ตอนที่แล้วตอนที่ 7 การเติบโต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 บ้านหัวหน้าค่าย

ตอนที่ 8 บ้านเคลื่อนที่


“มินโฮ ระหว่างกิ้งก่าตัวนี้กับเจ้าเต่าทมิฬเธอมีความคิดเห็นอย่างไรกับพวกมัน?”

มู่เหลียงถามขึ้นพร้อมกับหันไปมองมินโฮ

“เต่าทมิฬ?”

มินโฮชะงักไปนิดนึง ก่อนที่จะนึกได้ว่ามันคือชื่อเต่าที่มู่เหลียงฝึก

ก่อนที่นางจะก้มหน้าและครุ่นคิดอะไรสักอย่างและพูดขึ้นอย่างมั่นใจ

“หากดูจากขนาดแล้วเจ้ากิ้งก่าน่าจะเก่งกว่า!”

มู่เหลียงพยักหน้าเห็นด้วย ขนาดของเจ้าเต่าทมิฬมันใหญ่โตเกินไปจริงๆ

และมีข้อเสียอีกหลายอย่างทั้ง เชื่องช้า และเทอะทะไม่มีความคล่องตัว

แต่ความสามารถหนามหินของมันก็พอจะทดแทนข้อเสียเหล่านี้ได้

“มู่เหลี่ยง ฉันขอปีนขึ้นไปบนตัวมันได้ไหม?”

มินโฮกระพริบตาหลายครั้ง พร้อมกับจ้องมองมู่เหลียงอย่างกระตือรือร้น

“ได้สิ!”

มู่เหลียงยิ้มน้อยๆ ก่อนจะตอบกลับไป

มู่เหลียงสั่งให้เต่าทมิฬใช้หนามหินสร้างบันไดให้พวกเขาขึ้นไปบนหลังของมัน

แอ๊!!

เต่าทมิฬร้องออกมาอีกครั้ง ก่อนที่หินบนกระดองของมันจะหดลง และให้ทั้งสองขึ้นไปบนหลังของมันได้

“ว้าว เจ้าเต่าทมิฬ เจ้าเข้าใจที่เราพูดด้วยงั้นหรอ!”

สายตาของมินโฮนั้นดูเป็นประกาย และดูสนอกสนใจเต่าทมิฬมากขึ้นไปอีก ก่อนจะเดินขึ้นบันไดหินไป

บนหลังของเต่าทมิฬเป็นลานกว้างๆ วงกลม ประมาน 7 - 8 เมตร

และที่รอบๆ ขอบกระดองของมันก็เป็นหินยกสูง 1 เมตร กลายเป็นรั้วโดยธรรมชาติ

“เต่าน้อยแกใส่ใจจริงๆ”

แอ๊!!

เต่าทมิฬร้องออกมาตอบรับคำชมของมู่เหลียงอย่างมีความสุข

“เจ้าเต่าทมิฬน้อยมันฉลาดจริงๆ”

มินโฮปีนขึ้นไปบนหลังเต่าทมิฬ และมองลงไปยังบันใดหินที่เดินชึ้นมาและเห็นว่าบันไดกำลังหดกลับเข้าไปในพื้น

เด็กสาวมองไปรอบๆ หลังเต่าที่ดูแบนและเป็นลานโล่งๆ

มินโฮจึงพูดขึ้นอย่างติดตลกว่า

“มู่เหลียง ไม่คิดบ้างหรอว่า เราสามารถสร้างบ้านบนหลังของเต่าทมิฬน้อยได้!”

“นั้นสิ…สิ่งนี้ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้เสียด้วย”

มู่เหลียงได้แรงบันดาลใจจากคำพูดเล่นของมินโฮทันที และความคิดนี้เข้าท่ามาก

สุดท้ายเขาเองก็ต้องมีสัตว์อสูรที่ฝึกเลี้ยงมากขึ้นในอนาคต มันคงไม่เหมาะที่จะไปอาศัยอยู่ชุมชนอื่น

และไม่มีทางที่จะอาศัยนอนตากลมห่มฟ้าของโลกที่พังพินาศแบบนี้ได้ด้วย

แต่หากมีเต่าทมิฬ และมันยังเติบโตต่อไปได้เรื่อยๆ ขนาดของมันย่อมใหญ่โตตามไปด้วยอย่างแน่นอน

และบนหลังของเต่าทมิฬนั้นพอจะปรับแต่งเป็นที่อยู่อาศัยได้

มินโฮเองก็มองมู่เหลี่ยงที่กำลังใช้ความคิดอยู่ และถามขึ้นเบาๆ ว่า

“นี้ไม่ใช่ว่ามู่เหลี่ยงคิดจะสร้างบ้านบนหลังเต่าทมิฬจริงๆ ใช่ไหม?”

“ตอนนี้ยัง แต่อนาคตไม่แน่”

มู่เหลียงเมื่อได้ยินคำถามก็ได้สติกลับมา และยิ้มออกมาเล็กน้อย

“แต่อย่างน้อยๆ ก็พอที่จะสร้างเพิงไม้เล็กๆ ชั่วคราวได้!”

“นี้ๆ อนาคตเราจะมีบ้านอยู่บนหลังเต่านี้จริงๆ งั้นหรอ?”

มินโฮถามต่อด้วยความตื่นเต้น

“แล้วมินโฮรู้สึกยังไงกับการที่จะมีบ้านเคลื่อนที่ได้ละ?”

มู่เหลียงยกมือขึ้นจับคางแล้วพูดต่อ

“แต่ยังไม่จำเป็นต้องรีบร้อนตอนนี้”

มินโฮกระโดดไปกระโดดมาด้วยความดีใจ และดูเหมือนว่าจะตั้งหน้าตั้งตารอเลยทีเดียว

“ถ้าถึงตอนนั้น พวกเราจะเดินทางไปที่ไหนก็ได้ โดยมีบ้านเคลื่อนที่ ความรู้สึกเหมือนนักล่านักสำรวจเลย!”

มินโฮคิดว่าการเดินทางอาจจะช่วยทำให้เธอตามหาพี่สาวของเธอได้

“มู่เหลียง ถ้าเราก่อกองไฟบนหลังของเต่าทมิฬ มันจะไม่ร้อนงั้นหรอ?”

“ไม่หรอก กระดองของมันเป็นหินมันกันไฟกันร้อนได้”

“มู่เหลียง หากเราขนของมาเยอะ เต่าทมิฬจะรับน้ำหนักไหวไหม ฉันกลัวมันหนัก..”

“ฉันว่าต่อให้ขึ้นมาอีกสักร้อยคนเต่าทมิฬก็ยังเดินได้สบายๆ!”

มู่เหลียงพิงตัวกับรั้วหิน และดูเด็กสาววางแผนต่างๆ นาๆ ในการเตรียมตัวมาอยู่บนหลังเต่า

เขานั้นรู้สึกได้เลยว่าชีวิตของเขามีชีวิตชีวามากขึ้นตั้งแต่รู้จักกับมินโฮ

มินโฮอยู่ๆ ก็ตะโกนขึ้นอย่างฉุนเฉียว

“มู่เหลี่ยง กลับค่ายก่อน!! ฉันจะกลับไปเอาเพิงไม้!”

“เข้าใจแล้วไม่ต้องกังวลไปหรอก”

มู่เหลี่ยงสายหัวพร้อมกับอมยิ้ม

“อย่าตื่นเต้นจนลืมเรื่องโจรด้วยล่ะ”

“อะ!! จริงด้วย….เกือบลืมไปแล้วเชียว”

มินโฮแลบลิ้นออกมานิดนึงและพูดออกมาอย่างเขินอาย

เด็กน้อยเดินมาหามู่เหลียง และใช้มือเล็กๆ ของเธอจับชายเสื้อของชายหนุ่ม ก่อนที่จะพูดขึ้นอย่างแผ่วเบา

“แต่ถ้ามันเสี่ยงเกินไป….เราก็ออกเดินทางกันวันพรุ่งนี้เลยก็ได้นะ”

แม้ว่ามินโฮจะเป็นเด็กใจดีก็ตาม แต่เวลานี้เธอกลับแสดงความเห็นแก่ตัวออกมา และไม่สนใจคนในค่ายของเธอ

มินโฮไม่ต้องการให้มู่เหลียงนั้นเสี่ยงอันตราย เธอกลัวว่าจะสูญเสียความหวังที่จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ของเธอ

“ไม่มีอะไรต้องกลัวหรอก”

มู่เหลี่ยงตอบกลับไป ก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มีก้อนเมฆสีเทาบดบังแสงอาทิตย์

แล้วก่อนที่เมฆนั้นจะพัดผ่านไป ทำให้แสงส่องลงบนหน้าของมู่เหลี่ยงอีกครั้ง

มู่เหลี่ยงแค่ไปเตือนคนในค่ายเท่านั้น ถ้าหากว่าทุกคนไม่เชื่อเขา

อีกสองวันเขาจะออกเดินทางไปพร้อมกับมินโฮ

โลกนี้ เขาไม่จำเป็นต้องเป็นคนดี และสนใจคนอื่น หากแสดงความเมตตาแล้วไม่รับก็ปล่อยไปตามทางของเขา

“ว่าแต่..มินโฮเธอไม่มีคนในค่ายที่สนิทและผูกพันบ้างเลยหรอ”

“อย่างเพื่อนอะไรแบบเนี้ย”

มู่เหลี่ยงไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับมินโฮเลยจึงถามขึ้น

“มีกลุ่มคนไม่กี่คนที่จับกิ้งก่าตัวเล็กแบบฉัน และก็พอจะเป็นมิตรกันอยู่”

ก่อนที่มินโฮจะมองไปอีกทางและพูดขึ้นอย่างเซงๆ

“แต่ฉันเลือกจะปลีกตัวเองอยู่คนเดียว”

“ก็เรียกว่าเพื่อนได้สินะ”

มู่เหลี่ยงถามต่อ

“ก็อาจจะใช่…..น่าจะใช่…”

แววตาของมินโฮดูเลื่อนลอยเล็กน้อย ก่อนที่จะเกาแก้มอย่างเขินๆ

มินโฮนึกถึงกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ออกไปล่ากิ้งก่ากับเธออยู่บ่อยๆ แต่มักจะจับได้ไม่เท่าเธอ และบางทีเขาก็พยายามจะขโมยกิ้งก่าของเธออีกด้วย

แต่ผลลัพธ์ก็พอจะคาดเดาได้เด็กสาวเป็นผู้กลายพันธ์ ด้วยพลังที่มีเธอได้ทำร้ายพวกเขาจนบาดเจ็บร้องไห้กลับไป และเด็กสาวเองก็ปล้นกิ้งก่าจากพวกเขาหลายครั้ง

หลังจากนั้นมาคนเหล่านี้ก็ไม่กล้าเข้าใกล้มินโฮอีกเลย

“มันก็ดูไม่เหมือนเพื่อนเท่าไร”

การแสดงออกของมินโฮทำให้มู่เหลียงพอจะเข้าใจได้ว่ามันเกิดเรื่องยากลำบากอะไรขึ้นแน่

นอกจากนี้เขายังเห็นแล้วว่าก่อนหน้านี้เด็กสาวใช้ชีวิตมาอย่างยากลำบากขนาดไหน

และเขาคงเป็นเพื่อนคนแรกของเธอ

5 3 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด