ตอนที่แล้วตอนที่ 13 ก็มันช่วยไม่ได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15 มื้อเช้าอันแสนสุข

ตอนที่ 14 แผนเอาคืน


มินโฮคุกเข่าที่ขอบเตียงและยกเตียงขึ้นเล็กน้อย และมุดตัวเองเข้าไปใต้เตียงโดยมีแค่ส่วนก้นเท่านั้นที่โผล่ออกมา

มู่เหลียงกลับมาถึงบ้านโดยแบกถังน้ำมาสองถังใหญ่ และเห็นเด็กสาวในสภาพนั้น

มู่เหลียงอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา

“ทำอะไรของเธอหนะ มินโฮ?”

“ว้าย!”

มินโฮสะดุ้งสุดตัว

ปึ้ง!

หัวของมินโฮกระแทกเข้ากับเตียงอย่างแรง

มินโฮค่อยๆ มุดออกมา ด้วยสีหน้าเยเกพร้อมกับแสดงสีหน้าเจ็บปวด

มู่เหลียงยิ้มมุมปากก่อนจะถาม

“เป็นไง ยังสบายดีอยู่ไหม?”

มินโฮจ้องมู่เหลียงด้วยสายตาหงุดหงิด เธอมีคำถามเต็มไปหมด และอยากบ่นมู่เหลียงมากที่เข้ามาทำให้เธอตกใจแบบนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อน

“งั้นเรากินข้าวกันก่อนดีกว่า”

มู่เหลียงพูดอย่างสบายๆ เพื่อตัดบทของเด็กน้อย

“ในนั้นคือ??”

มินโฮสังเกตเห็นถังไม้ที่มู่เหลียงเอากลับมาและเกิดสงสัย

ก่อนที่เธอจะมองมู่เหลียงอย่างเคืองๆ และพูดขึ้นมาว่า

“นี้มู่เหลียงนายทำอะไรของนายหน่ะ!! นายเล่นขนของมาหมดบ้านหัวหน้าค่ายเลยงั้นหรอ!!”

“ไม่ๆ ที่จริงยังเหลืออีกต้องหลายอย่างที่ไม่ได้เอามาด้วย”

มู่เหลียงตอบกลับไปอย่างซื่อๆ

เมื่อเขาย้อนคิดถึงตอนที่อยู่ในบ้านหัวหน้าค่าย ก็รู้สึกอยากจะวนกลับไปขนของที่เหลืออีกครั้ง

แต่ตอนที่เขาออกมาจากบ้าน มู่เหลียงก็เห็นว่าเริ่มมีคนถยอยมาที่บ้านหัวหน้าค่ายเยอะขึ้น

นั้นแปลว่าพ่อบ้านไม่ทำให้เขาผิดหวัง

“มู่..เหลียง!! นายนี้มัน…ช่างไร้ยางอายจริงๆ!”

มินโฮถึงกับเอาสองมือขึ้นปิดหน้าแล้วพูดออกมาราวกับว่าสิ่งที่เธอคาดเดาไว้นั้นถูกต้อง

มินโฮนั้นโน้มหน้าเข้าไปหามู่เหลียง ด้วยแก้มที่ปูดแดง

และเตือนด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“ครั้งหน้า!! หากว่านายคิดจะทำอะไรแบบนี้อีก บอกกันก่อนเข้าใจไหม!”

เพราะเธอนั้นคิดหัวแทบแตกว่าจะเอาของพวกนี้ไปซ่อนไว้ที่ไหน และกลัวคนมาเจอเข้าสุดๆ

“พอดี…แผนมันเปลี่ยนกลางทางน่ะ ฉันก็แค่อยากได้น้ำเท่านั้นเอง”

มู่เหลียงผายมือออก ราวกับว่ามันช่วยไม่ได้

หากว่าใครได้ยินความคิดชั่วร้ายของหัวหน้าค่ายเข้า และทำได้อย่างมู่เหลียงเขาก็คงลงมือทำเช่นเดียวกัน

“แบบนี้หากหัวหน้าค่ายรู้เข้าว่าน้ำถูกขโมยมา พวกเราจะเดือดร้อน”

มินโฮพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลงก่อนจะถามว่า

“เอาเป็นว่าเราขนของพวกนี้ไปซ่อนไว้กับเจ้าเต่าทมิฬก่อนดีไหม? มู่เหลียงคิดว่าไง”

“ไม่ต้องซ่อนอะไรทั้งนั้นแหละ”

มู่เหลียงโบกมือห้ามเอาไว้

“ไม่ได้สิ! เดี๋ยวหัวหน้าค่ายต้องส่งคนออกมาค้นหาน้ำแน่”

มินโฮกระทืบเท้าเบาๆ ด้วยความกระวนกระวายใจ ก่อนจะพูดต่อ

“แล้วมันยังมีอีกหลายอย่างที่ซ่อนไม่ได้ด้วย เราเก็บไว้ที่นี่ไม่ได้”

“ทำไมต้องกลัวหัวหน้าค่ายด้วย…..ฉันฆ่าเขาไปแล้ว”

มู่เหลียงพูดอย่างใจเย็น ราวกับเป็นเรื่องเล็กน้อย

“ห้ะ!?!”

มินโฮถึงกับนัยน์ตาเบิกกว้าง

ก่อนที่จะจ้องมองมู่เหลียงตาเขม็งราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด และคิดว่าเขาล้อเล่น

“เรื่องจริง…”

มู่เหลียงยืนยันคำพูดของเขาอีกครั้ง ก่อนที่จะเล่าว่าหัวหน้าค่ายนั้นสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มโจรเคราโลหิต

“สมควรแล้ว!! ตายไปซะก็ดีคนสารเลวแบบนี้!”

มินโฮนั้นโกรธมากเมื่อรู้เรื่องทั้งหมด

ก่อนที่จะปรากฏรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากของมู่เหลียง ขณะที่ดูการแสดงออกของมินโฮอย่างเงียบๆ และรู้สึกว่ามันดูน่ารัก

“หือ…มะ-มองอะไร”

มินโฮหน้าแดงขึ้นมาทันที

“ป่าวๆ ไม่มีอะไรหรอก”

มู่เหลียงละสายตาออกไปก่อนจะพูดขึ้น

“พรุ่งนี้ผู้คนในค่ายจะอพยพออกไปหมดแล้ว”

แววตาสีฟ้าใสของมินโฮเป็นประกายทันที และถามขึ้นอย่างสนอดสนใจ

“งั้นพวกเราจะออกเดินทางเลยไหม?”

“ยังก่อน…เราจะอยู่ที่ค่ายนี้อีก 2 วัน”

มู่เหลียงส่ายหัว

“แต่มันอันตรายเกินไป ไม่รู้ว่าพวกเคราโลหิตจะบุกมาเมื่อไหร่ด้วย”

มินโฮพูดอย่างไม่พอใจ

“ไม่มีอะไรอันตรายหรอก…เราแค่รอให้สายของกลุ่มเคราโลหิตมาถึงก่อน”

มู่เหลียงพูดพร้อมกับแสยะยิ้ม มันช่างเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยเลศนัย

“เดี๋ยวนะ….นี้นายคิดจะทำอะไร”

มินโฮถามด้วยความรู้สึกที่ไม่ดีเท่าไรนัก

“ก็แค่จะไปขโมยของจากพวกเคราโลหิตเท่านั้นเอง”

มู่เหลียงตอบอย่างใจเย็น

“เอ๋!!!”

มินโฮตาโตเป็นไข่ห่านด้วยความตกใจ

เด็กสาวกำลังคิดว่าเธอฟังผิดหรือหูเธอเพี้ยนไปรึป่าว ก่อนที่เธอจะถามด้วยท่าทางตะกุกตะกักดูน่ารักไม่น้อย

“มะ–มะมู่เหลียง นะ-นาย พ-พูดเล่นอีกแล้วใช่ไหม”

“ไม่ฉันเอาจริง ฉันจะไปที่ค่ายของพวกโจรและไปขโมยของมันออกมาให้หมด!”

มู่เหลียงรู้ว่าหัวหน้าค่ายนั้นร่วมมือกับพวกกลุ่มโจร และให้พวกมันเข้ามาโจมตีค่าย และเขาเองก็คิดเช่นเดียวกัน

เขาจะตลบหลังพวกมัน และบุกไปยังค่ายของพวกโจรบ้าง

เขาจะใช้แผนล่อเสือออกจากถ้ำ และเขาจะเข้าไปขโมยทั้งของมีค่า และผลึกสัตว์อสูรออกมา

“มู่เหลียง!! นายมันบ้าเกินไปแล้ว!”

สีหน้าของมินโฮนั้นซีดเซียวลงทันที เมื่อได้ยินสิ่งที่มู่เหลียงคิด ก่อนที่จะเข้าไปดึงแขนของเขาเอาไว้

เธอพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมมู่เหลียงทันที

“พวกโจรมีกันต้องเยอะ อาจจะมากกว่า 500 คนเลยก็ได้ หากไม่ระวังนายจะตายเอาได้นะ!”

“แผนการของฉันไม่ต้องเผชิญหน้ากับพวกมันทั้งหมดหรอก”

มู่เหลียงยกนิ้วชี้ขึ้นมาก่อนจะถามอย่างเอ็นดูว่า

“จำเจ้าโจรที่เราฆ่าไปเมื่อตอนกลางวันได้ไหม?”

“ได้”

มินโฮพยักหน้าตอบ

“วันนี้มันไม่ได้กลับไปรายงานที่ฐาน”

มู่เหลียงเริ่มค่อยๆ เล่าแผนการของเขาให้มินโฮฟัง

“แล้วที่นี้พวกโจรมันก็จะส่งคนมาใหม่ในวันพรุ่งนี้”

“และจุดที่กลุ่มของเคราโลหิตอยู่นั้นคงจะห่างจากที่นี่ไปหลายวัน และกว่าที่มันจะมาถึงก็คงอีก 2 วันได้”

มู่เหลียงเริ่มนึกถึงสิ่งที่ได้รู้มาระหว่างที่เขารีดข้อมูลจากพวกโจรวันนี้

ก่อนที่เขาจะพูดต่อไป

“อีกสองวัน เราจะแกล้งทำเป็นว่าคนในค่ายนั้นอพยพไปหมดแล้ว”

“มินโฮ ถ้าเธอเป็นพวกโจรเคราโลหิต เธอจะส่งคนออกไปตามล่าไหม?”

มู่เหลียงถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์

“ก็…ก็น่าจะทำแบบนั้น”

มินโฮตอบอย่างไม่มั่นใจ

“นายคิดว่า…พอคนที่มันส่งมาไม่เจอใคร ก็จะรีบกลับไปแจ้งหัวหน้าของพวกมันทันทีงั้นหรอ”

มู่เหลียงกางมือออกและตอบอย่างสุขุม

“พอพวกโจรเคราโลหิตรู้ตัวแล้วว่าถูกหลอก พวกมันก็จะไม่คิดหน้าคิดหลัง และต้องการล้างแค้นที่มาหลอกพวกมัน”

“มันก็อาจจะเป็นแบบนั้น”

มินโฮพยักหน้าเห็นด้วย

“แต่ในความเป็นจริงแล้ว พอกลุ่มของโจรเคราโลหิตมาถึงจริงๆ ก็ 3 วันให้หลังจากผู้คนในค่ายอพยพไปแล้ว และพวกมันก็จะมาเก้อและหาใครไม่เจอ”

มู่เหลียงก็พูดขึ้นกับตัวเองว่า

“แล้วตอนนั้นแหละ…..พวกมันจะทั้งโมโห และฉุนขาด แล้วยิ่งในสถานการณ์ที่สับสนเช่นนี้ พวกมันจะลืมคิด เวลานั้นที่ค่ายของพวกมันจะมีคนอยู่ไม่กี่คน เราจะใช้จังหวะนั้นเข้าไปขโมยทุกอย่างจากพวกมัน!”

แผนการนี้ใจความสำคัญของมันอยู่ที่เวลา ต้องทำให้พวกกลุ่มโจรออกมาจากค่ายให้ได้อย่างน้อย 1 วัน

แต่ประเด็นคือเขาจะทำยังไงให้คนที่จะถูกส่งมานั้นเห็นว่าคนในค่ายกำลังอพยพออกไป

“นายแน่ใจในแผนนี้จริงๆ งั้นหรอ”

มินโฮถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล

“ก็ค่อนข้าง แต่ช่างมันเถอะ ยังอีกต้องสองวัน”

มู่เหลียงส่ายหัวก่อนจะตอบอย่างสบายๆ

แผนการนี้คุ้มค่าที่จะลอง

หากทำสำเร็จ เขาจะไม่ขาดแคลนผลึกสัตว์อสูร และอาจจะวิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงของเขาให้ถึงระดับ 4 ได้

5 4 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด