ตอนที่แล้วตอนที่ 16 สร้างบ้านในฝัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 สอนให้คิด

ตอนที่ 17 อยากทำลายหลังไหนเป็นพิเศษ?


ในการสร้างบ้านสักหลังจำเป็นต้องมีการวางรากฐานที่ดี ทั้งคอนกรีตและเหล็กเพื่อยึดตัวบ้าน

แต่นนี้เป็นโครงสร้างอย่างง่ายๆ โดยใช้แค่หินติดกันเท่านั้น

เต่าทมิฬช่วยให้งานก่อสร้างรวดเร็วขึ้น 90 เปอร์เซ็น

ตัวฐานของบ้านนั้นเชื่อมกับพื้นเพราะงอกออกมาจากหลังของเต่าทมิฬเลย และส่วนต่างๆ ก็ใช้การปรับแต่งตำแหน่งหิน และใช้พลังของเต่าทมิฬเชื่อมหินเข้าด้วยกัน จึงไม่ต้องใช้เหล็กหรือปูนในการผสาน

ก้อนอิฐถูกสร้างจากหิน และจัดเรียงเป็นรูปร่าง

“มันดูวิเศษมากเลย!”

มินโฮนั้นก้มดูก้อนอิฐอย่างสนใจ และจัดเรียงมันตามจุดที่มู่เหลียงทำเอาไว้

เธอพบว่าเมื่อวางอิฐลงไปแล้วมันก็ผสานติดกันทันที และไม่เหลือช่องว่างเลย

“มินโฮ…อย่าทำกำแพงตรงนั้นสูงเกินไป เหลือที่ไว้ทำหน้าต่างด้วย”

มู่เหลียงหลังจากวาดแปลนบ้านบนหลังของเต่าทมิฬเสร็จ เขาจึงหันกลับมาดูว่ามินโฮทำไปถึงไหนแล้ว และเห็นว่าเด็กสาวก่ออิฐเป็นกำแพงสูงเท่ากับตัวเอง

มู่เหลียงเดินเข้ามาและใช้พลังของเขาเปลี่ยนรูปร่างสร้างช่องสี่เหลี่ยมตรงกำแพงอิฐที่มินโฮทำ

“แต่ถ้ามีช่องแบบนี้พวกโจรจะเข้ามาได้นะ!”

มินโฮนั้นท้วงเตือนด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ

กระท่อมเก่าของเธอนั้นแทบจะปิดหมดทุกด้านมีเพียงช่องหน้าต่างเล็กๆ เท่านั้นให้พอมองออกไปข้างนอกได้ เพื่อป้องกันคนเข้ามาขโมยของ

“โจรกระจอกมันปีนขึ้นมาบนหลังเต่าทมิฬไม่ได้หรอก”

มู่เหลียงดีดหน้าผากของเด็กสาวเบาๆ ไปหนึ่งที

“จะ-จริงอย่างที่มู่เหลียงพูด”

มินโฮเอามือจับหน้าผากของตัวเอง พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงติดเล่นของเธอ

ตอนนี้เธออาศัยอยู่บนเต่าทมิฬที่ตัวใหญ่โตสูงยิ่งกว่าต้นไม้เสียอีก เธอไม่จำเป็นต้องกลัวขโมยอีกต่อไป

มู่เหลียงซ่อมจุดที่มินโฮทำเสียเอาไว้ และสร้างประตูต่อ

มู่เหลียงเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าเด็กสาวจะอ่านแปลนบ้านนี้ออก และทำตามที่เขาต้องการได้ ทุกอย่างเขาต้องลงมือทำเอง เพราะภาพบ้านหลังนี้อยู่ในหัวของเขา

เขาสร้างห้องขึ้นมาสองห้อง โดยทีี่ประตูหันหน้าเข้าหากัน ห้องหนึ่งมีขนาด 10 ตารางเมตร

ที่โถงกลางมีขนาด 30 ตารางเมตร

ส่วนห้องน้ำนั้นเขาวางไว้มุมสุดของบ้าน และทำพื้นที่สำหรับรองรับของเสียและปิดพื้นที่นั้นไม่ให้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ลอยออกมา

มู่เหลียงก่อสร้างส่วนอื่นๆ ต่อพร้อมกับสั่งให้เต่าทมิฬช่วยสร้างกำแพงขึ้นอย่างหยาบๆ เพื่อที่จะทุ่นแรงให้กับเขา

มู่เหลียงก้มหน้าก้มตาทำบ้านอย่างตั้งใจ จนเวลาได้ล่วงเลยผ่านไปหลายชั่วโมงโดยที่เขาไม่รู้ตัว

จากท้องฟ้าที่ดูสว่างจ้าเริ่มกลายเป็นท้องฟ้าสีส้มมากขึ้นเรื่อยๆ

“เย็นแล้วหรอเนี่ย?”

เมื่อหันกลับมาดูโครงสร้างบ้านก็เห็นว่าส่วนของหลังคานั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์เลยด้วยซ้ำ แต่มู่เหลียงก็กลับรู้สึกภูมิใจเล็กๆ กับงานในวันนี้

“ว้าว!! ดูมันสิ!! มู่เหลียงมันใกล้จะเสร็จแล้ว บ้านของเรา!”

มินโฮพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น นัยน์ตาของเธอส่องเป็นประกายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เด็กสาวนั้นชูกำปั้นขึ้นแล้วส่งเสียงให้กำลังใจมู่เหลียงอย่างอ่อนหวาน

“พวกเรามาพยายามให้มากขึ้นอีกหน่อยเถอะ และทำให้มันเสร็จภายในวันนี้!”

มู่เหลียงนั้นส่ายหัวเล็กน้อย

“ยังหรอกเหลืออีกหลายส่วนเลย เราต้องหาไม้มาทำเสาค้ำกับทำหลังคาอีก”

“อย่างงี้นี้เอง งั้นเดียวเราไปหาไม้กันเถอะ”

มินโฮดูกระตือรือร้นอย่างมาก และกำลังเดินไปที่ขอบของกระดองเต่าเพื่อจะลงไปหาไม้

“เดี๋ยว!! ไม่ต้องไปหาหรอก ไม้มีอยู่แล้ว”

มู่เหลียงกระชากคอเสื้อของเด็กน้อยจากด้านหลังเพื่อห้ามเธอเอาไว้

“แต่เราต้องเตรียมไม้ และตัดแต่งมันอีกนะ!”

มินโฮพูดขึ้นพร้อมกับเอียงหัวเล็กน้อยด้วยความมึนงง

“จำได้ไหมตอนนี้คนในค่ายอพยพออกไปแล้ว?”

มู่เหลียงพูดให้เด็กสาวคิด

แล้วตอนนั้นเองมู่เหลียงก็ส่งกระแสจิตไปถึงเสี่ยวไก และให้มันไปตรวจสอบดูว่าคนในค่ายออกไปหมดแล้วรึยัง

“ใช่ตอนนี้มันก็ใกล้มืดแล้ว พวกเขาก็น่าจะไปหมดแล้ว”

มินโฮก็ตอบอย่างใสซื่อ และตามคำพูดของมู่เหลียงไม่ทัน ก่อนที่อยู่ๆ เธอจะทำท่าคิดอะไรออก

นัยน์ตาสีฟ้าเบิกกว้างพร้อมกับอ้าปากขึ้นมาทันที

“ไปเอาไม้จากในค่าย!”

“ใช่!! กลับไปที่ค่ายกัน”

มู่เหลียงสั่งเต่าทมิฬทันที

แอ๊!!!

เต่าทมิฬเดินอย่างช้าๆ กลับไปยังค่าย

“เอ๋?”

อยู่มินโฮก็อุทานขึ้นด้วยความตกใจ

“เต่าทมิฬกำลังเคลื่อนที่แท้ๆ แต่ทำไมไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนเลย”

“เต่าทมิฬมันควบคุมแรงสั่นสะเทือนได้ไงล่ะ”

มู่เหลียงตอบ

เพราะความจริงแล้วไม่มีทางเลยที่จะไม่เกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้น ยิ่งวัตถุที่มีขนาดใหญ่เท่าไร หากมีการเคลื่อนไหวยังไงก็ต้องมีแรงสั่นสะเทือนเบาๆ บ้าง

“อ๋อ…แบบนี้นี่เอง”

มินโฮนั้นทำท่าเข้าใจและพยักหน้าสองสามครั้ง

เต่าทมิฬนั้นเดินไม่ได้เร็วมาก แต่หนึ่งก้าวของมันก็มากกว่าคนธรรมดาทั่วไปเดินหลายสิบก้าว

ไม่ถึงสิบนาที เต่าทมิฬก็เดินทางมาถึงอาณาเขตของค่าย

ในเวลานี้ค่ายนั้นได้กลายเป็นค่ายร้างไปแล้ว จากการสำรวจของเสี่ยวไก

“ทุกคนไปหมดแล้ว…”

มินโฮพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าเล็กน้อย

เธอยืนอยู่บนเต่าทมิฬและมองลงมายังค่าย ที่ไม่มีแสงไฟสักแห่ง

“กลุ่มทะเลสาบพระจันทร์นั้นอยู่ไกลจากนี้เท่าไร”

มู่เหลียงถามขึ้นอย่างสงสัย

“อือ..ก็เคยได้ยินจากทีมนักล่ามาอยู่บ้าง เห็นพวกเขาบอกว่าจากนี่ใช้เวลา 5 - 6 วันถึงจะเดินทางถึง”

มินโฮตอบกลับมา

และเมื่อคิดถึงพวกโจรเคราโลหิต มู่เหลียงจึงถามขึ้นอีกครั้ง

“แล้วกลุ่มทะเลสาบพระจันทร์มีคนอยู่เท่าไร”

“น่าจะหมื่นกว่าคนได้ แต่ไม่รู้ว่าเรื่องจริงรึป่าว”

มินโฮตอบด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ

หมื่นคนเป็นจำนวนที่มากเกินไปสำหรับเด็กสาว และยากที่จะเชื่อ

เพราะต้องมีอาหารและน้ำมากขนาดไหนถึงเลี้ยงคนเป็นหมื่นได้

“ดูเหมือนว่าจะเป็นกลุ่มที่ใหญ่เอาเรื่อง แต่มันจะจริงรึป่าว”

มู่เหลียงตบบ่าของมินโฮเบาๆ และพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

“งั้นเราไปดูด้วยตาของตัวเองดีกว่า ว่ากลุ่มทะเลสาบพระจันทร์จะใหญ่จริงใหม”

“เอ๊ะ!?”

มินโฮถึงกับผงะไป พร้อมกับส่งเสียงที่ตื่นเต้นออกมา

“แปลว่าหลังจากนี้…..พวกเราจะไปยังกลุ่มทะเลสาบพระจันทร์ งั้นหรอ?”

“แล้วอยากไปไหมล่ะ?”

มู่เหลียงตอบกลับพร้อมกับจ้องมองไปในแววตาสีฟ้าของมินโฮ

“ฉัน…”

มินโฮประสานสายตากับมู่เหลียงและเห็นว่าแววตาของมู่เหลียงดูอบอุ่นและราวกับจะมอบความหวังให้กับเธอ

มินโฮเม้มริมฝีปาก ก่อนที่จะผงกหัวอย่างหนักแน่นและพูดออกมาดังสุดเสียง

“ไป!!! ฉันอยากไปและตามหาพี่สาวของฉัน!!”

“งั้นจุดหมายต่อไปคือกลุ่มทะเลสาบพระจันทร์”

มู่เหลียงยิ้มพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้

“......”

มินโฮจ้องมองรอยยิ้มของมู่เหลียง ด้วยความรู้สึกที่แปลกประหลาดพร้อมกับจังหวะหัวใจที่เต้นเร็วขึ้น

เธอเอามือกุมหน้าอกของเธอเอาไว้และก้มตัวเอง พร้อมกับแก้มที่แดงขึ้น

“เอ้าเป็นอะไร? เราต้องรีบไปหาไม้ในค่ายนะ”

มู่เหลียงใช้มือลูบหัวและหูกระต่ายของมินโฮเบาๆ

“ฉันบอกแล้วไง!! ว่าอย่ามาจับหูของฉัน!!”

มินโฮนั้นแสดงหน้าที่บูดบึ้งทันที และกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ

ความรู้สึกที่สั่นไหวเมื่อครู่นั้นกระเจิงหายไปทันทีด้วยการถูกจับหูเมื่อครู่

และทั้งสองก็ได้ออกไปสำรวจบ้านที่ละหลังอย่างละเอียด

“มีบ้านหลังไหนที่เธออยากรื้อออกเป็นพิเศษไหม?”

มู่เหลียงถามกับมินโฮขึ้น

“หลังนี้ แล้วก็หลังนี้ หลังนี้ด้วย พวกนี้ชอบมาขโมยกิ้งก่าของฉัน!”

มินโฮชี้บ้านหลายหลัง

“ได้เลยงั้นลงมือกันเถอะ เราต้องการท่อนซุงหลายท่อน”

มู่เหลียงก้าวออกมา

“งั้นเรารีบรื้อให้หมดแล้ว ให้เต่าทมิฬขนท่อนซุงขึ้นไป”

“ได้เลย”

มินโฮเดินหน้าเข้าไปเริ่มทำลายรื้อบ้านทันที

ปัง!! เปรี้ยง!! ครืน!!

ด้วยพละกำลังของมู่เหลียงในตอนนี้ มันง่ายมากที่จะรื้อบ้านพวกนี้ และแยกส่วนประกอบต่างๆ ออกมา

มู่เหลียงสามารถแบกท่อนซุงได้ครั้งละ 5 - 6 ท่อน

ที่จริงไม่ต้องการไม้มากขนาดนี้เพื่อทำหลังคา แต่มันจำเป็นต้องมีไม้ไว้สำหรับทำฟืน

หลังจากนั้นไม่นาน ที่ลานบ้านบนหลังเต่าก็เต็มไปด้วยไม้และแผ่นไม้เต็มไปหมด

5 3 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด