ตอนที่แล้วบทที่ 216: รอคอยที่จะได้รับ ‘รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ’
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 218: ทำให้มือของเจียวเจียวอุ่น

บทที่ 217: ยามที่เหมันต์มาเยือน


อย่างที่เคยกล่าวไปก่อนหน้านี้ ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็รักสวยรักงามกันทั้งนั้น

เมื่อหู่จิงเห็นว่าหูเจียวเจียวใช้ปิ่นหยกมวยผมแล้วดูงดงามแค่ไหน นางเองก็รู้สึกอยากได้มันเช่นกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่หญิงสาวมีคู่ชีวิตแล้ว นางยังอยากให้ตัวเองดูสวยขึ้นอีกสักเล็กน้อย เผื่อจะทำให้ภูตหญิงในเผ่าเลิกเรียกตนว่าแม่เสือสาวจอมพลังสักที

นางเองก็อยากจะเป็นแม่เสือสาวแสนสวยกับคนอื่นเขาเหมือนกัน!

ทว่าลู่เมี่ยนเอ๋อห้ามปรามสหายคนสนิทเอาไว้ทันที “การที่เจ้าไปถามหลงโม่แบบนั้น มันเสียมารยาทนะ”

เนื่องจากทรัพยากรที่ภูตพบมักจะเก็บไว้เป็นความลับ ดังนั้นจึงไม่มีใครอยากจะบอกสถานที่เก็บเกี่ยวของตนให้ภูตคนอื่นรู้

หู่จิงยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองเบา ๆ “ถ้าอย่างนั้นข้าจะแลกเปลี่ยนสิ่งของกับนาง” จากนั้นนางก็หันไปถามน้องสาวของสามีว่า “เจียวเจียว เจ้าต้องการอะไร ข้าแลกเปลี่ยนมันกับเจ้าได้ไหม?”

ของของหลงโม่ก็ถือได้ว่าเป็นของของหูเจียวเจียวเช่นกัน เสือสาวจึงเลือกที่จะหันไปทำข้อตกลงกับอีกฝ่ายโดยตรง

แน่นอนว่าโลกภูตฝ่ายหญิงจะเป็นใหญ่มากกว่าฝ่ายชาย ดังนั้นเมื่อหลายปีก่อน หูเจียวเจียวคนเก่าจึงมีสิทธิ์ที่จะไล่หลงโม่ออกจากเผ่า

“ไม่ต้องเอาอะไรมาแลกหรอก” จิ้งจอกสาวโบกมือ “หลงโม่พบหินก้อนนี้โดยบังเอิญ ข้าเลยไม่รู้ว่าเจ้าจะยังหาหินแบบเดียวกันเจออีกหรือไม่”

นอกจากรูปลักษณ์ที่สวยงามของหยกแล้ว สิ่งนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกในโลกของภูต แต่ถ้ามีหยกฝังอยู่ในดินจริง ๆ แทนที่จะปล่อยให้มันเปล่าประโยชน์อยู่อย่างนั้น ให้เหล่าภูตได้ขุดมันออกมาใช้ประโยชน์จะดีเสียกว่า

แม้ว่าหูเจียวเจียวจะคิดเช่นนี้ แต่เธอก็หันไปมองคู่ของตนและถามความคิดเห็นของเขาว่า “หลงโม่ เจ้าบอกพวกเขาได้ไหมว่าเจ้าพบหินชนิดนี้ที่ไหน?”

ชายร่างสูงชำเลืองมองไปทางหู่จิงโดยคิดว่าหูชิงหยวนช่วยทดลองยาพิษให้เขาแล้ว... ไม่สิ อีกฝ่ายช่วยชิมอาหารฝีมือเขาแล้ว ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าตอบรับพลางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ข้าจะบอกที่ตั้งของมันให้หูชิงหยวนพรุ่งนี้”

นี่คือความยินยอมของมังกรหนุ่ม

ทางด้านหู่จิงฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุขและยกมือขึ้นหมายจะตบไหล่น้องสาวของสามี แต่หลงโม่หยุดนางไว้ด้วยสายตาเสียก่อน

เสือสาวจึงทำเพียงยิ้มแบบเขินอายปนอิจฉา “หลงโม่ของเจ้าจับเหยื่อตัวใหญ่ได้มากมาย ไม่เหมือนหูชิงหยวนที่เอาแต่จับเจ้ากระต่ายที่มีเนื้อน้อยพวกนี้ทุกวัน ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าในหัวเขาคิดอะไรอยู่...”

นางบ่นพลางยกกระต่ายที่ตนหิ้วอยู่ขึ้นมา

ทันทีที่หญิงสาวพูดจบ กระต่ายในมือของนางก็เตะขาประท้วง

“ฮัดชิ้ว!” หูชิงหยวนซึ่งกำลังล่าสัตว์อยู่ในป่าจามออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

“แปลกจัง ทำไมจู่ ๆ ข้าถึงจาม..”

จิ้งจอกหนุ่มพึมพำกับตัวเองโดยยังคงหมอบตัวอยู่หน้ารังกระต่าย

วันต่อมา

หลงโม่บอกตำแหน่งที่เขาพบก้อนหินสีมรกตให้หูชิงหยวนทราบ จากนั้นเขาก็เป็นคนแรกที่ไปแบกก้อนหินขนาดใหญ่ออกมาจากหลุมที่ตนขุดหิน แล้วขนพวกมันไปกองไว้ในสวนหลังบ้าน

เป็นเพราะว่าเจียวเจียวชอบหินชนิดนี้ ดังนั้นชายหนุ่มจึงอยากเก็บมันไว้ทำของอื่น ๆ ให้นางอีกในอนาคต

แม้ว่าจะมีหินมากมายในหลุม แต่ส่วนใหญ่แล้วมันมีขนาดเล็กกว่าหินที่มังกรหนุ่มเอามาทำอ่างอาบน้ำ

เนื่องจากหลงโม่เลือกหินก้อนใหญ่ออกไป เมื่อหูชิงหยวนมาถึงสถานที่ตั้ง เขาจึงได้แต่เลือกหยิบหินก้อนเล็กไปเท่านั้น

ในเวลาเดียวกัน ทันทีที่ข่าวเกี่ยวกับหยกแพร่กระจายออกไปทั่วทั้งเผ่า เหล่าภูตจำนวนมากก็รู้เรื่องดังกล่าว

พอภูตหญิงในเผ่าหลายคนเห็นว่าหูเจียวเจียวใส่ปิ่นหยกแล้วดูดีแค่ไหน พวกนางต่างก็พากันรู้สึกอิจฉา และไปเร่งเร้าให้คู่ของตัวเองออกไปตามหาหินชนิดนี้

ขณะนั้นภูตชายแทบทั้งหมดของเผ่ามุ่งหน้าไปเก็บหินสีเขียวจากหลุมที่หลงโม่ขุดมันออกมา

ทว่าสถานที่แห่งนี้หลงเหลือเพียงหินขนาดเล็กเป็นส่วนมากเพราะมังกรหนุ่มขนหินขนาดใหญ่ไปหมดแล้ว

หลังจากที่พวกภูตชายผ่าหินบางก้อนออกมา มันก็มีหยกซ่อนอยู่ข้างใน แต่กว่าที่แต่ละคนจะขัดเกลามันจนเป็นก้อนหยกก้อนหนึ่ง พวกเขาก็ต้องใช้ความพยายามสูงมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการจะนำหยกมาทำเป็นเครื่องประดับชิ้นเล็กเลย แม้แต่การทำให้มันแตกออกก็ยังเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร

ความแข็งของหยกทำให้ภูตบางคนถึงกับเล็บหัก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำปิ่นปักผมเหมือนของหูเจียวเจียวขึ้นมาได้อยู่ดี

ในเวลาเพียงไม่กี่วัน เหล่าภูตหญิงมีอารมณ์แปรปรวนกันมาก ถึงแม้ว่าที่บ้านของพวกนางจะมีหยกก้อนโต แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรมันได้อยู่ดี ทุกคนจึงได้แต่มองก้อนหินสีมรกตด้วยสายตาว่างเปล่า

แม้แต่อิงหยวนก็ไม่สามารถทำอะไรกับหยกได้

ส่วนหูชิงหยวนโชคดีที่พบหยกสีใสรูปหยดน้ำ แม้ว่ามันจะไม่สามารถแกะสลักเป็นลายเสือได้ แต่เขาก็ขอให้หลงโม่ช่วยทำรูและร้อยด้วยเชือกเพื่อทำเป็นสร้อยคอแล้วมอบให้กับหู่จิง

ต่อให้สร้อยเส้นนี้จะไม่ได้อยู่ในรูปร่างของเสือน้อย แต่ภรรยาของเขาก็ชอบมันมาก

ถ้าเป็นปกติมังกรหนุ่มคงจะไม่ช่วยหูชิงหยวน แต่ใครใช้ให้เขามี ‘ความลับที่ลึกซึ้ง’ กับพี่ชายของหูเจียวเจียว เขาจึงอยู่ในภาวะจำใจช่วยเหลืออีกฝ่าย

ระหว่างที่ในเผ่ากำลังคึกคักวุ่นวาย ทางด้านหูเจียวเจียวก็ไม่ได้ปล่อยให้เวลาเสียไปแบบเปล่าประโยชน์

เมื่อเร็ว ๆ นี้ หลงโม่พบผลทับทิมในป่า และเธอวางแผนที่จะใช้ผลทับทิมกับส้มโอในโกดังมาทำเป็นเหล้าผลไม้

อันที่จริงลูกพลับก็สามารถนำมาใช้ทำเหล้าผลไม้ได้ด้วยเช่นกัน

แต่ปัจจุบันเธอนำลูกพลับไปแปรรูปเป็นลูกพลับตากแห้งหมดแล้ว

ถัดมา จิ้งจอกสาวขอให้มังกรหนุ่มทำไหหินที่มีฝาปิดสนิทให้ ส่วนเธอจะจัดการปอกเปลือกผลไม้ออก

เนื่องจากการแกะเม็ดทับทิมเป็นเรื่องยุ่งยาก ลูก ๆ จึงมาช่วยกันนั่งทำอยู่ที่ม้านั่งขนาดเล็กในสวนหลังบ้าน

ส่วนหูเจียวเจียวไปเตรียมวัตถุดิบอื่น ๆ ทำความสะอาดไหหินแล้วตากให้แห้งเพื่อใช้ในภายหลัง จากนั้นเธอก็นำน้ำตาลกรวดกับเหล้าขาวออกมาจากมิติ

ปัจจุบันเด็กทุกคนกำลังตั้งใจปอกผลไม้ แต่มีเพียงหลงเหยาเท่านั้นที่กำลังนั่งน้ำลายไหล แล้วเขามักจะฉวยโอกาสตอนที่แม่จิ้งจอกไม่ทันได้สังเกตแอบหยิบเม็ดทับทิมยัดเข้าปาก

หลังจากที่หูเจียวเจียวเตรียมเครื่องมือและวัตถุดิบเสร็จแล้ว เธอก็หันกลับมามองเหล่าลูกน้อย ก่อนจะพบกองเม็ดทับทิมที่ถูกกินเนื้อจนหมดอยู่บนเปลือกทับทิมที่ถูกทิ้งบนพื้น...

ดูเหมือนว่ามันจะเป็น “ฝีมือ” ของเด็กชายร่างจ้ำม่ำตรงหน้า

“เหยาเอ๋อ!”

แม่จิ้งจอกที่รู้ว่าหลงเหยากำลังขโมยเม็ดทับทิมกินก็ส่งเสียงเตือนเขา ทำให้เจ้าเด็กน้อยสะดุ้งโหยงจนเผลอกลืนเม็ดทับทิมลงท้องไป

จากนั้นเขาก็รีบปิดปาก กะพริบตามองผู้เป็นแม่ปริบ ๆ

“ท่านแม่ เสี่ยวเหยาผิดไปแล้ว... เสี่ยวเหยาควบคุมมือตัวเองไม่ได้...”

ใจจริงเขาไม่ต้องการที่จะขโมยผลไม้ แต่มือป้อมสั้นเจ้ากรรมกลับไม่ให้ความร่วมมือแล้วส่งเม็ดทับทิมเข้าปากเรื่อย ๆ

เมื่อหูเจียวเจียวได้ยินคำตอบของลูกชายก็อดกุมหน้าผากไม่ได้ ก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมา

“เหยาเอ๋อไม่ต้องทำแล้ว เจ้าหยิบกินได้เลย”

หญิงสาวพูดพลางหยิบทับทิมผลหนึ่งพร้อมหนังสัตว์ใส่ไว้ในอ้อมแขนของเขา

หากเธอใช้ผลทับทิมที่เจ้าตัวแสบปอกมาทำเหล้าผลไม้ มันคงไม่ต่างจากการดื่มน้ำลายของอีกคน

เดิมทีหูเจียวเจียววางแผนที่จะมอบผลทับทิมที่เขาปอกให้เขาเก็บไว้กินเองอยู่แล้ว

ทางด้านหลงเหยาถือผลทับทิมลูกโตด้วยใบหน้าประหลาดใจ “ท่านแม่ นี่คือของเสี่ยวเหยาหรือ?”

“อืม” ผู้เป็นแม่พยักหน้า

“ขอบคุณท่านแม่! ท่านแม่ใจดีที่สุด!”

เจ้าตัวเล็กรู้สึกมีความสุขมากจนกระโดดโลดเต้นไปมา ก่อนจะหยิบผลทับทิมขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย

เมื่อเหล่าพี่น้องเห็นใบหน้าที่ตะกละตะกลามของหลงเหยา ทุกคนก็ส่ายหัวด้วยความเอือมระอา

หากพวกเขาไม่เคยเห็นร่างมังกรของน้องชายคนสุดท้องมาก่อน เป็นใครก็ต้องสงสัยว่าเขาไม่ได้เกิดมาจากแม่คนเดียวกันหรือเปล่า

พ่อแม่เดียวกันจะคลอดลูกที่มีนิสัยแตกต่างกันมากแบบนี้ออกมาได้อย่างไร!

พอไม่มีหลงเหยา งานที่ทุกคนทำในวันนี้ก็รวดเร็วมากขึ้น จนในที่สุดพวกเขาก็ใช้เวลาปอกผลทับทิมและส้มโอเสร็จในระยะเวลาอันสั้น

หลังจากนั้นหูเจียวเจียวก็ให้รางวัลแก่เด็กทั้ง 6 ด้วยส้มโอและผลทับทิมสด ๆ ก่อนที่เธอจะเริ่มทำเหล้าผลไม้

เมื่อหญิงสาวล้างทำความสะอาดทับทิมกับส้มโอแล้ว เธอก็นำพวกมันไปตากให้แห้ง พอผลไม้แห้งเธอก็เอาไปใส่ในไหหิน เติมน้ำตาลกรวดในปริมาณที่พอเหมาะ เทเหล้าขาวลงไปก่อนจะปิดฝาให้แน่น

เหล้าผลไม้ต้องใช้เวลาหมักประมาณ 1 เดือนจึงจะสามารถดื่มได้

หากจะถามหาเหตุผลว่าทำไมต้องใช้เหล้าขาวในการทำเหล้าผลไม้ เป็นเพราะว่าเธอไม่รู้วิธีการทำเหล้าผลไม้ที่ถูกต้องจริง ๆ ซึ่งวิธีการนั้นมันยุ่งยากกว่ามาก ด้วยเหตุนี้เธอจึงลองทำแบบง่าย ๆ ไปก่อน

ส่วนไหหินที่จิ้งจอกสาวนำมันมาบรรจุเหล้าผลไม้มีปริมาณเทียบเท่ากับเหล้าผลไม้ 20 จิน*

*1 จิน = 500 กรัม

ในครั้งนี้เธอหมักเหล้าผลไม้ทั้งหมด 20 ไห

เวลาต่อมา เธอย้ายไหทั้งหมดเข้าไปเก็บในโกดัง และเมื่อเธอเดินออกมาจากห้อง เธอก็เห็นหลงโม่เดินเข้ามาจากนอกลานบ้าน แต่ตามร่างกายของเขาเต็มไปด้วยชั้นละอองสีขาว

ในขณะเดียวกันก็มีอากาศหนาวเย็นพัดตามหลังมังกรหนุ่มเข้ามาในบ้าน

ภาพดังกล่าวทำให้ดวงตาของหูเจียวเจียวเป็นประกาย “ข้างนอกหิมะตกหรือ?”

ทางด้านหลงโม่ถอดเสื้อหนังสัตว์ออกมาสะบัด เนื่องจากเขากลัวว่าอากาศเย็นบนร่างกายของตนจะแผ่ไปถึงภรรยาสาว ดังนั้นเขาจึงเอาปุยหิมะตามตัวออกก่อนที่จะเดินเข้าไปหาอีกคนและตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า

“อืม ฤดูหนาวมาเยือนแล้ว”

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: อิงหยวนพ่อพระเอกผู้น่าสงสาร เพิ่งโผล่มาแต่ชื่อ หายไปเป็นร้อยตอน 5555

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด