ตอนที่แล้วตัวประกอบแรงค์ EX — 0073
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตัวประกอบแรงค์ EX — 0075

ตัวประกอบแรงค์ EX — 0074


21. หกคำ (2)

* * *

การ์ดเครื่องดนตรีมักสร้างจากพลังพิเศษ

รอยแยกต่างโลกอาจดรอปการ์ดเครื่องดนตรีอยู่บ้างก็จริง แต่นั่นคือกรณีหายาก

และถ้าเป็นไอเท็มการ์ดที่ดรอปจากต่างโลก ชื่อของไอเท็มหรือในส่วนคำอธิบายก็ต้องเอ่ยถึง ‘เบื้องบน’ ที่เกี่ยวข้อง หรือไม่ก็สถานที่ได้รับเอาไว้

จึงมั่นใจได้ว่า เครื่องดนตรีที่อีเรนาได้รับจากควอนเจอินคือไวโอลินที่สร้างจากพลังพิเศษ

‘ไหนลองเทียบดูหน่อย’

ฉันเปิดหน้าต่างไอเท็มเพื่อตรวจสอบรายละเอียด ‘โชคชะตาไร้ชื่อ’

[ชื่อไอเท็ม] โชคชะตาไร้ชื่อ

[ลักษณะ] อาวุธ

[เกรด] N~EX

[ความชำนาญ] 0%

[เอฟเฟกต์] ยังไม่กำหนด

[คำอธิบาย]

อาวุธที่จะเปลี่ยนชื่อ เกรด และเอฟเฟกต์ตามประสบการณ์ ความคาดหวัง ความคิด เป้าหมาย และความเชื่อของผู้ใช้

ผู้ที่ใช้ได้มีเพียงเจ้าของพลังโชคชะตาเท่านั้น

———

‘…แตกต่างจากไวโอลินวิเศษตรง ‘ลักษณะ’ ของไอเท็ม และขอบเขตของเกรดก็แคบกว่า จะเรียกว่าเวอร์ชันลดระดับก็ไม่ผิดนัก… แต่คำอธิบายคล้ายกันมาก ยังกับลอก ‘โชคชะตาไร้ชื่อ’ มาเขียนเกือบทั้งดุ้น’

ที่มาของไวโอลินอันนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่

‘ถ้าเป็นไปได้ก็อยากถามจากปากช่างฝีมือโดยตรง…’

ปัจจุบันบนโลกมีช่างฝีมือไวโอลินแค่คนเดียว

และเนื่องจากทุกคนตามหาตัวเขา ช่างฝีมือจึงต้องหลบซ่อน

‘แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีช่องทางติดต่อเลย…’

ขณะพยายามครุ่นคิดหาวิธีรวบรวมข้อมูล

เด็กๆ ที่จ้องการ์ดไวโอลิน กล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ฉันอยากเห็นของจริงแล้ว…!”

“ฉันด้วย! เรนา! ได้โปรด!”

ขณะคิมยูรีกับซาวอลเซอึมพยายามขอร้องอีเรนา ฉันพยักหน้าสนับสนุน

“เอายังไงดี… ประหม่าจังเลย…”

เมื่ออีเรนาที่ถือการ์ดในมือแผ่คลื่นพลังพิเศษ การ์ดเปลี่ยนเป็นไวโอลินสีทองทันที

ที่รองคาง หย่อง สะพานวางนิ้ว และหางปลามีสีดำ แต่เกือบทุกส่วนที่เหลือของไวโอลินมีสีทองอ่อน

มันคือไวโอลินที่เปรียบดังงานศิลป์สีสันซับซ้อน หากมองจากมุมต่างๆ อาจเห็นเป็นสีทองคำขาวขึ้นอยู่กับแสง

“สวยจัง…!”

“สวยมาก! เสียงจะเพราะแค่ไหนกันนะ…”

อีเรนาที่มิอาจละสายตาจากไวโอลินวิเศษ ออกท่าทีลังเล

“ตอนนี้ฉันไม่มีคันชัก เลยเล่นแบบอาร์โคไม่ได้ แต่ว่า… ถ้าเป็นพิซซิคาโตก็พอไหว… อยากฟังไหม?”

“หมายถึงการเกาด้วยมือใช่ไหม เหมือนกับที่ควอนเจอินเล่นเพลงแรก?”

“อยากฟัง…!”

“ฉันก็อยากฟัง”

เมื่อคิมยูรีกับซาวอลเซอึมขอร้องอย่างกระตือรือร้น ประกอบกับคำพูดรบเร้าของฉัน อีเรนาเลื่อนมือขึ้นมาวางบนสายไวโอลิน

ตอนนี้นอกจากพวกเรา ไม่มีคนอื่นอยู่ในโซนนั่งเล่นของตึกเรียนปีหนึ่งอีกแล้ว

มีเพียงแสงไฟจากโคมถนน

ด้วยความชื่นชม เราสามคนกลั้นหายใจฟังอีเรนา ผู้กำลังหลับตาใช้นิ้วเกาสาย

‘อีเรนากำลังเล่นเพลงที่ควอนเจอินเล่นเปิดคอนเสิร์ต? นั่นมันเพลงใหม่ที่ไม่เคยเปิดตัวที่ไหนมาก่อน… ได้ยินครั้งเดียวก็จำได้หมดเลยหรือ?’

เทียบกับการเล่นที่สมบูรณ์แบบของควอนเจอิน ฝีมือของอีเรนายังห่างชั้นมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็เล่นโน้ตไม่ผิดแม้แต่ตัวเดียว

อีเรนาที่เล่นในส่วนพิซซิคาโตของเพลงใหม่จนจบ ลดมือจากไวโอลินด้วยใบหน้าเขินอาย

แปะแปะแปะ—!

เราสามคนปรบมืออย่างพร้อมเพรียงราวกับนัดกันมา

“เพราะมาก! เธอจำทั้งหมดนั่นได้ยังไง?”

“เพลงนี้เพิ่งถูกเล่นครั้งแรกเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน… เก่งจัง!”

“โน้ตถูกต้องทุกตัวเลย… ชักอยากเห็นเล่นพร้อมคันชักแล้วสิ”

อีเรนาขอบคุณด้วยใบหน้าแดงก่ำ พลางกอดไวโอลินวิเศษเอาไว้แน่น

พวกเรานั่งคุยกันจนกระทั่งคิมยูรีต้องกลับบ้าน

หกคำที่นาบีรยองทิ้งไว้

ช่างฝีมือผู้ผลิตไอเท็มที่คล้ายคลึงกับโชคชะตาไร้ชื่อ

อาจมีหลายสิ่งให้ต้องขบคิด แต่วันนี้ฉันตัดสินใจมีความสุขไปกับบรรยากาศหลังคอนเสิร์ต

ขอเลื่อนการทบทวนประจำวันออกไปก่อน และเข้านอนโดยไม่ได้ฝันเหมือนทุกครั้ง

* * *

เที่ยงคืนตรง หน้าทางเข้าหลักโรงเรียนแสงเงิน

หอนาฬิกาประจำโรงเรียนที่มองเห็นได้จากหน้าประตู กำลังส่องแสงสลัว

ยงเจกอนกำลังยืนรออยู่หน้าทางเข้า พลางยิ้มกรุ้มกริ่มโดยไม่ทราบสาเหตุ

เมื่อยงเจกอนเห็นใครบางคนเดินผ่านบาเรียหน้าประตูหลักเข้ามา เขาส่งเสียงเรียก

“ท่านโทยุน… กำลังรออยู่พอดี แล้วท่านโทยอนล่ะ?”

อ๊กโทยุน – นักรบหมายเลขหนึ่งแห่งเผ่ากระต่าย มาถึงโรงเรียนแสงเงินตามเวลานัดหมาย

ได้เห็นยงเจกอนทำหน้ากรุ้มกริ่มอย่างผิดธรรมชาติ เธอรู้สึกอยากหันหลังกลับทันที

ไม่เคยมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นเมื่อมังกรทำหน้าแบบนั้น

เปลี่ยนเป็นอ๊กโทยอนก็คงจะล้งเล้งอยากกลับบ้านเหมือนกัน เพราะใบหน้าเช่นนี้ไม่เคยทำให้เธอรู้สึกดี

‘…วันนี้เรามาในฐานะตัวแทนเผ่ากระต่าย คงต้องทำใจร่มๆ หน่อย’

อ๊กโทยุนก็รู้สึกไม่ต่างกัน เพียงแต่เก็บซ่อนสีหน้าและวางตัวเป็นงานเป็นการได้ดีกว่า

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะท่านเจกอน… โทยอนถูกห้ามมิให้เข้าใกล้เขตอึนกวางจนถึงกลางเดือนมิถุนายน”

“หือ… ทำไมล่ะ? หรือโทยอนไปกระตุกหนวดท่านเสือเหลืองเข้าอีกแล้ว?”

“สมแล้วที่เป็นมังกรแห่งมิติ ลางสังหรณ์ยังแม่นยำเช่นเคย”

“ครั้งนี้ใช้ประสบการณ์มากกว่าลางสังหรณ์น่ะ… ใจจริงข้าอยากเห็นแผนผังวังจันทราด้วยตาตัวเองมากกว่า”

ยงเจกอนยื่นมือไปหาอ๊กโทยุนอย่างสุภาพ

“ระยะทางจากที่นี่ไปถึงตึกเงินจรัสค่อนข้างไกล ถ้าไม่อยากสะดุดตาคนก็ให้ข้าช่วยเถอะ”

“ต้องรบกวนท่านแล้ว”

เมื่ออ๊กโทยอนวางมือลงไป ยงเจกอนที่ลบตัวตนด้วยศาสตร์แห่งมิติ เริ่มก้าวเท้าไปยังทิศทางของตึกเงินจรัส

ซู่ว!

ถึงจะพรรณนาว่าก้าวเท้า แต่สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปในพริบตาหลังจากยงเจกอนเดินครบหนึ่งก้าว

แม้จะเป็นผลจากพลังศาสตร์แห่งมิติ แต่อ๊กโทยอนเชื่อว่าต่อให้รู้หลักการ ก็คงไม่มีใครเลียนแบบสิ่งนี้ได้อีกแล้ว

‘ขนาดว่าพลังถูกผนึกอยู่นะเนี่ย… สมแล้วที่เกิดจากลูกแก้ววิเศษ - สมบัติของรักของหวงของราชันเทพมังกร…’

ถ้าเธอสู้กับยงเจกอนในตอนนี้ ใครจะเป็นฝ่ายชนะ?

หากยงเจกอนอยู่ในสภาพสมบูรณ์ อ๊กโทยุนจะพ่ายแพ้แน่นอน

แต่ถ้าเป็นยงเจกอนที่ถูกผนึกพลังไว้ล่ะ? ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไรถ้าต้องดวลกับอ๊กโทยุนที่บาดเจ็บจากวันเอพริลฟูล?

ไม่มีใครตอบได้

‘จะเป็นยังไงกันนะ…’

ยงเจกอนหันไปมองอ๊กโทยุนพร้อมกับบีบมือให้แน่นขึ้นเล็กน้อย

“ท่านโทยุน ข้าพร้อมรับคำท้าเสมอ แต่หากท่านแพ้ ข้าขอเข้าไปเดินเล่นในป้อมปราการของเผ่ากระต่ายได้หรือไม่”

“เผ่ากระต่ายกับเผ่ามังกรมิได้สนิทสนมกัน ทำแบบนั้นอาจเกิดปัญหาได้”

“ท่านโทยุนอยากดวลกับข้าจริงๆ สินะ”

ฉึบ!

อ๊กโทยุนสะบัดแขนออกจากมือของยงเจกอน เนื่องจากไม่ชอบวิธีพูดที่เหมือนอ่านใจได้ของอีกฝ่าย

ตอนนี้ทั้งสองมาถึงตึกเงินจรัสแล้ว สามารถเดินต่อได้เองโดยไม่หลงทาง

หลังจากผ่านขั้นตอนความปลอดภัย พวกเขาเข้ามาถึงเขตรับรองของตัวอาคาร

จ้อกแจ้กจอแจ

“ถ้าท่านมีบัตรเชิญอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่บอกพวกเราตั้งแต่แรก! ตกอกตกใจหมดเลย!”

“ตารางงานวันนี้เสร็จหมดแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมพวกเรายังต้องมาที่ตึกเงินจรัสอีก?”

“ข้ามีแผนจะนั่งสมาธิทบทวนการแสดงของควอนเจอิน ได้โปรดปล่อยพวกเรากลับไปเถอะ!”

“ใช่แล้ว! ตอนนี้พวกเรามีทะเบียนราษฎร์ของมนุษย์แล้วนะ ได้โปรดเคารพกฎหมายแรงงานของมนุษย์ด้วย! ท่านเสือเหลือง!”

ในห้องรับรองมีเผ่าแท้สี่คนรออยู่ก่อนแล้ว

คำนึงจากบทสนทนา ทุกคนน่าจะเป็นเผ่าเสือ

‘กฎหมายแรงงานของมนุษย์? แม้แต่มนุษย์แท้ๆ ยังไม่ได้รับการปกป้องจากสิ่งนั้นเลย’

อ๊กโทยุนครุ่นคิดขณะเดินเข้าไป เผ่าเสือทั้งสี่ชำเลืองมามองครู่หนึ่ง แต่มิได้ตอบสนองมากนัก

พวกเขากำลังโวยวายเสือเหลืองที่ดูเหมือนจะซ่อมบาเรียอยู่

เสือเหลืองทำหน้าหงุดหงิด แต่ก็ไม่ตอบโต้

‘ทำไมเสือเหลืองถึงยอมปล่อยผ่าน? สี่คนนี้เป็นคนสำคัญของเผ่าเสือ?’

ทันใดนั้น เธอสัมผัสถึงการมาเยือนของมนุษย์กลุ่มหนึ่ง

เผ่าเสือทั้งสี่ที่เอาแต่บ่นไม่หยุดปาก อยู่ๆ ก็ชะงักแล้วหันมาถลึงตาใส่ประตู

‘…เกิดอะไรขึ้น?’

กลุ่มมนุษย์ที่กำลังมาเยือนเป็นตัวอันตราย?

อ๊กโทยุนหันไปทางประตูบ้าง พร้อมกับตั้งท่าเตรียมสู้

เมื่อประตูอัตโนมัติเปิดออก ชายชาวต่างชาติผมสีทองเดินเข้ามาพร้อมกับหญิงชาวเกาหลีดวงตาสีน้ำเงิน

เผ่าเสือทั้งสี่แหกปากอุทานทันที บ้างก็วิ่งไปหาผู้หญิง บ้างก็ทรุดลงตรงที่ยืน

“เหลือเชื่อ… ควอนเจอินตัวจริงเสียงจริง…!”

“พระเจ้า…! นึกว่าเธอจะสมบูรณ์แบบแค่เรื่องไวโอลิน ตัวจริงกลับดูสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง!”

“ข…ข้าเป็นแฟนคลับของเจ้า! สมัยที่เจ้ายังเรียนมัธยมปลาย ข้าติดตามฟังทุกคอนเสิร์ตเลยนะ!”

“ข้าก็เหมือนกัน! โดยเฉพาะสมัยที่เจ้าอยู่ปีหนึ่ง ข้าถ่ายวิดีโอตอนที่เจ้าเล่นไวโอลินเพื่อปลอบประโลมดวงวิญญาณอยู่ริมทะเลสาบสีคราม ทุกวันนี้ยังนั่งดูซ้ำไปซ้ำมาอยู่เลย!”

“…เฮ้ย! ไหนพอข้าขอยืม เจ้าบอกว่าทำต้นฉบับหายไปแล้วไง?”

“เจ้าเองก็ไม่ยอมให้ข้ายืมบลูเรย์รุ่นลิมิเต็ด ของคอนเสิร์ตที่ลอส·แอนเจลิสเหมือนกัน!”

พวกเขาทำราวกับเผ่ากระต่ายและเผ่ามังกรเป็นเพียงอากาศธาตุ

ด้วยเหตุผลบางอย่าง อยู่ดีๆ สี่เผ่าเสือก็แว้งกัดกันเอง

น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นขณะที่การทะเลาะเบาะแว้งไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

“…หุบปากก่อนที่ข้าจะไล่พวกเจ้าออกไป”

ได้ยินคำพูดเสือเหลือง สี่เสือรีบปิดปากสนิท

ดูท่าจะไม่อยากถูกไล่ออกจากห้องที่มีควอนเจอินอยู่ด้วย

“ทุกคนมาถึงแล้วสินะ… ตอนนี้ข้าหาวิธีรับมือเผ่าผีเสื้อได้แล้ว แต่เนื่องจากต้องเปลี่ยนรูปแบบคลื่นพลังพิเศษค่อนข้างมาก อาจใช้เวลาสักพักกว่าจะขยายไปทั่วทั้งโรงเรียน แต่ไม่ต้องห่วง ภายในตึกเงินจรัสยังปลอดภัยดี”

“…เผ่าผีเสื้อ?”

อ๊กโทยุนย้อนถามเสือเหลืองที่เอาแต่พูดอยู่ฝ่ายเดียว

“นักรบกระต่ายจันทร์ไม่ได้อยู่ในงานสินะ… เผ่าผีเสื้อได้ส่งข้อความมาหานักไวโอลินคนนั้น… กล้ามากที่ลอบเข้ามาในบาเรียของโรงเรียนแสงเงิน”

ดวงตาสีทองของเสือเหลืองยังคงแฝงความไม่พอใจ

เสือเหลืองหันไปมองยงเจกอน อ๊กโทยุน ควอนเจอิน และจาเร็ด·ลี จากนั้นก็พูด

“ขออภัยที่ทักทายช้า ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนแสงเงิน… ข้าคือเสือเหลือง - ผู้นำเผ่าเสือ - ไม่เจอกันนานเลยนะควอนเจอิน”

“สวัสดีค่ะ คุณคือประธานวังมยองโฮสินะ… ไม่สิ… คุณดูเหมือนท่านประธานในวัยหนุ่มมากกว่า”

“ไม่ใช่แค่เหมือน แต่นั่นก็คือข้า… อีกชื่อหนึ่งของข้าคือวังมยองโฮ เคยคุยกับเจ้าผ่านร่างนั้นอยู่หลายครั้ง แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้รับชมการแสดงสด น่าเสียดายจริงๆ … ถ้ารู้ว่าเก่งขนาดนี้ ข้าคงหาโอกาสเข้าร่วมทุกครั้งสมัยที่เจ้ายังเรียนอยู่”

เสือเหลืองที่มีใบหน้าของสุภาพบุรุษวัยสามสิบร่ายยาว

ควอนเจอินยังคงไม่เปลี่ยนสีหน้า แต่ดวงตาโตขึ้นเล็กน้อยเป็นนัยตกตะลึง

“เข้าเรื่องกันเลยดีไหม? เหตุใดเจ้าถึงอยากนัดพบเผ่าเสือ”

“ผีเสื้อ… ข้ากำลังตามหาเผ่าผีเสื้อ จึงอยากได้ความช่วยเหลือจากเผ่าเสือ”

“…เผ่าผีเสื้อ”

เสือเหลืองนึกทบทวนข้อมูลเกี่ยวกับ ‘สัตว์ชั้นต่ำ’ ที่คิมชินรกสืบมาได้ ซึ่งคนที่รู้เรื่องนี้มีแค่เผ่าเสือบางส่วนกับโชอึยชิน

เขาจึงยังไม่เข้าใจว่า ควอนเจอินที่ไม่มีข้อมูลนั้น เหตุใดถึงอยากให้เผ่าเสือช่วยตามหาเผ่าผีเสื้อ

ยงเจกอนที่ดูเหมือนจะอ่านความคิดเสือเหลืองได้ แสดงความเห็นของตน

“ให้ข้าอธิบายเถอะ ท่านเสือเหลือง”

ยงเจกอนที่เป็นคนจัดแจงการนัดพบในครั้งนี้ อธิบาย ‘สมมติฐาน’ ของตนที่เคยเล่าให้ควอนเจอินฟังผ่านโทรศัพท์

“ยงเจกอน ข้ารู้ว่าเจ้ามีลางสังหรณ์แม่นยำ… แต่ตอนนี้ยังขาดหลักฐานสนับสนุน”

เสือเหลืองจ้องหน้าควอนเจอิน

เป็นที่รู้กันดีว่า ควอนเจอินคือนักไวโอลินอัจฉริยะที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ และมีรูปแบบความคิดที่แตกต่างจากมนุษย์ปกติ

อย่างไรก็ดี เสือเหลืองยังไม่ลืมว่าสมัยที่เธอยังเรียนอยู่ ควอนเจอินคือเพลเยอร์ที่รอบคอบมากคนหนึ่ง

จึงไม่เข้าใจว่า เหตุใดนักเรียนที่รอบคอบคนนั้น ซึ่งลงทุนย้ายไปอยู่อังกฤษนานหลายปีเพื่อดักตะครุบผีเสื้อ ถึงรีบถ่อกลับมายังเกาหลีเพียงเพราะคำพูดไม่กี่ประโยคของยงเจกอน

‘ต้องมีเหตุผลอื่นที่ควอนเจอินรีบร้อนกลับมา…’

หญิงสาวเผยสีหน้าที่ยากจะคาดเดาอารมณ์ ซึ่งแม้แต่เสือเหลืองก็อ่านความคิดไม่ออก

เธอหันไปมองจาเร็ด·ลีสักพัก ก่อนจะพยักหน้ารับ

“เผ่าเสือมักเฉยเมยกับทุกสิ่ง… ถึงฉันจะรู้ว่าเผ่าแท้ทั้งสองขัดแย้งกัน แต่ก็ยังวางใจเต็มร้อยไม่ได้”

“…หมายความว่ายังไง?”

“หนึ่งวันก่อนจะเกิดรอยแยกใหญ่ที่แมนเชสเตอร์ สมาคมเพลเยอร์สาขาอังกฤษถูกเผ่าแท้จู่โจมจนเกือบพินาศ… แม้จะมีทีมโปรเพลเยอร์ช่วยสนับสนุนอย่างแข็งขัน แต่ความเสียหายก็ยังนับว่ามหาศาล นั่นคือเหตุผลที่ทีมเพลเยอร์ของอังกฤษเคลียร์รอยแยกต่างโลกได้ช้ามาก”

“อาฮะ… ความสัมพันธ์ระหว่างสมาคมเพลเยอร์อังกฤษกับเผ่าแท้ที่นั่นเข้าขั้นแย่ ไม่ใช่เรืองแปลกที่จะถูกโจมตี”

“ทีมของเราจับเผ่าแท้ที่เข้าร่วมการจู่โจมในคราวนั้นได้ และโชคเข้าข้าง เผ่าแท้ผู้เรียกตัวเองว่าสัตว์วิเศษอาสาช่วยสอบปากคำ จนกระทั่งผ่านไปสิบปี ในที่สุดเราก็ได้รับเบาะแสแรก”

ควอนเจอินเว้นวรรค

“เผ่าแท้ที่จับได้เมื่อสิบปีก่อน… คือเผ่าหมีแห่งคาบสมุทรเกาหลี เจ้านั่นคายออกมาว่า พวกตนโจมตีสมาคมภายใต้คำสั่งของ ‘ท่านผู้นั้น’”

______________________

★★ ช่วงนี้มีโปรโมชั่นลดราคา สามารถตรวจสอบได้ที่ Inbox ของเพจ BJK Novel★★

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (2/4)

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด