ตอนที่แล้วบทที่ 169 แสดงเวทย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 171 เผ่ามัจจุราชรัตติกาล

บทที่ 170 เพิ่มสถานะได้อีกครั้ง (อ่านฟรี)


บทที่ 170 เพิ่มสถานะได้อีกครั้ง

ที่นี่มีหิมะกองโตขนาดก้อนหินอยู่ประปราย

พบต้นไม้มากมายที่นี่เช่นกัน

พวกมันสูง 10 ถึง 20 เมตร และใหญ่ 5 ถึง 7 ฟุต

นั่นเป็นเพียงเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พวกมันสะดุดตา

พวกมันไม่ค่อยมีใบ มีลำต้นสีดำ ทำให้มีบรรยากาศที่น่าขนลุก

เถาวัลย์ที่ปล่อยแสงสีเขียวจะพันรอบลำต้นและกิ่งของมัน

พวกมันเป็นแหล่งกำเนิดแสงเพียงแห่งเดียวในสถานที่นี่

“ป่าแห่งนี้ดูเหมือนกับเรื่องสยองขวัญเลย” เดไลลาห์พูดหลังจากมองไปรอบๆ

“ข้าเคยไปบ้านที่มีข่าวลือว่ามีผีสิง และขอบอกไว้ก่อนว่าบรรยากาศที่นี่เหมือนที่นั่นเลย ผีอาจจะโผล่ออกมาจากหลังต้นไม้ต้นนั้นก็ได้”

แอร์โล่เล่นตลกเพื่อทำให้อารมณ์สงบลง แต่มันกลับยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก

จูเลียนมองไปที่แอร์โล่และเดไลลาห์ด้วยความหวาดกลัว “อย่าหลอกเราเลย ได้โปรด”

ทันใดนั้น เสียงคำรามอันน่าขนลุกก็ดังขึ้น

“สัตว์อสูรงั้นเหรอ?”

ขนลุกชันทันทีบนผิวหนังของจูเลียน และของฝาแฝด

โดยไม่ได้ตั้งใจหรือตั้งใจ พวกเขาเริ่มก้าวเข้าไปใกล้รอย

เขากลายเป็นที่พึ่งในใจของพวกเขาโดยไม่รู้ตัว

“มันเป็นของสัตว์อสูรอย่างแน่นอน แต่มันมาจากไหน?”

แสงของพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวส่องลงมาที่พวกเขา

รอยมองไปรอบๆ แล้วมองไปบนท้องฟ้าและพบว่าไม่มีดวงดาวบนท้องฟ้า มีเพียงเมฆที่โปรยปรายหิมะและละอองน้ำแข็ง

ขณะที่เขาลดสายตาลง เขาก็บังเอิญเห็นดวงตาสีเขียวคู่หนึ่ง

ดวงตาเหล่านั้นเป็นของสัตว์อสูรที่อยู่บนที่สูง

มันกำลังจ้องมองพวกเขาจากยอดไม้

ดวงตาของรอยเบิกกว้างเมื่อเห็นมัน และเขาก็ตกตะลึง

"ระวัง!"

สัตว์อสูรมีปีกก็เคลื่อนไหวในตอนนั้นเอง แขนขาหนาของมันกดเข้ากับกิ่งไม้อย่างแรงจนหักเป็นสองท่อน ต้นไม้ทั้งต้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง หิมะที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้ร่วงหล่นลงมาที่พื้น

"หวือ!"

มันพุ่งลงมาทางอมีเลียราวกับสายฟ้าฟาด มันเต็มไปด้วยความกระหายเลือดที่รุนแรงอมีเลียมองเห็นมันและหัวใจของเธอก็สั่น แล้วก็เต้นไม่เป็นจังหวะ เธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

กลางอากาศ มันเปิดปากของมันออก เผยให้เห็นฟันที่แหลมราวกับหอกที่ดูน่ากลัวซึ่งมีสีเดียวกับหิมะ

"หวือ!"

ดูเหมือนว่ามันอยากจะกินเธอเป็นอาหาร รอยเลิกคิ้วของเขา และลูกไฟที่ล้อมรอบกลุ่มของพวกเขาก็พุ่งเข้าใส่สัตว์มีปีกจากด้านข้างด้วยความเร็วสูง

"ตูม!"

ในเวลาต่อมา ลูกไฟที่พุ่งเข้าใส่ร่างของมันก็ระเบิดออก เขี้ยวของมันไม่สามารถเจาะเนื้อมนุษย์ได้ในขณะที่มันถูกทำให้ออกห่างจากอมีเลีย ด้วยการระเบิดนั้นเปลวไฟอยู่ห่างจากเธอเล็กน้อย ก่อนที่รอยจะทำให้มันหายไป

ในขณะนี้ เมื่อสัตว์อสูรยังคงอยู่กลางอากาศและอยู่ห่างจากการชนเข้ากับต้นไม้เพียงชั่วลมหายใจ ลูกไฟอีกเจ็ดลูกก็พุ่งเข้าใส่ร่างของมันทันที

พวกมันกระแทกใส่ร่างของสัตว์อสูรตนนั้นทั้งหมด

เศษเนื้อใหม้และดิบ เศษกระดูก และอวัยวะต่างๆ กระจายออกไปทั่วพร้อมกับเลือดที่ทำให้หิมะเปลี่ยนสี ใบหน้าและเสื้อผ้าของอมีเลียก็เปื้อนสีแดง

กลิ่นเนื้อย่างอบอวลในอากาศ แต่ไม่มีใครสนใจที่จะลิ้มรสเนื้อสเต็กที่แผ่กระจายไปทั่วพื้น มีแต่พระเจ้าที่จะรู้ว่าสัตว์อสูรตัวนี้มีพิษต่อมนุษย์หรือไม่ พวกเขาไม่ต้องการเป็นคนแรกที่ทดลองมัน

"ไม่มีใครสามารถแตะต้องคนของข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากข้า"

รอยจ้องมองซากสัตว์ร้ายอย่างเย็นชา

"ขอบคุณที่ช่วยข้าไว้ นายน้อย โปรดรับการคำนับนี้"

สีหน้าของรอยผ่อนคลายลง

“อย่าพูดถึงมัน ข้าทำในสิ่งที่ทุกคนที่นี่จะทำถ้ามีคนตกอยู่ในอันตราย” รอยโบกมือของเขา

"เยี่ยมมากลูกพี่!"

จูเลียนและรอยทำไฮไฟท์กัน

"มีการเคลื่อนไหวกำลังใกล้เข้ามา ประสาทสัมผัสของข้าไม่ค่อยทำงาน เมื่อข้าอยู่ใกล้เขา" ด้วยเหตุนี้ เดไลลาห์จึงอัญเชิญกริชของเธอออกมา

『ติ้ง! ยินดีด้วย คุณฆ่ามอนสเตอร์เลเวล 13 แล้ว คุณได้รับ 130 EXP และแถบมานาของคุณเพิ่มขึ้น 5 แต้ม』

"ตูม!"

เมื่อเสียงการแจ้งเตือนนี้ดังขึ้นในหูของรอย กองหิมะที่อยู่ใกล้กลุ่มของพวกเขาก็แตกออก และสัตว์อสูรสีดำดุร้ายที่ดูเหมือนสิงโต แต่มีเท้าเป็นกีบและกรงเล็บกระโดดออกมา

ปีกของมันกางออกเหมือนนกขณะที่มันพุ่งไปหารอย

เขาหันหลังให้กับสัตว์อสูร แต่เขาสัมผัสได้ว่ามันกำลังใกล้เข้ามา

รอยไม่หันไปหามัน เพราะนั่นจะทำให้มันรู้ตัวและหนีไป

สัตว์อสูรคิดว่าตัวเองเป็นผู้ล่า รอยจะใช้ประโยชน์จากความคิดของมันจนถึงที่สุด

『คุณได้เรียกดาบเพียร์เซอร์ออกมาแล้ว』

ดาบปรากฏขึ้นในมือของเขา เขาคว้าด้ามของมันและแทงที่ท้องของตัวเองในขณะที่ย่อตัวลง และเกือบจะคุกเข่าลงกับพื้น ราวกับกำลังฆ่าตัวตายเหมือนชาวซามูไร (คว้านท้อง)

การกระทำที่ฆ่าตัวตายของเขาไม่มีใครที่จะไม่สังเกตเห็น

แอร์โล่เดาะลิ้นของเขา 'ยังไม่ถึงวันเลยตั้งแต่เขาบอกว่าจะไม่พึ่งพามันถ้าไม่จำเป็น... แต่ตอนนี้ เขากำลังใช้มันเพื่อสู้กับสัตว์อสูรที่อ่อนแอ'

สัตว์อสูรกระโจนใส่รอย กรงเล็บอันแหลมคมของมันที่ฉีกกระชากอากาศและทำให้มันส่งเสียงหวีดหวิวราวกับจะพุ่งทะลุลำคอของเขา

『คุณได้เปิดใช้ความสามารถในการควบคุมวิญญาณของคุณแล้ว』

『-3 พลังงาน』

『บรรลุการแปลงร่างบางส่วนแล้ว』

ดาบอันคมกริบผ่านร่างหมอกบางส่วนของเขาราวกับลูกธนูที่โหดเหี้ยมและรวดเร็ว จากนั้นมันก็พุ่งเข้าหาสัตว์อสูรซึ่งอยู่ห่างจากเขาเพียงครึ่งฟุต

“ฉึก!”

ดาบจมเข้าไปในคอของสัตว์อสูรและโผล่ออกมาอีกด้านหนึ่ง ร่างของมันถูกบังคับให้หยุดกะทันหันเกินไปและมันงอไปข้างหน้าแล้วขดตัวเข้า มองเห็นเหมือนท่าทารกในครรภ์

ความเจ็บปวดที่มากมายเข้าจู่โจมมัน ทำให้สติสัมปชัญญะเหม่อลอย มันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ไร้เสียงใด ๆ ออกมาจากปากของมัน มีแต่เลือดที่พุ่งทะลักออกมาจากปากของมัน

และเลือดสด ๆ พุ่งออกมาจากรูเปิดใหม่ที่คอของมันเหมือนน้ำพุร้อนและราดลงบนพื้นดินที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ มันยังไหลผ่านพื้นผิวของดาบซึ่งเจาะอยู่ที่คอไหลลงไปที่มือของรอยจนทำให้เขารู้สึกอุ่นซึ่งขัดกับอากาศที่หนาวเหน็บ

อีกด้านเลือดสีแดงไหลไปที่ปลายแหลมของเพียเซอร์

จากนั้น... ฉากของเลือดที่พุ่งกระฉูอออกมาจากปลายดาบก็ได้ปรากฏขึ้น

ในเวลาเดียวกัน ดวงตาที่โปนของสัตว์อสูรก็ค่อยๆ สูญเสียประกายอำมหิตในตัวพวกมันไปอย่างช้าๆ ดูเหมือนคนกำลังสลบ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันไม่สามารถทำความเข้าใจได้ว่ามันมาอยู่ใกล้ประตูแห่งความตายเช่นนี้ได้อย่างไร

ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ รอยหันหลังให้กับสัตว์อสูรตัวนี้ ดังนั้นมันจึงไม่เห็นเขาดึงดาบออกมาจากอากาศ ไม่ต้องพูดถึงว่ามันไม่เคยคาดคิดว่าเหยื่อของมันจะแทงทะลุตัวเองเพื่อมาฆ่ามันต่อ นั่นเป็นการกระบวนท่าที่ไร้สาระที่สุดซึ่งมีเพียงผู้คุมวิญญาณเช่น รอยเท่านั้นที่สามารถทำได้

『คุณได้ลอบโจมตีมอนสเตอร์เลเวล 15! ทำให้มันได้รับความเสียหายอย่างมาก คุณได้โจมตีจุดอ่อนของมันแล้ว HP ของมันลดลงจาก 48 เหลือ 0.1 แต้ม』

“แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะฆ่ามัน”

รอยดึงดาบออกจากคอของมัน และปล่อยให้ร่างที่แข็งทื่อของมันฟาดลงกับพื้นอย่างแรง

『สัตว์อสูรล้มลงกับพื้น สูญเสีย -0.1 HP』

และมันก็ตายจนไม่รู้จะตายยังไงได้อีก

『คุณฆ่าสัตว์อสูรอย่างมีสไตล์ คุณได้รับ +150 EXP, +15 แต้มในขนาดบ่อมานาของคุณ, และ +6 HP, +3 STR, +2 Agility คุณได้รับ EXP เพิ่ม 100!』

เมื่อได้ยินการแจ้งเตือนนี้รอยก็เป็นประกายขึ้น

'ข้ากลับมาเพิ่มค่าสถานะพื้นฐานด้วยการฆ่าสัตว์อสูรอีกแล้ว และ... คราวนี้แถบ HP ของข้าก็เพิ่มขึ้นด้วย อ่าาา มันรู้สึกดีจริงๆ'

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด