ตอนที่แล้วตอนที่ 252 ซูสือมีความสัมพันธ์กับจักรพรรดินี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 254 คำสัญญาในอดีต

ตอนที่ 253 คำทำนายของจักรพรรดิม่วง(ตอนฟรี)


เฟิงเฉาเกออาย

ตอนนั้น นางไม่ได้คิดมาก แต่พอคิดดูตอนนี้ มันน่าอายจริงๆ

ในฐานะผู้ปกครองของอาณาจักร นางกลับสู้แย่งผู้ชาย?

แต่พอมองใบหน้าหล่อเหลานั้น หัวใจนางก็ยิ่งมุ่งมั่น

ไม่ว่ายังไง นางก็ต้องได้เขามา!

นางจะยอมยกเขาให้คนอื่นได้ไง?

ไม่มีทาง!

“เจ้าไม่ต้องห่วง ข้ามีแผน”

เฟิงเฉาเกอพูด.“แต่อย่าลืม ในเมื่อข้าจะเป็นภรรยาของเจ้า ถ้าเจ้ากล้าแอบแต่งงานกับหญิงอื่น ข้าจะ..ข้าจะบดขยี้ลูกชายเจ้าทิ้งซะ!”

ซูสือตัวสั่น

นี่โหดไปไหม?

เฟิงเฉาเกอพ่นลม“ดีที่เจ้ารู้จักกลัว แต่ข้าพูดจริง …อ้า!”

คำพูดนางหยุดกะทันหัน

นางตัวแข็ง ใบหน้าสวยขึ้นสี“เจ้า เจ้าทำอะไร?”

ซูสือพูดโกรธๆ“ทำไมวันนี้ฝ่าบาทไม่สวมถุงน่อง?ตอนนั้น น่ทานตกลงว่าจะให้ข้าลูบขาท่านเล่นนะ”

“หยุดเลย!”

เฟิงเฉาเกอจ้องเขา

โชคดี วันนี้นางสวมกางเกงข้างใน เจ้าหมอนี่ชักกล้า!

พอเห็นใบหน้าหดหู่ของซูสือ เฟิงเฉาเกอก็ทั้งโกรธและตลก

เขาเอาแต่คิดเรื่องนี้ทั้งวันหรือไง?

นางลังเลสักพักและกระซิบ“ถุงน่องพวกนั้นน่าอายไป ข้าจะสวมมันบ่อยๆได้ไง?ตอนข้ามาที่นี่ข ไม่รู้ว่าเจ้าจะกลับมาหนานลี่แล้ว”

ซูสือยิ้ม“งั้น ก่อนหน้านี้ฝ่าบาททำเพื่อข้าเป็นพิเศษเหรอ?”

เฟิงเฉาเกอไม่ปฏิเสธ

ซูสือมองนาง

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นนางใส่ชุดปกติ

ชุดสีขาวราบเรียบเหมือนหิมะ ดูมีบารมีน้อยลง และไร้เดียงสากว่าเดิม เหมือนสาวน้อยขี้อาย

“ชุดของฝ่าบาทน่ารักมาก”

ซูสือพูดตรงๆ

เฟิงเฉาเกอลดหัว ซ่อนความเขินอายในดวงตา“ถ้าเจ้าชอบ ข้าสามารถใส่ให้เจ้าดูบ่อยๆได้”

ซูสือพยักหน้า“มันจะดีกว่านี้ถ้าใส่กับถุงน่อง”

“…”

เฟิงเฉาเกอกลอกตา“เจ้ามันโรคจิต!”

ตอนนี้ นางเห็นบางสิ่งและสงสัย“เจ้าดูเหมือนจะทะลวงผ่านนะ?”

ดูจากกลิ่นอายเขา มันแตกต่างจากตอนกลางวัน

ซูสือพยักหน้า“ข้าทะลวงผ่านแล้วจริง ฐานบ่มเพาะของข้าตอนนี้คือวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นปลาย”

“เร็วมาก!”

เฟิงเฉาเกอแปลกใจ

มือบอบบางรีบคว้าข้อมือของซูสือ นางรู้สึกถึงพลังปราณรุนแรง ซึ่งเป็นวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นปลายจริง

ยิ่งไปกว่านั้น เลือดของเขาเหมือนมังกร กล้ามเนื้อกับกระดูกเหมือนหยก และดูเหมือนจะมีพลังสีม่วงใหลเวียน

เหมือนมังกรแท้จริง!

เฟิงเฉาเกอสับสน“ร่างกายเจ้า..ดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลง?”

ซูสือยักใหล่“ข้าฆ่ามังกรเกล็ด ทำให้เลือดลมมันบริสุทธิ์ ดูดซับมัน แถมบวกกับเม็ดยา ข้าเลยกลายเป็นแบบนี้”

เฟิงเฉาเกอขมวดคิ้ว

นางรู้ถึงสิ่งที่เกิดในเมืองเสวี่ยเฟิง

แต่มันก็แค่กึ่งมังกรเกล็ด ไม่ใช่มังกรแท้จริง ปราณมังกรในตัวมันบางมากและต่อให้ซูสือดูดซับ เขาก็ไม่มีทางมาถึงระดับนี้

นางครุ่นคิดและถาม“งั้นเจ้าควบคุมปราณมังกรได้ไหม?”

‘ควบคุมปราณมังกร?”

ซูสือนึกถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เขาเพิ่งได้รับ“ข้าจะลอง”

เขาหลับตา ความคิดใสกระจ่าง ดาวจักรพรรดิม่วงสั่นเบาๆ และปราณม่วงก็เบ่งบาน

เขาค่อยๆลืมตา รูม่านตาของเขาพลันเปลี่ยนเป็นสีม่วง

ชุดของเขากระพือ ปราณมังกรทรงพลังกระจายออกมา เหมือนราชาผู้ปกครองโลก!

เฟิงเฉาเกอจ้องเขา

“จักรพรรดิม่วง?”

ซูสือไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน

ภายใต้ปราณมังกร ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย พลังปราณหรือพลังวิญญาณ พวกมันถึงระดับใหม่ และพลังของพวกมันก็เสริมทุกด้าน

หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและความหยิ่งยโส

มันราวกับเขากำลังควบคุมโลก

‘นี่คือผลของ’พลังมังกรแท้จริง’?”

ก่อนเขาจะได้รับรู้ถึงมัน ลมหอมก็พัดมา และร่างบางก็กระแทกเข้าอ้อมกอดเขา

เฟิงเฉาเกอมองเขาด้วยดวงตาสดใส“งั้น เจ้าก็คือจักรพรรดิม่วงของข้าจริงๆ!”

“จักรพรรดิม่วง?”

ซูสือสับสน

เฟิงเฉาเกออธิบาย“ตอนข้าเด็ก มีพระผู้หนึ่งทำนาย บอกว่าข้าถูกลิขิตให้ได้รับประกาศิตสวรรค์ และจะมีจักรพรรดิม่วงอยู่ร่วมกับข้า ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นเจ้า!”

ซูสือแปลกใจ”คำทำนายกันหมดเลย’

ศาลาเทียนจีมีคำทำนายของผู้ถูกลิขิต และตอนนี้จักรพรรดิม่วงก็ยังมา

แต่เขาต้องยอมรับว่าพลังทำนายนี้ถูกมาก พวกเขาสามารถทำนายการเปลี่ยนแปลงในโครงเรื่องได้แม่นยำ

“ข้าสงสัยว่าจักรพรรดิม่วงเกี่ยวอะไรกับท่าน?”

ซูสือถามอย่างอยากรู้

เฟิงเฉาเกอหน้าแดงและพูดเสียงอ่อน“ข้าจะต้องแต่งงานกับเขา”

ซูสือหัวเราะ”ไม่คิดเลยว่าฝ่าบาทจะเชื่ออะไรพวกนี้ด้วย.

เฟิงเฉาเกอพูดอายๆ“ตอนนั้นข้าเด็กมาก ข้าเลยไม่คิดมาก..”

ซูสือส่ายหัว“แล้วท่านจะทำยังไงถ้าจักรพรรดิม่วงไม่ใช่ข้า”

เฟิงเฉาเกอพูดอย่างจริงจัง“งั้นข้าจะฆ่ามันให้เหมือนคำทำนายไม่มีอยู่”

การรู้ถึงชะตากรรมไม่ได้หมายความว่าต้องเชื่อ

นางเชื่อในหัวใจนางมากกว่าชะตากรรม

ไม่ว่าซูสือจะเป็นจักรพรรดิม่วงไหม ในเมื่อนางได้ตัดสินใจแล้ว งั้นชายอื่นก็ไม่มีค่าในสายตานาง

“แน่นอน ข้ามั่นใจว่าจักรพรรดิม่วงต้องเป็นเจ้า”

“ถ้าจักรพรรดิม่วงไม่ใช่เจ้า งั้นคำทำนายของพระหัวล้านนั่นต้องผิด”

เสียงของนางหนักแน่น ดูเหมือนจะมีดาวในดวงตานาง

ซูสือตกตะลึง

ประมาณสี่ทุ่ม

ด้านนอกห้อง ร่างหนึ่งปีนป่ายกำแพง

แสงจันทร์ส่องบนใบหน้าสวย

มันคือเฉินชิงหลวน

“ซูสือดูเหมือนจะอยู่ในห้องนี้”

“มันดึกแล้ว ฝ่าบาทควรนอนแล้ว”

นางไม่ได้พูดอะไรกับซูสือเลยตอนกลางวัน และนางก็คิดฟุ้งซ่านจนนอนไม่หลับ นางเลยมาคุยกับเขา

แค่อยากถามถึงเรื่องระหว่างซูสือกับฝ่าบาท

ตอนนางมาถึงประตู เฉินชิงหลวนก็ยกมือและเคาะ “ซูสือ เจ้าหลับหรือยัง?”

ไม่มีเสียงตอบรับในห้อง

นางอยากเปิดประตู แต่พบว่ามันไม่ขยับ ราวกับถูกล็อคจากด้านใน

แม้กระทั่งหน้าต่างก็ยังปิดสนิท

“เขาไม่อยากให้ใครเข้าไปจนปิดห้องเลยเหรอ?”

เฉินชิงหลวนหดหู่

ในห้อง

ซูสือหายใจและหลับอย่างสบายใจ

เฟิงเฉาเกอขดตัวในอ้อมกอดเขา มุมปากนางยกขึ้นเล็กน้อย

“ฮึ่ม ข้ารู้ว่านางแพศยานั่นจะไม่ยอมแพ้”

“ขอโทษด้วย แต่ซูสือเป็นของข้า”

นางพ่นลมหายใจอย่างพึงพอใจ และหลับตา

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงตุบ และสีแดงก็ปรากฏบนแก้มนาง

“เขายังโรคจิตแม้กระทั่งตอนหลับ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด