ตอนที่แล้วบทที่ 94 - กลับไปที่โรงเรียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 96 - ติดตามสถานการณ์ในสถาบัน

บทที่ 95 - พี่น้องกลับมาเจอกัน


สถาบันเวทย์มนต์หลวงระดับสูง อาณาจักรอ้ายเซี่ย ห้องเรียนชั้นปีที่ 3 ห้อง 3

อาจารย์ประจำชั้นของห้อง นักเวทย์ธาตุน้ำหยูสื่อหลาน! ยืนอยู่ที่หน้าห้อง “ทั้งห้องเงียบหน่อย! อาจารย์จะแนะนำนักศึกษาที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ เว่ยจางกง”

หลังจากที่อาจารย์หยูพูดจบ ผมเดินเข้ามาในห้อง หยุดยืนอยู่ที่หน้าชั้นเรียนและส่งยิ้มบาง ๆ ให้กับเพื่อนร่วมชั้น “สวัสดีทุกคน! ผมหวังว่าทุกคนจะช่วยดูแลผมในอนาคต วิชาธาตุหลักของผมคือเวทย์แสง ส่วนวิชาธาตุรองคือเวทย์มิติ”

“เขาเป็นใครมาจากไหน? ทำไมถึงได้ข้ามมาเรียนปี 3 เลย? เขาควรจะเริ่มเรียนจากปี 1 ใช่มั้ย?”

“จริงด้วย! ถึงเขาจะดูหน้าตาดีนิดหน่อยก็เถอะ แต่เรายังไม่รู้ความแข็งแกร่งของเขาเลย” นักศึกษาหญิง 2 คนกระซิบกันอยู่

“พวกเธออาจจะไม่รู้เรื่องนี้ แต่เขาถือว่าเป็นคนที่มีชื่อเสียงมาก เขาคือนักเรียนอัจฉริยะที่จบมาจากโรงเรียนมัธยมเวทย์มนต์หลวง เขาเป็นตัวแทนนักเรียน 5 ปีติดต่อกัน! แข็งแกร่งใช่มั้ย? ฉันเคยได้ยินว่าเขาน่าจะเป็นเมธีเวทย์แล้ว!” นักศึกษาหญิงอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ หันมาร่วมวงด้วย

“อา!! จริงหรือเปล่า?? แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยหรือ? ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต่างกับอาจารย์เลยสิ มันคงจะดีไม่น้อยนะ ถ้าฉันได้เป็นเพื่อนเขา หรือจะคบกับเขาเลยดี?”

“ไม่ต้องฝันเลย! ด้วยหน้าตาอย่างเธอ อยากคบกับเขา? ถ้าเขาจะมีผู้หญิงสักคน มันควรเป็นฉันมากกว่า!”

“เธอก็หยุดฝันกลางวันไปเลย!”

ที่หน้าห้อง อาจารย์หยูหันมาบอกกับผม “จางกง! ไปนั่งที่แถวหลัง ที่เก้าอี้ที่ว่างอยู่ตรงนั้น!”

ผมพยักหน้ารับ “ได้ครับ! ขอบคุณมากครับอาจารย์”

หลังจากนั้นผมก็เดินไปที่หลังห้อง แล้วนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่างอยู่

อาจารย์ตี้จัดการเรื่องทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วมาก ภายในระยะเวลา 2 วัน เขาจัดการลงทะเบียนให้ผมเข้าเรียนในสถาบันได้แล้ว ผมได้ยินว่าหม่าเคอเรียนอยู่อีกชั้นหนึ่ง แล้วผมยังไม่เจอกับเขาเลย ผมตัดสินใจว่าจะไปตามหาเขาหลังจากเรียนจบคาบแล้ว

“เอาล่ะ! อาจารย์จะเริ่มสอนบทเรียนของวันนี้แล้ว วันนี้เราจะเรียนกันเรื่องวิธีการควบคุมเวทย์มนต์ระดับสูง อย่างแรก! พวกเธอต้องมีพลังเวทย์ที่มากพอที่จะสนับสนุนเวทย์ที่พวกเธอร่ายออกมา เราจะเริ่มควบคุมเวทย์ได้ก็ต่อเมื่อยังมีพลังเวทย์เหลืออยู่หลังจากการร่ายเวทย์สำเร็จแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเธอจะไม่สามารถโจมตีถูกตัวคู่ต่อสู้ได้ การปล่อยเวทย์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาจส่งผลให้มันกลับมาทำร้ายตัวเอง หรือแม้แต่ทำร้ายเพื่อนร่วมทีมของพวกเธอได้” อาจารย์หยูทำหน้าตาขึงขังระหว่างที่กำลังสอน

เหล่านักศึกษานั่งเรียนกันอย่างอารมณ์ดี อาจารย์คนนี้มีวิธีการสอนที่น่าสนใจ ผมใช้มือขวายันหัวตัวเองไว้ และมองไปยังอาจารย์ที่อายุประมาณ 40 ปีที่สอนอยู่หน้าห้อง

“อาจารย์ต้องการให้ทุกคนมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มพลังเวทย์กันก่อน นี่เป็นเรื่องที่สำคัญมาก! พลังเวทย์เป็นแหล่งพลังของเวทย์มนต์ทุกชนิด ตอนนี้พวกเรากลับไปที่หัวข้อหลักกัน เมื่อพวกเธอมีพลังเวทย์เหลือพอที่จะสนับสนุนเวทย์ที่ร่ายออกไปแล้ว พวกเธอต้องพึ่งพาพลังวิญญาณของตัวเองในการควบคุมเวทย์ ยกตัวอย่างเช่น! หม่าเคอ นักศึกษาจากห้อง 1 เป็นคนที่มีพลังวิญญาณสูงมาก เขาสามารถควบคุมเวทย์มนต์ได้จนถึงระดับตามใจนึกได้อย่างง่ายดาย ถ้าเขาปล่อยลูกบอลไฟธรรมดาออกไปจู่โจมศัตรู แน่นอนศัตรูต้องหลบได้ไม่ยาก แต่เขาสามารถควบคุมให้มันเคลื่อนที่เป็นแนวโค้ง และหักเลี้ยวได้ ด้วยวิธีนี้ศัตรูจะหลบหลีกได้ยากขึ้น และมีโอกาสโจมตีถูกศัตรูได้มากขึ้น ยิ่งถ้าพวกเธอสามารถควบคุมให้มันไล่ตามศัตรูได้ นั่นหมายถึงว่าเธอใช้เวทย์นั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว”

ผมคิดอยู่คนเดียวในใจ ‘ดูเหมือนว่าหม่าเคอค่อนข้างจะมีชื่อเสียงนะเนี่ย’ อาจารย์ประจำชั้นอื่นยังเอาเขามาเป็นตัวอย่าง แสดงว่าเขาไม่ได้ทำตัวว่างไปเปล่า ๆ ในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา และคงพัฒนาขึ้นอย่างมากแน่นอน แต่ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะบรรลุระดับเมธีเวทย์แล้วหรือยัง!

หลังจากนั้นไม่นานชั้นเรียนของอาจารย์หยูก็จบลง ผมตั้งใจจะออกไปตามหาหม่าเคอ ผมยังพกมีดสั้นที่เขาให้ผมเป็นของขวัญอยู่ และเอาออกมามองดูอยู่บ่อยครั้งในเวลาว่าง ๆ แก้คิดถึงเขา หม่าเคอเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องที่ดีที่สุดคนหนึ่งของผม ตอนนี้ผมเริ่มตื่นเต้นแล้วที่จะได้เจอเขาอีก

ผมหันไปถามนักศึกษาหญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างผม “ขอโทษครับ! ผมจะไปที่ชั้นเรียนปี 3 ห้อง 1 ได้ยังไง? ผมต้องการหาใครบางคน”

นักศึกษาหญิงที่นั่งอยู่ข้างผมดูธรรมดามาก แม้ว่าจะรูปร่างค่อนข้างดี น่าจะสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ดูเหมือนกำลังนั่งฝันกลางวันอยู่ ไม่ได้สนใจว่ามีใครกำลังพูดกันเธอ ผมมองดูเธอระหว่างที่รอคำตอบ มือของเธอดูสวยและเรียบเนียน เหมือนมีแสงจาง ๆ อยู่ใต้ผิวหนังของเธอ แสดงว่าเธอต้องเป็นคนที่มีผิวพรรณดีแน่นอน

ตอนที่ผมมองไปถึงดวงตาของเธอ ผมตะลึงไปครู่หนึ่ง ดวงตากลมโตของเธอให้ความคุ้นเคยอย่างประหลาด และมันมีเสน่ห์มาก ถ้ามีการจัดอันดับดวงตา นี่น่าจะเป็นดวงตาที่สวยเป็นอันดับต้น ๆ แน่นอน แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผมรู้สึกว่าดวงตาของเธอมีความไม่ชอบมาพากลแฝงอยู่ ผมยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นเธอมองมาที่ผมด้วยสายตาอันว่างเปล่า

ผมกลับมาตั้งสติได้ก่อน ผมโบกมือผ่านหน้าของเธอ “ขอโทษที่รบกวน! แต่ช่วยบอกหน่อยได้มั้ยว่าฉันจะไปที่ปี 3 ห้อง 1 ได้ยังไง?”

“อา!” ดูเหมือนเธอจะตั้งสติได้แล้วเหมือนกัน เธอก้มหน้าลง ก่อนบอกผมว่า “ออกจากห้องไปมันอยู่ทางซ้าย ถัดจากห้องนี้ไปอีก 2 ห้อง”

“ขอบใจมาก!” ผมไม่ได้คิดอะไรต่อ ผมแค่ต้องการใช้เวลาระหว่างคาบเรียนไปหาหม่าเคอก่อน ผมเดินไปตามทางที่เธอบอก ในที่สุดก็เจอปี 3 ห้อง 1 นักศึกษาในห้องก็กำลังพักอยู่ ในห้องกำลังวุ่นวายทีเดียว โดยเฉพาะที่มุมห้องนั้น สาว ๆ เต็มไปหมด ดูเหมือนพวกเธอกำลังปรึกษาอะไรกันอยู่สักอย่าง

ผมขี้เกียจมองหา ผมตะโกนเลย “ขอโทษทุกคนครับ!! หม่าเคออยู่ที่นี่หรือเปล่า?” แน่นอนวิธีนี้ได้ผล ทุกคนในห้องต่างก็หันมองมาที่ผม

หม่าเคอดูเหมือนจะแก่ขึ้นไม่น้อย ฮ่าฮ่า! แต่เสียงของเขายังค่อนข้างเหมือนเดิม “ฉันอยู่นี่ แต่ว่านายเป็นใคร?” แล้วทำไมเขาปรากฏตัวออกมาจากมุมที่เต็มไปด้วยสาว ๆ นั่นล่ะ

ผมยิ้มให้เขา ดูเหมือนเขาจะสติหลุดไปแล้ว หลังจากที่จำได้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าเป็นผม

เขารีบแหวกทางออกมาจากสาว ๆ แล้วรีบวิ่งมาที่ผม เขากระโดดเข้ากอดผมแน่นเชียว “พี่ใหญ่ ใช่พี่จริง ๆ มั้ยเนี่ย? พี่กลับมาแล้ว!”

ผมตบไหล่เขา “ฉันตัวเป็น ๆ เลย! มันจะเป็นใครไปได้? แน่นอนฉันต้องได้กลับมาอยู่แล้ว!” การกลับมาเจอกับพี่น้องทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย

ผมมองออกไปรอบ ๆ ห้อง เห็นมีแต่คนมองมาที่พวกเรา พวกเขาจะเข้าใจผิดมั้ยนะ? ทำไมทำหน้าทำตาอย่างนั้น ทำไมต้องอ้าปากค้างด้วย ผมรีบบอกหม่าเคอ “พวกเราไปหาที่คุยกันที่อื่นเถอะ ฉันไม่อยากเป็นจุดสนใจ”

หม่าเคอกวาดตามองรอบ ๆ เหมือนกัน ก่อนจะรีบบอก “ไปเถอะ! ลงไปคุยกันที่สนามข้างล่าง” แล้วเขาก็ดึงผมออกจากห้องเรียน

เสียงดังตามออกมาจากในห้อง “นั่นใครน่ะ! ทำไมหม่าเคอดูตื่นเต้นจัง?”

“ใช่! ดูเหมือนจะหน้าตาดีด้วยนะ แต่ฉันว่าฉันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย เขาอยู่ในสถาบันของเรามั้ย?”

“หม่าเคอไม่ได้ชอบผู้ชายใช่มั้ย? ใช่มั้ย?”

“แก! แกกล้าปากเสียใส่หม่าเคอ! ฉันจะเผาแกด้วยเวทย์ไฟเดี๋ยวนี้!”

“ใช่! ใครกล้าพูดไม่ดีเรื่องหม่าเคอ เจอดีแน่ ๆ” เสียงคำรามดังมาจากกลุ่มสาว ๆ

ผมสะกิดหม่าเคอ ก่อนจะล้อเขา “ฉันไม่เคยรู้เลยนะว่าสองปีที่นายอยู่ที่สถาบันเวทย์มนต์หลวง จะทำให้นายเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ถึงขนาดมีสาว ๆ มารุมล้อมเลยนะ นายนี่เปลี่ยนเป็นเนื้อหอมขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร?”

หม่าเคอต่อยผมหนัก ๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนจะใช้เสียงที่เกือบเป็นการตวาดใส่ผม “ไม่ต้องมาล้อผมเล่นเลย! แค่นี้ผมก็เบื่อจะแย่อยู่แล้ว พี่อยากได้บ้างมั้ย เอาไปให้หมดเลย!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด