ตอนที่แล้วตอนที่ 216 วานรหน้าขาว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 218 ตายหมด

ตอนที่ 217 ในถ้ำ


ตอนที่ 217 ในถ้ำ

“ทำไมมันถึงมีคนอยู่ที่นี่ได้?! เขาอยู่ที่ไหน?” อันธถามอย่างสงสัย

“มีอย่างน้อย 2 คนอยู่ในถ้ำตรงนั้นและหนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับใช้นิ้วชี้ไปที่ถ้ำบนหน้าผาที่อยู่ห่างออกไป

อันธมองไปยังถ้ำที่เซี่ยเฟยชี้ก่อนที่เขาจะได้เห็นถ้ำที่อยู่สูงจากพื้นขึ้นไปประมาณ 150 เมตร โดยปากถ้ำมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 เมตรและทางปากถ้ำมีน้ำไหลออกมาเหมือนถ้ำอื่น ๆ

“นายรู้ได้ไงว่ามีคนอยู่ในนั้น?” อันธถาม

เขารู้อยู่แล้วว่าประสาทสัมผัสของเซี่ยเฟยค่อนข้างเฉียบคม แต่มันก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่ออยู่ดีหากชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงคนที่อยู่ในถ้ำที่อยู่ในระยะห่างออกไปไม่น้อยกว่า 2 กิโลเมตร

“ฉันเห็นร่างสองร่างเข้าไปในถ้ำ หนึ่งในนั้นตัวค่อนข้างเล็ก ฉันเลยเดาว่าเป็นผู้หญิง” เซี่ยเฟยอธิบาย

อันธพยักหน้ารับ สายตาของเซี่ยเฟยดีกว่าสายตาของคนทั่วไปมาก เนื่องมาจากเขาได้ฝึกฝนวิชามนตราอสูรซึ่งการมองเห็นในระยะ 2 กิโลเมตรก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

“สำนักบอกตำแหน่งดาวดวงนี้เฉพาะคนในสำนักเท่านั้นและตอนนี้ก็ยังไม่ใช่ช่วงเวลาของการทดสอบ มันมีคนนอกเข้ามาในดาวดวงนี้ได้ยังไง?” อันธก้มหน้าพึมพำกับตัวเอง

“นายอย่าลืมนะว่าฉันก็เป็นคนนอกแล้วเวลาทดสอบก็อาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ ท้ายที่สุดนายก็ตายมาตั้งหลายปีแล้วนายไม่มีทางรู้หรอกว่ามันมีอะไรเปลี่ยนไปในสำนักของนายบ้าง” เซี่ยเฟยวิเคราะห์สถานการณ์

“ลองไปดูกันเถอะ ถ้าคนพวกนั้นเป็นคนในสำนักพวกเราจะจากไปอย่างเงียบ ๆ แต่ถ้าพวกนั้นเป็นคนแปลกหน้า นายจะต้องฆ่าพวกเขาเพื่อปกปิดความลับของนิกายเอาไว้” อันธกล่าว

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนจะใช้วิชาพรางจิตเคลื่อนที่เข้าไปหาถ้ำบนหน้าผาอย่างระมัดระวัง

เมื่อมีคนปรากฎตัวออกมาชายหนุ่มจึงไม่เคลื่อนไหวอย่างโลดโผนอีกต่อไป ซึ่งมันก็ทำให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเขาลดลงจากเดิมเล็กน้อย

หลังจากนั้นไม่นานเซี่ยเฟยก็เคลื่อนที่มาจนถึงต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ใต้ถ้ำ โดยต้นไม้ต้นนี้มีความสูงประมาณ 80 เมตรเท่านั้น ชายหนุ่มจึงต้องใช้การกระโดดเพื่อเข้าไปในถ้ำที่อยู่ด้านบน

ในขณะที่เซี่ยเฟยกำลังลังเลว่าจะเข้าไปในถ้ำหรือไม่ เขาก็ได้ยินเสียงคนเดินผ่านน้ำเข้ามาจากระยะไกล

ชายหนุ่มโอบต้นไม้ด้วยมือทั้งสองข้างเพื่อซ่อนตัวอยู่หลังใบไม้ราวกับว่าเขาเป็นตุ๊กแก

ผู้มาใหม่หยุดอยู่ตรงหน้าต้นไม้ที่เซี่ยเฟยซ่อนตัวอยู่ ก่อนที่เขาจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ราวกับว่าเขากำลังเดินตามรอยเท้าของคู่ชายหญิงที่อยู่ในถ้ำ

ต่อมาชายคนนี้ก็ปีนขึ้นมาบนต้นไม้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะหยุดอยู่ห่างจากเซี่ยเฟยไปเพียงแค่ไม่ไกล ซึ่งชายหนุ่มก็ใช้วิชาพรางจิตแอบอยู่ที่เดิมอย่างเงียบ ๆ

ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็ได้สังเกตเห็นว่าชายคนนี้มีลมหายใจที่เบามากและถ้าไม่ใช่เพราะเสียงที่เกิดขึ้นในระหว่างที่เขาเดินกับปีนต้นไม้ ชายหนุ่มก็คงจะไม่สามารถตรวจจับตัวตนของชายคนนี้ได้เลย

สิ่งนี้ได้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกแปลกใจอย่างแท้จริง เพราะเขาได้ใช้วิชาพรางจิตเพื่อลบตัวเองออกจากสภาพแวดล้อม แต่คนคนนี้กลับมีความสามารถที่คล้ายคลึงกันหรือว่าเขาจะเป็นคนที่ได้เรียนรู้วิชาพรางจิตด้วยอย่างนั้นเหรอ?

ชายคนนั้นสังเกตการณ์อยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะปีนขึ้นไปบนหน้าผา และหลังจากที่เขาได้สังเกตการณ์ด้านนอกถ้ำอยู่เงียบ ๆ เขาก็ค่อย ๆ ก้าวเท้าเข้าไปด้านในถ้ำ

เซี่ยเฟยพลิกตัวกลับมาเพื่อไปยืนบนกิ่งไม้อีกครั้ง และทันใดนั้นเขาก็ได้สังเกตเห็นว่าใบหน้าของอันธมีอาการผิดปกติไป

“นายเป็นอะไร?” เซี่ยเฟยถาม

“ผู้ชายคนนั้นคือศิษย์น้องหก เขาเป็นศิษย์ร่วมสำนักที่มีอาจารย์เป็นอาจารย์ลุงสองของฉัน” อันธกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมอันธถึงมีใบหน้าที่เศร้าหมอง นั่นก็เพราะว่าเขาได้เจอกับคนรู้จักโดยบังเอิญ มันจึงทำให้เขาได้คิดถึงเรื่องในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่

“ดูเหมือนเวลาการทดสอบอาจจะเปลี่ยนไปแล้วเหมือนกับที่นายได้บอกเอาไว้จริง ๆ พวกเรากลับกันก่อนเถอะแล้วค่อยกลับมาเอาจงกล 6 กลีบทีหลัง” อันธกล่าวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น

หากเซี่ยเฟยได้พบกับศิษย์สำนักเงาสังหารมันย่อมก่อให้เกิดการปะทะที่ไม่จำเป็นอย่างแน่นอน ท้ายที่สุดถึงแม้ว่าอันธจะกลายเป็นวิญญาณแต่เขาก็ยังจำเรื่องราวในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ได้ ดังนั้นเขาจึงขอให้ชายหนุ่มกลับไปก่อนแล้วค่อยกลับมายังดาวดวงนี้อีกครั้งหนึ่ง

“ฉันเข้าใจนะว่านายกำลังลำบากใจ แต่ถ้าหากเรากลับไปแล้วจงกล 6 กลีบโดนเก็บไปแล้วมันจะไม่ทำให้พวกเราเสียเวลาเปล่าเหรอ นอกจากนี้ฉันยังมีวิชาพรางจิตเอาไว้ป้องกันตัว ถ้าฉันแอบไปเอาต้นจงกลมาเงียบ ๆ มันก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร”

“อีกอย่างคนพวกนี้ก็เป็นคนที่มาจากสำนักของนาย นายจะต้องรู้รหัสลับที่ใช้กันระหว่างศิษย์ในสำนักอย่างแน่นอน ถ้าหากว่าฉันโดนจับได้จริง ๆ อย่างมากที่สุดพวกเราก็แค่ต้องเปิดเผยตัวตนออกไป มันจะได้ไม่มีใครต้องเจ็บตัว” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

ไหน ๆ เขาก็เดินทางมาจนถึงดาวดวงนี้แล้วและต้นจงกล 6 กลีบก็มีความสำคัญกับการเพิ่มระดับของเขาเป็นอย่างมาก ดังนั้นเซี่ยเฟยจึงอยากจะเก็บวัตถุดิบชนิดนี้กลับไปให้ได้ไม่ว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม

อันธรู้สึกลังเลอยู่ชั่วขณะ แต่ในทันใดนั้นมันก็มีเสียงคนตะโกนดังออกมาจากถ้ำเหนือศีรษะของพวกเขา แต่เนื่องจากเสียงฝนที่ตกลงมาตลอดเวลามันจึงทำให้พวกเขาได้ยินเสียงไม่ชัดเจน แต่หากฟังจากน้ำเสียงเพียงอย่างเดียวผู้ตะโกนในครั้งนี้ก็น่าจะกำลังรู้สึกโกรธมาก

“หือ?” เซี่ยเฟยอุทานเบา ๆ ก่อนที่เขาจะกระโดดขึ้นไปแอบตรงทางเข้าถ้ำ จากนั้นเขาก็ใช้หางตามองเข้าไปภายในถ้ำอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับเงี่ยหูฟังสิ่งที่เกิดขึ้นภายในถ้ำ

ภายในถ้ำมีเพียงแสงสลัว ๆ เท่านั้นทำให้เขามองเห็นได้แต่เพียงเงาจาง ๆ เซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องย่างเท้าเข้ามาภายในถ้ำด้วยการก้าวเท้าที่แผ่วเบา ก่อนที่เขาจะหยุดแล้วซ่อนตัวอยู่ด้านหลังก้อนหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง

ชายหญิงคู่แรกที่เข้ามาในถ้ำมีอายุประมาณ 20 ปีเท่านั้นและพวกเขาทั้งคู่ก็กำลังอยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่า

“ไม่นะ! ผู้ชายคนนั้นมีจิตสังหารที่ต้องการจะฆ่าน้องหก ถึงแม้ว่าฉันกับน้องหกจะไม่ค่อยสนิทกันแต่พวกเราก็เห็นหน้ากันมาตั้งแต่เด็ก ถ้าหากว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นนายต้องรีบออกไปช่วยเขาด้วย” อันธกล่าวขึ้นมาเบา ๆ

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างเงียบ ๆ

“ไอ้พวกสารเลว! คนอื่นพยายามบอกฉันตั้งหลายครั้งว่าพวกแกแอบเล่นชู้กันแต่ฉันก็เชื่อใจแกมาโดยตลอด วันนี้ฉันได้มาเห็นทุกอย่างกับตาตัวเองแล้ว พวกแกยังมีอะไรอยากจะพูดอีกไหม?” น้องหกตะโกนใส่หญิงสาวอย่างโกรธเกรี้ยว

น้องหกของอันธมีหน้าตาค่อนข้างธรรมดา, มีรอยย่นบนหน้าผากและผมเผ้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทาบ้างแล้วเล็กน้อย

เซี่ยเฟยทำได้เพียงแต่ส่ายหัว เนื่องจากคู่รักต่างวัยมักจะมีปัญหาเช่นนี้อยู่เสมอ เพราะท้ายที่สุดผู้ชายก็กำลังแก่ตัวจนไม่สามารถให้ความร้อนแรงเหมือนกับคนในวัยหนุ่มได้ และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจถ้าหากว่าฝั่งหญิงสาวจะหันไปสนใจคนรุ่นราวคราวเดียวกัน

“อาหกช่วยเห็นแก่หน้าพ่อของผมแล้วยกโทษให้พวกเราเถอะครับ” ชายหนุ่มคุกเข่าลงบนพื้นพร้อมกับก้มตัวลงไปขอโทษ

ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยแอบคิดว่าเขากำลังดูหนังตลก เพราะไม่กี่วินาทีก่อนชายคนนี้ยังปล่อยจิตสังหารออกมาอยู่เลย แต่ตอนนี้เขากลับคุกเข่าเพื่อขอโทษอย่างหน้าตาเฉยราวกับว่าเขาไม่เคยมีเจตนาร้ายมาก่อนเลยแม้แต่นิดเดียว

ทันทีที่ชายคนนี้พูดถึงพ่อของตัวเองมันก็ทำให้น้องหกเกิดอาการลังเลอยู่เล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงส่งเสียงตะคอกออกไปอย่างเย็นชา

“ฉันกับพ่อของแกเติบโตมาด้วยกัน ทำไมแกถึงได้อกตัญญูแบบนี้!”

“อาหกผมขอโทษจริง ๆ ครับ” ชายหนุ่มร้องโหยหวนพร้อมกับรีบพุ่งถลาไปกอดต้นขาของน้องหกเอาไว้ แต่ภายในแววตาของเขากลับเต็มไปด้วยเจตนาสังหารอย่างชัดเจน

***************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด