ตอนที่แล้วตอนที่ 10 ลอบสังหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 12 หวังว่าแกจะเป็นคนฉลาด

ตอนที่ 11 พ่อบ้านตัวดี


“หือ…กล่องนี้มันมีลูกเล่นอะไรซ่อนอยู่อีก”

มู่เหลียงเห็นสิ่งผิดปกติในกล่องไม้ และรู้สึกว่ามันมีเสียงกลวงๆ ออกมาเมื่อเขย่า

เขาเลยแงะๆ ตรงจุดที่มีเสียง จนแผ่นไม้ก้นกล่องเปิดออก และมีถุงผ้าที่ใส่เมล็ดพืชเอาไว้

“เมล็ดพืชจริงๆ ด้วย!! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงต้องซ่อนไว้ขนาดนี้”

มู่เหลียงปิดถุงผ้าอย่างดี และเก็บมันเข้ากระเป๋าเป้ไปด้วย

ในวันที่โลกล่มสลายแบบนี้ เมล็ดพืชเปรียบเสมือนความหวังในการเริ่มต้นใหม่ และการฟื้นฟูอารยธรรมอีกครั้ง

หลังจากค้นไปทั่วห้องแล้ว มู่เหลียงก็ค้นในตู้เสื้อผ้าของหัวหน้าค่ายด้วย สิ่งที่อยู่ในนั้นทำให้เขาตกใจเข้าไปอีก

ในนี้มีม้วนผ้าหลากหลายสีสันวางทับๆ กันอยู่

“ถ้าของมันจะเยอะแบบนี้ คงต้องหาคนมาช่วยแบกกลับแล้ว”

มู่เหลียงเอาม้วนผ้าทั้งหมด 5 ม้วนออกมาจากตู้ และคิดหาวิธีการขนมันกลับไป

เพราะในห้องแห่งนี้มีหลายสิ่งเลยที่เขาอยากเก็บกลับไปด้วย

ไม่รู้หรอกว่าใครกันที่ส่งมู่เหลียงมาที่โลกแห่งนี้ แต่เขาถูกส่งมาโดยแทบไม่มีของใช้ติดตัวมาเลย อีกทั้งยังอยู่ในโลกที่ล้มสลายแบบนี้อีก ของพวกนี้จึงจำเป็นกับเขา

“เสี่ยวไก แอบเข้ามาหาฉันเดี๋ยวนี้”

เสี่ยวไก(สีน้อย)เป็นชื่อที่มู่เหลียงตั้งให้กิ้งก่าสามสีตามสีบนร่างของมัน ก่อนหน้านี้เขาได้ออกคำสั่งให้มันคุ้มกันมินโฮเอาไว้

แต่ตอนนี้เขาต้องการให้มันมาช่วยแบกของ

เพราะหากเรียกเต่าทมิฬ มันคงเดินแหกรั้วเข้ามาตรงๆ สร้างความวุ่นวายขึ้นแน่

เสี่ยวไกเมื่อได้ยินคำสั่งของมู่เหลียงมันก็รีบเดินทางมาหาในทันที ในระหว่างที่รอเสี่ยวไกมา มู่เหลียงก็จัดเรียงม้วนผ้า และใช้มันห่อดาบที่อยู่ในห้องไปด้วย

และเมื่อเขาลองค้นตู้เสื้อผ้าดูอีกที ก็พบว่ามันมีพวกชุดเสื้อผ้า และผ้านวมอยู่ด้วย

แต่มู่เหลียงไม่ได้ต้องการของพวกนี้

“เดี๋ยว…นี้มันหนังสัตว์ใช่ไหม?”

มู่เหลียงค้นไปเจอกับผ้าผืนหนึ่งที่ดูแปลกกว่าชิ้นอื่น มันคือหนังของหมาป่าที่ถูกเก็บไว้อย่างดี

เขาหยิบมันออกมาและพบว่ามันยังไม่ได้ทำการแปรรูปหรือได้รับการเตรียมการในการแปรรูปเลยด้วยซ้ำ

เป็นหนังหมาป่าหยาบๆ ที่ยังเอาไปใช้งานอะไรไม่ได้

“ก็ไม่แปลกที่จะมีหนังหมาป่าเก็บไว้ ก็เล่นมีหัวหมาป่าในห้องถึงสามหัวแบบนี้”

มู่เหลียงเอาหนังหมาป่าวางลง และจัดให้เรียบร้อย

“ตอนนี้เราคงไม่ต้องกังวลพวกผ้าห่มหรือผ้านวมอีกแล้ว”

หลังจากจัดของเรียบร้อยแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นไปบนเพดานห้อง

เสี่ยวไกได้มาถึงที่นี่อย่างรวดเร็วและได้ไต่อยู่บนเพดานห้องเป็นที่เรียบร้อย

“ลงมาช่วยฉันขนของหน่อย”

มู่เหลียงกวักมือเรียกเสี่ยวไกให้ลงมาหาเขา

กี้!

เสี่ยวไกเอียงหัวมันเล็กน้อยก่อนจะไต่ลงมาจากเพดาน

-“ตัวแกเล็กเกินไปที่จะแบกของพวกนี้หมดแหะ”

มู่เหลียงเห็นว่าม้วนผ้าห้าสีนั้นยาวถึง 1 เมตร และตัวของเสี่ยวไกเองก็ยาว 1 เมตรเหมือนกัน

“คงต้องเพิ่มระดับให้แกก่อน”

มู่เหลียงวางมือบนหัวของเสี่ยวไก ก่อนที่จะสั่งระบบภายในใจ

“วิวัฒนาการกิ้งก่าสามสีเป็นระดับ 3”

-ติ๊ง! กิ้งก่าสามสีระดับ 2 ทำการวิวัฒนาการเป็นระดับ 3 ใช้แต้มวิวัฒนาการ 100 แต้ม-

-กิ้งก่าสามสีระดับ 3 วิวัฒนาการสำเร็จ-

-ติ๊ง! ทักษะกลมกลืนเป็นระดับ 3 วิวัฒนาการทักษะเป็นลอบเร้น-

-ทำการถ่ายทอดความสามารถสู่ร่างเจ้านาย ได้รับความสามารถลอบเร้นระดับ 3-

“ลอบเร้น? หรือว่าตอนนี้เราจะสามารถหายตัวได้แล้ว แม้ว่าจะเคลื่อนไหวตัวอยู่?”

มู่เหลียงให้ความสนใจกับความสามารถใหม่ และได้ลองเปิดใช้งานลอบเร้นทันที

ผิวหนังของมู่เหลียงก็เปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบๆ ตัว และถึงจะเดินอยู่ก็ยังไม่หลุดจากสภาวะพรางตัว

“ไม่มีข้อเสียอะไรเลย แค่มีเวลาหน่วงเล็กน้อยประมาณ 1 วิในการอำพรางตัว แต่หากยิ่งเคลื่อนที่เร็วเท่าไรการพรางตัวจะเปลี่ยนสภาพไม่ทัน”

“ด้วยความสามารถแบบนี้ เราต้องเคลื่อนที่ช้าๆ และการเคลื่อนที่ช้าๆ เสียงที่เกิดก็จะน้อยมาก ซึ่งเหมาะกับงานลอบเร้นตามชื่อของความสามารถเลย!”

มู่เหลียงได้ข้อสรุปทุกอย่างและคิดอยู่ภายในใจ และได้รู้ข้อดีและข้อเสียของความสามารถนี้

แต่สิ่งที่สำคัญเลยคือเขาชอบมันมาก มันสามารถทำให้เขาอยู่ในสภาวะล่องหน และยังเคลื่อนไหวได้

หลังจากที่ได้ลองความสามารถใหม่มู่เหลียงก็เห็นว่าเสี่ยวไกนั้นรูปร่างเองก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นเดียวกัน

ขนาดตัวของมันใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า ลำตัวของมันยาวถึง 2 เมตร ผิวหนังที่เคยเป็นสามสีผสมๆ กันกลายเป็นเกล็ดสีที่ชัดเจนและผสมปนๆ กัน

มีสีเขียว สีแดง สีน้ำเงิน และทุกสีดูฉูดฉาดอย่างมาก

มีหนามแหลมคมงอกขึ้นบนหัว และนัยน์ตาของมันกลายเป็นสีน้ำตาลและดูสุขุมมากขึ้น

“เสี่ยวไก วันหนึ่งฉันจะมอบปีกให้แก แล้ววันนั้นแหละแกจะกลายเป็นมังกรยักษ์”

มู่เหลียงลูบหัวเสี่ยวไกเบาๆ

กี้!!

เสี่ยวไกขานรับ แต่มันก็เอียงหัวเล็กน้อยด้วยความสงสัยว่าอะไรคือมังกรยักษ์

“เอาหล่ะ!! นิ่งๆ เดี๋ยวฉันจะขนของขึ้นบนหลังของแก”

มู่เหลียงเอาม้วนผ้า หนังหมาป่าและดาบมัดติดบนหลังของเสี่ยวไก

กี้…..

ดูเหมือนเสี่ยวไกจะไม่ชอบสักเท่าไรมันบิดตัวไปมา

“กลับไปได้แล้ว ให้มินโฮขนของลงเสร็จแล้วแกค่อยวนกลับมาที่นี่ใหม่อีกครั้ง”

มู่เหลียงโบกมือให้เสี่ยวไก พร้อมกับลอยยิ้มขณะที่มองเสี่ยวไกแบกของออกไป

กี้!!

เสี่ยวไกไต่ออกทางหน้าต่างไปจนเกิดรอยเล็บข่วนเต็มไปหมด

“ไปเร็วสิ!! ก่อนมีคนมาเจอศพของหัวหน้าค่าย!”

มู่เหลียงส่งคำสั่งไปยังเสี่ยวไกก่อนจะออกจากห้องหัวหน้าค่ายไป

ที่รอบๆ ห้องโถงนั้นมีสาวใช้ยืนรออยู่ เผื่อหัวหน้าค่ายจะเรียกใช้งานเธอ

เป้าหมายต่อไปของมู่เหลียงคืออาหาร ในเมื่อเขามาถึงที่นี่สิ่งต่อไปที่เขาจะต้องเอาออกไปด้วยคืออาหาร

ขณะที่กำลังสำรวจหาอยู่นั้นเขาก็พบร่างหนึ่งที่แอบทำตัวลับๆ ล่อๆ อยู่

“นั้นมันพ่อบ้านไม่ใช่งั้นหรอ?”

มู่เหลียงจำรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายได้ทันที ว่าเป็นพ่อบ้านที่เข้ามาในห้องโถงในตอนนั้น

แต่มู่เหลียงอย่างรู้ว่าทำไมเขาต้องทำตัวลับๆ ล่อๆ ในบ้านของหัวหน้าค่ายด้วย

พ่อบ้านมองซ้ายและขวาอย่างระมัดระวัง และเมื่อตรวจสอบดีแล้ว ว่าไม่มีใครเห็นเขาจึงแอบเข้าไปในห้องหนึ่งอย่างเงียบๆ

มู่เหลียงผ่านตรงจุดนั้นมาแล้ว และจำได้ว่านี้คือห้องครัวของบ้านหลังนี้

นอกจากพ่อบ้านแล้วยังมีสาวใช้อีกคนที่อยู่ในห้องนี้ด้วย

แอบขโมยของงั้นหรอ?

ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวของมู่เหลียงทันที ก่อนที่ความคิดนี้จะหายไป

“พ่อบ้าน! นายบ้าไปแล้วหรอ…ทำไมถึงเอาเนื้อไปเยอะขนาดนั้น ถ้าหัวหน้ารู้เข้า เขาเอาเราตายแน่!”

สาวใช้เมื่อเห็นพ่อบ้านโกยเนื้อใส่ถุงผ้าก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ

ปกติแล้วพ่อบ้านมักจะแอบเข้ามาขโมยเนื้อกิน แต่เธอก็ช่วยปกปิดทุกครั้ง

แต่หากเขาเอาเนื้อไปมากขนาดนี้เธอก็ช่วยปกปิดไม่ได้

“หัวหน้าบ้าไปแล้ว เขาคิดจะเข้าร่วมกับกลุ่มโจรเคราโลหิต เพื่อจัดการคนในค่ายที่ไม่เชื่อฟังเขา”

พ่อบ้านพูดด้วยความโกรธแค้น

“วันนี้ฉันไม่ได้ไปทำตามคำสั่งที่หัวหน้าค่ายบอก และไม่ไปพบโจรพวกนั้นที่เนินเขา แต่ไม่คิดว่าเขาจะนัดแนะกับมันล่วงหน้าไว้แล้ว”

ถูกต้องแล้วพ่อบ้านโกหกหัวหน้าตอนที่อยู่ในห้องโถง เรื่องที่ไปยังเนินเขา

ตอนนี้มู่เหลียงเข้าใจทุกอย่างแล้ว พ่อบ้านคนนี้กำลังคิดที่จะหนีไปจากค่ายแห่งนี้

พ่อบ้านคิดว่าการที่เขาไม่ไปพบเจอกับพวกโจรที่เนินเขาจะทำให้พวกโจรกับหัวหน้าระแคะระคายกัน แต่ไม่คิดว่าเขาจะแอบไปตกลงกับหัวหน้าของกลุ่มโจรเคราโลหิตไว้แล้ว

ตอนนี้ไม่มีความลับใดอีกแล้ว หากว่าทั้งสองเจอหน้ากัน ความลับก็จะแตกว่าเขาไม่ยอมทำตามแผนของหัวหน้าค่าย

พ่อบ้านเลยคิดจะหนีออกจากค่ายตอนเช้ามืด

“ทำไม…หัวหน้าถึงคิดร่วมมือกับพวกโจรเคราโลหิตล่ะ”

สาวใช้ตกใจมากจนเสียอาการและแสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจน

พ่อบ้านผลักสาวใช้อย่างเร่งรีบ

“รีบไปเก็บของซะ”

“เข้าใจแล้ว!”

สาวใช้เมื่อได้สติก็พยักหน้าหลายครั้งก่อนที่เธอจะเดินออกไป

พ่อบ้านเมื่อเห็นสาวใช้เดินออกไปเขาก็ยังเก็บเนื้อตากแห้งที่เหลือต่อ

เขาไม่เปลี่ยนใจที่จะหนี

ความจริงแล้วเขาเองก็วางแผนเตรียมตัวจะหนีอยู่แล้ว

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด