ตอนที่แล้วตอนที่ 190: โดรนปะทะโดรน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 192: กำจัดศัตรูให้หมด!

ตอนที่ 191: การช่วยเหลือที่ยากลำบาก


ตอนที่ 191: การช่วยเหลือที่ยากลำบาก

“แย่แล้ว!”

ในระหว่างที่สถานการณ์ตกอยู่ในความยากลำบาก จู่ ๆ มันก็ได้มีโดรนชนิดหนึ่งเคลื่อนที่ออกมาเป็นจำนวนมาก โดยพวกมันคล้ายจะได้รับการพัฒนามาไว้ต่อสู้ภายในพื้นที่แรงโน้มถ่วงสูงโดยเฉพาะ และมันก็มีปืนใหญ่ความเร็วสูงขนาดเล็กติดอยู่ด้านบนของโดรนทุกลำ

พลังทำลายของปืนใหญ่ความเร็วสูงมีไม่มากนัก แต่อัตราการยิงของมันมีความถี่มากและในพริบตาเซี่ยเฟยกับพอตเตอร์ก็ถูกล้อมรอบด้วยฝูงโดรนนับพัน

โชคดีที่โทมาฮอว์กมีขนาดใหญ่มันจึงดึงดูดข้าศึกเข้ามาได้เป็นจำนวนมาก ไม่อย่างนั้นถ้าหากว่าโดรนเหล่านี้มุ่งเน้นการโจมตีไปที่ยานทริสตัน ยานของพอตเตอร์ก็คงจะถูกพวกมันทำลายลงไปแล้ว

สถานการณ์ในปัจจุบันอยู่ในขั้นวิกฤตมากถึงขนาดที่ยานของพอตเตอร์พร้อมจะระเบิดขึ้นมาได้ทุกเมื่อ

โทมาฮอว์กยังอยู่ห่างจากทริสตันหลายร้อยกิโลเมตร หากเทียบกับจักรวาลอันกว้างใหญ่ระยะทางแค่นี้มันก็ดูเหมือนใกล้ แต่มันต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 นาทีกว่าที่เซี่ยเฟยจะเข้าถึงยานของพอตเตอร์ได้

ยิ่งไปกว่านั้นแรงโน้มถ่วงอันรุนแรงยังได้ปิดกั้นระบบการสื่อสารของทั้งสองฝ่าย และเครื่องรับสัญญาณก็เต็มไปด้วยเสียงรบกวนทำให้ชายหนุ่มไม่สามารถติดต่อเพื่อพูดคุยกับพอตเตอร์ได้เลย

โดรนต่อสู้ของโทมาฮอว์กยังคงจู่โจมศัตรูที่มีจำนวนมากกว่านับ 10 เท่าอย่างกล้าหาญ แต่ถึงแม้ว่าโดรนแต่ละลำจะแข็งแกร่งมากแต่จำนวนของศัตรูก็มีมากจนเกินไป จนทำให้โดรนของโทมาฮอว์กถูกทำลายเกือบทุกวินาที

โทมาฮอว์กปล่อยโดรนออกไปต่อสู้อย่างสิ้นหวัง แล้วมันก็มีโอกาสสูงมากที่โดรนที่ถูกปล่อยออกไปจะไม่มีทางรอดกลับมา

เหล่าผู้ที่เมินเทคโนโลยีควรจะได้เห็นการต่อสู้ในครั้งนี้ เพราะถึงแม้ว่าเครื่องจักรจะไม่มีความแข็งแกร่งเหมือนมนุษย์ แต่อย่างน้อยพวกมันก็ยังต่อสู้ตามคำสั่งอย่างสุดกำลัง

สมมติว่าสถานการณ์นี้เป็นการปล่อยนักรบออกไปต่อสู้ พวกเขาจะมีความภักดีถึงขนาดยอมตายเหมือนกับพวกโดรนเหล่านี้ไหม?

สถานการณ์ดูย่ำแย่ลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าหากว่ามันยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน พอตเตอร์จะต้องเสียชีวิตลงในสนามรบแห่งนี้แน่นอน

เซี่ยเฟยกัดฟันพร้อมกับทำการตัดสินใจครั้งสำคัญในเวลาไม่ถึง 0.001 วินาที ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่บ้าระห่ำถึงขนาดที่เขาเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงกับความตาย!

“เตรียมระเบิดทำลายมิติเอาไว้ให้พร้อม โทมาฮอว์กเปิดระบบทำลายตัวเอง” เซี่ยเฟยส่งเสียงร้องคำรามด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง

“อะไรนะ?! เปิดระบบทำลายตัวเองงั้นเหรอ นายกำลังพยายามทำอะไรกันแน่?” อันธอุทานด้วยความตกตะลึง

ภายในสมองของวิญญาณตนนี้เต็มไปด้วยความตกใจและความสงสัย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้นเลย เพราะสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้คือการเชื่อมั่นในตัวของเซี่ยเฟย ไม่ว่าการตัดสินใจของชายหนุ่มคนนี้จะบ้าระห่ำมากแค่ไหนก็ตาม!

พริบตาต่อมาทั่วทั้งยานโทมาฮอว์กก็ตกอยู่ภายใต้แสงสีแดง!

“ระบบทำลายตัวเองถูกเปิดใช้งาน เริ่มทำการนับถอยหลัง 15 นาที”

เสียงคอมพิวเตอร์ AI แจ้งเตือนไปทั่วทั้งลำยาน

“5 นาทีพอแล้ว!” เซี่ยเฟยสั่งการขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“ได้ค่ะ ระบบทำลายตัวเองจะถูกเปิดใช้งานภายใน 5 นาที ขอให้ลูกเรือทั้งหมดสละยานในทันที! ย้ำขอให้ลูกเรือทั้งหมดสละยานทันที!!”

ก่อนที่คอมพิวเตอร์ AI จะพูดคำเตือนจนจบ เซี่ยเฟยก็ทำการถอดชิพโอเวอร์โหลดเก็บไว้ในแหวนมิติก่อนที่เขาจะรีบวิ่งไปในห้องของแฮร์ริส

ชายชรายังคงจ้องอยู่ด้านหน้าหน้าจอที่เต็มไปด้วยสมการอันซับซ้อนที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าใจได้ แฮร์ริสควรจะได้รับฉายานักวิทยาศาสตร์ที่บ้าคลั่งจริง ๆ เพราะถึงแม้มันจะมีเสียงการสู้รบดังกึกก้องอยู่ด้านนอก แต่เขากลับไม่รู้ตัวเลยแม้แต่นิดเดียว

“มานี่เร็วเข้า!” เซี่ยเฟยส่งเสียงร้องคำรามก่อนที่จะจับคอเสื้อของแฮร์ริสและยกชายชราคนนี้ขึ้นไปในอากาศ

เซี่ยเฟยรีบวิ่งไปยังห้องเก็บยานโดยไม่พูดอะไร แล้วด้วยความเร็วเฉลี่ยถึง 4,000 เมตรต่อวินาทีเขาก็สามารถวิ่งเข้ามาในแวมไพร์ได้ในเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น

กว่าแฮร์ริสจะได้สติเขาก็ได้เห็นเซี่ยเฟยกำลังยุ่งอยู่ในห้องบัญชาการของยานแวมไพร์แล้ว

“อ๊าก!! อุปกรณ์ทดลองกับคอมพิวเตอร์ของฉัน!” แฮร์ริสรีบตะโกนออกมาด้วยความบ้าคลั่งพร้อมกับเอามือทั้งสองข้างกุมศีรษะของตัวเองเอาไว้

“หุบปากไปซะ!” เซี่ยเฟยไม่มีเวลาอธิบายสถานการณ์ให้ฟัง เขาจึงตะโกนด่าออกไปตรง ๆ

ในเวลานั้นสร้อยเจ้าชีวิตก็เริ่มทำหน้าที่ของมันในทันที ดังนั้นถึงแม้แฮร์ริสจะอยากส่งเสียงตะโกนออกมาแต่เขาก็ไม่สามารถจะเปล่งเสียงออกมาได้เลยแม้แต่นิดเดียว

“ปล่อยระเบิดทำลายมิติ!”

ปุ้ง!

ลูกระเบิดก้อนสีดำถูกปล่อยออกไปจากช่องยิงระเบิดของโทมาฮอว์ก

ตูม!

เกือบจะในเวลาเดียวกันเซี่ยเฟยก็ทำการจุดชนวนระเบิดขึ้นมาโดยไม่ลังเล ทำให้คลื่นกระแทกอันรุนแรงกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ราวกับคลื่นในกระแสน้ำ

ยานทั้งลำสั่นคลอนอย่างรุนแรง แต่เนื่องจากเซี่ยเฟยอยู่ในยานแวมไพร์เขาจึงไม่สามารถมองเห็นสถานการณ์ด้านนอกโทมาฮอว์กและเขาก็ไม่รู้ถึงผลกระทบของระเบิด

หากการคำนวนของเขาถูกต้อง ระเบิดพวกนี้น่าจะทำลายโดรนของศัตรูทั้งหมดได้ เนื่องมาจากพวกมันดูมีโครงสร้างที่มีพลังป้องกันไม่สูงมากนัก

กรณีที่โชคดีที่สุดยานทริสตันของพอตเตอร์จะสามารถเอาชีวิตรอดจากแรงระเบิดได้และโดรนทั้งหมดก็จะถูกคลื่นระเบิดทำลายลงไปในเวลาเดียวกัน

การตัดสินใจของเซี่ยเฟยเป็นเหมือนกับการเดิมพันครั้งใหญ่ว่ายานรบของพอตเตอร์จะสามารถต้านทานแรงระเบิดทำลายมิติได้หรือไม่

ด้วยสถานการณ์ที่เกือบจะถึงทางตันเซี่ยเฟยจึงจำเป็นต้องตัดสินใจใช้วิธีการที่เสี่ยงที่สุด เพราะถ้าหากพวกเขาเดิมพันได้ถูกต้องเขาจะสามารถรอดพ้นจากสถานการณ์ที่สิ้นหวังในครั้งนี้ไปได้ แต่ถ้าหากว่าเขาเดิมพันผิดพลาดจริง ๆ อย่างน้อยเขาก็ได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว

หากพอตเตอร์ได้ฟังแผนการของเซี่ยเฟยในตอนนี้เขาจะต้องเห็นด้วยกับการตัดสินใจของชายหนุ่มอย่างแน่นอน เพราะท้ายที่สุดการตายด้วยการระเบิดของเซี่ยเฟยย่อมดีกว่าการตายภายใต้ปืนใหญ่ของศัตรู

“เคลื่อนที่ออกจากโทมาฮอว์กเดี๋ยวนี้ เปิดระบบควบคุมโดรน โอนย้ายการควบคุมแฮฟวี่โดรนมาให้แวมไพร์ 10 ลำ” เซี่ยเฟยตะโกนสั่งเสียงดัง

ปุ้ง!

อุปกรณ์ดีดตัวภายในโทมาฮอว์กส่งแวมไพร์ออกไปในห้วงอวกาศพร้อมกับปล่อยแฮฟวี่โดรน 10 ลำให้แวมไพร์คอยควบคุม

ในเวลาเดียวกันแรงโน้มถ่วงอันรุนแรงก็กดทับร่างกายของเซี่ยเฟยกับแฮร์ริสจนทำให้พวกเขารู้สึกปวดไปจนถึงกระดูก

“สำเร็จ!” เซี่ยเฟยส่งเสียงตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นหลังจากได้เห็นยานทริสตันในระยะไกล

พอตเตอร์รอดชีวิตจากระเบิดได้จริง ๆ!

โดรนหลายพันลำที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ถูกทำลายแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ซึ่งแม้แต่โดรนของโทมาฮอว์กก็ไม่รอดจากพลังทำลายของระเบิดทำลายมิติเช่นกัน

ชิ้นส่วนโดรนลอยอยู่ในทะเลดวงดาวเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน พวกมันจึงกลายเป็นอนุสรณ์ที่บอกว่าครั้งหนึ่งการต่อสู้ในพื้นที่แห่งนี้มีความรุนแรงมากเพียงใด

แผนการขั้นตอนแรกประสบความสำเร็จแล้ว แต่วิกฤตในครั้งนี้ยังไม่จบสิ้นเพราะโดรนลำสีดำระลอกต่อไปได้ถูกส่งออกมาแล้ว

ชายหนุ่มรีบทำการเชื่อมต่อชิพโอเวอร์โหลดเข้ากับแวมไพร์ด้วยความรวดเร็ว ซึ่งด้วยความเร็วในการเคลื่อนที่ของเซี่ยเฟยเขาจึงสามารถเชื่อมต่อตัวชิพเข้ากับยานรบได้ในเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที

“โทมาฮอว์กพุ่งเข้าหากลุ่มศัตรูด้วยความเร็วสูงสุด แล้วปล่อยโดรนทั้งหมดยิงสกัดพวกมันเอาไว้” เซี่ยเฟยตะโกนสั่งการเสียงดัง

ทันใดนั้นโทมาฮอว์กก็พุ่งตัวเข้าไปยังบริเวณที่มีศัตรูหนาแน่นที่สุดพร้อมกับทำการปล่อยโดรนออกมายิงสกัดกั้นตามคำสั่ง

“พุ่งเข้าไปหายานลำนั้นด้วยความเร็วสูงสุด!” เซี่ยเฟยตะโกนสั่งการให้แวมไพร์พุ่งเข้าหาทริสตันด้วยความเร็วเต็มกำลัง

เซี่ยเฟยได้ใช้ยานทั้งสองลำแบ่งหน้าที่กันอย่างสมบูรณ์ โดยโทมาฮอว์กมีหน้าที่คอยดึงดูดความสนใจของศัตรู ส่วนแวมไพร์มีหน้าที่ในการเข้าช่วยเหลือพอตเตอร์

“เปิดไฟสปอร์ตไลท์ กระพริบส่งสัญญาณ!!”

ดวงไฟบนแวมไพร์เริ่มส่องแสงกระพริบเป็นรหัสแสงที่แพร่หลายในจักรวาล และเนื่องมาจากอิทธิพลของแรงโน้มถ่วงเซี่ยเฟยจึงคิดหาวิธีสื่อสารได้เพียงแค่วิธีการนี้เท่านั้น

“เปิดสะพานเทียบยาน เตรียมพร้อมเชื่อมต่อยานเข้าด้วยกันทุกเมื่อ!”

พอตเตอร์เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องยานรบเขาจึงสามารถแปลความสัญญาณแสงพวกนี้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากที่สัญญาณแสงได้ถูกส่งออกไปสะพานเทียบยานของทริสตันก็ถูกเปิดออกมาด้วยเช่นเดียวกัน และเมื่อไหร่ก็ตามที่แวมไพร์ได้เคลื่อนที่ไปจนถึงยานลำนั้นยานทั้งสองลำก็จะเชื่อมต่อเข้าด้วยกันในทันที

เซี่ยเฟยต้องแข่งกับเวลาและศัตรูก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ตอนนี้สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงแค่รอดูว่าใครจะบรรลุเป้าหมายของตัวเองได้ก่อนกัน!

ในบางครั้งชีวิตกับความตายก็ถูกกั้นเอาไว้ด้วยเส้นบาง ๆ แต่เซี่ยเฟยยังคงจ้องมองสถานการณ์อันตรายนี้อย่างเคร่งขรึม

“เปิดระบบโอเวอร์โหลด” เซี่ยเฟยตะโกนสั่ง

เครื่องยนต์แบล็คเซอร์เพนท์ 130 เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ระดับสูงสุดในพันธมิตร แต่ถึงกระนั้นการเปิดระบบโอเวอร์โหลดภายในพื้นที่เขตแรงโน้มถ่วงสูงแบบนี้ก็ยังสร้างความเสียหายให้กับเครื่องยนต์ได้อยู่ดี ซึ่งถ้าหากว่าเครื่องยนต์ทนไม่ได้ขึ้นมาเซี่ยเฟยกับพอตเตอร์ก็คงจะต้องอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ไปตลอดกาล

“เปลี่ยนมาใช้การบังคับด้วยมือ” เซี่ยเฟยตะโกนสั่งอีกครั้งพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างบังคับแวมไพร์พุ่งไปใกล้ทริสตันด้วยความเร็วสูงสุด

เปลวไฟจากเครื่องยนต์เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัดจากเปลวไฟสีเขียวจาง ๆ กลายเป็นเปลวไฟสีแดงส้มอันสง่างาม และแม้แต่อุณหภูมิภายในห้องโดยสารก็ยังค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น

เซี่ยเฟยรู้ดีว่าปรากฏการณ์นี้เป็นสัญญาณว่าเครื่องยนต์กำลังร้อนเกินไปและเครื่องยนต์อาจจะดับลงไปได้ทุกเมื่อ

“ใกล้แล้ว!”

เซี่ยเฟยเข้าใกล้พอตเตอร์มากขึ้นเรื่อย ๆ

เซี่ยเฟยกัดฟันแน่นก่อนที่จะดึงพวงมาลัยด้วยมือทั้งสองข้างและทำให้แวมไพร์พุ่งออกไปด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้นโดรนของศัตรูก็กำลังมุ่งเป้าเข้ามาหาแวมไพร์!!

***************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด