ตอนที่แล้วตอนที่ 14 แผนเอาคืน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16 สร้างบ้านในฝัน

ตอนที่ 15 มื้อเช้าอันแสนสุข


“เอาหล่ะ!! รีบเก็บของ!”

“ไม่ต้องเอาพวกของไร้สาระติดตัวไปหละ เอาไปแค่อาหาร เสื้อผ้า เครื่องใช้จำเป็นอีกเล็กน้อยพอ”

ก่อนรุ่งสางทีมนักล่าได้กระจายข่าวไปทั่วค่ายแห่งนี้ และเตรียมตัวอพยพ

ปัง ปัง ปัง

เสียงเคาะประตูไม้ดังขึ้น ก่อนที่สมาชิกทีมนักล่าจะเปิดประตูเข้ามาเองโดยไม่ได้รับอนุญาต

“พวกเคราโลหิตกำลังมา เตรียมตัวอพยพไปยังทะเลสาบพระจันทร์”

สมาชิกทีมนักล่าพูดจบก็ออกไปทันที

มินโฮตื่นขึ้นมาพร้อมกับขนหมาป่าที่ห่มร่างกายเอาไว้ มันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างมาก

“มันยังเช้าอยู่เลย….พวกมันยังไม่มาหรอก….”

มินโฮพูดออกมาอย่างงัวเงีย แต่กลับยิ้มออกมาอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไร

“แต่ก็ตื่นได้แล้ว กินข้าวเช้าก่อน”

มู่เหลียงที่ตื่นแล้วก็พูดขึ้น

“อือ…เมื่อคืนนายนอนกี่โมง”

มินโฮถามด้วยน้ำเสียงที่งัวเงียอยู่

เพราะเมื่อคืนนั้นเธอนอนหลับไปก่อน และก่อนที่เธอจะเผลอหลับไปมินโฮจำได้ว่าเห็นมู่เหลียงยังตื่นอยู่ และกำลังวาดอะไรบนพื้นข้างกองไฟ

เธออายเกินไปกว่าที่จะบอกให้มู่เหลียงเข้านอนพร้อมกับเธอ

“ก็ประมาณเที่ยงคืนได้”

มู่เหลียงตอบ ขณะกำลังคนน้ำซุปในหม้อสนาม

มื้อเช้าวันนี้เป็นซุปเนื้อตุ๋น

“หอมจัง”

มินโฮฟุตฟิตจมูกอยู่สองสามครั้งเพื่อดมกลิ่น

เด็กสาวลุกมาที่กองไฟ พร้อมด้วยแววตาสีฟ้าใสเป็นประกายมองไปยังหม้อที่กำลังเดือด

มินโฮขมวดคิ้วพร้อมกับแสดงสีหน้ารู้สึกผิด

“ต่อจากนี้เรื่องอาหารเช้าให้ฉันเป็นคนจัดการเถอะ”

“เอ้าทำไมหล่ะ?”

มู่เหลียงถามขึ้นอย่างตกใจ

“นายหนะทำอาหารเยอะเกินไป….เราต้องประหยัดอาหารไว้กินวันหน้าด้วย”

มินโฮเท้าเอวพร้อมกับชี้นิ้วไปยังหม้อต้ม

“ไม่เป็นไร เนื้อยังเหลืออีกต้องเยอะ ฉันแบ่งเอาไว้แล้วมันพอสำหรับเราสองคนกินได้ 20 วัน”

มู่เหลียงตักซุปที่เต็มไปด้วยเนื้อใส่ถ้วยให้กับมินโฮ

เมื่อคืนเด็กสาวนั้นยืนกรานว่าจะกินแค่เนื้อตากแห้ง และเธอก็คิดว่านี้คงเรียกว่าอิ่มแล้วหลังจากกินไปแค่ เล็กน้อย

สำหรับเธอแล้วเนื้อตากแห้งที่กินเมื่อคืนก็เท่ากับอาหารสามมื้อได้

“ไม่ๆ มันเยอะเกินไป นายต้องเก็บไว้กินตอนเย็นด้วยสิ!”

มินโฮพูดขัดและไม่กล้ารับถ้วยซุปเนื้อตุ๋นมาจากมู่เหลียง

“งั้นมื้อเย็นเราจะกินเนื้อย่างกัน”

มู่เหลียงยิ้มพร้อมกับส่งถ้วยซุปใส่มือของมินโฮ

“อ้าา…..”

มินโฮทำอะไรไม่ได้ เธอจึงตักซุปเข้าปากทันทีโดยที่ไม่ทันระวัง ทำให้เธอนั้นอังปากและพ่นล้มหายใจหลายครั้งเพื่อคลายร้อนออก

“ระวังสิ มันร้อนนะ!”

มู่เหลียงเตือนก่อนที่จะเอาถ้วยของมินโฮมา และเป่าลมใสถ้วยซุป เพื่อลดความร้อนลง

มินโฮค่อยๆ ตักซุปขึ้นมากินอย่างระมัดระวังอีกครั้ง เมื่อน้ำซุปอยู่ในปากมินโฮก็ได้รับรู้ถึงรสชาติแสนอร่อยของเนื้อ

“อร่อยจัง”

มินโฮรีบกลืนน้ำซุปลงไป -พร้อมกับทำตาพริมราวกับมีความสุข

รสชาติของเนื้อที่นุ่มและละลายทันทีที่โดนลิ้น น้ำซุปหอมเนื้อเข้มข้นชุ่มคอ

เด็กสาวกินซุปเนื้อตุ๋นจนรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น และคิดถึงเรื่องเก่าๆ

“นานแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้กินน้ำซุปแบบนี้”

มินโฮพูดขึ้นพร้อมกับเม้มริมฝีปาก ก่อนที่นัยน์ตาของเธอจะพร่ามัว

สมัยก่อนตอนที่พี่สาวเธอยังอยู่ด้วย พี่สาวของเธอมักจะทำซุปให้กินนานๆ ครั้ง

“ต่อจากนี้ไปเธอก็กินได้เท่าที่เธอต้องการเลยรู้ไหม..”

มู่เหลียงเอามือปาดน้ำตาน้อยๆ ของมินโฮที่กำลังไหล

มินโฮรีบส่ายหัวทันทีก่อนที่จะเม้มปากพูด

“มะ-ไม่ได้มันเปลืองเกินไป เรากินซุปแบบนี้ทุกวันไม่ได้!”

“เพราะเราต้องดื่มน้ำใช่ไหม?”

“ใช่”

มินโฮตอบกลับ

“ถ้าทำซุปบ่อยๆ เราก็ได้ทั้งดื่มน้ำและดื่มซุปอร่อยๆ ไปพร้อมกัน”

อยู่ๆ มู่เหลียงก็ยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากก่อนจะถามว่า

“ไม่คิดว่ามันดีกว่างั้นหรอ?”

“ก็น่าจะใช่…ถ้าคิดแบบนั้น”

มินโฮก้มหน้าลงและครุ่นคิด และเอียงหัวไปมาราวกับว่าสิ่งนี้มันมีอะไรแปลกๆ

มู่เหลียงยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะกวักมือเรียกมินโฮ

“เอ้าๆ งั้นดื่นซุปพวกนี้ก่อนเถอะ ถ้ามันเย็นแล้วจะไม่อร่อย”

“อื้อ!”

มินโฮลืมเรื่องพวกนั้นและดื่มซุปต่อ

ภายในและภายนอกกระท่อมแห่งนี้ราวกับโลกคนละใบกัน

แม้ว่าภายนอกนั้นจะโหดร้ายขนาดไหน แต่เวลานี้คือยามเช้าสบายๆ ของทั้งสองคนกับอาหารดีๆ สักมื้อ

ในขณะที่ทุกคนในค่ายรีบเก็บของเตรียมตัวอพยพ

“กินไม่ไหวแล้ว…”

มินโฮพูดขึ้นพร้อมกับถ้วยซุปที่ว่างเปล่า

เด็กสาวเลียริมฝีปากก่อนที่จะมองดูถ้วยซุปด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

เดิมทีมินโฮนั้นตั้งใจว่าจะเก็บครึ่งหนึ่งไว้สำหรับมื้อเย็น แต่ไม่คิดเลยว่าพอได้กินเข้าไปแล้วก็หยุดตัวเองไม่ได้ และอยากกินมากขึ้นไปอีก

ขออีกคำ อีกคำ และขออีกสักคำจนในที่สุด…ก็หมดถ้วย

“เป็นยังไงกับความรู้สึกอิ่ม”

มู่เหลียงถามอย่างอ่อนโยน

“มันรู้สึกดีมาก แต่….มันสิ้นเปลืองเกินไป”

มินโฮพูดพร้อมกับแก้มที่แดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย

มื้อนี้ของเธอเท่ากับการกินกิ้งก่าตากแห้ง 10 ตัว

“อย่าคิดมากเลย ปล่อยเรื่องหาอาหารเป็นหน้าที่ฉันเอง”

มู่เหลียงลุกขึ้นยืนและลูบหัวของมินโฮเบาๆ

เด็กน้อยคนนี้ช่วยชีวิตของเขาไว้ เขาจะไม่ปล่อยให้เธอลำบากอีก

“.......”

มินโฮหน้าแดงขึ้นมาทันที ก่อนที่จะอ้าปากค้าง และไม่รู้ว่าจะพูดสิ่งใด

มู่เหลียงเอามือขึ้นมาถูไปสองสามครั้งก่อนจะพูดอย่างไม่พอใจ

“เอาผ้าโพกหัวออกได้ไหม ฉันลูบหูกระต่ายไม่ถนัด”

“อะไร!! ฉ-ฉันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงนะ!!”

มินโฮหน้ามุ้ยทันที พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ

เด็กสาวถอยออกไป และทำท่าลังเลเล็กน้อย ก่อนที่จะแกะผ้าโพกหัวออก

มู่เหลียงเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของเด็กสาวก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ และรู้สึกเอ็นดูไม่น้อย

เมื่อเห็นว่ามู่เหลียงยิ้มให้ มินโฮเองก็หน้าแดงขึ้นมาอีกครั้ง

เด็กสาวหันหน้าหนีทันที และเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย

“ฉะ-ฉันแค่ปล่อยหูออกมาเพื่อผึ่งลมแค่นั้นแหละ แต่ฉันไม่ให้นายจับหรอกน่ะ!”

“รู้แล้ว รู้แล้ว”

มู่เหลียงยิ้มอย่างฝืนๆ

“ฮึ่ม!!”

มินโฮนั้นกระแทกเสียงใส่เบาๆ

ก่อนที่เธอจะลืมความเขินอาย และถามเรื่องหนึ่งกับมู่เหลียงขึ้น

“วันนี้เราจะย้ายไปบนตัวเจ้าเต่าทมิฬเลยไหม?”

เด็กสาวนั้นอยากจะย้ายบ้านใหม่มากๆ และอยากไปอยู่บนบ้านเคลื่อนที่

“ไม่ต้องรีบย้ายก็ได้ เรายังไม่ได้สร้างอะไรบนนั้นเลย”

มู่เหลียงต้องการที่จะเพิ่มระดับให้เต่าทมิฬเป็นระดับ 3 ก่อน เพื่อที่จะทำให้ลานบนหลังของมันกว้างขึ้น จะได้สร้างที่อยู่ได้สบายขึ้น

“แล้วเราจะไปสร้างตอนไหนหล่ะ”

มินโฮกล่าวขึ้นด้วยแววตาที่กลมโต

“ก็ได้…ก็ได้ งั้นเราไปสร้างบ้านกันเถอะ”

มู่เหลียงลุกขึ้นและเดินออกไปหน้ากระท่อมไม้

“เดี๋ยว…แล้วพวกของในบ้านละ”

มินโฮคิดได้ว่ายังไม่ได้ขนของไปด้วย

แล้วตอนนี้ทุกคนในค่ายกำลังจะย้ายออก บ้านของเธออาจจะถูกขโมยของได้

“ไม่เป็นไร เดียวให้เสี่ยวไกเฝ้าเอาไว้”

มู่เหลียงชี้ไปยังมุมกระท่อม

ก่อนที่มินโฮจะหันตามไปมองจุดที่ชี้ และเห็นกิ้งก่าลำตัวยาวกว่าสองเมตรโผล่ออกมาราวกับผีสาง

เด็กสาวรู้สึกสบายใจขึ้นและพูดออกมา

“จะได้สบายใจขึ้นหน่อย”

ทั้งสองออกจากกระท่อมไม้ และเดินออกไปจากตัวค่าย เข้าไปยังดินแดนรกร้างของโลกที่โหดร้าย

เพราะเต่าทมิฬนั้นออกหาของกินเองไปทั่วพื้นที่รอบค่าย มันใช้ท่าหนามหินดันหนูให้ขึ้นมาจากรูแล้วดักกินพวกมัน

5 3 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด