ตอนที่แล้วยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 665 ความจริงที่เกิดขึ้นกับจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์ (ฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 667 ตั้งตนเป็นใหญ่ (ฟรี)

ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 666 ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว (ฟรี)


ซู่เสี่ยวไป่เดินไปทั่ววังแห่งนี้เพื่อหาสมบัติดีๆ ติดไม้ติดมือกลับไปด้วย

เพราะหากหมุนเวียนทุกสิ่งในวังแห่งนี้ คงได้ผลึกต้นกำเนิดไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านก้อน

และในนี้มีวิชาระดับภัยพิบัติมากถึง 1,500 วิชา

ซู่เสี่ยวไป่นั้นวิ่งไปสัมผัสทุกอย่าง ก่อนที่จะเก็บมันไปเป็นของตัวเองอย่างหน้าไม่อาย

สำหรับซู่เสี่ยวไป่เมื่อคิดจะเป็นโจรแล้ว เขาก็ไม่สนใจใครทั้งสิ้นว่าจะมองเขาเป็นเช่นไร

“-ติ๊ง!! ใช้ผลึกต้นกำเนิด 4 พัน 5 ร้อยล้านก้อนในการเพิ่มระดับให้กับระบบ-”

“-พื้นที่ออกล่าสัตว์อสูรในคลิกเดียวถูกเพิ่มระดับ เพิ่มจำนวนเงาเป็น 80 ล้านร่าง และเพิ่มขีดจำกัดให้กับเงายักษ์เทพเป็นหนึ่งชั่วโมง-”

“-พื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียวถูกเพิ่มระดับ สามารถบรรลุวิชาระดับภัยพิบัติที่มีทั้งหมดในตอนนี้ได้ในเวลา 615 วัน-”

หลังจากผ่านการปรับปรุงระบบครั้งใหญ่ ซู่เสี่ยวไป่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นพร้อมกับลำแสงสีทองที่ออกมาจากนัยน์ตา ลำแสงนี้พุ่งออกไปไกลเป็นหมื่นๆ กิโลเมตรก่อนที่จะจางหายไป

กระแสพลังในร่างของเขานั้นเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนราวกับเป็นคนละคน

อย่างที่รู้กันว่าหากซู่เสี่ยวไป่แข็งแกร่งขึ้น เงาก็จะแข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย ทำให้เงาที่อยู่ในวังแห่งนี้เปล่งพลังที่แตกต่างจากตอนแรกออกมา

แก่นโลหิตของร่างเงาที่อยู่ในร่างของมังกร 9 มายาก็-ร้อนรุ่มขึ้นมาทันที ทำให้มันรู้ว่าตอนนี้พลังของซู่เสี่ยวไป่เพิ่มขึ้นอีกแล้ว ทำให้มันตกใจอย่างมาก

“นายท่าน?! พลังของนายท่านเพิ่มขึ้นไปอีกขั้นแล้ว การเติบโตของนายท่านเหนือกว่าเผ่าพันธ์เก่าแก่แบบข้าน้อยอีก!!  เพราะแบบนั้นข้าเองถึงได้อนิสงนี้ไปด้วยจากแก่นโลหิตของนายท่านที่อยู่ในร่างของข้า!!”

เวลานี้มังกร 9 มายานั้นเรียกได้ว่าพร้อมจะถวายชีวิตให้กับซู่เสี่ยวไป่ได้เลย ต่อให้ไม่มีคำสาบานคำสาบโลหิตอยู่ก็ตาม  เพราะมังกร 9 มายาอยู่มาแต่ยุคเก่าแก่ มันได้ผ่านและเห็นสิ่งต่างๆ มามากมาย ทำให้มันรู้ว่าการเลือกรับใช้เจ้านายที่ดีจะได้รับอะไรบ้าง

แต่ตั้งแต่มันรับใช้ซู่เสี่ยวไป่ในระยะเวลาสั้นๆ พลังของมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแข็งแกร่งขึ้นเป็นสองเท่าจากเดิม

และเป็นที่รู้กันว่าสัตว์อสูรเผ่าพันธ์พิเศษแบบนี้ มีการเติบโตที่น่าทึ่งมากแล้วก็จริง เพียงแค่พรสวรรค์และความรู้ความเข้าใจของมันก็เหนือกว่าผู้ฝึกตนทั่วไปเป็นล้านๆ เท่า และไม่มีใครที่จะเทียบเคียงมันได้ง่ายๆ

แต่ในสายตาของมันตอนนี้ซู่เสี่ยวไป่ได้กลายเป็นตัวตนฟ้าประทานเป็นยอดของสุดยอดสิ่งมี-ขีวิตเท่าที่มันเคยรู้จักมา มันยอมเป็นอะไรก็ได้ขอเพียงแค่มันได้รับใช้ซู่เสี่ยวไป่ต่อไป

หลังจากที่การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างบนตัวของซู่เสี่ยวไป่จบลงแล้ว ตัวของซู่เสี่ยวไป่เองก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะไปจากวังแห่งนี้ทันที แต่ยังเดินค้นหาสมบัติชิ้นอื่นอย่างใจเย็น

จักรพรรดินีเป็นถึงจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 และเป็นผู้ที่เตรียมจะตัดขาด แปลว่าจักรพรรดินีรู้หนทางในการตัดขาด และอาจจะบันทึกวิธีการนั้นเอาไว้

แต่ถึงอย่างงั้น มังกรพิษผีดิบเองก็ได้ทำลายความหวังของซู่เสี่ยวไป่ทันที

“ท่านจักรพรรดินีไม่ได้ทิ้งอะไรไว้อีกแล้ว ไม่มีบันทึกอะไรทั้งสิ้น พอจักรพรรดินีสิ้นพระชน จักรวรรดิเองก็ถูกบุกโจมตีหลายครั้ง และเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว”

ซู่เสี่ยวไป่ถอนหายใจ โลกนี้มันก็เป็นซะแบบนี้ไปหมด เมื่อสิ้นอำนาจก็ถูกกวาดล้างอย่างรวดเร็ว

อย่างตอนนี้ซู่เสี่ยวไป่เองก็ยังเข้ามาเก็บกวาดความมั่งคั่งของจักรวรรดิไปเลยด้วยซ้ำ และในเมื่อไม่มีสมบัติอีกแล้วมังกรพิษผีดิบเองก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป

เพราะหน้าที่ของมันคือการเฝ้าคลังสมบัติแห่งนี้เอาไว้

และมันได้ขอติดตามมังกร 9 มายา ซึ่งเป็นดั่งเจ้านายเก่าของมัน ทำให้ตอนนี้ซู่เสี่ยวไป่ได้สัตว์อสูรเผ่าพันธ์พิเศษเพิ่มมาอีกตัว

ถึงแม้ว่าเฉี่ยวเห้อจะอธิบายให้ซู่เสี่ยวไป่ฟังแล้วก็ตาม แต่ซู่เสี่ยวไป่ก็ยังไม่เชื่อใจมังกรพิษผีดิบตัวนี้อยู่ดี เพราะมันอาจจะเปลี่ยนเป็นไส้ศึกเมื่อไหร่ก็ได้ เขายังไม่ไว้วางใจให้มาติดตามเป็นคนข้างกายเขา

แต่เขาก็ยอมให้มันติดตามกลับไปยังดินแดนดวงดาวทางเหนือด้วยอยู่ดี

ผ่านไปหนึ่งเดือนหลังจากกลับมาจากจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์

สถานการณ์ในทะเลแห่งความว่างเปล่าก็เริ่มดูดีขึ้น เดิมทีก็มีเงา 40 ล้านร่างที่กระจายตัวอยู่ทั่วสนามรบ โดยที่มีซู่เสี่ยวไป่คอยบัญชาการ และควบคุมสถานการณ์ได้อยู่แล้ว

แต่พอได้จำนวนเงาเพิ่มขึ้นเป็น 80 ร่างทุกอย่างก็เปลี่ยนไปในเชิงรุกที่เร็วขึ้นเป็นสองเท่า

ในขณะที่ดินแดนเดิมของจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์ถูกบุกยึดคืนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กองทัพของซู่เสี่ยวไป่ไม่จำเป็นต้องออกหน้าเหมือนอย่างเคย นั้นเพราะการที่ยึดคืนพื้นที่ได้มากขึ้นนั้นเท่ากับว่ากองทัพของศัตรูกำลังถอยกลับไปยังแนวหลังมากขึ้น ทำให้การปะทะระหว่างกองกำลังน้อยลง

เงาของซู่เสี่ยวไป่ได้กระจายตัวอยู่ทั่วแนวหลังของข้าศึกทั้งหมด มีเงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ และเงายักษ์เทพหลายตัว  ออกอาละวาดอย่างไม่หยุดหย่อน

แล้วยิ่งร่างต้นอย่างซู่เสี่ยวไป่แข็งแกร่งขึ้นแบบนี้ เงาเองก็เช่นเดียวกัน เงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นมีพลังเท่ากับจ้าวภัยพิบัติขั้น 7 ครึ่งก้าวสู่ขั้น 8

นั้นคือตราบใดที่พวกจักรวรรดิระดับสูงไม่ส่งจ้าวภัยพิบัติขั้น 8 ออกมาก็ไม่มีใครที่จะต้านทานการบุกรุกของเงาได้เลย

และหากพวกมันส่งจ้าวภัยพิบัติขั้น 8 ออกมา ก็ยิ่งเข้าทางซู่เสี่ยวไป่ เขาจะสร้างเงายักษ์เทพที่แข็งแกร่งเท่ากับร่างจริงที่มีพลังเท่ากับจ้าวภัยพิบัติขั้น 8 ออกมา

ซู่เสี่ยวไป่อยากรู้ว่าจะมีกี่จักรวรรดิระดับสูงที่กล้าพอเอาจ้าวภัยพิบัติขั้น 8 ออกมาใช้เป็นหมากในสงครามแบบนี้

อย่างมากก็หนึ่งหรือสองคนที่จะถูกส่งออกมา แต่ซู่เสี่ยวไป่สามารถสร้างขุมกำลังจ้าวภัยพิบัติขั้น 8 ได้มากกว่า 4 คน

และเป็นอย่างที่ซู่เสี่ยวไป่คาดการณ์เอาไว้ จักรวรรดิระดับสูงทั้ง 5 นั้นถึงกับสั่นคลอนทันทีเมื่อเจอเงายักษ์เทพเข้าไป

ซู่เสี่ยวไป่ที่อยู่ในดินแดนดวงดาวทางเหนือนั้นกำลังนั่งคิดถึงแผนต่อไปอยู่

“นายท่าน…ตอนนี้อำนาจและบารมีของท่านได้ปกคลุมไปทั่วจักรวรรดิระดับสูงทั้งห้าแล้ว การต่อต้านจากจักรวรรดิทั้งห้านั้นน้อยลงมาก และเริ่มจะถอนกำลังออกจากแนวชายแดนทั้งหมด และไม่มีการส่งจ้าวภัยพิบัติขั้น 7 เข้ามาในสนามรบอีกแล้ว”

เฉี่ยวเห้อรายงานสถานการณ์ที่แนวหน้าให้กับซู่เสี่ยวไป่ฟังอย่างจริงจัง

แม้ว่าซู่เสี่ยวไป่จะรู้อยู่แล้ว แต่การได้ฟังเรื่องนี้อีกครั้งมันยิ่งทำให้หัวใจของเขาพองโตขึ้นไปอีก

ในตอนแรกกองทัพของศัตรูได้ยึดพื้นที่ของจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์ไปจำนวนมาก รวมไปถึงพื้นที่ของจักรวรรดิไท่เจียง แต่ตอนนี้เขาได้ยึดครองพื้นที่เหล่านั้นกลับมาเกือบหมดแล้ว

นั้นเพราะซู่เสี่ยวไป่ส่งเงาเข้าไปทำลายศัตรูจากแนวหลังไม่พอ เขายังให้กองทัพเงาโถมโจมตีจากแนวหน้าอีก ทำให้ศัตรูนั้นเสียหายอย่างหนักทั้งจากภายในและภายนอก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด