ตอนที่แล้วบทที่ 48 – การเผชิญหน้ากับเผ่าปีศาจครั้งแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 50 - สมาคมทหารรับจ้าง

บทที่ 49 - หลบหนีออกมาได้สำเร็จ


ทรงพลังมาก เวทย์มนต์มืดช่างทรงพลังจริง ๆ พวกเขาคือเผ่าปีศาจ เป็นเผ่าปีศาจที่เกลียดมนุษย์จนเข้ากระดูกดำ เหมือนสลักไว้บนหัวใจของพวกเขา พวกเขาไม่ไว้ชีวิตผมแน่นอน

อย่างแรก ผมไม่เคยพบกับเผ่าปีศาจมาก่อน ดังนั้นผมไม่รู้วิธีจัดการกับเวทย์มนต์มืด มันจัดการไม่ได้! ถ้าอย่างนั้นผมต้องรีบหนี ความปลอดภัยเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด แล้วผมค่อยคิดหาวิธีรับมือกับพวกเขาทีหลัง ผมใช้ความได้เปรียบที่ตอนนี้เวทย์มืดกำลังปะทะอาณาจักรพิสุทธิ์ของผมอยู่ ใช้เวทย์เคลื่อนย้ายระยะใกล้ย้ายตัวเองออกมาจากจุดปะทะ ผมเลือกทิศทางได้แล้ว ผมเริ่มหนีอย่างสุดตัว!

ในความเป็นจริง ผมไม่ต้องหลบหนีอย่างอกสั่นขวัญแขวนมากนักก็ได้ พวกเขาไม่ได้ไล่ตามผมมา ถึงแม้ว่าเจ้าเสาไม้ไผ่นั่นจะจัดการกับอาณาจักรพิสุทธิ์ของผมได้ แต่ก็ต้องใช้พลังเวทย์ไปไม่น้อย เวทย์มืดและเวทย์แสงเป็นเวทย์มนต์ตรงข้ามกัน เขาไม่ได้เปรียบมากนักตั้งแต่ต้นแล้ว

หลังจากจัดการกับเวทย์ของผมได้แล้ว เสาไม้ไผ่สูดหายใจลึก “เวทย์มนต์แสงเวทย์นี้ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วเขายังสามารถใช้เวทย์มิติได้อีก ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางไล่ตามเขาได้ทัน เจ้าเด็กนี่ยังเด็กอยู่มาก แต่มีความแข็งแกร่งมากเหลือเกิน อา!! เจ้าหญิง ดูเหมือนว่าท่านจะยังไม่สามารถเทียบกับเขาได้”

“อาจารย์ เป็นยังไงบ้างคะ? อย่าบอกนะ...แม้แต่ท่านก็จัดการมันไม่ได้? มันเก่งขนาดนั้นจริงเหรอ?” สาวสวยรีบเข้ามาช่วยเหลือเสาไม้ไผ่ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น เธอถามด้วยความสงสัย

“อืม! เจ้าหญิง ถ้าเจ้าหนูนั่นพูดความจริง พวกเราเผ่าปีศาจก็อันตรายแล้ว” จริงแท้แน่นอน พวกเขาเป็นเผ่าปีศาจ “เวทย์มนต์แห่งแสง เป็นสิ่งที่เราไม่ได้เผชิญหน้าด้วยมาเป็นเวลานานมากแล้ว พลังของมันแข็งแกร่งมาก แล้วดูเหมือนว่าเจ้าหมอนั่นจะยังไม่ได้ใช้พลังออกมาเต็มที่ด้วย ถึงตอนนี้เขาจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า แต่ภายในอีกไม่กี่ปี เขาต้องเหนือกว่าข้าได้แน่ ๆ เขารู้แล้วว่าเผ่าปีศาจกำลังจะรุกรานเผ่ามนุษย์ เขาต้องเตรียมตัวรับมือไว้เป็นอย่างดีแน่นอน ดูเหมือนว่าเราจะต้องหยุดแผนการณ์ที่จะรุกเข้ามาในดินแดนของพวกมนุษย์เอาไว้ก่อน เราต้องเข้าใจความแข็งแกร่งของเผ่ามนุษย์ให้ชัดเจน แล้วเราถึงสามารถดำเนินตามแผนการต่อไปได้”

“ตกลง! ข้าจะฟังท่านอาจารย์ แล้วเรายังจะเดินทางไปอาณาจักรอ้ายเซี่ยอยู่หรือไม่?”

“เรายังจะเดินทางต่อ แต่อย่างไรก็ดี พวกท่านน่าจะต้องเดินทางไปลำพังกันก่อน หาสถานที่เตรียมพร้อมไว้ ส่วนข้าจะต้องกลับไปยังอาณาจักรของเรา ข้าต้องรายงานสถานการณ์ให้องค์เหนือหัวรับทราบก่อน ให้พระองค์เป็นผู้ตัดสินว่าเราจะต้องเปลี่ยนแผนของเราหรือไม่”

“ดี! ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะรีบเดินทางทันที” สาวสวยหันไปทางผู้รับใช้ทั้ง 8 นาง แล้วกล่าวถาม “อาการของพวกเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? รีบไปจัดการเรื่องเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เราจะรีบไปตอนนี้เลย รอให้เข้าไปในเมืองได้แล้ว ค่อยหาที่พัก แล้วทำการรักษาอาการบาดเจ็บ”

กลับมาที่ผม หลังจากหลบหนีออกมาอย่างไม่มีใครรู้ว่านานเท่าไร ผมสูดลมหายใจถี่ อา!! ตอนนี้ผมเหนื่อยมากจริง ๆ ผมหันมองไปรอบ ๆ ตอนกำลังวิ่ง ไม่มีใครตามผมมาเลยนี่ ถ้าอย่างนั้นมันน่าจะไม่มีปัญหาแล้ว ผมหยุดวิ่ง มองหาต้นไม้ใหญ่ ก่อนที่จะเข้าไปนั่งปาดเหงื่อบนหน้าผากอยู่ใต้โคนต้นไม้นั้น พวกเผ่าปีศาจพวกนั้นมาทำอะไรที่นี่กันแน่? แล้วผมจะโชคร้ายอะไรขนาดนั้น? วิ่งไปเจอพวกนั้นเข้าเนี่ยนะ ดูเหมือนว่าวันนี้ผมจะไม่มีโชค แค่เริ่มออกเดินทาง ก็เจอกับศัตรูตัวใหญ่แล้ว ยังดีนะที่ผมหนีได้เร็ว ผมยังรู้สึกถึงความกลัวที่หลงเหลืออยู่ เมื่อนึกถึงเงาดำที่เจ้าเสาไม้ไผ่ร่ายใส่ผม

ยังไงก็ดี หัวหน้าของกลุ่มสาว ๆ นั่นสวยดีจริง ๆ เผ่าปีศาจมีผู้หญิงสวย ๆ มากขนาดนี้เลยเหรอ? ตอนแรกผมคิดว่าคู่พี่น้องตระกูลซิงนั่นสวยแล้วนะ แต่ผู้หญิงเผ่าปีศาจคนนี้สวยกว่าอีก! ผมส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยใจเต้นกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน แต่คราวนี้ผมเริ่มรู้สึกนิด ๆ แล้ว แต่ว่านะ รู้สึกว่าเธอจะดูโหดร้ายไปหน่อย ตอนเธอเจอผม ไม่ใช่แค่อยากจะทุบตีผม แต่อยากจะฆ่าผมเลย ถ้าเกิดผมแต่งงานกับเธอไปในอนาคต ชีวิตผมจะไม่มีแต่ความทุกข์ระทมหรือยังไง? แค่พูดแหย่ไม่กี่คำ เธอต้องประเคนมีด ประเคนดาบใส่ผมแน่ พอเถอะ ไม่เอาแล้ว ดูเหมือนว่าผู้หญิงสวย ๆ จะดุร้ายกันทุกคน ต่อไปในอนาคต ผมจะหาผู้หญิงหน้าตาธรรมดา ๆ มาเป็นภรรยา ผู้หญิงสวย ๆ เอาไว้มองอย่างเดียวก็พอแล้ว

(ความคิดของบุตรแห่งแสงเป็นยังไงไม่มีใครรู้จริง ๆ ตอนนี้ เขากำลังคิดถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อย แต่เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องที่เผ่าปีศาจผ่านป้อมปราการเต๋อหลุน และเข้ามาที่ทวีปเทียนอู่ได้อย่างไร แล้ววัตถุประสงค์ของเผ่าปีศาจคืออะไร?)

ร่างกายของผมหมดแรง พลังวิญญาณของผมเหือดแห้ง ผมเลยเผลอหลับไปที่ใต้ต้นไม้นั่น

ผมหลับสบายมาก แต่ต้องตื่นขึ้นมาเพราะความหนาว ผมลืมตาขึ้นมองไปรอบ ๆ พบว่ามันเป็นเวลากลางคืนแล้ว ตัวผมเปียกไปด้วยเหงื่อและน้ำค้าง ผมรู้สึกเหนียวตัวจนเริ่มทนไม่ได้ ผมต้องหาที่ล้างตัวก่อน

ที่นี่ที่ไหน? อ้อ! ดูเหมือนจะมีแสงไฟอยู่ทางโน้น ไม่ไกลนัก ดูเหมือนมันจะเป็นหมู่บ้าน โดยไม่รอช้า ผมรีบวิ่งตรงไปตามทิศทางนั้น

ผมใกล้เข้าไป เริ่มสังเกตดูอย่างระวัง ตามที่คาดไว้ มันเป็นหมู่บ้าน หมู่บ้านเล็ก ๆ น่าจะมีแค่ประมาณ 20 ครอบครัว ผมเดินเข้าไปที่บ้านหลังใหญ่ที่สุด เคาะประตู “มีใครอยู่มั้ยครับ?”

เสียงของชายแก่ดังลอดประตูออกมา “นั่นใคร?”

“สวัสดีครับ! ผมเป็นนักเดินทาง ผ่านมาทางนี้แล้วค่ำพอดี พอจะให้ผมพักที่นี่สักคืนจะได้ไหมครับ? พรุ่งนี้ผมก็จะไปแล้ว ขอบคุณครับ”

ผ่านไปสักครู่หนึ่ง ประตูเปิดออก เป็นชายชราหน้าตาเหี่ยวย่นเดินออกมา หลังจากที่ใช้เวลามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่สักพัก เขาบอก “เข้ามา”

“ขอบคุณครับ” ผมตอบขอบคุณ แล้วเดินตามชายชราเข้าไปในบ้าน ตัวบ้านมีอยู่ประมาณ 3 ห้อง ห้องรับแขกตกแต่งอย่างง่าย ๆ มีเพียงม้านั่งตัวยาว โต๊ะ เก้าอี้เล็ก ๆ แล้วก็มีของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ

ชายชรารินน้ำให้ผม ผมรับมาดื่ม “ขอบคุณครับ”

“เธอไม่ต้องสุภาพมากนักหรอก เธอมาจากไหนล่ะ พ่อหนุ่ม?” ชายชราถามด้วยรอยยิ้ม

“ผมมาจากเมืองเซินเคอ ผมอยากเดินทางไปเที่ยวอาณาจักรซิวต้า” ผมไม่ได้ปิดบังอะไร ข้อมูลที่ผมบอกไป มันไม่ใช่ความลับที่ต้องปกปิด

“อา! เซินเคอ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอาณาจักร ฉันเคยไปตอนที่ยังเป็นเด็ก โอ! ใช่แล้ว เธอน่าจะยังไม่ได้กินอะไรมาใช่มั้ย ดูเอาเถอะ ฉันนี่แก่แล้วจริง ๆ เดี๋ยวฉันไปหาอะไรมาให้กิน”

ผมหิวอยู่มากจริง ๆ ผมต้องไม่เกรงใจในเรื่องนี้ “ถ้าอย่างนั้น ก็ขอรบกวนด้วยนะครับ” ความจริง ในใจผมอยากจะพูดว่า ‘เอามาเยอะ ๆ หน่อยนะตา ผมกินเยอะมาก’

ผมพบอ่างน้ำ แล้วผมก็ตักน้ำจากโอ่งเล็ก ๆ ในสนามมาล้างหน้าล้างตา อย่างที่คาด มันสดชื่นจริง ๆ หลังจากที่กินข้าวเสร็จ ผมจะล้างเนื้อล้างตัวให้ดี ๆ

“มากินข้าว! พ่อหนุ่ม” เสียงชายชราเรียกออกมาจากในห้อง

“มาแล้วครับ” เมื่อผมกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง ผมเห็นบนโต๊ะวางอยู่ด้วยอาหารหลายอย่าง รวมถึงตะกร้าที่สานจากไม้ไผ่ ข้างในบรรจุไว้ด้วยข้าวโพด และมันต้ม แล้วก็มีชามใส่โจ๊กมันหวานที่ส่งกลิ่นหอม สุดยอดไปเลย! ได้กลิ่นหอมของอาหารโชยมา ผมเริ่มอยากกินแล้ว

“นั่งลงแล้วกินได้เลย! ชาวบ้านบ้านนอกอย่างฉันไม่มีอาหารพิเศษให้แขกหรอก”

“ที่มีอยู่นี่ก็ดีมากแล้วครับ ผมก็กินอย่างนี้เหมือนกันที่บ้าน” ผมทนห้ามตัวเองไม่ไหวแล้ว รีบนั่งลง แล้วเริ่มส่งอาหารหลากหลายบนโต๊ะลงสู่กระเพาะ ชายชรามองผมกินอาหารอย่างเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

เมื่อการรบครั้งนี้จบลง ผมจัดการพวกอาหารได้ทั้งหมด ผมตบพุงหนา ๆ ของตัวเองด้วยความพอใจ “ผมไม่ได้กินอิ่มขนาดนี้เลยตั้งแต่ออกจากบ้านมา ขอบคุณมากจริง ๆ”

ชายชรายืนขึ้นมาเพื่อที่จะทำความสะอาดสนามรบ ผมรีบเข้าไปแย่งหน้าที่มาทำเอง ผมจะปล่อยให้คนอื่นมาทำความสะอาดให้ได้ยังไง นี่มันสนามรบของผม ชายชราปล่อยให้ผมทำ และชี้ว่าห้องครัวอยู่ทางไหน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด