ตอนที่แล้วตอนที่ 202: ล่อเหยื่อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 204: เตรียมยาพิษ

ตอนที่ 203: ความแข็งแกร่งที่แท้จริง


ตอนที่ 203: ความแข็งแกร่งที่แท้จริง

ทันใดนั้นมันก็มีเสียงร้องคำรามอันแปลกประหลาดระเบิดออกมาจากผืนป่าราวกับฟ้าร้อง

ชายหนุ่มหยุดวิ่งอยู่ในหุบเขาพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปมองทางต้นเสียง ภาพที่เขาได้เห็นคือสิ่งมีชีวิตประหลาดขนาดใหญ่กำลังบินมาจากท้องฟ้าในระยะไกล แล้วมันก็กำลังส่งเสียงร้องคำรามราวกับกำลังตอบสนองการท้าทายของเซี่ยเฟย

สิ่งมีชีวิตชนิดนี้มีความยาวมากกว่า 20 เมตร, มีลำตัวคล้ายกับแมลงปอ, มีหางเหมือนกับแมงป่อง, มีดวงตากลมโตสีดำสนิทและมีปีกสั้นสีแดงเข้มจำนวน 6 ปีกที่กำลังกระพือด้วยความรวดเร็วจนก่อให้เกิดลมพัดโหมกระหน่ำลงมาในหุบเขา

“เซราฟิม! ระวังด้วยอย่าถูกพิษที่หางมันทำร้ายเด็ดขาด” อันธอุทานออกมา

การปรากฏตัวของสัตว์ร้ายตัวนี้ไม่ได้ทำให้เซี่ยเฟยระงับจิตสังหารของเขาเอาไว้เลย แต่เขากลับปลดปล่อยจิตสังหารออกไปอย่างรุนแรงกว่าเดิม

เซราฟิมเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบถูกยั่วยุซึ่งในสายตาของพวกมันมนุษย์เป็นเพียงแค่สัตว์ที่อยู่ต่ำกว่าพวกมันเท่านั้น และการที่เซี่ยเฟยกล้าท้าทายมันแบบนี้ก็มีเพียงแต่ความตายที่จะช่วยให้มันผ่อนคลายความโกรธที่เกิดขึ้นมาได้

แอ๊!

เซราฟิมส่งเสียงร้องคำรามออกมาก่อนที่มันจะรีบกระพือปีกบินโฉบลงมาหาเซี่ยเฟยด้วยความรวดเร็ว!

ฟุบ!

เซี่ยเฟยใช้เท้าถีบพื้นพร้อมกับพุ่งตัวไปทางเซราฟิม!

“กระจาย!” ชายหนุ่มส่งเสียงร้องคำรามดังลั่นพร้อมกับแยกใบมีดทั้ง 18 เล่มของเซเลสเชียลมูนออกจากกันและบังคับให้พวกมันโจมตีศัตรูจากทั่วทิศทาง

ถุย! ถุย!

ในเวลาเดียวกันเซราฟิมก็ทำการพ่นลูกบอลแก๊สสีขาวออกมาจากปากจำนวน 2 ลูก ซึ่งลูกบอลแก๊สพวกนี้ถือว่าเป็นอาวุธหลักอีกชิ้นของมันเพราะมันคือระเบิดลมแรงดันสูง!

เครื่องในของเซราฟิมแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นเนื่องจากมันมีปอดอยู่ทั้งหมด 3 ข้างและสามารถบีบอัดอากาศภายในปอดให้ปล่อยออกมาทางปากของพวกมันได้ ซึ่งระเบิดลมแรงดันสูงที่พวกมันได้ปลดปล่อยออกมานี้ก็จะระเบิดออกมาในทันทีเมื่อพวกมันได้ปะทะกับสิ่งกีดขวาง

ถึงแม้ระเบิดลมที่ถูกพ่นออกมาจะมีความเร็วสูงมากแต่เซี่ยเฟยก็สามารถเคลื่อนไหวได้เร็วกว่า โดยเขาได้ใช้เท้าถีบพื้นเปลี่ยนทิศทางทำให้สามารถหลบระเบิดลมทั้งสองลูกได้อย่างง่ายดาย

ตูม! ตูม!

เมื่อระเบิดลมได้ปะทะเข้ากับพื้น มันก็ส่งเสียงระเบิดขึ้นมาอย่างรุนแรงพร้อมกับเศษหินดินพืชที่ถูกซัดกระจัดกระจาย

หลังจากฝุ่นควันได้พัดกระจายหายไปมันก็เผยให้เห็นภาพของหลุมลึกมากกว่า 1 เมตรถูกทิ้งไว้บนพื้นดิน

เศษหินดินทรายกระเด็นออกมาใส่ร่างของเซี่ยเฟยอย่างต่อเนื่อง และเนื่องจากว่าเขากำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงเศษหินพวกนี้ก็เพียงพอที่จะทำร้ายร่างกายของเขาได้อย่างแน่นอน แต่โชคดีที่เขาได้สวมใส่ชุดต่อสู้เอาไว้ทำให้เขาไม่ได้รับอันตรายจากเศษหินพวกนี้มากนัก

เมื่อระเบิดลมทั้งสองลูกไม่สามารถสร้างอันตรายให้กับศัตรูได้ เซราฟิมก็ร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธก่อนที่จะพ่นระเบิดลมออกมาจากปากอย่างต่อเนื่อง

ตูม! ตูม! ตูม! …

ภาพที่ปรากฏในขณะนี้เหมือนกับเซี่ยเฟยอยู่ในสนามรบที่มีเสียงระเบิดดังต่อเนื่องขึ้นมาตลอดเวลา

ขณะเดียวกันชายหนุ่มก็อาศัยทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายที่ว่องไวในการหลบการโจมตีเหล่านี้อย่างใจเย็น แต่ร่างกายของเขาก็ยังคงสัมผัสกับเศษหินที่กระเด็นออกมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้เชื่องช้ามากกว่าเดิม

“ดีม่อนแอค!” เซี่ยเฟยร้องคำรามพร้อมกับดวงตาที่เปลี่ยนเป็นสีแดง

ทันใดนั้นใบมีดทั้ง 18 เล่มก็เร่งความเร็วมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่พวกมันจะพุ่งตัวขึ้นไปในอากาศ

ดีม่อนแอคเป็นเทคนิคขั้นสูงของการใช้พลังจิตเพื่อควบคุมวัตถุ ซึ่งมันสามารถทำให้อาวุธระเบิดพลังออกมาได้มากกว่าปกติและสามารถพุ่งเข้าทำลายศัตรูได้ด้วยความรวดเร็ว

การใช้เทคนิคนี้สร้างความรุนแรงให้กับการโจมตีอย่างไม่ต้องสงสัย แต่มันก็สร้างความเสียหายให้กับร่างกายของเซี่ยเฟยด้วยเช่นกัน เขาจึงไม่คิดจะใช้เทคนิคนี้ขึ้นมาเว้นแต่ว่าเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นจริง ๆ

เซี่ยเฟยได้ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะพยายามจัดการกับเซราฟิมให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด เขาจึงไม่สนใจความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ!

ใบมีดของเซเลสเชียลมูนส่งเสียงกรีดร้องผ่านอากาศพร้อมกับเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนมองตามไม่ได้ด้วยตาเปล่า

เซราฟิมที่อยู่บนท้องฟ้าไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าใบมีดที่ศัตรูของมันได้ปลดปล่อยออกมา จู่ ๆ จะเร่งความเร็วขึ้นมาอย่างฉับพลันแบบนี้

ถึงแม้ว่ามันจะพยายามหลบหนีใบมีดเหล่านี้อย่างเต็มที่ แต่มันก็ไม่สามารถหลบหนีการโจมตีของเซี่ยเฟยได้อยู่ดี

การเคลื่อนไหวของใบมีดทั้ง 18 รวดเร็วจนเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันยังจู่โจมมาจากทุกทิศทางทำให้การพยายามหลบหนีการโจมตีจากใบมีดพวกนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! …

ถึงแม้สัตว์ชนิดนี้จะมีการป้องกันที่ค่อนข้างดีแต่มันก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีที่รุนแรงของเซเลสเชียลมูนได้ ทำให้ใบมีดทรงกลมทั้ง 18 เล่มปาดเข้าไปที่ช่องท้องซึ่งเป็นจุดที่เปราะบางที่สุดของเซราฟิม

แอ๊!

สัตว์ร้ายส่งเสียงร้องคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาจากช่องท้องของมันราวกับสายฝนสีแดงที่กำลังตกลงมาบนพื้นดิน

“ทำลาย!” เซี่ยเฟยส่งเสียงตะโกนดังลั่นพร้อมกับทำให้ใบมีดทั้ง 18 เล่มที่ติดอยู่ในช่องท้องของศัตรูเริ่มหมุนด้วยความรวดเร็วอีกครั้งเพื่อทำลายสัตว์ร้ายตัวนี้จากภายใน

เซราฟิมไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่ามนุษย์ตัวเล็ก ๆ ที่อยู่บนพื้นจะสามารถทำร้ายมันได้ถึงขนาดนี้ และถึงแม้ว่ามันจะรู้สึกอับอายแต่สัญชาตญาณกลับกรีดร้องให้มันหลบหนีออกไปโดยเร็วที่สุด

ปีกทั้งหกบนหลังของเซราฟิมเริ่มกระพืออย่างรวดเร็ว โดยพยายามอาศัยความสูงเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของชายหนุ่ม

“คิดจะหนีหรอ ฝันไปเถอะ!”

ถึงแม้พลังจิตของเขาจะจำกัดระยะทางแต่ชายหนุ่มก็บังคับให้ใบมีดทั้ง 18 เล่มบินมาเรียงตัวจนเหมือนกับบันไดจนทำให้เขาสามารถพุ่งตัวขึ้นไปบนอากาศได้

ทุกครั้งที่เซี่ยเฟยออกแรงกระโดดร่างของเขาจะพุ่งขึ้นสูงเหนือพื้นดินมากกว่า 10 เมตรและด้วยเวลาเพียงแค่พริบตาเขาก็กระโดดขึ้นมาในอากาศสูงกว่าหนึ่งกิโลเมตรแล้ว

เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่าหากผู้ใช้พลังจิตมีความสามารถมากเพียงพอ พวกเขาจะสามารถบินในอากาศได้อย่างอิสระ และถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะฝึกใช้พลังจิตมาได้เพียงแค่ 1 ปีแต่เขาก็สามารถใช้วิธีนี้ในการเคลื่อนไหวในอากาศได้

ชายหนุ่มเข้าใกล้เซราฟิมมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่ระยะห่างระหว่างพวกเขาจะลดลงมาเหลือน้อยกว่า 100 เมตร

เมื่อระยะทางบีบสั้นเข้ามา เซี่ยเฟยก็ใช้วิชามนตราอสูร

“สติพิฆาต!” เซี่ยเฟยส่งเสียงตะโกนขึ้นมาอย่างรุนแรงพร้อมกับดวงตาที่เริ่มเปล่งประกาย

สิ่งที่เขาใช้คือเทคนิคที่ได้รับมาจากการสำเร็จวิชามนตราอสูรขั้นที่ 3 ที่สามารถส่งกระแสจิตผ่านดวงตาเพื่อสร้างความเสียหายให้กับจิตใจของสัตว์อสูรได้

ในชั่วพริบตาสติปัญญาของเซราฟิมก็ถูกทำลายลงไป ซึ่งแม้แต่สัญชาตญาณในการหลบหนีที่เป็นสัญชาตญาณพื้นฐานที่สุดของสิ่งมีชีวิตก็ถูกลบหายไปด้วยเช่นกัน!

เมื่อจิตใจไร้สติสัมปชัญญะร่างของเซราฟิมก็ค่อย ๆ ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า โดยภายในแววตาของมันหลงเหลือเพียงความว่างเปล่า

เนื่องจากเซี่ยเฟยตัดสินใจที่จะจัดการกับเซราฟิมให้ได้โดยเร็วที่สุด เขาจึงจำเป็นจะต้องแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมาด้วยเช่นกัน ซึ่งการใช้พลังทั้งสามชนิดนี้ก็เป็นสภาวะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบันของเขาแล้ว

ตุบ!

ร่างของเซราฟิมตกกระทบลงบนพื้นก่อนที่มันจะส่งเสียงครวญครางออกมาเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นมันก็เสียชีวิตลงไป

ในเวลาเดียวกันชายหนุ่มก็ยืนอยู่ในตำแหน่งเดิมพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถจัดการกับสัตว์ร้ายตัวนี้ได้ในคราวเดียว แต่ร่างกายของเขาก็ได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน เขาจึงจำเป็นจะต้องใช้วิชาพรางจิตเพื่อควบคุมลมหายใจให้เขากลับมามีความสงบ

เมื่อเซี่ยเฟยได้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งจิตสังหารอันรุนแรงที่เขาเคยปลดปล่อยออกมาก็ถูกเก็บซ่อนเข้าไปด้านในดังเดิม กลับมาเป็นชายหนุ่มที่มีความใจเย็นเหมือนเดิมอีกครั้ง

ขณะเดียวกันเขาก็นำอุปกรณ์ทดสอบพิษออกมาจากแหวนมิติเพื่อทดสอบเลือดที่ติดอยู่บนใบมีดของเซเลสเชียลมูน ท้ายที่สุดใบมีดทั้ง 18 เล่มก็สัมผัสกับเลือดของเซราฟิมเป็นจำนวนมาก เขาจึงจำเป็นจะต้องระมัดระวังตัวเองเอาไว้

ผลการทดสอบออกมาว่าคราบเลือดพวกนี้ไม่มีพิษร้ายใด ๆ ชายหนุ่มจึงเก็บใบมีดทั้ง 18 เล่มเข้าไปที่แขนขวาดังเดิม

จากนั้นเซี่ยเฟยก็เดินไปทางศพของเซราฟิมพร้อมกับนำเครื่องมือสกัดที่เขามักจะใช้ในการปรุงยาออกมา ก่อนที่เขาจะใช้เข็มจากเครื่องมือชนิดนี้ทำการดูดพิษออกไปจากศพของสัตว์ร้าย

แน่นอนว่าชายหนุ่มย่อมไม่ปล่อยศพของเซราฟิมไปเฉย ๆ เพราะมันถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสัตว์ที่หายาก ทำให้แม้แต่ศพของมันก็สามารถเอาไปขายหาเงินได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

เหตุการณ์ทั้งหมดไม่รอดพ้นจากการสังเกตการณ์ของยานเอเรส และทูรามที่อยู่บนดาวเฮกสตาร์ก็ได้เห็นพลังที่แท้จริงที่เซี่ยเฟยได้เก็บซ่อนเอาไว้ด้วยตาของตัวเอง

“ไม่เลวนี่” ทูรามพึมพำออกมาพร้อมกับเผยรอยยิ้มที่มุมปาก

แต่เดิมชายชราคนนี้ก็ค่อนข้างที่จะชื่นชมความสามารถและเล่ห์เหลี่ยมของเซี่ยเฟยอยู่แล้ว น่าเสียดายที่ตระกูลเจี่ยนเก็บเรื่องที่เกิดขึ้นในตระกูลเอาไว้เป็นความลับ ดังนั้นคลิปวิดีโอที่ชายหนุ่มช่วยแอวริลไว้จึงไม่ถูกเปิดเผยออกไปสู่โลกภายนอก

ด้วยเหตุนี้เองภาพที่เพิ่งปรากฏจึงเป็นครั้งแรกที่ทูรามได้เห็นเซี่ยเฟยใช้พลังพิเศษออกมาถึงสองพลังในเวลาเดียวกัน นอกเหนือจากพลังพิเศษสายความเร็วที่เขาได้เปิดเผยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

ที่สำคัญเซี่ยเฟยยังได้ใช้วิชามนตราอสูรทำลายสติของเซราฟิมโดยตรง และถึงแม้ว่าทูรามจะไม่รู้จักวิชาทำลายจิตใจแบบนี้ แต่มันก็ยังทำให้เขาได้มองไปยังชายหนุ่มด้วยความชื่นชมอยู่ดี

ในความเป็นจริงหลังจากที่เซี่ยเฟยได้ฝึกวิชามนตราอสูรขั้นที่ 3 เรียบร้อยแล้ว เขาก็สามารถใช้วิชามนตราอสูรเพื่อควบคุมสัตว์อสูรชนิดต่าง ๆ ได้เช่นกัน แต่เซราฟิมขึ้นชื่อเรื่องความดุร้ายจนเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งจักรวาล การพยายามควบคุมสัตว์อสูรชนิดนี้จึงจำเป็นจะต้องใช้ระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน

เวลาของฉินหมางใกล้จะหมดลงไปเต็มที เซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องเปิดเผยความแข็งแกร่งเพื่อจัดการเซราฟิมให้ได้โดยเร็วที่สุด นี่ถ้าหากว่าทูรามได้รู้ว่าชายหนุ่มยังปิดบังความสามารถบางส่วนของตัวเองเอาไว้ เขาก็คงจะรู้สึกตกใจมากกว่านี้

“ห้ามเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเซี่ยเฟยออกไปอย่างเด็ดขาด แล้วทำลายวิดีโอที่บันทึกการต่อสู้ของเขาเดี๋ยวนี้!” ทูรามหันไปสั่งกัปตันและรองกัปตันด้วยน้ำเสียงที่เข้มงวด

กัปตันและรองกัปตันต่างก็รีบพยักหน้ารับ ท้ายที่สุดพวกเขาก็รู้จักอำนาจของทูรามเป็นอย่างดี เพราะแม้แต่ประธานของสมาพันธ์จัสทิสก็ยังต้องพูดคุยกับชายชราคนนี้ด้วยความเคารพ

***************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด