ตอนที่แล้วบทที่ 160: เอามันไปกินซะ ไอ้พวกลูกหมา!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 162: เธอกินเต้าหู้ของหลงโม่!

บทที่ 161: หลงโม่กลับมาแล้ว


ยามนี้หลงโม่หลุบตาลงต่ำเพื่อใช้ความคิด พลังของระเบิดที่เขาได้เห็นมันไม่ธรรมดาจริง ๆ แต่ด้วยทักษะของภูตหมาป่า การที่จะหลบหลีกมันก็เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายดาย

แม้ว่าฝ่ายศัตรูจะถูกวางยาก็ยังมีผลเพียงเล็กน้อย

เดิมทีชายหนุ่มคิดว่าโอกาสที่ตนจะขว้างระเบิดโดนเป้าหมายนั้นเป็นไปได้ยาก แต่เขาไม่คาดคิดว่าจ่าฝูงหมาป่าจะกัดมันเอง

หูเจียวเจียวฉลาดจริง ๆ...

มังกรหนุ่มแอบทอดถอนหายใจ เนื่องจากคู่ของเขามีเรื่องมาทำให้เขาประหลาดใจได้ตลอดเวลา

ในเผ่า หูเจียวเจียวซึ่งกำลังทายาให้แก่ลูกทั้ง 2 จู่ ๆ ก็จามออกมา

“ฮัดชิ้ว!”

แล้วความกังวลก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลงจงกับหลงเซียวทันที

เป็นไปได้ไหมว่านางจะเหนื่อยเกินไปจนเริ่มป่วย?

...

เมื่อพวกหูชิงซานกลับมาจากการล่าสัตว์ ภูตในกลุ่มก็จัดการกับเหยื่อของพวกเขาและย่างเนื้อกินกันอยู่รอบกองไฟ

หลงโม่ซึ่งกำลังวางแผนที่จะขึ้นไปบนต้นไม้เพื่อพักผ่อนตามลำพัง ทันใดนั้นเขาก็ถูกคนอื่นดึงตัวไปก่อนที่อีกฝ่ายจะยัดเนื้อชิ้นใหญ่ใส่มือตน

“เสี่ยวโม่ วันนี้ต้องขอบคุณเจ้า ถ้าเจ้ามาไม่ทัน พวกเราอาจจะตายกันหมด”

หูเฉียงกล่าวพลางตบไหล่ชายหนุ่มด้วยท่าทางที่เป็นมิตร

ในโลกภูต ผู้เป็นพ่อตามองลูกเขยเพียง 2 สิ่ง

สิ่งแรกคือลูกเขยดีกับลูกสาวของเขาหรือไม่ และสิ่งที่ 2 คือลูกเขยมีความสามารถมากแค่ไหน

ครั้งนี้หลงโม่ช่วยพวกเขาไว้ และชายวัยกลางคนก็เห็นมัน ตอนนี้เขายิ่งมองไปที่มังกรหนุ่มมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งพอใจมากขึ้นเท่านั้น

นี่เป็นครั้งแรกที่หลงโม่เห็นหูเฉียงกระตือรือร้นอยากจะคุยกับเขามาก เขาจึงนั่งถือเนื้อย่างตัวแข็งทื่อดั่งรูปปั้น

พอภูตคนอื่นได้ยินคำพูดของผู้นำกลุ่ม พวกเขาก็กล่าวขอบคุณภูตมังกรดำตาม ๆ กัน

“หลงโม่ ขอบคุณเจ้ามากสำหรับวันนี้!”

“ใช่ ต้องขอบคุณหลงโม่”

ชายร่างสูงผู้คุ้นเคยกับการอยู่ในความมืดเงียบ ๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมากมายเข้ามาในหู เขาจึงขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว

แต่เมื่อเขาได้เห็นรอยยิ้มที่จริงใจของคนในเผ่า เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าเสียงของภูตชายเหล่านี้ไม่น่ารำคาญเหมือนเสียงที่ตนมักจะได้ยินอยู่เสมอ

ความจริงแล้วภูตก็เป็นสัตว์สังคมคล้ายกับมนุษย์

ไม่ว่าหลงโม่จะโดดเดี่ยวอยู่ในป่ามานานแค่ไหน แต่ท้ายที่สุดในใจเขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ายังโหยหาชีวิตในเผ่าที่มีผู้คนรอบล้อมอยู่ตลอดเวลา

“ขอบคุณมากสำหรับวันนี้” หูชิงซานนั่งลงข้างมังกรหนุ่ม ก่อนจะยกมือขึ้นตบไหล่เขา พร้อมกับมองเขาอย่างซาบซึ้ง

“แต่ถ้าเจ้ากล้ารังแกน้องสาวตัวน้อยของข้าล่ะก็ ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”

มีบุญคุณเขาย่อมทดแทน แต่ความแค้นก็ต้องชำระ

ใครก็ตามที่บังอาจมารังแกน้องสาวตัวน้อย มันผู้นั้นจะเป็นศัตรูของเขาไปตลอดชีวิต!

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครก็ตาม!

ในตอนที่จิ้งจอกหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดวงตาของหลงโม่ก็มืดลง และใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขาแสดงออกอย่างหนักแน่น

“ข้าจะดีกับนางให้มาก”

ตราบใดที่หูเจียวเจียวยังยอมรับว่าเขาเป็นคู่ของนาง

จากนั้นภูตทุกคนก็นั่งล้อมวงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเหมือนกับว่าพวกเขาเพิ่งชนะการต่อสู้มา โดยมีเพียงเป้าเฟิงเท่านั้นที่นั่งอยู่มุมหนึ่งเงียบ ๆ

“...”

เอ่อ...แล้ว 

ข้ามาที่นี่ทำไมกันนะ?

...

เนื่องจากฤดูหนาวกำลังจะมาถึงแล้ว

ภูตในเผ่าจึงยุ่งวุ่นวายกันทุกคน

หูเจียวเจียวเองก็ยุ่งทุกวันจนอยากให้ตัวเองมีสกิลแยกร่างได้เหมือนตัวเอกเรื่องอื่นบ้าง

นอกเหนือจากการดูแลลูก ควบคุมการก่อสร้างบ้านหิน และดูแลการเจริญเติบโตของต้นมันฝรั่งแล้ว พวกหูชิงเกายังไม่มีความเชี่ยวชาญในกระบวนการผลิตถ่าน ดังนั้นเธอจึงต้องคอยไปช่วยดูแลการทำงานของพวกเขาในช่วงแรก

นอกจากจิ้งจอกสาวแล้ว เด็กในเผ่าที่ถูกบังคับให้ต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสจากการทำงานหนักก็พากันหมดแรงไปตาม ๆ กัน

ในเวลาเพียงไม่กี่วัน เด็กทั้งหลายที่มีร่างกาย ‘ผอมและอ่อนแอ’ สามารถเก็บฟืนไว้สำหรับเผาถ่านได้จำนวนมากแล้ว

ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ภูตในเผ่าได้ตามหาพวกหูชิงเกาเพื่อให้พวกเขามาช่วยเผาถ่านตลอดวัน ซึ่งนี่เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับฤดูหนาวที่ใกล้จะมาถึง

แต่ปัจจุบันในเผ่ามีเตาเผาถ่านเพียงเตาเดียว พอมีภูตจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้รวบรวมไม้มาเพียงพอสำหรับการทำถ่าน ดังนั้นหูเจียวเจียวจึงขอให้พวกพี่รองสร้างเตาเผาเพิ่มอีก 2 เตา เพราะจะได้เพียงพอต่อความต้องการของทุกคน

และถ้ามีเตาเพิ่มมากกว่านี้ ภูตชายทั้ง 4 คนคงจะมีงานล้นมือเกินไป

เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ทักษะการเผาถ่านของภูตที่มีหน้าที่รับผิดชอบเผาถ่านก็มีความเชี่ยวชาญมากขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดหูเจียวเจียวก็สามารถวางมือจากเรื่องนี้ได้แล้ว

ทันทีที่หญิงสาวมีเวลาว่าง เธอก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงหลงโม่

“นี่ก็ผ่านไป 10 วันแล้ว ทำไมเขายังไม่กลับมา...”

ในความฝันเธอรู้เพียงทิศทาง แต่ไม่รู้ว่าระยะทางระหว่างจุดหมายปลายทางกับเผ่าไกลแค่ไหน อีกทั้งปัจจุบันบ้านหินสร้างเสร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง คงไม่ใช่ว่าเธอต้องรอจนกว่าบ้านหินจะสร้างเสร็จใช่ไหมเขาถึงจะกลับมา

หูเจียวเจียวแอบคิดในใจว่าถ้าไม่มีหลงโม่ในบ้านหินหลังใหม่ เธอคงอดรู้สึกไม่ได้ว่ามีบางอย่างขาดหายไป

ขณะที่จิ้งจอกสาวกำลังเดินกลับบ้าน จู่ ๆ เสือขาวหน้าผากย่นก็กระโดดออกมาจากป่า ซึ่งก่อนหน้านี้เธอไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาเลยสักนิด

จังหวะนั้นหูเจียวเจียวที่ความคิดได้ล่องลอยไปไกลเงยหน้าขึ้น เธอเห็นรูม่านตาสัตว์สีน้ำตาลคู่หนึ่ง เธอจึงเผลอถอยหลังไป 2 ก้าวด้วยความตกใจ

แต่เมื่อเธอกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง เธอก็จำได้ว่านี่คือโลกของภูต และเสือตัวใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าเธอคือภูตในเผ่า ไม่ใช่เสือกินคน

“มีอะไรหรือ?” หูเจียวเจียวเว้นระยะห่างจากภูตเสือขาวและถามพร้อมทำหน้าฉงน

ครู่ต่อมา เธอเห็นเสือตัวโตแสยะยิ้มเผยให้เห็นเขี้ยวแหลมคมอันดุร้าย เขากำลังเปิดปากพูดอย่างจริงใจที่สุดด้วยใบหน้าที่น่ากลัวที่สุด

“พวกภูตที่ไปขนดอกเกลือกลับมาแล้ว ท่านผู้เฒ่าขอให้ข้ามาพาเจ้าไปที่นั่น”

พอภูตหนุ่มพูดจบแล้ว เขาก็เอาอุ้งเท้าขนาดใหญ่ลูบหน้าตัวเองเล็กน้อย 2 ครั้งเพื่อแสดงการขอโทษพลางคิดในใจว่า ดูจากท่าทางของผู้หญิงคนนี้ เขาคงจะทำให้นางตกใจกลัว

ข้าดูน่าเกลียดขนาดนั้นเลยหรือ?

“กลับมาแล้วหรือ!?” เมื่อจิ้งจอกสาวได้ยินข่าวดี ดวงตาที่เหม่อลอยของเธอก็เป็นประกายสดใส และใบหน้าเศร้าหมองถูกแทนที่ด้วยความสุขเกินคำบรรยาย

“แม่นางขึ้นมาเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปส่งเอง”

เสือตัวใหญ่หมอบตัวลงต่ำตรงหน้าหูเจียวเจียว พลางฝังหัวตัวเองไว้ระหว่างอุ้งเท้าทั้ง 2 ข้างเป็นการเชิญชวนให้หญิงสาวขึ้นหลังตน

ปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วประกอบกับสายตาคาดหวังของจิ้งจอกสาวทำให้ภูตเสือขาวตื่นเต้นเล็กน้อย

หูเจียวเจียวกำลังจะขี่หลังข้า!

ข้าสามารถเอาเรื่องนี้ไปโอ้อวดภูตคนอื่นได้แน่นอน!

“ไม่เป็นไร ข้าจะไปเอง” หูเจียวเจียวมองไปที่เสือตัวโตที่ชูหางขึ้นก่อนจะส่ายหัวปฏิเสธ แล้วรักษาระยะห่างจากภูตชายคนนี้ทันที

การนั่งบนหลังเสือขาวตัวนี้เปรียบเสมือนการขี่หลังผู้ชายแปลกหน้าในสายตาของเธอ อีกทั้งครั้งนี้มันไม่ใช่สถานการณ์เร่งด่วน ดังนั้นเธอจึงสามารถหลีกเลี่ยงได้

นั่นทำให้ภูตเสือขาวลดหางลงด้วยความผิดหวัง และเดินตามหลังจิ้งจอกสาวไปเงียบ ๆ

ในที่สุดหูเจียวเจียวก็วิ่งไปจนถึงลานกว้างของเผ่า

ณ ตอนนี้ ลานกว้างเต็มไปด้วยกลุ่มภูตเพราะพวกเขาทั้งหมดมาดูว่าดอกเกลือมีหน้าตาเป็นอย่างไร และแต่ละคนก็ชะโงกหน้ามองดูสิ่งที่อยู่ข้างในถุงหนังสัตว์ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ขณะเดียวกัน หลงโม่, หูชิงซาน รวมถึงภูตชายคนอื่นกำลังยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน โดยมีถุงหนังสัตว์ปูดโปนมากกว่า 1 โหลกองอยู่ที่เท้าของพวกเขา

ปัจจุบันหัวหน้าเผ่ามาถึงที่นี่นานแล้ว เขากำลังเปิดถุงหนังสัตว์ทีละใบเพื่อตรวจสอบดอกเกลือในแต่ละถุงด้วยตัวเอง ซึ่งทุก ๆ ครั้งที่เขามองเข้าไปในถุง มุมปากของชายสูงวัยก็ยกยิ้มกว้างขึ้น

ยามนี้มีถุงหนังสัตว์ทั้งหมด 16 ใบ และทุกถุงมีดอกเกลืออย่างน้อย 100 ดอก ขณะที่ภูตคนหนึ่งจะกินเกลือมากสุด 4-5 กำมือต่อปี

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ดอกเกลือเหล่านี้เพียงพอให้ภูตในเผ่าของพวกเขากินตลอดทั้งปี!

อีกทั้ง ปีหน้าพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องไปที่ชายทะเลเพื่อแลกเปลี่ยนเกลือ และสามารถเก็บอาหารไว้กินตอนฤดูหนาวได้มากขึ้น ไม่นานชีวิตของคนในเผ่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อผู้นำของเผ่านึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ยิ้มจนปากแทบฉีกถึงหู

ในเวลาเดียวกัน พวกหูเฉียงถูกห้อมล้อมด้วยเหล่าภูต พวกเขากำลังคุยกันเรื่องความกล้าหาญของหลงโม่ที่ไปช่วยเหลือสมาชิกในกลุ่มที่ไปขนดอกเกลือ

ภาพนั้นมีชีวิตชีวามาก โดยมีเพียงมังกรหนุ่มเท่านั้นที่ยังคงทอดสายตามองออกไปจากฝูงชนเป็นครั้งคราว ราวกับว่าเขากำลังมองหาบางสิ่ง

ไม่กี่อึดใจถัดมา หญิงสาวผู้งดงามคนหนึ่งได้วิ่งมาจากระยะไกล

ในตอนนั้นเอง ดวงตาของหลงโม่เป็นประกาย และในวินาทีต่อมา เขาก็เห็นเสือตัวใหญ่วิ่งตามเธอมาอย่างใกล้ชิด นั่นทำให้เขาขมวดคิ้วและจากดวงตาที่สดใสก็เปลี่ยนเป็นมืดมนทันที ก่อนที่เขาจะก้าวไปหาหูเจียวเจียว

“หลงโม่!”

พอจิ้งจอกสาวเห็นมังกรหนุ่มเดินออกมาจากกลุ่มภูต เธอก็โบกมือให้เขาขณะที่เธอวิ่งเข้าไป

หญิงสาวกำลังจะหยุดยืน แต่เธอเห็นหลงโม่ก้าวมาข้างหน้าอย่างมั่นคงประหนึ่งว่ามีลมพัดจากใต้ฝ่าเท้า

ก่อนที่เธอจะทันได้ตอบโต้อะไร ร่างสูงก็ขยับเข้ามาใกล้แล้วสวมกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: แอร๊ยยยยยย! เขากอดกันแล้วค่าาาาา!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด