ตอนที่แล้วตอนที่ 26 ชุดคลุมปริศนา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 28 ปลาแห่งชีวิต

ตอนที่ 27 สีเขียวแรกที่เห็น


มู่เหลียงแฝงตัวไปตามเงามืดของตามซอกหิน และเนินเขา

เมื่อเจอกับหินสูงใหญ่ ขวางเขาจะใช้ใยแมงมุมในการโหนตัวเองขึ้นไป

ในพื้นที่โล่งบางแห่งมู่เหลียงก็จะใช้ลอบเร้น และเดินอย่างช้าๆ และผ่านตรงจุดนั้นไป

“ไม่คิดว่าฐานของพวกมันจะถูกวางไว้แบบนี้”

มู่เหลียงได้ตรวจดูหุบเขาที่เป็นทรงรูปเสี้ยวพระจันทร์ได้ครึ่งทางแล้ว

มู่เหลียงพบเจอกับสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมากขึ้นไปอีก เพราะการจะไปยังหุบเขาตรงกลางต้องเดินอ้อมไปเนินเขาทางซ้ายและขวาก่อน จากนั้นจะมีสะพานเพื่อข้ามเข้าไป

และที่ตรงกลางหุบเขานั้นคือฐานที่มั่นของพวกเคราโลหิต

ความยากของช่วงแรกคือการเดินข้ามเนินเขาสองลูก

และจากระยะสายตาของมู่เหลียงเขาเห็นยามเฝ้าทางอยู่ประมาณ 20 คน และมีพวกเดินลาดตระเวนอยู่รอบนอกเล็กน้อย

“แค่ทางเข้าก็ยากแล้ว นี้ยังไม่รวมกับคนเฝ้าระวังอีก”

มู่เหลียงถอนหายใจ

แม้ว่าจะใช้ลอบเร้นแอบเข้าไปได้ก็ตาม แต่เขาก็ต้องการใครสักคนที่สามารถเปิดประตูของฐานแห่งนี้

“จริงสิ…เราปีนเข้าจากด้านนอกก็ได้”

มู่เหลียงคิดอะไรออกก่อนจะตัดสินใจเลิกใช้เส้นทางปกติ และปีนขึ้นไปบนเนินเขา และหาทางเข้าจากทางอื่น

มู่เหลียงประเมินสถานการณ์ดูแล้ว การเข้าทางปกติจะยุ่งยากและเสียเวลามากกว่า เพราะไม่รู้ว่าจะมีจุดตรวจ หรือประตูอีกกี่บาน

และมู่เหลียงมีเวลาไม่มากขนาดนั้น ไม่รู้ว่าหัวหน้าของพวกโจรจะกลับมาเมื่อไร

หวี๊ด!!!

แล้วตอนนั้นเองมู่เหลียงก็ผิวปากเรียกแมงมุมผีแดง

“หัวหน้าของพวกมันรอบคอบจริงๆ”

มู่เหลียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอีกครั้งหลังจากสำรวจฐานแห่งนี้

ก่อนที่เขาจะเรียกลูกหาบคนเก่งของเขามา

“เสี่ยวไกมานี่หน่อย”

งานขนของได้กลายเป็นหน้าที่ของเสี่ยวไกไปแล้ว เพราะมู่เหลียงตัวคนเดียวแบกของกลับไปไม่หมดแน่

ไม่กี่นาทีต่อมาเสี่ยวไกก็เดินออกมาจากมุมมืด และเอาหัวมาถูกับมือของมู่เหลียง

กี้….

เสี่ยวไกถูหัวไปมากับมือของมู่เหลียงราวกับสัตว์เชื่องๆ

“เตรียมตัวได้แล้วเสี่ยวไก”

มู่เหลียงพ่นใยออกจากฝ่ามือ ก่อนที่ใยจะพุ่งไปติดกับหน้าผาหิน และเมื่อเห็นว่ารอบๆ ปลอดภัยเขาจึงปีนใยขึ้นไป

สัตว์อสูรเลี้ยงทั้งสองตัวก็ไต่ตามไปติดๆ

ด้วยความสูง 150 เมตร น่าจะสูงกว่าตึก 30 ชั้นเสียอีก

แต่เพราะใยแมงมุมคุณภาพสูงทำให้มู่เหลียงไต่ขึ้นมาได้อย่างไม่ยากเย็น แม้จะเจอบางจุดที่ยากต่อการปีนก็ตาม

มู่เหลียงไม่รู้ว่าใช้เวลาไปนานแค่ไหน แต่ยิ่งใกล้ยอดของเขา การเคลื่อนไหวของมู่เหลียงก็ยิ่งดูรัดกุมขึ้น เพราะกลัวว่าจะทำอะไรให้เกิดเสียง จนคนที่อยู่ข้างล่างได้ยิน

ตลอดทางที่เขาไปนั้นไม่พบเจอสิ่งอันตรายใดๆ ซึ่งเป็นเรื่องดีกับมู่เหลียงมาก

แต่เมื่อมู่เหลียงปีนขึ้นมาถึงแล้วเขากลับเห็นอะไรที่ผิดปกติ

มันมีสิ่งก่อสร้างประหลาดเหมือนกับกระโจม แต่เป็นรูปทรงครึ่งวงกลมทำจากไม้ และยังมีแสงเล็ดลอดออกมาอีกด้วย และขนาดก็ไม่ใช่เล็กๆ

“นี้มันอะไร?”

มู่เหลียงเกิดความสงสัยขึ้นมาทันที

กระโจมนี้ไม่น่าจะเป็นที่อยู่ของพวกเคราโลหิต

หรือว่าข้างในนี้จะเป็นที่คลังสมบัติ?

“ก็เป็นไปได้”

มู่เหลียงอุทานด้วยน้ำเสียงที่สนใจ

เพราะที่นี่มู่เหลียงก็คิดว่าเหมาะที่จะใช้เป็นสถานที่เก็บสมบัติหรือของล้ำค่าเอาไว้

มู่เหลียงเริ่มเดินสำรวจรอบๆ การจะงัดแงะหรือทำลายเข้าไปด้วยกำลังคงไม่ดีสักเท่าไร

ถ้ามีคนอยู่ข้างในเขาจะโดนจับได้ทันที

มู่เหลียงวนอยู่หลายรอบ และพบว่ามันมีช่องว่างเล็กๆ หลายช่อง แต่ไม่สามารถมุดเข้าไปได้

แต่ก่อนที่เขาจะเตรียมตัวปีนขึ้นไปสำรวจด้านบนของกระโจม เขาก็ได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันดังมาจากที่ไม่ไกลมากนัก

“พ่อของข้าออกไปข้างนอกแล้ว และนี้คือคำสั่ง”

“ไม่ได้ครับ ที่นี่ห้ามใครเข้าหากไม่ได้รับคำสั่งจากหัวหน้า”

“ก็บอกให้หลีกทางไป ข้าจะไปเอาน้ำ!”

“ท่านเซียเต๋า ท่านก็รู้ว่าหัวหน้าใหญ่มีอารมณ์เช่นไร อย่าทำให้พวกเราต้องเสียหน้าเลย”

“อย่าเอาพ่อข้ามากดดันข้านะ!!”

ปึก ครืน  ปัง ปัง ปัง!!!

“เกิดเรื่องขึ้นงั้นหรอ…”

ได้เกิดเสียงเหมือนการต่อสู้เกิดขึ้น ตามมาด้วยเสียงปิดประตูพร้อมกับทุบประตูหลายครั้ง ก่อนที่จะมีคำตะโกนด่าสาปแช่งตามมา

“หรือว่านั่นคือลูกของหัวหน้ากลุ่มเคราโลหิต?”

มู่เหลียงมองดูพร้อมกับมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย

สถานที่แห่งนี้แม้แต่ลูกของหัวหน้ากลุ่มก็ยังไม่ให้เข้า นั้นแปลว่าภายในนี้ต้องมีของล้ำค่าอยู่มากแน่

ฟิ้ว….

มู่เหลียงยิงใยแมงมุมออกไป ติดกับยอดของกระโจม ก่อนที่จะค่อยๆ ปีนขึ้นไปอย่างเบามือจนเขาเห็นช่องแปลกๆ

มันมีช่องที่ยาวประมาณสิบเมตรได้ที่ด้านบน และกว้างประมาณสิบนิ้ว

ซึ่งมันใหญ่พอที่คนจะลอดผ่านเข้าไปได้

“ทำไมช่องตรงนี้มันใหญ่ผิดปกติ?”

มู่เหลียงไม่ได้เข้าไปทันที แต่ให้แมงมุมผีแดงเข้าไปสำรวจเส้นทางก่อน

หลังจากที่แมงมุมผีแดงเข้าไปได้สักพัก ก็ไม่มีเสียงอะไรตามออกมาเลย

ทำให้มู่เหลียงมั่นใจว่าปลอดภัยเขาจึงพ่นใยแมงมุมทำเป็นเชือกก่อนที่จะโรยตัวลงไป

-เมื่อได้เข้ามาแล้วทำให้เขารู้ว่าภายในหอแห่งนี้กว้างมาก

ปรากฏว่า-หอแห่งนี้ถูกสร้างเพื่อปิดทางเข้าถ้ำขนาดใหญ่

มู่เหลียงโรยตัวลงมาเรื่อยๆ จนเห็นว่าที่ใต้เท้าของเขามีประตูไม้เปิดอยู่

โดยที่เสียงคนทะเลาะกันเมื่อครู่ดังมาจากอีกฝั่งของประตูอีกด้านที่น่าจะเป็นทางเข้าหลัก

มู่เหลียงออกห่างจากประตูทางเข้า และเห็นว่าประตูที่เปิดอยู่นี้ลึกลงไปอีกสิบเมตรได้

และเมื่อมองขึ้นไปบนกระโจมแห่งนี้ มู่เหลียงเห็นว่ามันมีเฟืองขนาดใหญ่ พร้อมกับเชือกอีกหลายเส้นโยงกันอยู่

“จริงหรอเนี่ย พวกนี้เป็นกลไกเอาไว้เปิดเพดานออกเลย”

มู่เหลียงตกใจมากเมื่อเห็นว่ากระโจมนี้มีกลไกติดตั้งอยู่

และที่น่าแปลกใจก็คือมันเป็นกลไกที่เอาไว้เหมือนเปิดเพดานออก ไม่แปลกเลยที่ทำไมถึงมีช่องยาวถึงสิบเมตรข้างบนกระโจม เพื่อให้รองรับกับกลไกนี้

“หัวหน้าเคราโลหิตนี้เป็นคนช่างคิดจริงๆ”

มู่เหลียงลงไปใต้ประตูไม้ และพบว่าสถานที่แห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ  และที่สะดุดตาที่สุดเลยคือต้นพืชและดอกไม้สีเขียวหลายชนิด

ตั้งแต่อยู่ในโลกที่พังพินาศนี้มา 9 วันในที่สุดเขาก็ได้เห็นต้นพืชสีเขียว

เขามองไปยังต้นไม้สีเขียวออกเหลืองๆ ประมาน 12 ต้น และเห็นว่ามีพื้นที่เพาะปลูกอยู่อีก

“ดูเหมือนว่ากระโจมนี้มันมีกลไกไว้เปิดปิดตัวเอง เพื่อให้แดดส่องลงมาโดนพืชผลพวกนี้สินะ”

“แล้วหน้าตามันก็เหมือนกับกะหล่ำปลีเลย”

มู่เหลียงนั่งยองๆ ลงไปดู และสำรวจแปลงผักแห่งนี้

เขาลองเด็ดใบของมันขึ้นมาดมดู ก่อนที่จะอุทานออกมาอย่างตกใจ

“เห้ย!! นี้มันกะหล่ำปลีจริงๆ ด้วย”

มู่เหลียงลุกขึ้นยืนทันที เขาเดินเข้าไปอีกหน่อยก็เจอกับแปลงผักไม้เลื้อยอีกชนิด ซึ่งมันมีผลกลมสีแดง และสีเขียว

มู่เหลียงยิ้มมุมปากน้อยๆ

“แม้แต่มะเขือเทศก็มี”

“หัวหน้าเคราโลหิต แกนี้มันถุงนำโชคของฉันจริงๆ ในนี้ยังมีต้นชาอีกด้วย”

มู่เหลียงมองไปรอบๆ และเห็นผักและพืชอีกหลายชนิด

“และยังมีอีกหลายชนิดที่เราไม่รู้จัก”

มู่เหลียงเมื่อสำรวจดูแล้ว เขาก็พบว่าเขารู้จักพืชผักพวกนี้แค่สองสามชนิด

นอกจากนั้นพืชผักพวกนี้มีต้นที่กำลังเฉาและใกล้จะตาย

“แปลกๆ แฮะ ทำไมมันถึงไม่กินพืชผักพวกนี้ก่อนจะเสีย?”

มู่เหลียงมองดูดอกไม้ที่กำลังจะตาย ด้วยความคิดหลายอย่าง

จะเว้นก็แต่ว่าหัวหน้าเคราโลหิตนั้นต้องการที่จะยื้อชีวิตพวกมันออกไปเท่านั้น

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด