ตอนที่แล้วตอนที่ 1110 ทุกอย่างราบรื่นอยู่ ..ใช่ไหม?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1112 คุณ.. ไม่สมควรได้รับ!

ตอนที่ 1111 แล้วนี่พวกคุณช่วยปล่อยทางรอดให้ฉันบ้างไม่ได้?


ทันทีที่ชายอ้วนคนนี้ปรากฏตัว ก็ได้ดึงดูดสายตาของผู้คนไปได้ในทันที บาร์ที่กำลังมีชีวิตชีวาแห่งนี้ก็ได้เงียบลง และเสียงเพลงที่ดังก็ได้ถูกปิดลงอย่างรู้งาน เหลือแต่เพียงชายอ้วนคนนี้ที่ได้กระโดดขึ้นด้วยอารมณ์ตื่นเต้น ทั้งใบหน้าของเขามันก็เต็มไปด้วยความคับข้องใจ

“ทําไม.. ทําไมการแสดงของฉันถึงถูกยกเลิก ฉันไม่เข้าใจ ฉันไม่เข้าใจ ไหนใครจะมาอธิบายฉันได้!”

นักร้อง เย่ตง ได้ตะโกนเสียงดังออกมา

เขาได้เอื้อมมือไปจับคว้าคอเสื้อผู้จัดการ และพ่นน้ำลายใส่หน้าผู้จัดการ แล้วพูดไปว่า : “ทําไมถึงต้องยกเลิกการแสดงของฉัน เราตกลงกันไปแล้ว!”

ผู้จัดการได้เอื้อมมือปาดน้ำลายบนใบหน้า แล้วพูดด้วยรอยยิ้มอย่างขมขื่นไปว่า : “พี่ตง ผมเองก็ช่วยไม่ได้เหมือนกันนะ ตำรวจบอกให้หยุด ผมก็ได้แต่ต้องหยุด พี่สาวตำรวจคนนั้นก็ยังอยู่ พี่ตง พี่ไปถามเธอได้เลย”

ผู้จัดการก็ได้ชี้นิ้วไปที่ หลัว หลี่

และเมื่อนั้น.. ทุกคนก็ได้มองไปที่ หลัว หลี่ อย่างพร้อมเพรียงกัน

ฉากแบบนี้ เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ สําหรับ หลัว หลี่, หลัว หลี่ เองก็ได้พูดขึ้นอย่างใจเย็นไปว่า : “การแสดงครั้งนี้ไม่ได้ผ่านขั้นตอนการอนุมัติที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงไม่สามารถให้ทำการแสดงได้ ตํารวจอย่างเราก็ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ มีปัญหาอะไรไหม? ถ้าพวกคุณได้ยื่นขออนุมัติแล้ว และได้รับการอนุมัติให้ทำการแสดงได้ ฉันเองก็คงจะไม่ต้องมาที่นี่”

เย่ตง ได้พูดอย่างตื่นเต้นไปว่า : “ผายลมนะสิ! มันไม่ใช่แบบนี้เลย ก่อนหน้านี้ ฉันเองก็ได้มีการแสดงที่งานเทศกาลดนตรีแห่งหนึ่งมาก่อน แล้วก็ได้รับการอนุมัติแล้ว สุดท้ายก็ถูกยกเลิก จากนั้นฉันก็ไม่สามารถขออนุมัติได้อีกต่อไป นี่ไม่ใช่ว่ามุ่งเป้ามาที่ฉันเหรอไง!”

หลัว หลี่ กล่าวว่า : “ฉันไม่ทราบสถานการณ์ของคุณ ถ้าคุณรู้สึกว่ามีปัญหา คุณสามารถไปรายงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ฉันมาที่นี่ในคืนนี้ ก็เพียงเพื่อหยุดการแสดงของคุณในคืนนี้ ถ้าหากไม่ได้ผ่านขั้นตอน คุณเองก็ไม่สามารถแสดงได้ ตอนนี้คุณคงชัดเจนแล้ว?”

ความหมายของ หลัว หลี่ นั้นชัดเจนมาก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ เย่ตง เธอเองก็ไม่ใคร่สนใจที่จะรู้ แต่เธอก็แค่ทําตามกฎ เห็นได้ชัดว่าสําหรับศิลปินที่ไม่ดีอย่าง เย่ตง หลัว หลี่ ก็ไม่มีความรู้สึกที่ดีให้

เย่ตง กล่าวว่า : “สถานการณ์มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ฉันขอถามคุณหน่อยว่าการแสดงในครั้งนี้ ที่ไม่ได้มีการโปรโมตออนไลน์เลย แต่แค่ติดโปสเตอร์ด้านนอกบาร์ ขอถามหน่อยว่า ตํารวจอย่างพวกคุณรู้ได้อย่างไร?”

หลัว หลี่ กล่าวว่า : “เราเพียงได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนที่กระตือรือร้น”

เย่ตง ได้กัดฟัน แล้วพูดไปว่า : “ประชาชนที่กระตือรือร้น ประชาชนที่กระตือรือร้น น้องสาวคุณนะสิ! ฉันเองรู้ดีว่ามันเป็นกลุ่มคนชั่วที่ไร้ยางอาย พวกมันแจ้งรายงานฉัน มุ่งร้ายต่อฉันไปทุกๆ ที่! พวกมันไม่ต้องการอยากเห็นฉันได้ดี มันเลยต้องการอยากที่จะทำร้ายฉันให้ตาย!”

หลัว หลี่ ได้ขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า : “ถ้าคุณได้ทำตามขั้นตอนครบถ้วน ..แม้ว่าคนอื่นจะรายงานคุณ พวกเขาก็คงจะทําอะไรกับคุณไม่ได้ ดังนั้นคุณยังคงต้องไตร่ตรองกับตัวเองว่าทําไมถึงไม่ไปทําให้มันถูกต้องตามขั้นตอน”

เย่ตง ได้พูดด้วยความโกรธไปว่า : “คุณมันไม่เข้าใจ คุณมันไม่เข้าใจเลยสักนิด! ไม่ใช่ว่าฉันไม่ทําตามขั้นตอน แต่ฉันได้ทํามันไปแล้ว แต่มันกลับไม่ได้! คุณเคยได้ไปตามฟังฉันมาบ้างหรือเปล่าล่ะ ครั้งที่แล้วที่ฉันได้มีการแสดง.. ในครั้งนั้นฉันเองก็ได้ทำตามขั้นตอนต่างๆ จนมันเสร็จสมบูรณ์ และก็ได้รับการอนุมัติแล้ว แต่แล้วยังไง.. ฉันถูกผู้จัดงานสั่งให้หยุด ก็เพราะไอ้กลุ่มคนชั่วนั้นที่ไปรายงานฉัน!”

หลัว หลี่ ได้ร้องโอ้ แล้วพูดว่า : “แล้ว.. ทําไมพวกเขาถึงได้รายงานคุณล่ะ?”

เย่ตง กล่าวว่า : “ก็พวกเขามันเป็นไอ้พวกกลุ่มคนชั่วที่เลวทรามยังไง พวกมันนั้นเห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้ ใช่.. ที่ว่าฉันเคยได้ทําผิดพลาด แตะต้องสิ่งที่ไม่ควรแตะต้อง แต่ฉันก็ได้ตระหนักถึงความผิดพลาด และแก้ไขมันแล้ว ฉันเองก็ได้ถูกควบคุมตัว และได้รับการลงโทษที่สมควรได้รับ ตั้งแต่นั้นมาฉันก็ไม่ได้คิดที่จะแตะต้องมันอีกเลย ฉันเปลี่ยนตัวเองเป็นคนดีแล้วจริงๆ แต่ทําไมพวกมัน และก็พวกคุณถึงต้องทำให้ฉันลําบากแบบนี้ด้วย หรือพวกคุณมันไม่คิดที่จะให้ทางรอดแก่ฉัน นี่ฉันทำผิดมากหรือยังไง! คุณเป็นตํารวจ ไหนคุณลองบอกคําตอบให้กับฉันหน่อย ได้ไหม?”

หลัว หลี่ กล่าวว่า : “นี่ก็คงน่าจะเป็น ‘ราคา’ ในฐานะศิลปิน คุณไม่ควรแตะต้องสิ่งที่ไม่ควรแตะต้อง แล้วทําไมคุณถึงยังมาทำเป็นน้อยใจ และคิดว่าตัวเองเป็น ‘เหยื่อ’ เสียได้ล่ะ?”

เย่ตง กล่าวว่า : “ฉันเป็นเหยื่อ แล้วทําไมฉันถึงไม่ใช่เหยื่อ? และฉันก็ไม่ควรแตะต้อง ใช่ ..มันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แทนที่จะเป็นอาชญากรรม แต่ไอ้พวกค้ามนุษย์นั้นไงล่ะที่เป็นอาชญากรรม และก็เป็นไอ้พวกค้ามนุษย์ ที่พวกมันเห็นแก่เงิน หลอกให้พวกคนบันเทิงที่ไร้เดียงสาอย่างเราเข้าไปแตะต้องมัน แล้วพอเป็นเช่นนี้ แน่นอนว่าพวกเราก็ต้องตกเป็นเหยื่อยังไง!”

หลัว หลี่ ถึงกลับปาดเหงื่อ : “คุณหมายความว่าคุณไม่ผิด? งั้นคําถามก็คือ ถ้าคุณไม่ผิด ทําไมคุณถึงถูกจับล่ะ หรือนี่คุณกำลังจะตอบว่า ทําผิดกฎหมายนี่ไม่ใช่ความผิด?”

เย่ตง กล่าวว่า : “นั่นก็เป็นเพราะว่าคุณไม่รู้จักศิลปินอย่างเราเลย คนธรรมดาอย่างพวกคุณ เห็นแต่ด้านที่สดใสของศิลปินเรา คิดว่าเราหาเงินได้อย่างง่ายๆ แต่แล้วพวกคุณมันก็ไม่ได้เห็นความกดดันของฉัน คุณคิดว่าฉันแต่งเพลงได้ง่ายๆ เหรอไงกัน? หรือแค่เคาะคีย์บอร์ดเหมือนอย่างพวกคุณ? มันไม่ใช่! และคุณที่ไม่ใช่ฉัน คุณก็ไม่มีทางที่จะเข้าใจความกดดันของฉันเลย มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ฉันแทบใกล้จะพังทลายลงทุกวัน ในเวลานี้นั้นไอ้พวกคนชั่วเหล่านั้น มันก็ได้ใช้ความอ่อนแอของฉัน ฉวยโอกาสเข้ามา หลอกให้ฉันลงไปแตะต้องสิ่งที่ไม่ควรแตะต้อง! บอกว่ามันจะทําให้ฉันผ่อนคลาย คุณคิดว่าฉันในฐานะผู้ที่ถูกหลอก เป็นเหยื่อหรือเปล่าล่ะ?”

หลัว หลี่ : “......”

เย่ตง กล่าวว่า : “ยังไง ทำไม ไหนคุณไม่ลองพูดมันออกมาบ้างล่ะ! ตอนแรกฉันก็ไม่อยากมีอารมณ์ถึงขนาดนี้ แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะไอ้พวกชั่วนั้น มันรายงานฉัน ต้องการอยากที่จะทำลายฉันให้สิ้นซาก! มันไม่ต้องการให้ฉันทํางานของฉัน แต่ฉันเป็นแค่นักร้อง ฉันหาเลี้ยงชีพด้วยการร้องเพลง ทําไมต้องถูกลิดรอนสิทธิในการทํางานที่ถูกต้องตามกฎหมายด้วยล่ะ ถ้าฉันทํางานที่ผิดกฎหมาย ฉันก็ยอมรับไปแล้ว แต่งานของฉัน มันผิดกฎหมายไหม ผิดกฎหมายตรงไหน ไหนคุณลองช่วยบอกฉันมาสิ!”

หลัว หลี่ กล่าวว่า : “การร้องเพลง มันไม่ถือว่าผิดกฎหมายอย่างแน่นอน”

เย่ตง กล่าวว่า : “ก็นั่นแหละ ..บางครั้งฉันก็แยกความดี และความชั่วไม่ออกจริงๆ แล้วโลกนี้นี่มันเป็นบ้าอะไร ฉันอยากเป็นคนดี ฉันก็เป็นคนดี ฉันอยากเขียนเพลง และร้องเพลงต่อไป แต่ทําไมฉันถึงทำมันไม่ได้ แล้วนี่พวกคุณช่วยปล่อยทางรอดให้ฉันบ้างไม่ได้?”

ความโกรธแค้นของ เย่ตง มันได้เขียนให้เห็นเด่นชัดอยู่ทั่วใบหน้าของเขา

เมื่อเห็นหน้าตาของเขาในเวลานี้ ด้านล่าง ..แฟนๆ ของ เย่ตง ก็อดร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่ได้

“น่าสังเวชมาก อนาถมาก ทําไมถึงไม่ให้โอกาสเขาสักครั้งหนึ่งล่ะ?”

“ทําไมถึงไม่ให้เขาทํางานล่ะ?”

“สวรรค์มีเหตุผลอะไร ทำไมถึงต้องคิดทำลายทางรอดของเขาทั้งหมด?”

ได้มีคนกระซิบกระซาบกัน พยายามสร้างความอยุติธรรมให้กับ เย่ตง

แต่ก็ยังมีคนแอบส่ายหัว และไม่เห็นด้วยกับคําพูดของ เย่ตง เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะโต้แย้ง เย่ตง กลับไปอย่างไร

หลัว หลี่ กล่าวว่า : “แล้วคุณต้องการอะไร?”

เย่ตง ได้กล่าวว่า : “ฉันไม่ใช่ว่าอยากขออะไรมาก ฉันขอแค่ให้ฉันทำอะไรต่อไปได้ ฉันแค่อยากจะร้องเพลงต่อไป แสดงต่อไป เขียนเพลงให้กับแฟนๆ ที่ชอบฉันต่อไปเหมือนเดิม นี่มันคืองานของฉัน ปล่อยฉัน.. ปล่อยให้ฉันได้กลับไปทำงานของฉัน มันก็เป็นแค่เรื่องที่ง่ายๆ แค่นี้เท่านั้น”

หลัว หลี่ ได้พยักหน้า : “ฉันเข้าใจแล้ว”

เย่ตง กล่าวว่า : “ดังนั้น.. คุณออกไปได้ไหม แล้วนี่ฉันจะสามารถร้องเพลงต่อไปได้ไหม?”

พอได้ยิน หลัว หลี่ ก็กลับส่ายหัวทันที แล้วพูดว่า : “ไม่ได้ ต่อไปจะเป็นอย่างไรฉันไม่รู้ แต่คืนนี้ไม่ได้ คุณไม่ได้ผ่านการอนุมัติ”

เย่ตง ที่ได้ฟังแล้ว เขาก็ได้อารมณ์เสียขึ้นมาอีกครั้ง เขาได้พูดไปว่า : “ทําไมไม่ให้ฉันทํางาน นี่มันก็คืองานของฉัน ฉันมีสิทธิ์ทํางาน…”

“พอได้แล้ว!”

ในเวลานี้ ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ได้ดังขึ้น และขัดจังหวะ เย่ตง

ทุกคนก็ได้มองไปที่ หลินฟาน โดยพร้อมเพรียงกัน

หลินฟาน ได้เฝ้าดู เย่ตง กระโดดไปมาอย่างเงียบๆ และผู้ชายคนนี้ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ หลินฟาน แค่อยากจะจัดการกับเรื่องนี้ให้เสร็จอย่างรวดเร็ว และออกจากที่นี่ไปพร้อมกับ หลัว หลี่

เย่ตง ก็ได้มองไปที่ หลินฟาน พอเห็นว่า หลินฟาน และหลัว หลี่ ยืนอยู่ด้วยกัน เขาเองก็ได้คิดไปว่า หลินฟาน เองก็คงต้องเป็นตํารวจเหมือนกัน และเขาก็ได้ถามไปว่า : “นี่ฉันพูดผิดไปหรือยังไง?”

หลินฟาน กล่าวว่า : “แน่นอนว่า ..มันไม่ถูกต้อง คุณบอกว่าไม่ให้คุณทํางาน นี่ก็ผิด ทุกคนก็แค่ไม่ให้คุณร้องเพลงต่อก็เท่านั้น ถ้าคุณไปที่โรงงานเพื่อขันสกรู แน่นอนว่ามันจะไม่มีใครรายงานคุณ..”

อ่า?

ครั้นทุกคนได้ยินเช่นนี้ ในตอนแรกคนทั้งปวงเองก็ต่างพากันประหลาดใจ จากนั้น ไม่นานนักก็ได้พากันเข้าใจได้ในทันที และก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด