ตอนที่แล้วบทที่ 195: การจากไปของหยินกู่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 197: ศัตรูของลูก ๆ

บทที่ 196: นางเองก็ต้องการรับเลี้ยงเด็กด้วยเช่นกัน


เช้าวันรุ่งขึ้น พอหูเจียวเจียวรู้เรื่องการตายของหยินกู่ เธอก็รีบมุ่งหน้ามาที่บ้านไม้ ตอนที่มาถึงเธอเห็นหยินชางนั่งคุกเข่าอยู่ข้างเตียงพลางจับมือของพี่ชายไว้ไม่ยอมปล่อย

ในขณะที่หัวหน้าเผ่ากับภูตชาย 2 คนที่เป็นคนเฝ้าประตูกำลังยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ข้าง ๆ

“ท่านผู้เฒ่า เราควรทำยังไงดี?”

“พอข้าเข้าไปใกล้ เขาก็กัดข้าเหมือนหมาบ้า ข้าเลยไม่รู้ว่าจะจัดการกับเขายังไง...”

ภูตทั้ง 2 ที่ทำหน้าที่เฝ้ายามทำหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก

ไม่ใช่ว่าภูตชาย 2 คนไม่มีทางเลือก แต่พวกเขาก็สงสารที่เห็นเด็กหนุ่มเป็นเช่นนี้ ดังนั้นจึงไม่มีใครอยากใช้กำลังบังคับอีกฝ่าย

หูเจียวเจียวหันไปมองตามเนื้อตัวคนที่กำลังบ่น แล้วเห็นว่ามีรอยฟันตรงมือของเขา อีกทั้งส่วนที่ลึกที่สุดมีเลือดไหลออกมาด้วย

ชายคนนี้อดทนมากที่ไม่ลงมือทำอะไรรุนแรงกับหยินชาง

ต่อมา จิ้งจอกสาวลูบหว่างคิ้วตัวเองอย่างคิดไม่ตก เขาเป็นเด็กที่ดื้อมากจริง ๆ...

“ท่านผู้เฒ่า เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง” หูเจียวเจียวหันกลับไปมองผู้อาวุโสของเผ่า “ข้ากำลังจะหาเวลาไปคุยกับท่านเรื่องนี้อยู่พอดี ข้าอยากพาเขาไปอยู่ที่บ้านของข้า ท่านจะคัดค้านอะไรไหม?”

ชายสูงวัยที่ได้ยินเช่นนั้นมีสีหน้าเหลือเชื่อ “เจ้าเองก็อยากเลี้ยงดูเขาด้วยหรือ?”

สำหรับเด็กที่กำพร้าพ่อแม่ ทางเผ่าจะช่วยเลี้ยงดูพวกเขาจนเติบใหญ่ แต่โดยปกติแล้วจะไม่มีภูตคนไหนรับเลี้ยงพวกเขาเป็นกิจลักษณะ

เพราะลูกของคนอื่นก็คือคนแปลกหน้าในสายตาของเหล่าภูต

“ใช่ ข้าต้องการเลี้ยงดูเขา” หญิงสาวพยักหน้าตอบอย่างจริงจัง

เธอกำลังจะพูดเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อวาน แต่หลังจากกลับไปถึงบ้านมันก็เย็นมากแล้ว เธอจึงไม่ไปหาหัวหน้าเผ่าเพราะเกรงว่าจะรบกวนอีกฝ่าย

“แต่…” ชายชราพูดขึ้นมาแบบลังเล

เมื่อจิ้งจอกสาวเห็นท่าทางกระอักกระอ่วนของอีกคน เธอจึงถามด้วยความสงสัย

“ท่านผู้เฒ่า ข้ารับเลี้ยงเด็กคนนี้ไม่ได้หรือ?”

“การรับเลี้ยงเขาน่ะทำได้ แต่หวงเยว่มาบอกข้าเมื่อวานว่านางต้องการรับเด็กคนนี้ไปดูแลเป็นลูกบุญธรรม และข้าได้ตอบตกลงไปแล้ว คือ...”

ในฐานะผู้นำสูงสุดของเผ่า เขาไม่มีวันกลับคำพูดตัวเอง

“หวงเยว่? นางจะรับเลี้ยงเขาเป็นลูกไว้เพื่ออะไร...” หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นเพราะไม่เข้าใจเจตนาของนาง

ทันทีที่สิ้นเสียงของเธอ ผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินเข้ามาจากประตู

“หูเจียวเจียว ข้าขอโทษจริง ๆ ท่านผู้เฒ่าตกลงให้ข้ารับเลี้ยงหยินชางแล้ว”

หวงเยว่เผยรอยยิ้มจาง ๆ และพูดกับจิ้งจอกสาวด้วยสีหน้าลำบากใจ

“ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะอยากรับหยินชางไปเลี้ยงดูเหมือนกัน แต่ครอบครัวเจ้ามีลูก 5 คนแล้ว การดูแลเด็กเพิ่มอีกสักคนคงจะลำบากมาก...”

หูเจียวเจียวปรายตามองหงส์สาวอย่างเย็นชา เธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายก็แค่แสร้งทำเป็นคนใจดี

มันจะเป็นเหตุบังเอิญได้อย่างไรที่นางจะอยากรับเลี้ยงหยินชางด้วยตัวเอง

“เจ้าไม่ต้องกังวลหรอกว่ามันจะเป็นงานหนักสำหรับครอบครัวของเราหรือไม่ หลงโม่เก่งในการล่าและสามารถเลี้ยงลูกได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

จิ้งจอกสาวพูดแบบไม่ยอมถอย

ถึงแม้ว่าจะไม่มีมังกรหนุ่มคอยช่วยเหลือ เธอก็ยังมีมิติที่เต็มไปด้วยเสบียงมากมาย!

สิ่งที่เธอกังวลมากที่สุดคือหงส์สาวจะไม่สามารถเลี้ยงเด็กคนนี้เองได้

เมื่อหวงเยว่เห็นท่าทางไม่แยแสของหูเจียวเจียว นางก็รีบอธิบายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าแค่เป็นห่วงเจ้า ข้าไม่อยากทำให้หลงโม่เหนื่อยเกินไป การล่าสัตว์มันเหนื่อยและอันตรายมาก...”

ฝ่ายที่ได้ฟังรู้สึกขบขันกับคำพูดจอมปลอมของอีกคน

“ทำไมเจ้าถึงชอบเป็นห่วงเป็นใยคู่คนอื่นนัก อ้อ... ข้าลืมไป เจ้าไม่มีคู่ และเจ้ายังต้องรอรับการช่วยเหลือจากเผ่า”

แม่จิ้งจอกมองคู่สนทนาตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าที่แสดงออกเกินจริง “ที่แท้เจ้าก็อยากยืมมือคนอื่นมาเลี้ยงลูกให้นี่เอง เจ้าฉลาดมากนะ”

เมื่อภูตชาย 2 คนที่ยืนอยู่ด้านข้างได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็มองไปที่หวงเยว่เหมือนกำลังมองตัวประหลาด

สิ่งที่หูเจียวเจียวพูดนั้นถูกต้อง หวงเยว่ไม่มีคู่หรือลูก นางจะต้องใช้เสบียงของเผ่าเพื่อเลี้ยงดูหยินชาง แล้วระหว่างการที่นางรับเด็กไปเลี้ยงดูกับการที่เด็กได้รับการดูแลจากเผ่ามันต่างกันตรงไหน?

ใช่สิ…

ความแตกต่างก็คือหงส์สาวจะได้รับผลประโยชน์มากกว่าการมีชื่อเสียงที่ดี

ยามนี้รอยยิ้มของหวงเยว่ชะงักค้างไปหลังจากถูกคำพูดของจิ้งจอกสาวตอกหน้า

ในไม่ช้านางก็ทำสีหน้าเศร้าหมองอีกครั้ง พลางกัดริมฝีปากแล้วตอบว่า

“หูเจียวเจียว เจ้าเข้าใจข้าผิด ข้าได้พบคนที่เหมาะสมแล้ว ข้าจะอาศัยอยู่กับเขาหลังจากที่รับเลี้ยงหยินชาง”

“แม้ว่าข้าจะไม่เคยเลี้ยงลูกมาก่อน แต่ข้าก็จะรักเขาให้เหมือนกับลูกในไส้ของข้า...”

หญิงสาวหลุบตาลงแบบนึกเสียใจ แต่พอลับตาคนอื่นมันกลับฉายแววอำมหิต

หูเจียวเจียว!

นังจิ้งจอกคนนี้ขัดขวางนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าถึงเวลาที่ปีศาจพวกนั้นบุกเข้ามาในเผ่า นางจะเป็นคนจัดการนังนี่เอง!

จากนั้นหวงเยว่แอบชำเลืองมองไปทางหยินชางที่กำลังคุกเข่าอยู่ข้างเตียงที่พี่ชายนอนอย่างสงบ

นางเคยเห็นเด็กคนนี้ในเผ่าที่ถูกทำลาย แต่โชคดีที่เขาเป็นใบ้และไม่สามารถระบุตัวตนของนางได้แม้ว่าเขาจะจำนางได้ก็ตาม

ทว่าหญิงสาวต้องพาเด็กหนุ่มไปอยู่ใกล้ตัวแล้วหาทางปลิดชีวิตอีกฝ่ายเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

นางทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อน้องชายของตน นางจะไม่มีวันทำพลาดอีกเด็ดขาด!

เมื่อหวงเยว่คิดว่าเหล่าภูตที่อยู่ในเหตุการณ์จะเปลี่ยนใจ หูเจียวเจียวก็กล่าวต่อไปว่า

“คู่ของเจ้าช่างน่าสงสารจริง ๆ เขาต้องเลี้ยงลูกของคนอื่นก่อนที่จะมีลูกของตัวเอง”

จากนั้นเธอมองไปที่หงส์สาวก่อนจะพยักหน้าพร้อมเผยรอยยิ้มแฝงความนัย “ข้าแค่เป็นห่วงคู่ของเจ้า เจ้าไม่โกรธข้าใช่ไหม?”

เพื่อจัดการกับคนตอแหล เธอจำเป็นต้องตอแหลกลับ ไม่โกง!

“นี่เจ้า!”

หวงเยว่กัดกรามด้วยความโกรธ แต่เพื่อรักษาภาพลักษณ์อันสง่างามที่ตัวเองอุตส่าห์สร้างขึ้น นางจึงทำได้เพียงกลืนโทสะลงท้องไปเท่านั้น

“ในเมื่อหวงเยว่อยากรับหยินชางไปเลี้ยง งั้นก็ให้นางดูแลเขาเถอะ ท่านผู้เฒ่า”

จิ้งจอกสาวก้าวถอยหลังไปยืนข้างหัวหน้าเผ่าและมองภูตหญิงผู้แสนดีด้วยสีหน้ายิ้มแย้มไม่เปลี่ยน

“เอาล่ะ” ชายสูงวัยผงกหัว เขาหันไปมองคนที่ต้องการอุปการะเลี้ยงดูเด็กแล้วพูดว่า “หวงเยว่ เจ้าพาหยินชางกลับไปเถอะ เราจะนำร่างของหยินกู่ออกไป”

เนื่องจากภูตไม่มีธรรมเนียมการฝังศพเหมือนมนุษย์ และศพจะถูกโยนเข้าไปในป่า

นี่คือสัจธรรมของโลก คนเราถือกำเนิดขึ้นมาจากธรรมชาติ สุดท้ายก็ต้องหวนคืนสู่ธรรมชาติ

หวงเยว่แสดงสีหน้าประหลาดใจพลางคิดว่าทำไมหูเจียวเจียวคนนี้ช่างพูดช่างคุยขึ้นมาเสียอย่างนั้น?

“ตกลง ท่านผู้เฒ่า” หญิงสาวตอบโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา และกระตือรือร้นที่จะพาหยินชางไปจากที่นี่

ตอนที่หงส์สาวเพิ่งมาถึงบ้านไม้ นางไม่รู้เรื่องที่ภูตชาย 2 คนถูกหยินชางกัดทันทีที่ไปแตะตัวเขา

ในสายตาของนาง นี่เป็นเพียงแค่เด็กอ่อนแอเท่านั้น ตราบใดที่นางพูดเกลี้ยกล่อมไม่กี่คำ เขาก็จะเชื่อฟังตนแน่นอน

ขณะนี้หวงเยว่เดินไปหยุดยืนข้างเตียงที่มีร่างไร้วิญญาณนอนอยู่ ก่อนจะก้มตัวลงเพื่อมองหน้าหยินชางแล้วพูดเบา ๆ พร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน

“หยินชาง กลับบ้านกับข้านะ”

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นเพื่อมองดูเจ้าของเสียง ในตอนนั้นเอง รูม่านตาของเขาหดตัวลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับที่ความตื่นตระหนกฉายวาบในดวงตา

เขาเคยเห็นผู้หญิงคนนี้!

ในเผ่าที่ถูกทำลาย พวกภูตของเผ่าได้พานางกลับมาด้วย แล้วจู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ที่เผ่าถูกภูตหมาป่าโจมตีแบบฉับพลัน

นางอยู่กับภูตหมาป่ากลุ่มนั้น!

“ไปกันเถอะหยินชาง ข้าจะพาเจ้ากลับบ้าน ต่อจากนี้ไปเราจะเป็นครอบครัวเดียวกัน...”

หวงเยว่ยังคงพยายามพูดโน้มน้าวใจเด็กชายตรงหน้า

หยินชางซ่อนอารมณ์ทั้งหมดของเขาไว้ในดวงตาโดยกลบเกลื่อนมันด้วยสีหน้าไม่แยแส จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะใช้หัวพุ่งกระแทกเข้าใส่หญิงสาวเต็มกำลัง

“ย้ากกกก!” ในเวลาเดียวกันเขาก็เปล่งเสียงคำรามเหมือนสัตว์ร้าย

ทั้งหมดมันเป็นเพราะนาง!

ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนี้ที่ดึงดูดให้ภูตหมาป่ามาทำลายเผ่าจนพังพินาศ เขาและพี่ชายจะยังคงอยู่ที่นั่นอย่างสงบและปลอดภัย นางเป็นคนฆ่าหยินกู่!

ทางด้านหวงเยว่ที่ไม่ทันได้ตั้งตัวถูกเด็กชนเข้าที่ท้อง แล้วนางก็เซไปข้างหลังด้วยความเจ็บปวด พลางกุมท้องของตัวเองแล้วกรีดร้อง “กรี๊ดดดดด!”

“หวงเยว่ เจ้าเป็นไรไหม!?” เมื่อภูตชายที่อยู่ข้าง ๆ เห็นว่าหญิงสาวได้รับบาดเจ็บ  เขาจึงเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง

ยามนี้ใบหน้าของหงส์สาวเปลี่ยนเป็นสีซีดเพราะเจ็บจนจุก นางรู้สึกว่าลำไส้ของตนเหมือนจะแตก และนางก็ได้แต่ก่นด่าอยู่ในใจ

ไอ้ลูกหมาตัวนี้ควรจะตายตั้งแต่อยู่ในเผ่านั้น!

ปัจจุบันยังมีคนอื่นอยู่ในเหตุการณ์ด้วย นางจึงทำได้เพียงส่ายหัวตอบคำถามของชายคนนั้น

“ข้าไม่เป็นไร เขาคงไม่ได้ตั้งใจ อย่าทำร้ายเขา...”

ทันทีที่นางกล่าวจบ ภูตหนุ่มก็พูดขึ้นมาว่า

“จริงสิ ข้าลืมบอกไป เด็กคนนี้อารมณ์ร้ายและจะทำร้ายคนอื่น เจ้าต้องระวังตัวด้วย”

“หรือจะให้หูเจียวเจียวรับเขาไปเลี้ยงดี? ข้าจำได้ว่าเด็กคนนี้ไม่ขัดขืนในตอนที่นางเข้าใกล้เขาเมื่อวานนี้”

หวงเยว่ที่ได้ยินเช่นนั้นโกรธมากจนขบฟันแน่น แต่นางก็ยังหันไปพูดกับเขาอย่างอ่อนโยน “ไม่เป็นไร ข้าทำได้”

หงส์สาวพูดจบแล้วก็ตั้งท่าจะเดินไปหาหยินชางอีกครั้ง ทว่านางถูกดวงตาที่ดุร้ายของเด็กหนุ่มจ้องเขม็ง ทำให้นางหวาดกลัวและถอยหลังไป 2 ก้าวโดยไม่กล้าเข้าใกล้อีกฝ่าย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด