น แต่... คงจำเป็น ใช่มั้ย?"

"เซจิต้องคิดว่ามันจำเป็นแน่ และฉันคิดว่าเขาคงไม่ได้ทำผิดพลาดอะไร เพราะฉันคิดอะไรที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว" ชิอากิอธิบาย "ในความเห็นของฉัน เซจิที่ได้เปลี่ยนเป็น 'ดาร์กเซจิ' ต้องมีจุดประสงค์อยู่สามอย่างแน่!"

"อย่างแรกเพื่อต้องการให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงกับฝาแฝด! อย่างที่สองทำหน้าที่เป็นตัวร้ายเพื่อปลุกจิตสำนึกที่แท้จริงของโฮชิ อะมามิ! สองอย่างแรกนั้นค่อนข้างเข้าใจได้ง่าย แต่สำหรับอย่างที่สาม... ฉันพนันได้เลยว่าเธอคิดมันไม่ออกแน่" ชิอากิหัวเราะอย่างสนุกสนาน

"เธอจะบอกว่าฉันโง่สินะ... " มิคะเบ้ปาก

"เธอเพียงแค่ไม่ได้คิดลึกมากเกินไปเท่านั้น เธออาจจะรู้ก็ได้ถ้าคิดมันอีกสักนิด" ชิอากิแกล้งทำเป็นทุบโต๊ะก่อนที่เธอจะพูดต่อ "เป้าหมายที่สามของเขา อาจจะมีจุดประสงค์คือการทำให้สมาชิกชมรมคาราเต้รู้สึกสงสารฝาแฝดนั้น และปล่อยให้พวกเขารู้สึกสงสารอย่างลึกซึ้ง หากสมาชิกชมรมคิดว่าฝาแฝดพวกนั้นเป็นคนที่น่าสงสาร พวกเขาคงไม่ค่อยอย่างจะกลั่นแกล้งหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นแน่"

"เพราะเหตุผลที่พวกเธอสูญเสียข้อมูลที่จะใช้แบล็กเมล์ไป ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่าจะมีหลายๆคนที่พยายามจะแก้แค้นและกลั่นแกล้งพวกเธออยู่แน่ ถึงอย่างนั้นหลังจากผลงานของเซจิ ความเป็นไปได้นี้ก็ลดลงอย่างมาก"

"โอ้ ... " มิกะพยักหน้าแบบเห็นด้วย "ฟังดู... จะใช่นะ"

"ตอนนี้ถ้าฝาแฝดพวกนั้นยังเรียนอยู่ที่นี้อย่างน้อย... พวกเขาก็คงจะไม่อะไรแย่ๆ เท่าที่พวกเขาจะทำได้"

"เซจิคิดถึงขนาดนั้นเลยเหรอ ... "

"อืม แต่สุดท้าย เป้าหมายอย่างที่สามของเขาก็โยงไปถึงเป้าหมายอย่างแรกและอย่างที่สองของเขา ซึ่งคือการทำให้พวกเธอต้องตกอยู่ในส่วนลึกของความสิ้นหวัง ก่อนที่จะปล่อยให้โฮชิ คนที่แคร์พวกเธอมากที่สุดออกมา และช่วยพวกเธอไว้ " ชิอากิแกล้งทำเป็นทุบโต๊ะอีกครั้ง "นี้เป็นวิธีที่ร้ายกาจที่สุดในการจัดการของเซจิ และถูกบังคับให้ใช้หลังจากที่ฝาแฝดนั้นไม่ยอมทำตามข้อตกลงของพวกเธอ"

มิกะพยักหน้าด้วยความเข้าใจอีกครั้ง "ฉันคิดว่า... บางทีเขาอาจจะทำสำเร็จก็ได้ หรือบางทีเซจิอาจจะทำไม่สำเร็จก็ได้เหมือนกัน"

"และการแสดงเป็นคนที่ชั่วร้ายแบบนั้น... บางทีเขาอาจจะรู้สึกแย่ก็ได้เกี่ยวกับมัน"

"อืม แต่เขาก็ยังคงทำมันเพราะเขาเป็นเจ้าโง่จอมอ่อนโยนไงล่ะ" ชิอากิยิ้มอย่างอ่อนโยน

ในขณะที่พวกผู้หญิงกำลังพูดถึงความคิดของพวกเธอกันอยู่ ผู้ชายคนที่พวกเธอกำลังพูดถึงกันอยู่ก็ได้กำลังขบคิดเรื่องที่ตัวเองนั้นได้ทำลงไปอยู่

'เฮอ ฉันเกือบทำไม่ได้แล้ว... ให้ตายเถอะ ฉันทำได้แค่ทำเรื่องน่าอับอายออกมานานๆได้เท่านั้น' เซจิถอนหายใจ 'ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะเล่นได้ตามบทเหมือนนายทั้งหมด ลูลูช วี บริททาเนีย!'

แผนการของเขานั้นอาจจะวางไว้เยอะกว่านี้ก็ได้

สิ่งที่เห็นได้ง่ายที่สุดคือตำแหน่งของของที่ใช้แบล็กเมล์ของริออนและโคโตมิ ถ้าพวกเธอเก็บของพวกนั้นไว้ที่อื่นๆนอกห้องล่ะก็... มันก็จะง่ายพอที่จะค้นหาทั้งบ้านของพวกเธอ แต่ถ้ามีการเก็บไว้ในสถานที่ที่พวกเธอรู้เท่านั้นกันล่ะก็ สถานการณ์อาจจะเปลี่ยนไปก็ได้

แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่กรณีนั้น

ฝาแฝดพวกนั้นได้วางใจกับระบบป้องกันห้องที่เล็กน้อยของพวกเธอ... หรือบางทีพวกเธออาจจะรู้สึกไม่ปลอดภัยหากพวกมันอยู่นอกตัว... พวกเธอรู้สึกไม่ปลอดภัยเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่า? มันน่ารำคาญมากเกินไปหรือไง? หรือว่าพวกเธอรู้สึกมั่นใจว่าพวกเธอได้เซฟข้อมูลไว้ในอินเทอร์เน็ตแล้ว ดังนั้นแล้วพวกเธอจึงไม่จำเป็นต้องสนใจกับการทำสำเนาอีกชุดงั้นเหรอ?

หรือพวกเธอในใจของพวกเธอหวังว่าจะมีใครสักคนที่จะ…

ไม่ว่ามันจะเป็นแบบไหน ฝาแฝดพวกนั้นก็ค่อนข้างเด็กเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้... แต่ถ้าพวกเธอไม่ เซจิก็สามารถที่จะควบคุมได้เหมือนเดิม ถึงมันอาจจะลำบากมากขึ้นหน่อยก็เถอะ

โชคดีที่ไม่ได้เป็นอะไรแบบนั้น และไม่มีอะไรที่ทำให้เขาต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น นี้จึงนับเป็นความสำเร็จของเขา

สำหรับผลที่เกิด... มันคงจะดี

เซจิแน่ใจว่าในที่สุดเขาก็ได้เห็นความเสียใจที่แท้จริงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของริออนและโคโตมิแล้ว... นี้คือการแสดงออกของคนที่ได้รู้ถึงความผิดของตัวเองในที่สุด!

ตอนนี้พวกเธอก็คงกำลังจะค่อยๆเปลี่ยนไปแล้ว

ปัญหาตอนนี้คือพ่อ... และแม่ของพวกเธอ

แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือฝาแฝดนั้นยอมรับความผิดอย่างจริงใจกับพ่อแม่ของพวกเธอ และได้รับการอภัยให้ โฮชิก็กลับมามีความสุข และครอบครัวของพวกเธอก็กลับมามีความสุขเหมือนอย่างเคย

แต่นั่นมันเป็นไปไม่ได้

ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวนั้นได้ถูกทำลายลงแล้ว

จะกลับไปเป็นครอบครัวปกติแบบนั้น... มันก็ไม่ได้เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนซะทีเดียว แต่แน่นอนมันจะไม่เกิดขึ้นภายในข้ามคืนแน่ ต้องมีปัจจัยภายนอกเข้ามาช่วยด้วย!

เซจิได้ใช้ไพ่ตายที่ทำให้เขารอดมาได้ถึงตอนนี้

ริกะ อะมามิ- เจ้านายของเขาและโฮชิ และเป็นน้าของฝาแฝด และน้องสาวของพ่อของพวกเธอ!

หลังจากออกจากเรื่องพวกนั้นแล้ว เขาก็ได้ยืมโทรศัพท์มือถือของชิอากิเพื่อโทรหาริกะและอธิบายง่ายๆเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้เขายังส่งข้อความไปยังโทรศัพท์ของโฮชิ และบอกให้เขาไปหาน้าของเขาและขอความช่วยเหลือจากเธอ รวมทั้งบอกให้เธอรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วย

นี้คือทั้งหมดที่เขาสามารถทำได้

เซจิไม่ได้รู้ว่าครอบครัวอะมามิจะเป็นยังไงในคืนนี้และไม่รู้ด้วยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต

เขาเชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจในไพ่ตายของเขา... ขอโทษด้วยนะครับ ริกะ อะมามิ เจ้านายที่แสนเข้มงวดของเขา

อ่า... เขารู้สึกเหมือนถูกกดดัน เซจิถูกครอบงำด้วยความรู้สึกไม่สบายใจทันที

ข้างๆเขา มิกะและชิอากิก็ดูเหมือนจะพูดคุยอะไรบางอย่างกันอยู่

‘พวกเธออาจจะรู้สึกว่าฉันทำไม่ได้เรื่องจริงๆก็ได้ แม้ว่าพวกเธอจะต้องการพูดคุยเรื่องพวกนี้ พวกเธอก็ดีพอที่จะพูดด้วยเสียงต่ำเพื่อที่จะไม่ให้กระทบถึงความรู้สึกของฉัน ... พวกเธอช่างมีน้ำใจมากจริงๆ’

เซจิรู้สึกประทับใจกับสิ่งที่เขามองว่ามันเป็นความอ่อนโยนของผู้หญิง

...

ในคืนนั้น

เซจิเดินออกมาคนเดียวที่ถนนย่านการค้าและเดินเข้าไปในบาร์ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม

ข้างในถูกตกแต่งไปด้วยของเฟอร์นิเจอร์แบบทั้งดั้งเดิม และสมัยใหม่ ทำให้บาร์นี้ดูเหมือนจะเป็นบาร์ระดับค่อนข้างสูง และมีพนักงานออฟฟิตจำนวนมากทั้งชายและหญิง ดื่มและพูดคุยอย่างมีความสุข

เซจิเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง และมองไปที่คนๆหนึ่ง และเดินเข้าไปนั่งที่ข้างหน้าต่าง

"ไง ฮาราโนะคุง!" คนๆนั้นโบกมือให้กับเขา

คนๆนั้นคือ ฮิซาชิ จูมอนจิ

เป็นลูกชายของเจ้าพ่อมาเฟีย มิจิโร่  จูมอนจิ และเป็นโอตาคุด้วย

เขาสวมเสื้อคอตตอนและกางเกงยาว ผมของเขายังคงยุ่งเหยิงอยู่เหมือนเดิมและยังคงมีรอยคล้ำอยู่ใต้ดวงตาของเขาที่แสดงให้เห็นว่าเขายังคงอดหลับอดนอนอยู่เสมอ เหมือนอย่างเคย รูปร่างหน้าตาของเขาช่างเลวร้ายมาก

ถ้าตัดสินจากรูปลักษณ์ของเขา มันก็คงจะเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนที่คิดว่าเขาเป็นนักลงทุนที่มีความสามารถสูงและเป็นแฮ็กเกอร์ และเขาเองก็มีความสามารถสูงในทั้งสองด้าน เขาอาจจะขึ้นไปถึงตำแหน่งระดับผู้บริหารในระดับสูงของบริษัท ใหญ่ๆได้ไม่ยาก

เซจิยิ้มกลับให้ ขณะนั่งลงตรงข้ามกับฮิซาชิ

"นายค่อนข้างมาเร็วนะ จูมอนจิคุง"

"ฉันไม่มีได้มีอะไรจะทำ ดังนั้นฉันมาก่อนอย่างที่เห็นไงล่ะ" ฮิซาชิยื่นมือออกมาและวางเมนูไว้ที่ข้างหน้าเซจิ

เซจิมองไปที่เมนู และถามฮิซาชิว่าเขาสั่งอะไรบ้างและเลือกอาหารทานเล่น 2 อย่างและน้ำผลไม้

"ขอขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือทั้งหมดของนายในครั้งนี้"

หลังจากที่เซิร์ฟเวอร์ไดให้รับออเดอร์จากเขา เซจิก็แสดงความขอบคุณอีกครั้งหนึ่ง

"ฉันยังบอกนายไปแล้วว่ามันไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันแบบนี้ก็ได้... แต่ฉันจะยอมรับมันก็ได้" ฮิซาชิยิ้มให้ "ฉันแสดงทางโทรศัพท์ได้ดีใช่ไหม?"

"ยอดเยี่ยมสุดๆ!" เซจิยกย่องเขาอย่างไม่เห็นแก่ตัว

ใบหน้าของทั้งสองคนต่างก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มขณะที่ทั้งคู่รู้สึกเหมือนกำลังพูดคุยกับคนที่เข้าใจกันอย่างแท้จริง

"นี้คือข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์กับนายก็ได้" ฮิซาชิหยิบเอาแฟลชไดร์ฟออกมาจากกระเป๋าเสื้อ "นี้เป็นสำเนาเดียวที่ฉันได้ทำไว้และไม่มีการแบล็กอัพข้อมูลใดๆไว้ทั้งสิ้น... ยังไงซะ อาจจะพูดได้ว่าฉันยังไม่ได้ดูเนื้อหาข้างในเลย"

เขาวางแฟลชไดร์ฟไว้บนโต๊ะ

เซจิมองมันหลายวินาที

"นายสามารถเอามันกลับไปและลบข้อมูลทั้งหมดในนั้นได้ มันจะไม่จำเป็น" เขาจ้องมองฮิซาชิขณะที่เขาพูด

"นายแน่ใจเหรอ?" ฮิซาชิปรับแว่นตาของเขา

"เอาจริง ก็ไม่ แต่... ผมไม่อยากใช้อะไรแบบนี้" เซจิยิ้มให้บางๆ

ฮิซาชิใช้เวลามองไปที่เซจิอย่างลึกซึ้งและยาวนาน

"เอาล่ะ งั้นฉันจะเอาพวกนี้กลับไปและลบข้อมูลทั้งหมดทิ้งซะ" เขาดึงแฟลชไดร์ฟกลับ

ทั้งสองคนยังคงเงียบอยู่ช่วงครู่

ฮิซาชิทำลายความเงียบลงไป "ถึงแม้ว่าฉันได้ยินบางสิ่งจากนายแล้ว และฉันเองก็พอเดาส่วนที่เหลือได้ แต่ฉันก็ยังไม่รู้เรื่องอยู่ดี นายช่วยบอกเรื่องทั้งหมดนี้หน่อยได้ไหม"

"แน่นอน" เซจิยิ้มให้ "เมื่อผมบอกนาย... เอาจริงๆไม่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับใครบางคนจากโลกของนาย"

ในตอนนี้ ออเดอร์และเครื่องดื่มที่พวกเขาสั่งก็มาถึงแล้ว

ฮิซาชิยกเบียร์ของเขาขึ้นและพยักหน้าให้เซจิ

เซจิยกน้ำผลไม้ขึ้นและยื่นมือออกไปทางฮิซาชิ พร้อมกับแก้วในมือ

มีเสียง 'กิ๊ง' เล็กน้อย ขณะที่แก้วทั้งสองชนเข้าด้วยกัน

เซจิรู้สึกพอใจขณะที่เขาได้ดื่มน้ำผลไม้อร่อยๆ

จากนั้นเขาก็นึกถึงเรื่องที่จะใช้เริ่มต้นกับเรื่องนี้ "เรื่องพวกนี้... มันเกี่ยวกับพี่สาวฝาแฝดและน้องชายที่โง่เขลา... มันคือเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความงี่เง่า"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด