ตอนที่แล้วตอนที่ 263 บทลงโทษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 265 การปฏิวัติของรัฐบาล

ตอนที่ 264 ใครอยากเป็นลูกศิษย์ของแฮร์ริสบ้าง?


ตอนที่ 264 ใครอยากเป็นลูกศิษย์ของแฮร์ริสบ้าง?

เซี่ยเฟยจงใจหยุดพูดเพื่อดูปฏิกิริยาของเหล่าบรรดานักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ที่อันเดร์ได้ทำการคัดเลือกนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้เข้ามาโดยตรง

โดยปกตินักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์เหล่านี้จะติดตามอาจารย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่ประสบความสำเร็จ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้ความรู้ของพวกเขาพัฒนามากยิ่งขึ้น

ตอนที่พวกเขาเซ็นสัญญากับบริษัทควอนตัมทุกคนรู้สึกโชคดีมาก เพราะพวกเขาไม่จำเป็นจะต้องเดินบนเส้นทางที่ยากลำบากเหมือนกับนักวิทยาศาสตร์รุ่นพี่ นอกจากนี้พวกเขายังได้รับทุนวิจัยและมีห้องทดลองเป็นของส่วนตัว มันจึงทำให้พวกเขาสามารถทำการวิจัยในหัวข้อที่ตัวเองสนใจได้อย่างอิสระ

ถึงแม้ว่าสถาบันวิจัยส่วนใหญ่จะออกมาพูดว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับพรสวรรค์มากกว่าคุณวุฒิ แต่ในความเป็นจริงพวกเขาก็เลือกปฏิบัติกับคนหนุ่มสาวบ้างไม่มากก็น้อย แต่เซี่ยเฟยกลับคิดต่างออกไป เพราะคนหนุ่มสาวมักจะเป็นพวกมีไฟและตราบใดก็ตามที่พวกเขาได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม พวกเขาก็อาจจะวิจัยเรื่องใหม่ ๆ แซงหน้านักวิทยาศาสตร์รุ่นใหญ่ได้เลย

คำพูดของเซี่ยเฟยดึงดูดความสนใจของนักวิทยาศาสตร์ทุกคนได้เป็นอย่างดี และพวกเขาก็กำลังรอคอยสิ่งที่ชายหนุ่มจะพูดหลังจากนั้นอย่างอยากรู้อยากเห็น

“ผมรู้ว่าทุกคนทิ้งสถาบันวิจัยของตัวเองเพื่อเลือกมาทำงานให้กับบริษัทควอนตัม ซึ่งไม่เพียงแต่บริษัทของพวกเราจะให้ค่าตอบแทนที่สูงมากเท่านั้น แต่ทุกคนยังหวังที่จะพัฒนาความสามารถของตนเองอีกด้วย”

“บริษัทได้เซ็นสัญญากับพวกคุณทั้งหมด 3 ปี ซึ่งในระยะเวลาของสัญญาพวกคุณไม่สามารถที่จะออกไปจากสถาบันวิจัยแห่งนี้ได้ พูดตามตรงว่าสัญญาของพวกเราค่อนข้างจะเข้มงวดเกินไปสักหน่อย แต่ผมรับรองได้ว่าทุกคนจะต้องไม่ผิดหวังที่ได้เซ็นสัญญากับพวกเรา เพราะนี่คือการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตของพวกคุณ”

เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะใช้นิ้วข้างหนึ่งชี้ไปยังแฮร์ริสที่อยู่ข้าง ๆ

“ผมขอถามทุกคนหน่อยว่าหลังจากได้ทำงานร่วมกับแฮร์ริสแล้ว ความรู้ของเขาคนนี้อยู่ในระดับไหน?”

“สูงมาก!”

“สูงเกินกว่าที่พวกเราจะจินตนาการได้”

“ใช่แล้ว ผมคิดว่าแม้แต่อาจารย์ที่ปรึกษาของพวกผมก็มีความรู้รวมกันไม่เท่าแฮร์ริส”

ถึงแม้นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้จะไม่พอใจนิสัยของแฮร์ริส แต่พวกเขาก็ต้องยอมรับในความรู้ของชายชราคนนี้ ทำให้แฮร์ริสที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เซี่ยเฟยยืดอกขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจเล็กน้อย แต่เมื่อเขาถูกสายตาอันเยือกเย็นของชายหนุ่มหันไปมอง เขาก็ก้มศีรษะลงด้วยความสลดใจอีกครั้ง

“ถ้าอย่างนั้นมีใครอยากเป็นลูกศิษย์ของแฮร์ริสไหม?” เซี่ยเฟยกล่าว

นักวิทยาศาสตร์ทุกคนต่างก็แสดงความรู้สึกสนใจ แต่พวกเขาไม่สามารถรองรับอารมณ์ของชายชราคนนี้ได้จริง ๆ

เซี่ยเฟยหันไปมองแฮร์ริสเพื่อเป็นสัญญาณ ชายชราจึงรีบก้าวเท้าออกมาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะไม่ทำนิสัยเหมือนเดิมอีกแล้ว ขอให้ทุกคนยอมรับคำขอโทษจากฉันด้วย”

หลังจากกล่าวจบแฮร์ริสก็ก้มศีรษะลงไปมากกว่า 90 องศาจนทำให้เหล่าบรรดานักวิทยาศาสตร์หนุ่มสาวรู้สึกตกตะลึง

ไม่ว่าพวกเขาจะรู้สึกเกลียดชังแฮร์ริสมากเท่าไหร่ แต่การโค้งคำนับในครั้งนี้ก็ช่วยรักษาบาดแผลในจิตใจของพวกเขาได้บ้างแล้ว

กู่เฟิงจู่มองไปยังเซี่ยเฟยด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ เพราะเธอคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าเซี่ยเฟยสามารถทำให้แฮร์ริสเปลี่ยนไปในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ได้ยังไง แต่เธอก็ยังอดที่จะรู้สึกชื่นชมขึ้นมาไม่ได้ เพราะเซี่ยเฟยมีอายุน้อยกว่าเธอเพียงแค่ไม่กี่ปีแต่เขากลับมีความสามารถที่โดดเด่นกว่าเธอมาก

“ฉันรับรองว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะถ่ายทอดความรู้ทุกอย่างให้กับทุกคนโดยไม่หวงความรู้ ตราบใดก็ตามที่พวกคุณต้องการที่จะเรียนรู้ฉันก็พร้อมที่จะสั่งสอนพวกคุณได้เสมอ แต่พวกคุณก็จะต้องยอมรับข้อกำหนดของการเป็นศิษย์สำหรับฉันให้ได้ และเตรียมตัวเตรียมใจเรียนอย่างหนักจนสมองแตกได้เลย”

“ความรู้ติดตัวที่ฉันมีไม่ค่อยมากมายนัก โดยฉันพอจะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องแรงโน้มถ่วง, พันธุศาสตร์, วิศวกรรมควอนตัม, …”

แฮร์ริสพูดสาขาวิชาต่าง ๆ ที่เขาถนัดออกมาอย่างมากมาย จนทำให้เหล่าบรรดานักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์รู้สึกละอายใจในตัวเอง เพราะพวกเขาไม่คิดว่าคนคนหนึ่งจะสามารถร่ำเรียนวิชาได้หลากหลายแขนงขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นความรู้ของแฮร์ริสในแต่ละสาขายังสูงกว่าอาจารย์ของพวกเขาที่เชี่ยวชาญความรู้เพียงสาขาเดียวเสียอีก

นี่อาจจะเป็นข้อแตกต่างระหว่างอัจฉริยะกับคนธรรมดา และปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาในตอนนี้ก็คงจะเป็นเรื่องของเวลา เพราะความรู้ของแฮร์ริสมีมากมายเกินกว่าที่พวกเขาจะรับไหว

แน่นอนว่าข้อเสนอของเซี่ยเฟยในครั้งนี้ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะเป็นบ้า!

เมื่อได้เห็นท่าทางของทุกคน เซี่ยเฟยก็เริ่มเปิดปากของเขาพูดขึ้นมาอีกครั้ง

“ทุกคนใจเย็น ๆ แฮร์ริสยังต้องทำเรื่องวิจัยของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถใช้เวลาทั้งหมดถ่ายทอดความรู้ให้กับทุกคนได้ แต่ในรอบแรกผมจะให้โอกาสพวกคุณ 3 คนที่จะได้เป็นลูกศิษย์ของแฮร์ริส”

“ผมหวังว่าในช่วงนี้ทุกคนจะพยายามอย่างหนักเพื่อแสดงผลงานของพวกคุณออกมา หลังจากนี้อีก 1 เดือนผลงานของใครโดดเด่นมากที่สุด 3 คนจะมีสิทธิ์เลือกหนึ่งในวิชาที่แฮร์ริสถนัดเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์จากเขาได้ ซึ่งแฮร์ริสจะสั่งสอนผู้ที่ได้รับเลือกแบบตัวต่อตัววันละ 1 ชั่วโมงจนกว่าบทเรียนที่เขาสอนจะหมด”

คำพูดของเซี่ยเฟยเพียงแค่ไม่กี่ประโยคได้กระตุ้นจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของนักวิทยาศาสตร์ทุกคน จนทำให้พวกเขาอยากจะรีบกลับไปทำการวิจัยตั้งแต่ตอนนี้เลย

กู่เฟิงจู่เดินเข้าไปหาเซี่ยเฟยด้วยรอยยิ้ม และเมื่อแฮร์ริสได้เห็นว่าชายหนุ่มกำลังยุ่งอยู่เขาก็รีบวิ่งออกไปจากห้องประชุมในทันที

เมื่อคิดถึงภาพของเซี่ยเฟยเมื่อ 1 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ชายชราก็ตัวสั่นขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ในฐานะที่เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่บ้าคลั่ง เขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองกลัวความตายเลยแม้แต่น้อย แต่ชายหนุ่มกลับได้แสดงให้เขาได้เห็นแล้วว่าการตายทั้งเป็นมันมีความรู้สึกเป็นยังไง

“ฉันขอชื่นชมคุณจริง ๆ ที่สามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถกระตุ้นพนักงานของพวกเราได้ในเวลาเดียวกัน แต่ฉันก็กลัวว่าหลังจากนี้พวกเขาจะบ้าทำงานจนไม่มีเวลาพักผ่อน” กู่เฟิงจู่กล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

“มันก็เป็นเรื่องปกตินี่ที่คนหนุ่มสาวจะมีไฟในการทำงาน ปล่อยให้พวกเขาทำตามใจของพวกเขาเถอะ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“นี่คือเหตุผลสินะว่าทำไมคุณถึงเลือกเฉพาะคนหนุ่มสาวเข้ามาทำงานในสถาบันวิจัยแห่งนี้”

“ก็ประมาณนั้น”

“แล้วคุณยังมีเหตุผลอื่นอีกหรือเปล่า?”

“คุณผู้หญิงการรู้มากเกินไปไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับคุณ ผมไม่ชอบให้คนอื่นมาคาดเดาความคิดของผม ดังนั้นคุณควรพอแค่นี้จะดีกว่า เอาล่ะช่วยพาผมไปที่ห้องทดลองของผมที ผมจะได้เริ่มงานของตัวเอง” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เดินไปยังชั้นใต้ดินชั้น 18 ซึ่งเป็นห้องทดลองที่ลึกลับที่สุด

เมื่อเซี่ยเฟยเดินเข้าไปภายในห้องเขาก็ปิดประตูโลหะหนา ก่อนที่จะเตรียมเครื่องมือเพื่อทำการวิเคราะห์วงจรที่อยู่ในกระดิ่งนรก

***************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด