ตอนที่แล้วตอนที่ 176: ผู้ลักลอบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 178: ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุกรรม

ตอนที่ 177: ความลับของแฮร์ริส


ตอนที่ 177: ความลับของแฮร์ริส

เซี่ยเฟยไม่ทันได้สังเกตเลยว่ายานอุตสาหกรรมของแฮร์ริสเป็นยานที่ว่างเปล่า เพราะเขาคิดแต่เพียงว่าชายชราคนนี้เป็นเพียงแค่ผู้ลักลอบขายของเถื่อนโดยทั่วไปที่สามารถหาพบได้ในบริเวณนี้

“ตามผมมาทางนี้ได้เลย” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเดินนำไปที่ห้องบัญชาการของยานรบโดยถือระบบนำทางของแฮร์ริสไว้ในมือ

แฮร์ริสวางกระเป๋าทั้งสองใบเอาไว้อย่างระมัดระวังและเดินตามชายหนุ่มไปตามคำสั่ง

ในกระเป๋าของแฮร์ริสทั้งสองใบเต็มไปด้วยอาหาร, เครื่องจักรและพืชบางชนิดที่เซี่ยเฟยไม่รู้จัก แต่พวกมันก็มีค่าเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

โทมาฮอว์กมีขนาดใหญ่มากซึ่งระหว่างที่ชายชราเดินตามชายหนุ่มเขาก็รู้สึกประหลาดใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเขาไม่เจอคนอื่นในระหว่างทางที่เขาเดินตามเซี่ยเฟยเลย

‘เป็นไปได้ไหมว่าเซี่ยเฟยจะอยู่บนยานขนาดใหญ่เหล่านี้เพียงแค่คนเดียว?’

เมื่อมาถึงห้องประจำการเซี่ยเฟยก็ทำการเชื่อมระบบนำทางเข้ากับระบบหลักของยานรบอย่างชำนาญ

“เริ่มทำการตรวจสอบระบบ” เซี่ยเฟยสั่งการคอมพิวเตอร์ AI

หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเสียงผู้หญิงจากระบบก็ดังขึ้น

“ระบบนำทางปลอดภัยสามารถเปิดใช้งานได้ค่ะ”

นี่คือระบบตรวจสอบของคอมพิวเตอร์ชั้นสูงที่จะทำการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบภายนอกที่จะทำการติดตั้งเข้าไป ว่ามีไวรัสหรือสิ่งแปลกปลอมแฝงตัวเข้ามาในระบบหรือเปล่า

“เปิดเลย” เซี่ยเฟยสั่ง

หน้าจอเริ่มกระพริบอย่างรวดเร็วก่อนที่ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งตรงไปยังระบบหลักของโทมาฮอว์ก

“เชิญนั่ง ผมกำลังจะเดินทางไปยังดาวเคราะห์ DLC-113 ในภูมิภาคดาวมฤตยู แต่ผมไม่คุ้นเคยกับเส้นทางนี้เท่าไหร่ ข้อมูลในระบบนำทางของคุณมีความแม่นยำมากแค่ไหน”

“ฉันก็เคยไปที่ดาว DLC-113 เหมือนกัน ฉันเคยเดินทางตามเส้นทางนั้นไม่ต่ำกว่า 7 ครั้ง มั่นใจได้เลยว่าเส้นทางนี้ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน”

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่จะหันไปสั่งการคอมพิวเตอร์ AI

“กำหนดเส้นทางใหม่เป็นเส้นทางที่เร็วที่สุด อ้างอิงจากข้อมูลที่เพิ่งเพิ่มเข้าไป”

“รับทราบ ระบบกำลังทำการปรับเปลี่ยนเส้นทาง”

หลังจากนั้นไม่นานเส้นทางก็ได้รับการแก้ไขและทำให้ระยะเวลาเดินทางสั้นลงจาก 27 วันเหลือเพียงแค่ 19 วันเท่านั้น ดูเหมือนว่าข้อมูลการเดินทางของแฮร์ริสค่อนข้างจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากเลยทีเดียว

เมื่อระบบได้โชว์เส้นทางเซี่ยเฟยก็ทำการตรวจสอบเส้นทางบนหน้าจออย่างระมัดระวัง

“เส้นทางนี้ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ภัยคุกคามเพียงอย่างเดียวมีแค่โจรสลัด แต่ยานรบของคุณมีตราสัญลักษณ์ของจัสทิสอยู่ ไม่มีโจรสลัดที่ไหนกล้ามาแหยมกับยานของคุณหรอก” แฮร์ริสกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ต่อมาโทมาฮอว์กก็เริ่มมุ่งหน้าตรงไปยังภูมิภาคดาวมฤตยูตามเส้นทางใหม่ที่เขาได้รับมาจากแฮร์ริส

หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเซี่ยเฟยก็พาแฮร์ริสไปยังห้องโดยสารของลูกเรือ โชคดีที่ยานลำนี้ยังไม่ได้ถูกดัดแปลงตามแบบฉบับของเขามันจึงยังหลงเหลือห้องพักผ่อนที่หรูหราอยู่

“ตลอดการเดินทางนอกจากเวลาทานอาหารขอให้คุณอยู่แต่ภายในห้อง ถ้าผมเห็นคุณมีพฤติกรรมเสี่ยงแม้แต่นิดเดียวผมจะโยนคุณออกไปเป็นขยะอวกาศอย่างไม่ลังเล เข้าใจไหม?” เซี่ยเฟยพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง

“ไม่ต้องห่วง ๆ ฉันจะทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ถ้าคุณอยากจะให้ฉันทำอะไรก็บอกมาได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารหรือการทำความสะอาด ฉันพร้อมจะทำทุกอย่าง” แฮร์ริสกล่าวพร้อมกับพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า

“ผมได้ยินมาว่าเหตุการณ์ภายในเขตทุ่งดาวแห่งความตายไม่ค่อยสงบ คุณมีอะไรอยากจะเล่าให้ผมฟังไหม?” เซี่ยเฟยถามพร้อมกับนั่งเก้าอี้และดูดบุหรี่โดยท่าทางสบาย ๆ

“คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ เมื่อก่อน 3 ภูมิภาคดาวภายในเขตทุ่งดาวแห่งความตายต่างก็ล้วนแล้วแต่ปกครองพื้นที่ในเขตของตัวเอง แต่คุณก็น่าจะรู้ว่าภายในเขตทุ่งดาวแห่งความตายแห้งแล้งมากแค่ไหน มันจึงทำให้การผลิตอาหารในท้องถิ่นไม่เพียงพอและจำเป็นจะต้องนำเข้าอาหารจากพันธมิตรเป็นจำนวนมาก”

“แต่เนื่องจากพื้นที่เขตไร้มนุษย์ที่เป็นอุปสรรคนี่เอง มันจึงทำให้การพยายามขนส่งเสบียงจากพันธมิตรไปยังเขตทุ่งดาวแห่งความตายเป็นเรื่องที่ยากมาก และถึงแม้ว่ามันจะมีกองยานจากพันธมิตรคอยขนส่งเสบียงไปให้ทุก ๆ 3 เดือน แต่มันก็ยังไม่เพียงพอต่อประชากรทั้งหมดในเขตทุ่งดาวแห่งความตายอยู่ดี มันจึงมีนักธุรกิจรายย่อยแบบฉันที่คอยพึ่งพาการขนส่งอาหารเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว”

“แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการค้นพบกาแล็กซี่ใหม่ไม่ห่างไปจากเขตทุ่งดาวแห่งความตายมากนัก โดยภายในกาแล็กซี่นั้นมีดาวเคราะห์ที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยถึง 4 ดวงและเป็นดาวเคราะห์ที่สามารถผลิตอาหารขึ้นมาได้อย่างมากมาย เหล่าผู้มีอำนาจของทั้งสามภูมิภาคดาวจึงเริ่มต่อสู้เพื่อแย่งชิงดาวเคราะห์ทั้งสี่ดวงนี้ และมันก็ทำให้สงครามใกล้ที่จะปะทุขึ้นมาเต็มที” แฮร์ริสเล่าประวัติเบื้องหลังความขัดแย้งภายในเขตทุ่งดาวแห่งความตาย

การเดินทางในอวกาศไม่มีความแตกต่างระหว่างเวลากลางวันหรือกลางคืน มันจึงไม่มีอะไรคอยกำกับว่าเวลาไหนควรทำงานหรือเวลาไหนควรพักผ่อน แต่เซี่ยเฟยก็ยังคงใช้นาฬิกาจากดาวโลกเพื่อกำหนดเวลาในการใช้ชีวิตของเขาเอง

ในตอนกลางคืนแฮร์ริสเริ่มทำอาหารและทำความสะอาดครัวทั้ง ๆ ที่ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ชอบทำงานแบบนี้รวมถึงตัวของเซี่ยเฟยเองด้วยเช่นกัน

หลังอาหารเย็นชายหนุ่มก็ขังตัวเองอยู่ภายในห้องเพื่อทำการอ่านความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเข้ารหัสหุ่นยนต์โดยหนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาที่กว้างมาก ซึ่งทุก ๆ ครั้งที่เซี่ยเฟยได้อ่านเขาจะได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ อย่างไม่รู้จบ

ทันใดนั้นเองเซี่ยเฟยก็สังเกตพบพลังจิตอ่อน ๆ ที่กำลังพยายามแอบมองเขาอยู่

ชายหนุ่มกระตุกรอยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยก่อนที่เขาจะปิดไมโครคอมพิวเตอร์และแสร้งแกล้งทำเป็นหลับบนเตียง

นอกเหนือจากเซี่ยเฟยแล้วยานลำนี้มีแฮร์ริสอยู่เพียงแค่คนเดียว และในฐานะที่เขาเป็นผู้ใช้พลังจิตเขาจึงมีความคุ้นเคยกับพลังจิตเป็นอย่างดี โดยพลังจิตที่อ่อนแอเช่นนี้ไม่ได้มีเจตนาร้ายใด ๆ เพียงแต่แฮร์ริสดูเหมือนต้องการจะทำการตรวจสอบอะไรบางอย่างเท่านั้น

หลังจากที่พลังจิตของแฮร์ริสลองผิดลองถูกอยู่นาน ในที่สุดพลังจิตนี้ก็เริ่มเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งของชายหนุ่มโดยปลายทางสุดท้ายของมันก็ดูเหมือนจะเป็นสมองของเขา

“นั่นเขากำลังพยายามจะทำอะไร? ไม่คิดเลยว่าแฮร์ริสคนนี้จะเป็นผู้ใช้พลังจิตและระดับของเขาก็ยังต่ำกว่านายมาก” อันธกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“มารอดูกันว่าเขากำลังพยายามจะทำอะไร ถึงยังไงฉันก็สามารถกระชากพลังจิตฆ่าเขาได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวกับอันธผ่านทางจิตสำนึก

การใช้พลังจิตเพื่อทำการสอดแนมผู้อื่นแบบนี้ถือได้ว่าเป็นการกระทำที่อันตราย เพราะถ้าหากว่าพลังจิตของอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าพลังจิตของตัวเอง มันก็มีโอกาสที่พลังจิตอันอ่อนแอจะถูกกระชากเข้าสู่วังวนแห่งจิตวิญญาณและถูกสังหารโดยพลังจิตที่แข็งแกร่งกว่า

ผู้ใช้พลังจิตที่ฉลาดจะไม่ทำการสอดแนมคนอื่นเว้นแต่ว่าเขาจะแน่ใจจริง ๆ ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าแฮร์ริสไม่ได้ถือว่าเป็นผู้ใช้พลังจิตที่ฉลาดมากนัก

ทันใดนั้นเองพลังจิตของแฮร์ริสก็ถอยกลับไปทางเดิมซึ่งมันก็ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกสับสนอยู่สักพัก

“ทำไมเขาถึงเลือกที่จะถอยทั้ง ๆ ที่เขามาไกลถึงขนาดนี้?”

“แปลกมาก เขากำลังพยายามจะทำอะไรกันแน่?” เซี่ยเฟยลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง

“ฉันก็ไม่รู้ แต่เหมือนเขาจะสนใจในตัวนายนะ แล้วมันก็ดูเหมือนกับว่าเขาจะไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรเลย” อันธกล่าว

“คอยดูกันไปก่อนเถอะ เดี๋ยวสักวันหางเขาก็จะโผล่ออกมาเอง” เซี่ยเฟยกล่าว

วันต่อมาเซี่ยเฟยก็เข้าไปในครัวตั้งแต่เช้าและได้พบว่าแฮร์ริสอยู่ภายในครัวก่อนเขาแล้ว

“อ่า…คุณเซี่ยเฟย เชิญรับประทานอาหารได้เลยครับ” แฮร์ริสกล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมกับเสิร์ฟอาหารเช้าให้กับเซี่ยเฟย

ชายหนุ่มพยักหน้ารับอาหารเช้าที่แฮร์ริสเป็นคนทำ ซึ่งไม่เพียงแต่มันจะอร่อยเท่านั้นแต่มันยังเป็นอาหารที่ถูกปรุงขึ้นมาอย่างพิถีพิถันคล้ายกับเป็นอาหารของชนชั้นสูง

‘พ่อค้าขายของเถื่อนที่ยุ่งอยู่กับการขายอาหารเพื่อเลี้ยงชีพจะมีทักษะในการทำอาหารที่ดีขนาดนี้ได้ยังไง?’ เซี่ยเฟยยิ่งคิดแล้วมันก็ทำให้เขายิ่งรู้สึกสงสัยมากยิ่งขึ้น

“อาหารของคุณอร่อยมาก ไม่ทราบว่าคุณไปเรียนรู้วิธีการทำอาหารมาจากที่ไหน?” เซี่ยเฟยแสร้งถามขึ้นมาอย่างเป็นกันเอง

“แม่ฉันเคยเป็นแม่ครัวอยู่ในตระกูลของชนชั้นสูง ฉันเรียนรู้การทำอาหารจากแม่มาตั้งแต่เด็ก ถ้าหากคุณชอบฉันยังมีหน่อไม้อยู่ในตู้เย็นอีก เดี๋ยวมื้อกลางวันฉันจะทำเนื้อตุ๋นหน่อไม้ให้คุณกิน” แฮร์ริสกล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมกับหยิบจานอาหารของเซี่ยเฟยไปที่อ่างล้างจาน

“อือ” เซี่ยเฟยพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไรเพิ่มเติม

ตอนกลางคืนพลังจิตของแฮร์ริสก็แอบเข้ามาภายในห้องของเซี่ยเฟยอีกครั้ง โดยในครั้งนี้ชายหนุ่มระมัดระวังตัวมากเป็นพิเศษและเลือกที่จะไม่แกล้งหลับเหมือนเดิม โดยเขาเลือกที่จะฝึกซ้อมภายในห้องราวกับว่าไม่มีความผิดแปลกอะไร ซึ่งหลังจากที่เวลาได้ผ่านพ้นไปไม่กี่ชั่วโมงแฮร์ริสก็ถอนพลังจิตของตัวเองกลับไป

คืนวันที่ 3 และคืนวันที่ 4 ก็ยังคงมีพลังจิตมาสอดแนมเซี่ยเฟยอยู่เช่นเดิม จนกระทั่ง 1 สัปดาห์ต่อมาแฮร์ริสก็ยังไม่ตัดสินใจใช้พลังจิตทำอะไรเพิ่มเติม

“นายยังไม่จัดการกับเขาอีกหรอ?” อันธถาม

“ฉันจะให้โอกาสเขาคืนนี้เป็นครั้งสุดท้าย หวังว่าเขาจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย

อาหารเย็นยังคงอร่อยเหมือนเช่นเคย ซึ่งอาหารของแฮร์ริสก็ทำให้ชายหนุ่มน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาจากเดิมเล็กน้อย

หลังจากรับประทานอาหารจนเสร็จเซี่ยเฟยก็กลับเข้าไปในห้องปล่อยให้แฮร์ริสจัดการทุกอย่างภายในครัว

“น่าเสียดายมันคงจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่ฉันจะได้กินอาหารอร่อย ๆ แบบนี้” เซี่ยเฟยพูดกับตัวเองหลังจากปิดประตูห้อง

15 นาทีก่อนเที่ยงคืนพลังจิตของแฮร์ริสก็ลักลอบเข้ามาภายในห้องของเซี่ยเฟยตรงเวลา แต่ในคราวนี้ชายหนุ่มกลับรู้สึกผิดหวังมากขึ้นกว่าเดิม เพราะพลังจิตของแฮร์ริสอยู่ภายในห้องไม่ถึง 5 นาทีก่อนที่เขาจะถอนพลังจิตกลับไป

“นายปล่อยจิตสังหารออกมาเขาเลยระวังตัวมากกว่าปกติ แสดงว่าประสาทสัมผัสของเขาก็ค่อนข้างฉับไว เขาถึงสามารถสัมผัสถึงจิตสังหารของนายได้” อันธกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

“ฉันให้โอกาสเขาแล้ว ไม่ว่าจุดประสงค์ของเขาจะเป็นอะไรแต่ฉันจะไม่เล่นกับเขาอีกต่อไปแล้ว” เซี่ยเฟยกระโดดลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปที่ห้องของแฮร์ริส

เพื่อให้สะดวกต่อการสังเกตการเซี่ยเฟยจึงจัดให้ห้องของแฮร์ริสอยู่ติดกับห้องของเขา ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาเดินไปที่ห้องของแฮร์ริสเพียงแค่พริบตา

“คุณรู้ตั้งแต่แรกแล้วหรอ?” แฮร์ริสมองไปยังชายหนุ่มที่ประตูด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว

“ฉันจะให้ทางเลือกแก 2 ทาง ทางแรกคือเป็นขยะอวกาศ ส่วนทางที่ 2 คือบอกจุดประสงค์ของแกมาแล้วค่อยไปเป็นขยะอวกาศ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

แฮร์ริสใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ซึ่งพฤติกรรมของชายชราทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกประหลาดใจ เพราะแฮร์ริสกำลังทำตัวราวกับว่าเขาไม่เกรงกลัวความตายเลยสักนิด

“เซี่ยเฟยคุณเคยดื่มน้ำยาอเมทิสต์เข้าไปหรือเปล่า?” แฮร์ริสถาม

***************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด