ตอนที่แล้วตัวประกอบแรงค์ EX — 0078
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตัวประกอบแรงค์ EX — 0080

ตัวประกอบแรงค์ EX — 0079


22. จู่โจมรอยแยกต่างโลกใต้บาดาล (3)

* * *

ณ สำนักงานสมาคมเพลเยอร์สาขาเกาหลี, ทีมจัดการดาวเทียมเพื่อสนับสนุนการจู่โจมรอยแยก, ห้องควบคุมเพลเยอร์ SAT-K

เจ้าหน้าที่ของทีมจัดการดาวเทียม คอยจับตาดูโฮโลแกรมหลายสิบจอพร้อมกัน

ใจกลางห้องควบคุม

อิมจีฮวา – หัวหน้าทีมจัดการดาวเทียม - กำลังยืนกอดอกพลางรับฟังรายงานจากลูกน้อง

“ผู้นำเผ่าเสือใช้พลังแล้วครับ!”

“ถ้าผู้นำเผ่าเสือหยุดเคลื่อนไหวเมื่อไร ให้นำค่าความผันผวนของคลื่นพลังวิเศษที่บันทึกได้ในช่วงเวลา 0.1 วินาที ขึ้นแสดงบนโฮโลแกรมทันที!”

“ครับ!”

ภาพเหตุการณ์ริมทะเลสาบซอกชนซึ่งเพลเยอร์ SAT-K คอยจับตาดูอยู่ กำลังฉายบนจอหลัก

ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนเด่นสง่าท่ามกลางอนุภาคสีทองจำนวนมาก

ภูมิประเทศของทะเลสาบค่อยๆ เปลี่ยนไปตามการขยับมือเขา

เป็นฉากอันน่าทึ่งจนชวนให้คิดว่ากำลังดู CG ภาพยนตร์อยู่

“ผู้นำเผ่าเสือมีพลังควบคุมน้ำด้วยหรือ?”

“ดูจากวิดีโอแล้วคงไม่… เขาเคลื่อนย้ายพวกมันด้วยพลังเวทล้วนๆ … ดูแล้วประสิทธิภาพด้อยกว่าหัวหน้าทีมทะเลสาบนิรันดร์พอสมควร”

“ถ้าจะให้เทียบล่ะก็ คนหนึ่งใช้ปืนยิงกระสุน ส่วนอีกคนเอานิ้วดีดหัวกระสุน…”

เมื่อผู้นำเผ่าเสือเลิกขยับมือ

ณ พิกัดเป้าหมาย ก้นทะเลสาบซึ่งเคยเต็มไปด้วยน้ำ ถูกเผยสู่สายตาทุกคน

บางสิ่งกำลังเด่นตระหง่านเหนือพื้นดินเปียกๆ

‘นั่นมัน…!’

อิมจีฮวาจ้องหน้าจออยู่สักพัก ก่อนจะออกคำสั่งกับลูกทีม

“ซูมเข้าไป!”

“ครับ!”

ผิวดินถูกขยายจนเต็มหน้าจอ

เหนือผิวดินคือรอยแยกต่างโลก

“ดาวเทียมจับภาพของรอยแยกต่างโลกได้ครับ!”

“…นี่ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม? พวกเราต้องรื้อดาวเทียมมาเช็กใหม่อีกรึเปล่า?”

“ไม่ผิดแน่ครับ… นี่เป็นรอยแยกต่างโลกประเภทวงกตครับ!”

“เดี๋ยวนะ… นั่นน้ำแข็ง? ปราสาท? หรืออะไรทำนองนั้น”

อิมจีฮวาคอยออกคำสั่งกับลูกทีมที่กำลังแตกตื่น

“คอยจับตาดูรอยแยกไว้! หลังจากนี้ผู้นำเผ่าเสือคงจู่โจมด้วยตัวเอง... ถึงเราจะไม่มีโอกาสได้เห็นด้านใน แต่ก็ต้องคอยตรวจตราภายนอกให้เรียบร้อย! เรียกดูภาพจากกล้องวงจรปิดและดีไวซ์ทั้งหมดรอบทะเลสาบซอกชน!”

อิมจีฮวาแสร้งทำเป็นเยือกเย็น แต่ในใจกำลังฟุ้งซ่านไปด้วยจินตนาการด้านลบ

‘ทั่วโลกยังมีรอยแยกแบบนี้อยู่อีกกี่แห่ง…?’

* * *

หากรอยแยกต่างโลกไม่ถูกควบคุมหรือเคลียร์ รอยแยกจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับผลิตเอนามีออกมาด้านนอก

นั่นคือสามัญสำนึกของทุกคน

จนกระทั่งข้อยกเว้นแรกถูกค้นพบเมื่อจูซูย็อกกับอันดาอิน ลงมือจู่โจม ‘รอยแยกแช่แข็ง’ ในช่วงเทอมสองของปีหนึ่ง

‘รอยแยกแช่แข็งคือผลผลิตจากการวิจัยเวทมนตร์ของเผ่าอสูร’

หลังจากเผ่าแท้ ‘ปกครอง’ รอยแยกสำเร็จ พวกมันสามารถระงับการขยายตัวของรอยแยก และมีสิทธิ์เปลี่ยนให้เป็น ‘รอยแยกแช่แข็ง’

การแช่แข็งรอยแยกทำได้ด้วยอำนาจของความเย็นและพิษ ถ้าแช่แข็งรอยแยกสำเร็จ มันจะหยุดการทำงานอย่างสมบูรณ์

และรอยแยกที่ถูกแช่แข็ง สามารถกลับมาดำเนินการได้อีกครั้งตามความต้องการของผู้แช่

‘รอยแยกแช่แข็งเปรียบเสมือนระเบิดเวลา’

ระเบิดเวลาซึ่งถูกวางไว้ตั้งแต่ ‘ยุคมืด’ หรือ ‘ยุคสมัยแห่งความมืด’ เมื่อหลายสิบปีก่อน

ย้อนกลับไปในตอนนั้น มนุษย์ยังขาดแคลนกำลังคน ข้อมูล และไอเท็ม

ยุคสมัยที่เพลเยอร์ปกปิดพลังวิเศษของตน เพราะกลัวการเผชิญหน้ากับเอนามี

ยิ่งยุคมืดดำเนินไป สมาคมเพลเยอร์สาขาเกาหลีก็ยิ่งมิอาจรับมือกับรอยแยกระดับสูง

ทุกครั้งที่รอยแยกระดับสูงปรากฏตัว มนุษย์จะได้รับความเสียหายทั้งด้านชีวิตและทรัพย์สินเป็นวงกว้าง

จนกระทั่งคาบสมุทรเกาหลีใกล้ถึงจุดจบ เผ่าแท้บางคนได้ยื่นข้อเสนอให้กับประธานสมาคมเพลเยอร์สาขาเกาหลี

[เราจะช่วยควบคุมรอยแยกตั้งแต่ระดับ SR+++ ขึ้นไป แต่เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน พิกัดของทุกรอยแยกในการปกครองของเราจะต้องไม่ถูกบันทึกไว้]

เป็นข้อเสนอที่เต็มไปด้วยพิรุธ แต่ถ้าเขาส่ายหัวปฏิเสธ มีโอกาสสูงมากที่คาบสมุทรเกาหลีจะเผชิญกับจุดจบ

ประธานสมาคมเพลเยอร์สาขาเกาหลียอมรับข้อเสนอ โดยการทำพันธสัญญาผูกวิญญาณ

‘ในภายหลัง ‘วีรชนแขนเหล็ก’ ซงมันซอกปรากฏตัวขึ้นและขจัดยุคมืดได้สำเร็จ พันธสัญญาดังกล่าวจึงจบลงเช่นกัน…’

รอยแยกทั้งหมดที่เผ่าแท้เคยปกครองในยุคมืด ถูกเพลเยอร์ SAT-K ไล่ตรวจสอบและเคลียร์ทิ้งโดยเหล่าทีมโปร

‘รอยแยกแช่แข็งคงเกิดขึ้นตอนนั้น และจนถึงปัจจุบันก็ไม่มีใครทราบจำนวนกับพิกัดทั้งหมด’

ภายในเกม รอยแยกแช่แข็งเกือบทั้งหมดกลับมาดำเนินการพร้อมกันในจังหวะสำคัญ ส่งผลให้สถานการณ์เลวร้ายถึงขีดสุด

‘…เราเชื่อว่าต้องมีเบาะแสหลงเหลืออยู่’

ย้อนกลับไปในยุคมืด ประธานของสมาคมเพลเยอร์เกาหลีอาจดูสิ้นไร้ไม้ตอก แต่เขาไม่ใช่คนโง่

เผ่าแท้ย่อมทราบเรื่องนี้ดี ดังนั้นเมื่อพิกัดของรอยแยกทั้งหมดถูกลบทิ้ง พวกมันลงมือลอบสังหารประธานสมาคมโดยจัดฉากให้ดูเหมือนอุบัติเหตุ

‘ก่อนจะตาย คนอย่างเขาต้องหาทางทิ้งเบาะแสไว้โดยอาศัยช่องโหว่ของพันธสัญญาแน่’

ตัวละครที่ตายไปมากมาย

คดีมากมายที่ยังไม่ถูกสะสาง

ภูมิหลังของเรื่องราวที่ไม่เคยถูกเปิดเผย

จะต้องมีเบาะแสหลงเหลืออยู่ในสิ่งเหล่านี้แน่

‘ต้องใช้ไพ่ทุกใบให้เกิดประโยชน์สูงสุด’

ก่อนอื่น ฉันตัดสินใจลองใช้ไพ่ใบตรงหน้า

“คุณอ๊กโทยอน”

อ๊กโทยอนกำลังกลอกตามองรอยแยกต่างโลกด้วยดวงตาสีแดงก่ำ

ได้ยินฉันเรียกชื่อ เธอสะดุ้งโหยงทันที

“เฮือก…! เจ้าเป็นใคร? ทำไมถึงรู้จักข้า… อ๊ะ! หรือว่าท่านผู้มีพระคุณ?”

นึกว่ารู้อยู่แล้วเสียอีก ไม่ใช่สินะ

ในเวลาเดียวกัน หลังจากยกดินขึ้นมาปิดรอบรอยแยกเพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้ามาท่วม เสือเหลืองในร่างสามสิบเดินกลับมารวมกลุ่ม

เสือเหลืองจ้องหน้าอ๊กโทยอนด้วยสายตาสมเพช

“นังโง่”

“เสือเหลือง! สายตาเช่นนั้นจะสื่อถึงอะไร! ฮึ่ย! …เจ้าทำข้าเสื่อมเกียรติจนไม่รู้จะเสื่อมยังไงแล้ว!”

ฉันพูดแทรกเพราะเชื่อว่าการโต้เถียงของสองผู้นำเผ่าคงไม่จบลงง่ายๆ

“ด้วยแผนผังวังจันทรา… รอยแยกอันนี้หน้าตาเป็นยังไง”

“เอ่อ… ก่อนจะมาถึง ข้าไม่พบสิ่งใดพิเศษอยู่แถวนี้เลย”

ฉันไม่คาดหวังมากนัก เพราะเธอเองก็ดูตกใจในตอนที่ได้เห็นรอยแยก

เสือเหลืองในร่างสามสิบมองอ๊กโทยอนด้วยสายตาสมเพชยิ่งกว่าเก่า ราวกับอีกฝ่ายเป็นส่วนเกินของที่นี่

“ไร้ประโยชน์จริงๆ … ไม่อยากเห็นหน้าเจ้าแล้ว เลิกทำตัวน่ารำคาญแล้วไสหัวกลับไปเถอะ”

อ๊กโทยอนเบิกตากว้าง มือเท้าสั่นระริกด้วยความโกรธ

“ข้ายังไม่ได้เอาจริงต่างหาก! คิดว่าระดับข้าจะหาไม่เจอเชียวรึ? กระต่ายหยกแห่งวังจันทราผู้นี้น่ะ!”

“ก็หาไม่เจอจริงๆ ไม่ใช่รึไง”

“ไม่ใช่!”

ซู่ว!

เมื่อถูกเสือเหลืองยั่วยุ อ๊กโทยอนระเบิดพลังทันที

ขณะเธอใช้พลังในโหมดเอาจริง ฉันเหลือบไปเห็นเสือเหลืองแอบขำอยู่ด้านหลัง

‘อ๊กโทยอน… ด้วยนิสัยแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ถูกหลอกใช้ได้ง่าย’

อนุภาคแสงจันทร์ค่อยๆ แผ่ออกจากร่างอ๊กโทยอน

เมื่อคลื่นพลังพิเศษอันท่วมท้นแผ่เข้ามาปะทะ ฉันรู้สึกว่าร่างกายหนักขึ้นเล็กน้อย

‘ถึงเผ่ากระต่ายจะแข็งแกร่งเป็นลำดับท้ายๆ ของเผ่าแท้ แต่อ๊กโทยอนก็น่าจะเก่งกว่ามนุษย์แทบทุกคน’

แผนที่รูปร่างคาบสมุทรเกาหลีปรากฏขึ้นเหนือปลายนิ้วกระต่ายสาว

แผนที่ซึ่งเต็มไปด้วยกระแสพลังงานและการไหลของแสง

นี่น่ะหรือ แผนผังวังจันทรา…

“ชิ…! แค่นี้ยังไม่พอสินะ”

ฟ้าว!

ออร่าสีแดงในดวงตาอ๊กโทยอนทวีความเข้มข้น

สีหน้าของเธอดูกระวนกระวาย คงเพราะยังไม่เจอความผิดปกติใดๆ ในแถบนี้

พลังงานที่แผ่ออกมาไต่ระดับความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นคลื่นแรงดันอันหนักหน่วง

ขณะเสือเหลืองที่ยืนข้างฉันกับควอนเจอิน คอยกางบาเรียเพื่อปกป้องทุกคน เขาชำเลืองไปทางอ๊กโทยอนพลางขมวดคิ้ว

กระต่ายสาวพูดขึ้น

“นี่มันอะไร…! มีร่องรอยการปนเปื้อนบนแผนผังวังจันทรา… พิษ? คำสาป?”

“พิษ?”

“มีบางสิ่งที่เกิดจากพลังวิเศษ กำลังปนเปื้อนพื้นที่รอบๆ รอยแยกตรงหน้าพวกเรา… สื่อถึงอะไร? ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน…”

แผนผังวังจันทราของอ๊กโทยอนเห็นไปถึงขั้นนั้นเชียว?

ถือเป็นข่าวดี ตอนนี้ได้รู้แล้วว่าสกิลตรวจจับระยะไกลของเธอ สามารถใช้ตรวจหา ‘พิษวิเศษ’ ได้

‘อาจใช้ตรวจหารอยแยกแช่แข็งไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ยังเห็นพิษวิเศษในตอนที่เอาจริง’

โศกนาฏกรรมทะเลสาบซอกชน

ต้นตอเกิดจาก ‘พิษวิเศษ’

รอยแยกต่างโลกเมื่อครั้งนั้น ปรากฏขึ้นในเขตทะเลสาบฝั่งประจิม

ลักษณะเป็นวงกตระดับ SR-- ซึ่งโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำระดับเข่า

ทั้งหน่วยบุกและหน่วยป้องกันของทีมโปรแนวหน้า ต้องต่อสู้ในสภาพจมน้ำเกือบครึ่งตัว

ณ เวลานั้น น้ำในทะเลสาบซอกชนถูกปนเปื้อนด้วยพิษวิเศษ ซึ่งแผ่จากรอยแยกแช่แข็งใต้บาดาลในฝั่งบูรพา

‘พวกมันสร้างรอยแยกฝั่งประจิมเพื่อทดลองพิษวิเศษ’

การจะแช่แข็งรอยแยก ต้องพึ่งพาอำนาจความเย็นและพิษที่ทรงพลัง

และเมื่อแช่แข็งรอยแยกสำเร็จ ผู้ลงมือสามารถควบคุมพิษรอบๆ รอยแยกได้ในระดับหนึ่ง

‘หลังจากโศกนาฏกรรมจบลง เมื่อกำลังเสริมของสมาคมมาถึง ผู้ลงมือได้ระงับพิษและจบการทดลอง’

ตุ้บ…

อ๊กโทยอนยกเลิกพลังพร้อมกับทรุดลงไปนั่ง

“อึก…! ปวดหัวชะมัด”

ดวงตาแดงก่ำของเธอมีน้ำตาซึมอยู่เล็กน้อย

‘แผนผังวังจันทราตรวจหาพิษวิเศษได้ก็จริง แต่ระยะเวลาใช้งานสั้นมาก…’

คงต้องมองเป็นไพ่ใบสุดท้ายในยามฉุกเฉินไปก่อน

“ขอบคุณมาก… คุณอ๊กโทยอนพักผ่อนเถอะครับ”

“อ…อื้อ”

อ๊กโทยอนบีบขมับพลางตอบด้วยเสียงเหม่อลอย

เสือเหลืองกล่าวขณะสลายบาเรียทิ้ง

“พิษสินะ… ถ้าลองตั้งใจเพ่งพลังดู ก็พอจะสัมผัสถึงออร่าชั่วร้ายได้รางๆ … กับเผ่าแท้น่ะไม่เป็นไรหรอก แต่มนุษย์เนี่ยสิ…”

เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา

“อย่าห่วงเลย”

อันดาอิน นางเอกของโลกใบนี้

อันดาอินมี ‘ร่างกายวิเศษ*’ ซึ่งสามารถระงับพิษและคำสาปรอบตัว (ช่วงนี้อาจจะเห็นคำว่า ‘วิเศษ’ เยอะหน่อย แต่ทาง raw ใช้คำเหมือนๆ กัน ก็เลยพยายามคงความหมายเอาไว้ เนื้อหาในภายหลังจะได้ไม่ผิดเพี้ยน)

‘เธอเคยชะลอคำสาปของสาวกชเวย็อนทึกในช่วงสอบกลางภาคมาแล้ว แถมในเกมก็ยังมีบทบาทสำคัญขณะจู่โจมรอยแยกแช่แข็งในช่วงเทอมสอง’

〈ท่านใช้แสงประทาน, เส้นทางเพลเยอร์〉

ตัวละครที่เลือกคืออันดาอินร่างสุดท้าย

แม้รูปลักษณ์จะไม่เปลี่ยน แต่ฉันสัมผัสได้ว่าร่างกายแข็งแรงขึ้นมาก

“ด…เดี๋ยว!”

ฉันกระโดดลงมายังรอยแยกแช่แข็งโดยไม่ลังเล แม้แต่เสือเหลืองก็ห้ามไว้ไม่ทัน

ท่ามกลางพิษเข้มข้น ฉันยังคงสบายดี

“ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าอยู่ห่างจากฉันเกินสิบเมตร”

ทุกคนในเหตุการณ์ต่างมองมาด้วยสายตาตกตะลึง

* * *

เมื่อเสือเหลือทำลายทางเข้าที่ถูกแช่แข็ง รอยแยกกลับมาอยู่ในสถานะ ‘ตื่น’ ทันที

ฉันประสานงานกับทีมจัดการดาวเทียมผ่านฮงกยูบินไว้ล่วงหน้าแล้ว เพลเยอร์ SAT-K จึงไม่ส่งสัญญาณเตือนรอยแยกในทะเลสาบซอกชนแก่ประชาชนในบริเวณใกล้เคียง

ลูกน้องของเสือเหลืองและอ๊กโทยอนรับหน้าที่หน่วยป้องกัน

หน่วยบุกประกอบด้วยฉัน เสือเหลือง ควอนเจอิน และสมาชิกทีมทะเลสาบนิรันดร์อีกสองคน

“ถ้าคอยระวังพิษไว้ก็ไม่มีปัญหา”

วงกตระดับ SR+++

เมื่อเทียบกับระดับความยาก ความแข็งแกร่งของหน่วยบุกชุดนี้ถือว่าเกินความจำเป็นไปมาก

ควอนเจอินกลับมาเยือกเย็นอีกครั้งเมื่อได้เข้ามาในรอยแยก

ลูกทีมอีกสองคนของเธอต่างก็เป็นโปรเพลเยอร์ระดับโลก

อีกทั้งยังมีเสือเหลืองเป็นศูนย์กลางการบุก

บรรดาเอนามีในรอยแยกจึงกลายเป็นผุยผงทันทีที่ถูกตรวจพบ

“เจ้าควบคุมพิษวิเศษได้ยังไง…”

เสือเหลืองผู้ลองออกไปอยู่นอกระยะสักสองสามวินาทีเพื่อทดสอบ พูดกับฉันด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ

“ควอนเจอินกับอีกสองคน พวกเจ้าอย่าอยู่ห่างจากเขา… ถึงจะไม่ตายทันที แต่พิษก็รุนแรงก็เอาเรื่องอยู่”

รอยแยกประเภทวงกตจะมีทางเดินยาวและซับซ้อนกว่าจะถึงห้องบอส

ขณะพวกเราดาหน้าบุกเข้าไปเรื่อยๆ อยู่ดีๆ ควอนเจอินก็หันมาพูดกันฉัน

“เธอคือรุ่นน้องที่มาช่วยทำงานหลังฉากในวันคอนเสิร์ตนี่นา…”

เพลเยอร์ระดับควอนเจอินจะมองออกก็คงไม่แปลก

“ทั้งใบหน้าส่วนที่โผล่จากหน้ากากเอย… เสียงพูดเอย หรือแม้แต่จังหวะการพูดและการเดินก็ยังเหมือนกันมาก…”

นักไวโอลินระดับโลกจำแนกคนจากเสียงสินะ

คงมีหูทิพย์ด้วย… เกิดมาเพื่อเป็นนักไวโอลินจริงๆ

“เพื่อนๆ ในวันนั้นเป็นยังไงบ้าง? สบายดีกันไหม”

คิดไม่ถึงว่าเธอจะถามเกี่ยวกับเพื่อน

ตามปกติแล้ว ถ้ารุ่นน้องโรงเรียนแอบทำการใหญ่ร่วมกับเผ่าเสือ คำถามควรจะเป็นอย่างอื่นมากกว่าไหม?

ฉันตอบกลับไปตามปกติ แม้จะมองว่าค่อนข้างแปลก

“ครับ ทุกคนสบายดี ตอนนี้กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมงานวันครู”

“ครูประจำชั้นห้องเธอเป็นใครหรือ”

“ครูฮัมกึนยอง”

“อ้อ… ที่หน้าดุๆ ใช่ไหม? แต่ได้ยินว่าเป็นคนดีนะ”

ฮัมกึนยองโด่งดังเรื่องหน้าดุสินะ

ควอนเจอินยิ้มเล็กๆ ขณะยิงคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับชั้นเรียน

เดินต่อไปได้สักพัก อากาศรอบตัวพวกเราผันผวนกะทันหัน

‘ถึงห้องบอสแล้ว…?’

ฉันยังไม่ทันจะได้ประหม่าเพราะเจอบอส แสงสีทองพลันสว่างท่วมท้นการมองเห็น

“ข้าจะรีบทำให้จบเอง”

เปรี้ยง—!

ยังไม่ทันจะได้ปรากฏตัว เอนามีบอสแหลกสลายไปพร้อมกับการโจมตีอันโหดเหี้ยมของเสือเหลือง

ควอนเจอินยังคงหน้านิ่ง แต่ลูกทีมทะเลสาบนิรันดร์อีกสองคนยืนอ้าปากค้าง

“ยังไม่จบ… แม้จะเลือนราง แต่ข้าสัมผัสถึงกลิ่นอายของเผ่าแท้”

เผ่าแท้จะรับรู้ถึงเผ่าแท้ได้ดีกว่ามนุษย์

ขณะพวกเราเตรียมตั้งท่าสู้เพราะคำเตือนของเสือเหลือง

ด้านหลังเอนามีบอสที่ถูกจัดการไป เค้าโครงของสตรีสวมเดรสยาวค่อยๆ ปรากฏขึ้น

มองไปยังรูปร่างอันพร่ามัว ดูเหมือนจะไม่ใช่ร่างหลัก

“นี่มัน…!”

“เกล็ดผีเสื้อ…!”

ในบริเวณดังกล่าวเต็มไปด้วยผงเกล็ดผีเสื้อปลิวว่อน

เค้าโครงด้านหลังผงเกล็ด คือร่างที่ฉันเคยเห็นหลายครั้งในเกม

‘นาบีรยอง!’ (วิญญาณผีเสื้อ)

นาบีรยองแห่งเผ่าผีเสื้อ – NPC หลักภายในเกม

ร่างอันพร่ามัวของผีเสื้อที่ควอนเจอินตามหามาเนิ่นนาน อยู่ที่นี่แล้ว

______________________

★★ ช่วงนี้มีโปรโมชั่นลดราคา สามารถตรวจสอบได้ที่ Inbox ของเพจ BJK Novel★★

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (3/4)

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด