ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2 ผู้ตื่น

ตอนที่ 1 โลกที่ไร้อารยธรรม


“ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเรื่องจริง…เรื่องข้ามมายังโลกอื่น และเป็นโลกหลังวันโลกาพินาศแบบนี้อีก….นี้พระเจ้าท่านต้องการมอบโอกาสให้ผมเริ่มต้นใหม่ หรือลงโทษกันแน่?”

มู่เหลี่ยงบ่นกับตัวเองอย่างสิ้นหวัง หลังจากที่ได้ผ่านเหตุการณ์ข้ามโลกมา

มู่เหลียงอยู่มาอยู่ที่โลกนี้ได้ห้าวันแล้ว และการที่เขาเคยเป็นทหารเก่าทำให้เขาเริ่มเก็บข้อมูลของโลกแห่งนี้มาได้บ้างเล็กน้อย

โลกแห่งนี้กว้างใหญ่กว่าโลกที่เขาเคยอยู่ แต่อารยธรรมทั้งหมดถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้ว

แผ่นดินไม่สามารถทำการเพาะปลูกอะไรได้อีกแล้ว พื้นที่กว่าหลายพันกิโลเมตรรกร้าง และไร้ชีวิตชีวา

ฝนตกต่อปีน้อยมาก และถึงจะตกลงมาก็เป็นฝนพิษ

ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆฝุ่นหนาทึบ จนแสงไม่สามารถสาดส่องลงมาได้ มีนานๆ ครั้งที่แสงของแดดส่องลงมาถึงพื้นดิน

“หาได้นอนพักฟื้นสักวันสองวันก็น่าจะมีกำลังไปต่อ…”

มู่เหลี่ยงนั้นขยับแขนของตัวเองดู และรู้สึกได้ถึงความปวดร้าวมาจากข้างในแขนของเขา

หากจะใช้งานได้จริงๆ คงต้องพักฟื้นอย่างน้อยห้าวันเต็มๆ

มู่เหลี่ยงที่นั่งอยู่ในกระท่อมไม้เล็กๆ และพยายามสอดส่องสายตาออกไปข้างนอกตลอด

เมื่อถึงเวลาพลบค่ำ ภาพของแผ่นดินที่แห้งแล้งก็ยิ่งดูน่าสลดใจมากขึ้น

“โลกนี้มันพังไปแล้ว ไม่ต่างจากโลกหลังวันโลกาพินาศ มันคือจุดจบของโลกเราสักวันหนึ่ง….แต่ฉันดันต้องมาเจอมันก่อนเนี้ยสิ”

มู่เหลียงนั้นเป็นเด็กกำพร้า และไม่มีปัญญาส่งตัวเองเรียนในวิทยาลัย เขาจึงสมัครเข้ากองทัพหลังจากที่เรียนไปได้ครึ่งทางแล้ว

5 ปีในกองทัพในฐานะทหารหน่วยรบพิเศษ อยู่ๆ แผลเก่าของเขาก็กำเริบ ทำให้มู่เหลียงไม่มีทางเลือกนอกจากออกจากกองทัพ

เขาวางแผนที่จะเอาความรู้ต่างๆ ที่ได้รับมาจากกองทัพ มาทำคลิปวิดีโอสั้นๆ

เพื่อถ่ายทำรายการเอาชีวิตรอดในจังหวัดทุรกันดาร

โดยที่ไม่คาดฝัน มู่เหลียงนั้นโชคร้ายเจอรอยแยกประหลาดขณะที่เกิดแผ่นดินไหว เลยตกเข้าไปในนั้น

เวลานั้นเขาคิดว่าตัวเองจะตายแล้ว

แต่ชั่วพริบตาต่อมาเมื่อเขาลืมตาขึ้นก็พบว่ากำลังนอนอยู่ในโลกที่พังทลายไม่ต่างจากวันโลกาพินาศ ร่างกายของเขาเจ็บปวดจนขยับตัวไม่ได้

โชคดีที่ตรงนี้ไม่ใช่เส้นทางที่คนสัญจรมากนัก และบังเอิญมีเด็กสาวที่แต่งตัวเหมือนเด็กผู้ชายช่วยเขาเอาไว้ และพามู่เหลียงมารักษาที่บ้านของตัวเอง

มู่เหลี่ยงนั้นถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

“ช่วยไม่ได้ คงต้องเอาชีวิตรอดในโลกที่พังพินาศนี้แล้วสินะ”

เขาอยู่ในฐานะคนจรหากคนในค่ายนี้เจอเข้า เขาก็ต้องรีบหนีทันที

ตามที่มินโฮบอกกับเขา ว่าคนจรจะถูกตีและซ้อมจนตาย หรือไม่ก็ถูกนำไปใช้งานอย่างหนักจนเสียชีวิต

ไม่ว่าทางไหน มู่เหลี่ยงก็ไม่ต้องการทั้งนั้น

มินโฮคือเด็กสาวที่แต่งตัวเหมือนเด็กผู้ชาย เป็นคนที่ช่วยมู่เหลี่ยงเอาไว้ และเด็กน้อยก็เป็นคนแอบพามู่เหลียงมารักษาที่บ้านของเธอ

แคร็ก!!

อยู่ๆ ก็มีเสียงกิ่งไม้เล็กๆ หักดังขึ้น

มู่เหลียงนั้นฟื้นคืนสติทันที และแง้มมองดูข้างนอกอย่างระมัดระวัง

เขาเห็นร่างเล็กๆ ที่ดูมอมแมมกำลังเดินตรงมายังกระท่อมไม้แห่งนี้

มู่เหลียงที่ตื่นตัวเต็มที่ ก็ลดการป้องกันลง เพราะร่างนั้นคือมินโฮ

แอ๊ด….

เสียงของประตูกระท่อมไม้เปิดออก อย่างช้าๆ และระมัดระวัง

ก่อนที่จะปิดลงในทันที

“อ้ะ!!!.....นายทำอะไรของนายน่ะ แอบอยู่หลังประตูทำไม แถมไม่พูดไม่จาสักคำ”

เมื่อมินโฮปิดประตูก็เห็นว่ามู่เหลียงนั้นแอบอยู่ใกล้ๆ ทำให้หัวใจของเด็กน้อยแทบวาย

“ออกล่าเป็นไงบ้าง”

มู่เหลียงก้าวออกมาจากประตู และเอนตัวนั่งลง

“มู่เหลียง นายเก่งจริงๆ กับดักที่นายสอนให้ฉันทำมันช่วยฉันได้เยอะจริงๆ”

มินโฮพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น และมู่เหลี่ยงเองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน

มินโฮก็พูดต่อทันที

“วันนี้ฉันจับกิ้งก่าได้เยอะกว่าทุกวันที่ผ่านมาเลยหล่ะ!!”

“จับมาได้กี่ตัวละ”

มู่เหลี่ยงถามต่อพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

ตลอดห้าวันที่ได้อยู่กับมินโฮ มู่เหลี่ยงไม่เคยบอกว่าเขารู้ว่ามินโฮเป็นผู้หญิง และแกล้งตามน้ำเด็กน้อยไปก่อน

“ฮี่ๆๆ นายต้องตกใจแน่ๆ”

มินโฮยิ้มอย่างขี้เล่น ก่อนที่จะหยิบถุงผ้าที่สะพายอยู่กับตัวขึ้นมา และเทสิ่งที่อยู่ในถุงออกมา เป็นกิ้งก่าตัวเล็กๆ ขนาดประมาน 10 เซนติเมตรได้

หลังจากนั้นมินโฮก็เอามาจัดเรียง ต่อหน้ามู่เหลียง ทั้งหมด 7 ตัว

“แล้ววันนี้ทำกับดักหินไปกี่อัน”

มู่เหลียงถามขึ้นเมื่อเห็นแผลบนนิ้วของเด็กสาว

“ทำได้แค่ 22 อัน เพราะเวลาไม่พอ”

มินโฮนั้นพูดอย่างประมาทเล็กน้อย และเม้มริมฝีปากเบาๆ

“แต่ๆ…พรุ่งนี้ฉันจะทำกับดักให้มากถึง 30 อันแน่นอน”

“อย่าทำเยอะเกินไป ระวังคนอื่นมาเห็นด้วย”

มู่เหลียงเตือนเด็กน้อยอย่างใจเย็น

“อื้อ!!”

แล้วเหมือนมินโฮจะนึกอะไรขึ้นได้

แล้วเด็กน้อยก็กัดริมฝีปาก ก่อนจะพูดอย่างกระวนกระวาย

“เพราะหากว่าไม่สามารถทำกับดักได้เยอะๆ เมื่อถึงเวลาต้องจ่ายค่าส่วยจะไม่พอจ่ายให้มู่เหลี่ยงนะสิ…”

“แล้วยังขาดอีกเท่าไหร่”

มู่เหลียงถามต่อ พร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ในห้าวันที่อยู่ที่นี่มู่เหลียงได้เรียนรู้ถึงกฏต่างๆ ในค่าย หากต้องการอยู่อาศัยในค่ายแห่งนี้จำเป็นต้องจ่ายค่าส่วยให้กับส่วนกลางของค่าย

“รวมกิ้งก่าที่จับมาได้ทั้งหมด ตอนนี้ ยังขาดกิ้งก่าตัวเล็กอีก 30 ตัว….”

มินโฮก้มหน้าด้วยความหัวเสีย

ห้าวันที่ได้อยู่ด้วยกัน วันแรกๆ ทั้งสองต่างหวาดระแวงกันและกัน แต่มู่เหลียงนั้นใช้อุปกรณ์เอาชีวิตรอดในป่าที่ติดตัวมาแลกเปลี่ยนกับเด็กน้อยว่าให้ช่วยเก็บเรื่องของเขาเป็นความลับ

และจนถึงเมื่อคืน มู่เหลียงได้สอนการสร้างกับดักหินในการจับสัตว์ตัวเล็กๆ ให้กับมินโฮ

ด้วยการช่วยเหลือและการดูแลจากมู่เหลียงทำให้เด็กน้อยรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่อยู่ด้วย

มู่เหลียงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“แล้วส่วนของ มินโฮมีจ่ายรึยัง”

การหาของมาจ่ายค่าส่วยนั้นไม่ได้ยากอะไร หากเพียงร่างกายแข็งแรงพอที่จะออกล่าได้ ก็ล่ากิ้งก่าตัวเล็กๆ มาจ่ายได้

มินโฮนั้นไม่ได้ตอบคำถาม แต่พูดขึ้นอย่างแผ่วเบา

“ฉันเคยส่งกิ้งก่าไป 35 ตัวก่อนหน้านี้ รอบนี้ 5 ตัวก็น่าจะพอแล้ว”

“หากไม่พอก็ไม่เป็นไรจ่ายของมินโฮไปเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปเอง”

“ห้ะ!! จะไปแล้วงั้นหรอ?”

มินโฮเงยหน้าขึ้นอย่างร้อนรน และดูประหลาดใจอย่างมาก เด็กน้อยไม่รู้ว่าจะทำตัวเช่นไร

“ใช่ ฉันเกือบจะหายดีแล้ว”

มู่เหลียงนั้นกำหมัดสองสามครั้งเพื่อแสดงให้มินโฮเห็นว่าเขาเริ่มหายดีแล้ว

“เหลืออีกสามวันก่อนถึงกำหนด ฉันหาจ่ายให้มู่เหลียงทันแน่นอน!!”

มินโฮนั้นพูดขึ้นอย่างร้อนรน

โดยที่ไม่รอให้มู่เหลียงตอบ เด็กน้อยรีบวิ่งไปคุ้ยกองหิน และหยิบกล่องไม้ออกมาทันที

“ฉันยังมีกิ้งก่าตากแห้งอีก!! มันพอที่ฉันจะจ่ายส่วยในส่วนของมู่เหลียงได้!”

มินโฮเปิดกล่องไม้ออกมา และหยิบกิ้งก่าตากแห้ง 8 ตัวให้มู่เหลี่ยงดู

“เก็บมันไว้เถอะ มันเป็นอาหารฉุกเฉินของมินโฮไม่ใช่รึไง”

มู่เหลียงนั้นหรี่ตาลงเล็กน้อย และรู้สึกสะเทือนใจ

เขาพูดเตือนมินโฮด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“อย่าลืมสิ!! ฉันเป็นผู้ใหญ่นะ ค่าส่วยของฉันมันมากกว่าของมินโฮอยู่แล้ว”

“แต่…แต่..”

มินโฮนั้นอยู่ๆ ก็สั่นเทาไปทั้งตัว ราวกับไม่ยอมรับในคำพูดนี้

“มันต้องมีหนทางอื่นอยู่สิ!”

เด็กสาวลืมคิดถึงว่าค่าส่วยของผู้ใหญ่นั้นมากกว่าของเด็ก แต่มินโฮต้องการที่จะให้มู่เหลียงอยู่กับเธอต่อ  เธอวางแผนเอาไว้ว่าจะสร้างกับดักหินจับกิ้งก่าเพิ่มอีกไม่กี่ตัวก็น่าจะพอจ่ายส่วยให้มู่เหลียง

“ลืมข้อตกลงในวันแรกที่เราเจอกันแล้วงั้นหรอ”

มู่เหลียงนั้นมองหน้าเด็กน้อยอย่างใจเย็น

วันที่มินโฮช่วยเขาเอาไว้ วันนั้นมินโฮคิดว่ามู่เหลี่ยงตายแล้ว เด็กน้อยจึงพยายามค้นร่างของเขาเพื่อเอาของไป

แต่แล้วมู่เหลี่ยงก็ส่งเสียงออกมา ทำให้มินโฮรู้ว่าคนคนนี้ยังไม่ตาย ทำให้มินโฮตกใจแทบช็อก

แล้วหลังจากนั้นเด็กน้อยที่อ่อนต่อโลกก็ถูกเล่ห์กลของมู่เหลี่ยงหลอก

มู่เหลี่ยงเสนอข้อแลกเปลี่ยนโดยขอความช่วยเหลือจากเด็กสาว แลกกับอุปกรณ์เดินทางของเขาทั้งหมด

ในวันนั้นมินโฮพูดเอาไว้ว่า ข้อตกลงนี้จะยุติทันทีเมื่อมู่เหลี่ยงจากไป

“ฉัน…”

มินโฮนั้นหน้าแดงก่ำราวกับอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ไม่รู้จะพูดอย่างไร

แล้วเด็กน้อยก็หันกลับไป และดึงกระเป๋าลายพรางออกมาจากใต้เตียงไม้

เด็กน้อยหยิบกระเป๋าเป้อย่างระมัดระวัง และวางลงตรงหน้าของมู่เหลียง

“ฉันไม่ได้แตะต้องอะไรทั้งสิ้น ของทั้งหมดยังอยู่ภายในนั้น”

มินโฮเม้มริมฝีปากแน่น และแสดงออกถึงความเขินอาย

“ฉันจะคืนมันให้นายทั้งหมด แต่อยู่กับฉันต่อได้ไหม”

“แล้วเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องอยู่ต่อละมินโฮ”

มู่เหลียงไม่ได้สนใจกระเป๋าเลย ได้แต่ถามด้วยความสงสัย

“เราสองคนเพิ่งจะรู้จักกันได้ห้าวัน ไม่กลัวฉันเป็นคนเลวงั้นหรอ?”

เขาเตือนเด็กน้อยด้วยความหวังดีและไม่ต้องการเอาของคืนกลับมา แต่อยากรู้ว่าทำไมเด็กน้อยคนนี้ถึงเปลี่ยนไป

“ฉัน…ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

มินโฮก้มหน้าลงและบิดชายเสื้อไปมา

แต่สิ่งหนึ่งที่เด็กน้อยรู้คือเมื่อมู่เหลี่ยงบอกว่าจะจากไปมินโฮรู้สึกทุกข์ใจอย่างมาก

นี้เป็นความรู้สึกเดียวกับเมื่อสี่ปีก่อนที่พี่สาวของเด็กน้อยจากไป เพราะไม่มีสิ่งของไปจ่ายค่าส่วยให้ค่าย

เด็กน้อยต้องการจะแก้ไขสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาแล้วครั้งหนึ่ง

ตอนนั้นมินโฮยังเด็กอยู่ จึงทำอะไรไม่ได้  และตลอดเวลาที่ผ่านมาเด็กน้อยต้องอยู่คนเดียว และรู้สึกเหงาอย่างมากตั้งแต่พี่สาวจากไป

“เดี๋ยวก่อน….ฉันน่าจะมีอย่างอื่นที่จ่ายค่าส่วยได้อีก!”

แล้วอยู่ๆ มินโฮก็เหมือนนึกอะไรได้และรีบไปหาของสิ่งนั้นทันที

เด็กน้อยมองไปรอบๆ และมุดลงไปใต้เตียง

“เจอแล้ว!! มันยังไม่ตาย!”

แล้วอยู่ๆ เด็กน้อยก็ส่งเสียงร้องแห่งความดีใจออกมา

“อะไร หรือมินโฮ”

มู่เหลียงถามด้วยความสงสัย

มินโฮออกมาจากใต้เตียงและถือเต่าตัวหนึ่งขึ้นมา ตัวของมันเท่ากับฝ่ามือ และส่งให้มู่เหลียงอย่างระมัดระวัง

“เต่า?”

มู่เหลียงพูดอย่างประหลาดใจ ก่อนที่จะเอื้อมมือไปอุ้มเจ้าเต่าตัวนี้

-ติ๊ง!! ตรวจพบสิ่งมีชีวิตที่ฝึกเลี้ยงได้ ระบบนักฝึกอสูรถูกเปิดใช้งาน-

5 3 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด