ตอนที่แล้วตอนที่ 205: ทางเลือกของฉินหมาง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 207: งานเลี้ยง

ตอนที่ 206: เดินทางไปโลก


ตอนที่ 206: เดินทางไปโลก

หลังจากได้รับพิษดวงตาของฉินหมางก็เหลือกขึ้นเหลือแต่ตาขาวพร้อมกับเป็นลมหมดสติไปทันที ขณะที่ขวดแก้วภายในมือของเขาก็ค่อย ๆ ตกกลิ้งลงไปบนพื้น

พริบตาต่อมาทุกคนภายในห้องก็ได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยวจากพิษของเซราฟิม และเนื่องจากพิษชนิดนี้มีความรุนแรงมาก มันจึงทำให้แม้แต่การสูดดมพิษที่ปนเปื้อนในอากาศก็สามารถสร้างความเสียหายต่อร่างกายของมนุษย์ได้

ภาพที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือทุกคนพยายามหนีออกไปจากห้องอย่างวุ่นวาย แต่เซี่ยเฟยกลับใช้นิ้วแตะที่ชุดต่อสู้เบา ๆ เพื่อเรียกหน้ากากกรองอากาศขึ้นมา จากนั้นเขาก็หันกลับมานั่งลงข้าง ๆ เตียงของฉินหมางโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ

ฉินหมางได้เลือกที่จะเดิมพันแล้ว ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาและความตั้งใจที่จะมีชีวิตรอดของชายชราที่ต้องต่อสู้กับพิษร้าย

ในไม่ช้าฝูงชนก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้งโดยที่ทุกคนได้สวมหน้ากากป้องกันแก๊สพิษเอาไว้ ขณะเดียวกันทั่วทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเสียงเครื่องฟอกอากาศที่กำลังทำงานอย่างรวดเร็ว พร้อมกับสเปรย์ยาฆ่าเชื้อที่พ่นออกมาจากบนเพดานราวกับฝนที่กำลังตกหนักชั่วขณะ

ฉินหมางยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียง แต่การหายใจของเขากลับแผ่วเบาจนแทบจะสังเกตไม่เห็น

ช่วงเวลานี้ฝูงชนทุกคนต่างก็กำลังรอคอยผลลัพธ์ ส่วนแพทย์ประจำตัวก็ทำได้เพียงแต่รออยู่ที่ประตู เพราะทุกอย่างอยู่เหนือการควบคุมของเขาแล้ว เหตุการณ์หลังจากนี้มันก็ขึ้นอยู่กับผลของน้ำยาที่เซี่ยเฟยให้ฉินหมางไปเท่านั้น

มุมปากของมาร์ตาที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ เพราะถ้าหากฉินหมางเสียชีวิตหลังจากกินยาพิษของเซี่ยเฟยเข้าไป มันก็จะทำให้อุปสรรคชิ้นใหญ่ที่สุดของเขาได้หายไปด้วยเช่นกัน

“จับไอ้ฆาตกรคนนั้นเดี๋ยวนี้!” มาร์ตาตะโกนสั่งการพร้อมกับชี้นิ้วไปทางเซี่ยเฟย

หลังได้รับคำสั่งชายฉกรรจ์หลาย ๆ คนก็เริ่มเคลื่อนตัวมาล้อมเซี่ยเฟยเอาไว้

ปัง!

เซี่ยเฟยแทงเซเลสเชียลมูนลงไปบนพื้นก่อนที่จะกวาดสายตามองทุกคนด้วยแววตาที่ดุร้าย

“คุณตายังไม่ตาย! หากมีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ ผมพร้อมรับผิดชอบทุกสิ่งที่เกิดขึ้น”

“แกเป็นใคร ทำไมฉันจะต้องฟังแกด้วย!” มาร์ตากล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง

“หึ!” ทูรามส่งเสียงในลำคออย่างไม่พอใจ และถึงแม้ว่าเขาอยากจะเข้าไปช่วยเซี่ยเฟยมากแค่ไหน แต่ความจริงก็คือฉินหมางเป็นแบบนั้นหลังจากที่ได้ดื่มน้ำยาของเซี่ยเฟยเข้าไปจริง ๆ

“ถ้าฉินหมางเป็นอะไรไปฉันจะเป็นคนส่งเซี่ยเฟยไปหานายเอง ตอนนี้เอาคนของนายออกไปก่อน” ทูรามกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วและเขาก็อดที่จะตำหนิเซี่ยเฟยขึ้นมาไม่ได้ที่ลงมือทำอะไรอย่างหุนหันพลันแล่นมากจนเกินไป

เมื่อทูรามได้ออกปากสามพี่น้องตระกูลหลิงก็เริ่มออกหน้าไปขัดขวางคนของฝั่งมาร์ตา ท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่ชอบขี้หน้ากันมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตราบใดที่มีคำสั่งพวกเขาก็พร้อมที่จะทำการจู่โจมเข้าใส่อีกฝ่าย

แต่ในทันใดนั้นเองร่างของฉินหมางที่นอนอยู่บนเตียงก็เริ่มกระตุกราวกับว่าเขาถูกไฟฟ้าช็อต ซึ่งเซี่ยเฟยรู้ดีว่าปฏิกิริยาลักษณะนี้เป็นสัญญาณว่ายาพิษกำลังทำงานอยู่

“อาจารย์!”

“ผู้อาวุโส!”

“ฉินหมาง!”

ทุกคนต่างก็อุทานออกมาด้วยความในใจที่แตกต่างกันออกไป โดยบางคนหวังที่จะให้ฉินหมางรอดชีวิตกลับมา แต่บางคนก็หวังให้ชายชราเสียชีวิตไปตอนนี้เลย

โรงพยาบาลแคปปิตอลบนดาวเฮกสตาร์เป็นโรงพยาบาลที่รวบรวมแพทย์พยาบาลมากฝีมือมาทั่วทั้งภูมิภาคดาว แต่ในปัจจุบันพวกเขาต้องคอยระแวดระวังเนื่องมาจากมีคนใหญ่คนโตเข้ามาพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล

ถึงแม้ว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะประกาศบอกเรื่องนี้กับบุคลากรภายในโรงพยาบาลแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงรู้สึกกังวลภายในใจอยู่ดี เนื่องจากหากผู้มีอำนาจคนนี้เสียชีวิตลงในโรงพยาบาล พวกเขาก็อาจจะถูกลงโทษไปด้วยก็ได้ เพราะท้ายที่สุดพวกผู้มีอำนาจก็มักจะทำอะไรอย่างคาดเดาไม่ได้เสมอ

ในที่สุดหลังจากบรรยากาศภายในโรงพยาบาลตึงเครียดมานานกว่า 2 เดือน เหล่าบุคลากรในโรงพยาบาลก็เริ่มรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย เพราะชายชราที่พักอยู่ในอาคารพิเศษหมายเลข 1 มีอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้แม้แต่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็ยังเผยรอยยิ้มที่พวกเขาไม่ได้เห็นมานาน

รถคันหรูค่อย ๆ แล่นออกไปจากโรงพยาบาลทีละคันทำให้โรงพยาบาลค่อย ๆ กลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง แต่พื้นที่อาคารพิเศษก็ยังคงถูกควบคุมไม่ให้บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปยังด้านในอยู่ดี

ในปัจจุบันเซี่ยเฟยกำลังออกมาเดินเล่นในสวนพร้อมกับฉินหมางที่นั่งอยู่ในรถเข็น โดยที่ด้านหลังมีทูรามเดินตามมาด้วยรอยยิ้ม

ฉินหมางค่อย ๆ ฟื้นฟูสภาพกลับมาเป็นเหมือนเดิมก่อนเขาเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่ในระหว่างที่เขาป่วยแมวดำที่อยู่กับเขามาโดยตลอดก็จากไปด้วยโรคชราจนทำให้ชายชรารู้สึกเสียใจมาก

ช่วงนี้เป็นฤดูร้อนทั้งสามจึงหาที่นั่งใต้ร่มไม้ ก่อนที่เซี่ยเฟยจะชงชาให้ฉินหมางกับทูรามด้วยรอยยิ้ม

“นายไม่ต้องกลับไปที่โลกรึไง? รีบไปเถอะไม่ต้องสนใจพวกเราหรอก” ฉินหมางกล่าว

อีกไม่กี่วันจะเป็นวันสำคัญของบริษัทควอนตัม เพราะเครื่องขยายพลังชาร์จจะเริ่มถูกนำไปผลิตอย่างเป็นทางการ และผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ก็จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของบริษัทโดยตรง ดังนั้นเซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องกลับไปดูด้วยตัวเอง

“ทำตามที่ไอ้แก่นี่บอกเถอะ แวมไพร์ของนายจอดอยู่ที่สนามบินแล้ว ฉันจะคอยอยู่กับฉินหมางเองนายไม่ต้องกังวล” ทูรามกล่าว

“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ แล้วผมจะกลับมาเยี่ยมใหม่ในวันหลัง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“ไม่ต้องห่วงน่า ฉันยังไม่ตายเร็ว ๆ นี้หรอก กลับไปทำธุระของนายเถอะ” ฉินหมางกล่าวพร้อมกับโบกมือไปมา

หลังจากเซี่ยเฟยเดินจากไป ทูรามก็พูดขึ้นมาว่า

“นายเห็นไหม? ทั้งชีวิตนายรับลูกศิษย์มาตั้งกี่คนแต่ไม่มีใครสู้เด็กคนนี้ได้เลย ทำไมนายถึงไม่ยอมรับเขาในฐานะลูกศิษย์ใกล้ชิดสักที”

“ไม่ต้องรีบร้อนน่า ไหนนายบอกว่านายมีอะไรให้ฉันดูไง” ฉินหมางกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับหยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบ

ทูรามแสร้งทำเป็นส่งเสียงกระแอมออกมา 2 ครั้งก่อนที่เหล่าบอดี้การ์ดที่ซ่อนตัวอย่างลับ ๆ รอบ ๆ ตัวพวกเขาจะค่อย ๆ สลายตัวออกไป จากนั้นเขาก็หยิบไมโครคอมพิวเตอร์ออกมาจากแหวนมิติและส่งมอบให้กับฉินหมาง

“เมื่อ 2 วันก่อนอาการนายไม่ค่อยดี ฉันเลยกลัวนายจะตกใจตาย!”

“ขนาดนั้นเชียว?” ฉินหมางกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ

“นายเคยถามมาก่อนไม่ใช่เหรอว่าเซี่ยเฟยได้ซ่อนความสามารถอะไรเอาไว้ นี่ไงสิ่งที่นายอยากรู้”

คำอธิบายของทูรามทำให้ฉินหมางชะงักไปเล็กน้อย

นับตั้งแต่ที่เซี่ยเฟยได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ฉินหมางก็สัมผัสได้ว่าชายหนุ่มมีความมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิมเหมือนกับว่าเขาได้เก็บซ่อนความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้ และเมื่อทูรามได้ค้นพบความแข็งแกร่งที่เซี่ยเฟยได้เก็บซ่อนเอาไว้ มันจึงทำให้ชายชรารู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก

หลังจากนั้นฉินหมางก็เปิดคลิปที่เซี่ยเฟยกำลังล่าสังหารเซราฟิมอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งการแสดงพลังพิเศษชนิดที่ 2 ของชายหนุ่มก็ทำให้แววตาของเขาเป็นประกาย

มันไม่มีนักสู้คนไหนในพันธมิตรที่พัฒนาพลังพิเศษถึงสองชนิดในเวลาเดียวกัน ซึ่งเซี่ยเฟยไม่เพียงแต่จะฝึกพลังพิเศษถึงสองชนิดเท่านั้น แต่พลังพิเศษทั้งสองชนิดของเขายังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงด้วย

เรื่องนี้เป็นกฎที่มนุษย์ไม่ได้เขียนเอาไว้ มันจึงไม่มีใครฝึกพลังพิเศษชนิดที่ 2 มานานมากแล้ว แต่ตอนนี้เซี่ยเฟยกลับได้ฝ่าฝืนกฎที่ไม่ได้บัญญัติขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ และถ้าหากว่าเรื่องนี้ได้แพร่กระจายออกไปมันย่อมก่อให้เกิดปรากฎการณ์ใหม่ในพันธมิตรอย่างแน่นอน

สิ่งที่ฉินหมางมั่นใจคือเรื่องทั้งหมดนี้จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับการที่เซี่ยเฟยหายตัวไปอย่างลึกลับเป็นเวลากว่า 1 ปี แต่ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างเซี่ยเฟยกลับไม่เคยพูดถึงประสบการณ์ในช่วงหนึ่งปีนั้นเลยราวกับว่าเขากำลังรู้สึกกลัวพลังลึกลับที่ซ่อนอยู่

เมื่อวิดีโอในหน้าจอได้แสดงไปจนถึงตอนที่เซี่ยเฟยใช้วิชามนตราอสูร มันก็ยิ่งทำให้ฉินหมางรู้สึกประหลาดใจมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากมันไม่ใช่ทูรามเพียงคนเดียวที่ไม่เคยเห็นพลังในลักษณะนี้ เพราะแม้แต่ฉินหมางซึ่งเป็นผู้รอบรู้ก็เพิ่งเคยเห็นการจู่โจมในลักษณะนี้เป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน

“นั่นมันท่าอะไร?” ฉินหมางถามด้วยความสงสัย

“ดูเหมือนมันจะเป็นเทคนิคลับอะไรบางอย่าง แต่ฉันก็ดูไม่ออกเหมือนกัน” ทูรามกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเซี่ยเฟยถึงดูเหมือนกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ที่แท้เขาก็ได้เก็บซ่อนความแข็งแกร่งแบบนี้เอาไว้นี่เอง” ฉินหมางใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ หลังจากปิดหน้าจอ

“ฉันถึงบอกไงว่าให้นายรับเขาเป็นลูกศิษย์สักที ไม่อย่างนั้นฉันจะปาดหน้านายแล้วนะ” ทูรามกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ

“ฝันไปเถอะ! อยากจะเอาเขาเป็นลูกศิษย์ก็ข้ามศพฉันไปก่อน” ฉินหมางกล่าวพร้อมกับจ้องมองไปที่ทูราม

สมัยก่อนพวกเขามักจะทะเลาะกันอยู่เสมอ และไม่ว่าเมื่อไหร่ที่พวกเขาพูดคุยกันมันก็ทำให้ชายชราทั้งสองนึกถึงเรื่องที่เกิดตอนที่พวกเขายังเป็นวัยรุ่น

“จะว่าไปที่นายรอดตายมาได้ในครั้งนี้มันก็ต้องขอบคุณเซี่ยเฟยจริง ๆ และถึงแม้ว่าสักวันหนึ่งนายจะต้องตาย แต่นายคงจะไม่ยอมอยู่เฉย ๆ อีกแล้วใช่ไหม?” ทูรามกล่าวโดยมีความมุ่งร้ายอยู่ในน้ำเสียงของเขาเล็กน้อย

“ฉันเข้าใจสิ่งที่นายต้องการจะสื่อ แต่นายก็เห็นแล้วว่าคนพวกนั้นทำตัวหน้าด้านมากขนาดไหน และถึงแม้ว่าฉันจะต้องการมอบบางอย่างให้กับเขาจริง ๆ แต่มันก็อาจจะเป็นการทำให้เขาตกอยู่ในอันตราย” ฉินหมางกล่าว

คำพูดของฉินหมางไม่ได้ไร้เหตุผล ท้ายที่สุดผู้แข็งแกร่งก็คือผู้ควบคุมกฏ ดังนั้นถ้าหากเซี่ยเฟยได้ครอบครองบางสิ่งบางอย่างโดยมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ เขาก็อาจจะถูกลบออกไปจากจักรวาลแห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย

“นายกำลังเก็บซ่อนอะไรเอาไว้อยู่กันแน่? ถึงขนาดทำให้มาร์ตาเดินทางมาด้วยตัวเองแบบนี้” ทูรามกล่าวด้วยความสงสัย

“อย่างแรกคือฉันบอกนายไม่ได้ ส่วนอย่างที่ 2 นายรู้ได้ยังไงว่าของชิ้นนั้นเป็นสิ่งที่มาร์ตาต้องการ” ฉินหมางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“นายหมายความว่ายังไง?”

“พวกลูกศิษย์ของฉันไม่ได้รู้เรื่องอะไรพวกนี้เลย สิ่งที่พวกเขาต้องการเป็นเพียงแค่สิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ส่วนเรื่องมาร์ตาก็เป็นเพียงแค่หุ่นเชิดของใครบางคนเท่านั้น คนพวกนั้นแค่ไม่สะดวกออกหน้าเลยส่งมาร์ตามาที่นี่แทน” ฉินหมางกล่าวขึ้นมาเบา ๆ

“พวกมันเป็นใคร? เดี๋ยวฉันจะไปจัดการพวกมันเอง” ทูรามกล่าวพร้อมกับตบโต๊ะอย่างแรง

“คนพวกนั้นคือคนที่บังคับให้ฉันต้องออกจากสมาคม แล้วมันก็มีคนเพียงแค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ แต่พูดตามตรงว่าฉันก็ไม่คิดว่าพวกมันจะใจกล้ามากขนาดนี้เหมือนกัน” ฉินหมางกล่าวพร้อมกับยื่นมือออกไปหยุดทูรามเอาไว้

“ฉันไม่คิดจริง ๆ ว่าถึงแม้เรื่องนี้มันจะผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่พวกมันก็ยังไม่ยอมปล่อยนายไป ว่าแต่ตอนนี้นายคิดจะทำยังไงต่อไป?” ทูรามกล่าว

“ตราบใดก็ตามที่ฉันยังมีชีวิตอยู่คนพวกนั้นก็ไม่กล้าทำอะไรหรอก ฉันได้ยินมาว่าดาวโลกเป็นดาวเคราะห์ดวงเล็ก ๆ ที่มีสภาพแวดล้อมสวยงาม ฉันอยากจะไปพักผ่อนที่ดาวดวงนั้นดูสักพัก” ฉินหมางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“หึ! ฉันคิดอยู่แล้วว่านายไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ได้สิเดี๋ยวฉันจะเป็นคนพานายไปเดินเล่นเอง” ทูรามกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง

***************

ลึบลับอะไรขนาดนี้นะคุณตาฉินหมาง!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด