ตอนที่แล้วบทที่ 6: ข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 8 ผู้ที่เหมาะสมเท่านั้นถึงจะอยู่รอด

บทที่ 7: เปลวไฟสงครามกำลังคุกรุ่น


หวางเวินจิงกำลังจะเป็นบ้า

เขาติดต่อกับหวางฮั่นลูกชายคนเดียวของเขาไม่ได้มาเกือบหนึ่งวัน แต่เขาก็ไม่สนใจอะไร มันเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กหนุ่มที่จะไปเที่ยวข้างนอกสักพักหลังจากจบการสอบของมหาวิทยาลัย

เขาไม่ได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหาจนกระทั่งเขาได้รับข้อความSMS พร้อมรูปถ่ายที่แนบมาในหมายเลขส่วนตัวของเขา ขณะอยู่ระหว่างการประชุมของบริษัท

เมื่อเขาคิดในแง่ดีว่าสิ่งที่เรียกว่าการลักพาตัวนั้นเป็นเพียงการเล่นตลก เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นจากหมายเลขที่ไม่รู้จักที่โทรเข้ามา ไม่ต้องคิดเลยว่ามันต้องเป็นเบอร์ราคา 30 หยวนจากข้างถนน

(เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มีเบอร์แบบนี้หลายแบบซึ่งไม่ต้องจดทะเบียนยืนยันตัวตน ก็สารามารถจ่ายเงินซื้อได้)

“หัวหน้าหวาง ได้โปรดอย่าส่งเสียงดัง” เสียงแปลกๆดังมาจากโทรศัพท์

หวางเวินจิงถอนหายใจ ในยุคที่สมาร์ทโฟนเพิ่งเริ่มเป็นที่นิยม ซอฟต์แวร์เปลี่ยนเสียงหรืออุปกรณ์เปลี่ยนเสียงเป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่ค่อยได้เห็น และไม่ควรเอามาใช้เป็นการแกล้งกันเช่นนี้

“มีเวลาไม่มาก โปรดเงียบและฟังสิ่งที่ฉันพูดอย่างตั้งใจ”

“ลูกชายของคุณอยู่ในมือของฉันแล้ว หากคุณยังต้องการช่วยชีวิตเขา อย่าแจ้งตำรวจ อย่าแจ้งคนอื่น และไปถึงฮงกวอเคทีวีคนเดียวภายใน 20 นาที จากนั้นนำเงินสดจากในเซฟของร้านมาสามล้านเพื่อแลกกับชีวิตลูกชายของคุณ”

“ส่วนจะนำเงินไปไว้ที่ไหน และจะพบลูกชายคุณได้ที่ไหน ฉันจะบอกคุณหลังจากที่คุณได้เงินที่ฉันต้องการมาแล้ว จำไว้ว่าฉันต้องการเงินสดเท่านั้น”

หวางเวินจิงทำธุรกิจมาหลายปีแล้ว และสภาพจิตใจของเขายังคงยอดเยี่ยมอีกด้วย เขากลั้นหายใจอย่างรวดเร็วและพูดอย่างใจเย็น: "ให้ลูกชายของฉันรับโทรศัพท์ ถ้าฉันไม่สามารถยืนยันได้ว่าเขายังปลอดภัยดี คุณจะไม่ได้เงินสักหยวน"

"ขอโทษ ฉันไม่ใจดีพอที่จะให้โอกาสคุณได้คุยกัน แต่มันง่ายมากที่จะยืนยันการอยู่รอดของเขา" เสียง "ตบ" และเสียงกรีดร้องราวกับผีโหยหวนดังมาจากโทรศัพท์

“พ่อครับ ช่วยผมด้วย—”

มือที่ถือโทรศัพท์ของหวางเวินจิงสั่นไหว มันเป็นเสียงของหวางฮั่น

แต่เขาไม่ใช่หวางฮั่นเขาจะไม่ปล่อยไปง่ายๆ "ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณบันทึกสิ่งนี้ไว้ล่วงหน้า! บางทีลูกชายของฉันอาจถูกคุณจับไปแล้ว...ฉันขอให้ลูกชายของฉันมารับโทรศัพท์ ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะถูกยกเลิกและฉันจะแจ้งตำรวจทันที!"

"พ่อ นี่ผมเอง! ฮันฮัน! นี้ไม่ใช้เสียงที่บันทึกไว้ ช่วยผมด้วย พวกเขาจะฆ่าผม" เสียงของหวางฮั่นดังขึ้นอีกครั้ง ตามด้วยเสียงสะอื้นไห้ ฮันฮันเป็นชื่อเรียกวัยเด็กของเขา แค่ว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้เรียกมันแล้วหลังจากที่เขาเข้าโรงเรียนมัธยม

“ฉันไม่โง่พอที่จะให้คุณสื่อสารและแอบส่งข่าวให้กันหรอกนะหัวหน้าหวาง คุณยังคงเจรจากับฉันในสถานการณ์แบบนี้อีก คุณนี้มันเป็นนักธุรกิจจริงๆ ดังนั้นเรามาคุยกันเรื่องธุรกิจกันเถอะ ลูกชายของคุณไม่บุบสลายมีค่าสามล้าน หรือล้านสองสำหรับขาสองข้าง ไม่มากใช่ไหม”

"ฉันสามารถถอดขา 2 ข้างแล้วส่งไปที่บริษัทของคุณ คุณต้องจ่ายค่าไถ่แค่ 2 ล้านเท่านั้น นอกจากนี้คุณยังสามารถดูความสดของขาที่ส่งไปได้เพื่อยืนยันว่าลูกชายของคุณยังมีชีวิตอยู่ คุณคิดอย่างไรกับข้อตกลงนี้คุ้มค่าหรือไม่”

เสียงร้องของหวางฮั่นยิ่งรุนแรงมากขึ้น และในที่สุดหวางเวินจิงก็ร้อนรน

“ฟังฉันก่อน ฉันจะฟังคุณ อย่าแตะต้องลูกชายของฉัน”

"ถ้าอย่างนั้นโปรดขอให้บอสหวางออกไปทันที คุณยังมีเวลาเหลืออีก 18 นาที หากคุณไม่สามารถมาทันเวลาที่ฉันขอ ฉันจะไม่ยอมรับข้อแก้ตัวแย่ๆ อย่างรถติดเด็ดขาด คุณจะได้รับลิ้งค์สำหรับระบุเส้นทางทันที"

"ตราบใดที่คุณรีบไปตามเส้นทางที่กำหนด ฉันเชื่อว่าคุณจะไปได้ทันเวลา โปรดอย่าฉวยโอกาสทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ ฉันจะคอยจับตามองคุณตลอดทางในที่ที่คุณมองไม่เห็น เอาล่ะเร็วเข้าอย่าช้า”

โทรศัพท์ถูกตัดสายและ MMS ถูกส่งมาพร้อมภาพหน้าจอของ Google Maps

หวางเวินจิงไม่ลังเลอีกต่อไป แจ้งเลขาฯให้เธอยกเลิกกำหนดการต่อจากนี้ แล้ววิ่งไปที่รถของเขา

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ มีเพียงสองคนที่อยู่ใต้ป้ายรถเมล์เล็กๆ หยางเซี่ยวเฉินดึงบัตรโทรศัพท์ออกแล้วโยนลงในถังขยะข้างป้ายรถเมล์แล้วแทนที่ด้วยบัตรใบใหม่

ถัดจากเขายูเชียนเต็มไปด้วยความสงสัย

“นายบอกว่าค่าไถ่หนึ่งล้านไม่ใช่หรือ? มันกลายเป็นสามล้านได้อย่างไร”

“ตอนนี้เขาก็ไม่คัดค้านอะไรแล้วไม่ใช่หรือ แน่นอนว่าเขาอาจจะมีข้อแก้ตัวต่างๆ เช่น เงินสดและเวลาไม่เพียงพอในการรวบรวมเงิน แต่มันจะดีที่สุดถ้าเขานำเงินสามล้านมาจริงๆ”

“แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าเขาจะถามคำถามพวกนี้จริงๆ”

หยางเซี่ยวเฉินแสดงรอยยิ้มที่เด็กสาวนิยามว่าเป็น "เจิดจรัส" เขย่าเครื่องอัดเสียงในมือแล้วพูดว่า "สองพ่อลูกคาดเดาได้ง่ายเกินไปและเราก็เตรียมคำตอบไว้หลายแบบ"

หยูเชี่ยนพยักหน้าและถามอีกครั้งว่า "ทำไมต้องลำบากแบบนี้ด้วย เราอยู่ในบ้านตลอดเวลาไม่ได้เหรอ คุณสามารถขอให้หวางฮั่นตอบคำถามใดก็ได้ด้วยตนเอง”

"แบบนั้นใช้ไม่ได้ คุณยังไม่เข้าใจถึงอำนาจของสถาบันกฎหมายของเราที่นี่ - Skynet, การตรวจสอบเครือข่าย, การติดตามสัญญาณ, โดรน ด้วยสิ่งเหล่านี้ก็ง่ายในการค้นหาพวกเราให้เจอ หากคุณต้องการจริงๆ มันก็ใช้เวลาไม่กี่นาทีในการตามหาเราจนเจอ"

"หยางเซี่ยวเฉินวางเครื่องบันทึกลงและหยิบเหรียญ 1 หยวนสองสามเหรียญออกมา "ถ้าหวางเวินจิงโทรแจ้งตำรวจ พวกเขาจะติดตามตำแหน่งของหมายเลขผู้โทรในการโทรครั้งต่อไปอย่างแน่นอน เทคโนโลยีสารสนเทศมันน่ากลัวเกินไป มีวิธีการเล็กๆน้อยๆเต็มไปหมด "

ห่างออกไปไม่ไกลรถเมล์สาย 302 วิ่งรอบเมืองมาด้วยความเร็วคงที่และชะลอความเร็วลงช้าๆเพื่อหยุดรถ

"โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่และหมายเลขใหม่ทั้งหมดที่ไม่ระบุตัวตน หลังจากเสร็จสิ้นการโทรที่จำเป็น  เราสามารถทิ้งโทรศัพท์มือถือลงตามพื้นใดเวลาใดก็ได้" รอยยิ้มของหยางเซี่ยวเฉินกลายเป็นพึงพอใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

"การคมนาคมสมัยใหม่สะดวกสบาย ทุกชานชาลามีคนขึ้นและลงรถบัสแต่ละชานชาลามีผู้คนมากมาย ต้องการหาฉันหรอก็เหมือนกำลังงมเข็มในมหาสมุทร พอลงจากรถเราจะนั่งแท็กซี่แล้วรีบวิ่งไปที่ที่จุดวางเงิน จากนั้นรับเงิน แล้วรีบออกมาทันที"

“แล้วถ้าเราไปถึงช้าล่ะ”

“มันจะเป็นไปได้ยังไง การจะบอกเขาว่าให้เอาเงินไปวางไว้ที่ไหนเวลาอะไร ของพวกนี้ขึ้นอยู่ที่เราตัดสินใจ แล้วเราจะไปถึงช้าได้ยังไง”

หยางเซี่ยวเฉินหยิบหน้ากากอนามัยออกมาสองอัน สวมอันหนึ่งแล้วส่งอีกอันให้หยูเชียน เขาชี้ไปที่รถบัสที่จอดอยู่ข้างหน้าเขา "มาเลย ฉันจะแสดงสไตล์ของเมืองชั้นหนึ่งให้คุณดู"

…………

สำนักงานรักษาความปลอดภัยประจำเมือง:

หลิวชูสมาชิกในทีมที่มีอายุน้อยที่สุด ตะโกนขึ้นหลังจากได้รับข่าวดี "เราพบผู้ป่วยที่อาจผลิตแอนติบอดีได้แล้ว! มีสองเป้าหมายที่เป็นไปได้! "

แม้ว่าเหลียวหยวนโจวเป็นเพียงผู้บังคับบัญชาอันดับที่สองของแผนกรักษาความปลอดภัย แต่เขาก็เป็นกลุ่มที่อำนาจอย่างแท้จริง ผู้กำกับอันดับหนึ่งรอเกษียณแล้ว อีกไม่นานคำว่ารองผู้อำนวยการหลิวจะถูกลบออก และพวกเขาจะต้องเรียกว่าผู้อำนวยการหลิว

"ส่งข้อมูลที่อยู่ของเป้าหมายแต่ละคนมา กลุ่มที่หนึ่งจะค้นหาตัวคนแรกพร้อมกับฉัน กลุ่มที่สองจะไปหาอีกคนหนึ่ง"

รองผู้อำนวยการไม่รอช้าแม้แต่วินาทีเดียว "เร็ว ไปได้!"

ในเวลาไม่ถึงนาที ทีมปฏิบัติการทั้งสองทีมก็เตรียมตัวพร้อมแล้ว

“ทุกคน ออกเดินทางได้!” เหลียวหยวนโจวออกคำสั่ง ทีมปฏิบัติการทั้งสองทีมที่พร้อมจะออกเดินทาง ทั้งสองทีมก็รีบไปที่ตำแหน่ง GPS ตามเป้าหมายทั้งสองจุดจากทีมสื่อสาร

ไม่ถึงชั่วโมงต่อมา ภายใต้การนำกลุ่มของเหลียวหยวนโจวก็พบตัวเป้าหมายหมายเลข 1 ได้สำเร็จ เขานอนอยู่ในห้องเช่ารายชั่วโมงราคาถูกข้างสถานีรถไฟ เลือดกระเซ็นไปทั่วพื้น เห็นได้ชัดว่าติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์เรียบร้อยแล้ว

โชคดีที่เหลียวหยวนโจวซึ่งเป็นคนระมัดระวัง บอกให้สมาชิกในทีมสวมหมวกและหน้ากากกันเชื้อแล้ว ทำให้ไม่มีอุบัติเหตุจากการติดเชื้อ

“เป้าหมายนี้ผิดพลาด เขาเพิ่งติดเชื้อมาก่อนและตอนนี้เขาได้เสียชีวิตแล้วจากไวรัสกลายพันธุ์”

เหลียวหยวนโจวรายงานด้วยเครื่องส่งรับวิทยุและถามต่อว่า "กลุ่มที่สองเป็นอย่างไรบ้าง"

"พบเป้าหมายที่สองที่น่าจะเป็นผู้สามารถสร้างแอนติบอดี้ได้แล้ว แต่เขาวิ่งหนีพวกเราไป"

“หนี?” เหลียวหยวนโจวโกรธจัด “พวกนายหกคนปล่อยให้คนๆเดียวหนีไปได้ยังไง!”

สมาชิกในทีมเหล่านี้ยังไม่มีประสบการณ์ ดูเหมือนจะยังไม่พร้อมที่จะมอบหมายงานสำคัญให้พวกเขา!

"...เป้าหมายนั้นระแวดระวังอย่างสุดโต่งเกินไป เขากระโดดออกจากหน้าต่างและหนีไปทันทีที่เราเปิดเผยตัวตน ภูมิประเทศที่นี่ซับซ้อนและเป็นเรื่องยากที่เราจะตามทัน"

“ใครบอกให้นายรายงานตัว!” เหลียวหยวนโจวเปล่งเสียงดังลั่น

"บอกฉันมา! บอกกระบวนการทั้งหมด! หากคุณไม่สามารถติดตามได้ภายในสิบนาที เก็บข้าวของแล้วลาออกไปซะ!"

เหลียวหยวนโจวรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ไล่ผู้ปฏิบัติการชั้นยอดเหล่านี้ออกและพวกเขาก็รู้เช่นกัน แต่สิ่งนี้ไม่ได้ขัดขวางเหลียวหยวนโจวจากการแสดงความมุ่งมั่นของเขา เพื่อนร่วมทีมกลุ่มที่สองถูกกระตุ้นอย่างมาก และพวกเขากำลังไล่ตามเป้าหมายราวกับว่าพวกเขากำลังใช้สารกระตุ้น

หลังจากใช้ไหวพริบและความกล้าหาญ ในที่สุดเป้าหมายที่สองก็ถูกล้อมไว้ภายในตรอกเล็กภายในเวลาสิบนาที

"ลงมือเถอะ" เหลียวหยวนโจวได้ยินเสียงที่ทำอะไรไม่ถูกของเป้าหมายหมายเลข 2 อย่างชัดเจน จากเครื่องส่งรับวิทยุที่เปิดอยู่ตลอดเวลา

"คุณหลีจินคุ้ย ตัวคุณอาจมีแอนติบอดีสำหรับต่อต้านต่อไวรัสอันตราย เราได้รับคำสั่งให้นำคุณกลับไปที่ *CDC โปรดให้ความร่วมมือ มิฉะนั้นเราจะใช้มาตรการภาคบังคับหากจำเป็น"

**CDC ย่อมาจาก Centers for Disease Control and Prevention หรือ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค

“คุณไม่ได้มาเพื่อฆ่าชั้นเหรอ?” หลีจินคุ้ยซึ่งครอบครองแอนติบอดีไวรัสถามด้วยความประหลาดใจ "คุณเป็นตำรวจจริงๆหรือ"

คำตอบนี้ทำให้เหลียวหยวนโจวรู้สึกได้ถึงลางร้าย

“คุณต้องปกป้องฉัน!” หลีจินคุ้ยเปลี่ยนทัศนคติของเขาในทันที ไม่เพียงแต่เขาจะไม่หลบหนี แต่ดูเหมือนว่าจะพยายามคว้าจับฟางช่วยชีวิตแทน "มีทีมทหารรับจ้างนานาชาติระดับแนวหน้ากำลังไล่ตามฉัน ตราบเท่าที่คุณปกป้องฉันได้ คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้!"

“อะไรนะ คุณไม่รู้หรือว่าประเทศของเราเป็นพื้นที่ต้องห้ามสำหรับทหารรับจ้าง?”

สมาชิกทีมที่สองพึมพำและคำสั่งของเหลียวหยวนโจวก็ถูกส่งมาจากเครื่องส่งรับวิทยุ "ทีมที่สองขึ้นรถบัสพาเป้าหมายกลับไปที่ CDCทันที ระวังตัวด้วย"

ก่อนที่เขาจะพูดจบ เสียงปืนก็ดังขึ้น

ศัตรูโจมตี!

เจ้าหน้าที่ชั้นยอดรีบพาหลีจินคุ้ยหลบไปด้านข้างเพื่อหาที่กำบัง ล่าถอยขณะมองหาโอกาสต่อสู้

แต่อำนาจการยิงของผู้โจมตีนั้นรุนแรงมาก พวกเขาต้องล่าถอยอย่างต่อเนื่อง

ในเวลาไม่กี่วินาที เพื่อนร่วมทีมสามคนก็ล้มลงจมกองเลือดไปแล้ว พวกเขานำตัวเป้าหมายขึ้นไปในรถและขับหนีไปจนสุดทาง

"อย่าไป CDC! ระยะทางมันไกลจากเราเกินไป!" เหลียวหยวนโจวตะโกนใส่เครื่องส่งรับวิทยุ

"หันหลังกลับมุ่งหน้าออกอุโมงค์สถานีซานกวน ไปฐานบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ! เราจะไปเจอคุณอยู่ที่สถานีซานกวน!"

หลังวางเครื่องส่งรับวิทยุเหลียวหยวนโจวยังคงออกคำสั่งต่อไป

"ทีมสื่อสารติดต่อกองตำรวจติดอาวุธเพื่อขอการสนับสนุน ทีมหนึ่งขึ้นรถตามฉันไปที่สถานีอุโมงค์ซานกวนเพื่อรับทีมสอง และทุ่มเททุกอย่างเพื่อพาผู้มีแอนติบอดีไปยังฐานบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศอย่างปลอดภัย !"

ในสถานที่ห่างไกลที่ไม่มีใครมองไม่เห็น ควันดินปืนลอยอยู่ในอากาศและประกายแห่งสงครามกำลังคุกรุ่น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด